"ไม่รูป พี่จ๋า..เหนื่อย" น้ำเสียงป้อแป้ ไม่เป็นประโยคจากปาก "น้องมะลิ" ทำเอาหลายๆ คนอดห่อเหี่ยวใจแทนไม่ได้... เด็กน้อยคนหนึ่งซึ่งโชคชะตาทำให้ต้องกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ขวัญใจมหาชนไปโดยปริยาย ต้องถูกรุมล้อมถ่ายรูปอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกจนแทบไม่มีเวลาได้พัก ดูเหมือนว่ารอยยิ้มสดใสของเด็กน้อยที่เคยเริงร่า จะค่อยๆ หดหายลงไปทุกทีๆ...
สะเทือนใจ...ผู้ใหญ่ไร้กาลเทศะ
ล่าสุด หลัง "น้องมะลิ" ลูกสาวของพระเอกดัง "ปอ-ทฤษฎี" และ "โบว์-แวนด้า สหวงษ์" ออกงานอีเวนต์ อนุญาตให้สื่อมวลชนแชะภาพเก็บภายในงานอยู่พักใหญ่ๆ ยังไม่ทันได้มีโอกาสได้พักหายใจ ก็ถูกมวลมหาชนต่อแถว ดาหน้าเข้ามาขอถ่ายรูปคู่อีกไม่มีหยุดหย่อน แม้สุดท้าย หนูน้อยจะพยายามสื่อสารต่อพี่ป้าน้าอาว่ารู้สึก "เหนื่อยแทบขาดใจ" แค่ไหน แต่ก็แทบไม่มีใครสนใจน้ำเสียงป้อแป้ของน้องมะลิ...
จากคลิปที่แชร์กันสนั่นอยู่ในขณะนี้ มีน้ำเสียงของของประชาชนบางคนที่แทรกขึ้นมาว่า "ขอถ่ายอีกรูปนึงๆ" แม้ว่าน้องมะลิจะออกปากว่าไม่อยากถ่ายรูปแล้วก็ตาม ซึ่งในระหว่างนั้นก็ยังมีแฟนๆ รายอื่นๆ กำลังอุ้มน้องนั่งตักขอถ่ายรูปคู่อยู่บนรถตู้ เมื่อเห็นว่าน้องเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดี ยิ้มไม่ค่อยออกแล้ว เสียงบางเสียงก็พูดขึ้นมาว่า "งอแงแล้วๆ" จึงกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในวงกว้างขณะนี้ เกี่ยวกับ "มารยาท" ของผู้ใหญ่ที่ขอรุมถ่ายรูปของซุป'ตาร์วัยเด็กรายนี้ว่ามีความเหมาะสมแค่ไหนกัน?
"เด็กเขาคงเหนื่อยจริงๆ ไม่งั้นไม่พูดชัดขนาดนี้แน่นอน ถึงเด็กก็เหนื่อยเป็นนะพี่จ๋า"
"เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว หัดเกรงใจ อย่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเขา เพียงแค่จะเอารูปไปอวดในโซเชียลฯ ของคุณ ใช้สมองไตร่ตรองด้วยว่า อะไรควร-ไม่ควรทำ!!"
"จะชื่นชอบชื่นชม ก็ให้มันมีขอบเขตหน่อย โตๆ กันแล้ว มารยาทไม่มีเลย เดี๋ยวอีกหน่อยครอบครัวเขาจะไม่ให้น้องออกงาน ก็เพราะพวกที่เรียกตัวเองว่าพี่จ๋า ทำตัวแย่ๆ แบบนี้แหละ ถ่ายในงานก็น่าจะพอแล้วนะ ตามจิกอะไรขนาดนั้น เด็ก 2 ขวบนะ เห็นเขาเป็นเด็ก อยู่ในสถานะที่จะขัดขืนต่อต้านไม่ค่อยได้ ก็เลยเอาใหญ่ ถ้าเป็นพวกดาราที่เป็นผู้ใหญ่สิ ถ้าเขาเหนื่อยแล้วทำหน้าเหวี่ยงๆ แบบไม่พร้อมให้ถ่ายรูป จะกล้าเข้าไปขอถ่ายกันไหม เข้าขั้นบ้า"
"พี่จ๋า..เหนืิ่อย ฟังแล้วสงสารน้องมาก ตัวแค่นี้รู้จักบอก น้องไม่ไหวแล้วจริงๆ เป็นเด็กอื่นคงร้องไห้อย่างเดียว”
"สงสารน้องเถอะค่ะ เห็นหน้าและเสียงแล้วสะเทือนใจค่ะ หน้าน้องไม่ไหวแล้ว รู้ว่าทุกคนรัก แต่ต้องนึกถึงสุขภาพน้องเป็นหลักด้วยค่ะ สำคัญมาก อายุ 2 ขวบเองค่ะ ขอให้แข็งแรงๆ นะ มะลิน้อยกับแม่โบว์"
"เข้าใจคุณปอกับคุณโบว์เลยค่ะว่า ทำไมยังไม่อยากเปิดตัวน้องตั้งแต่แรก เพราะคำว่า 'คนของประชาชน' ทำให้คนบางคนไม่รู้จักขอบเขตและมารยาทบ้างเลย พอเป็นข่าวก็บอกว่าปลื้มน้อง จึงทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผ่านโลกมามากกว่าน้องมะลิตั้งเยอะ หัดคิดก่อนทำบ้างเถอะค่ะ คุกคามน้องมากไปไหมคะ? สงสารน้องนะคะคุณ"
"อย่าใช้คำว่า 'งอแง' กับน้องมะลิเลยค่ะ ใช้คำว่า 'ผู้ใหญ่วุ่นวาย' จะดีกว่า ยุ่งกับเด็กให้มันน้อยๆ หน่อยค่ะ จะเอาแต่รูป แค่ยืนดู แค่ได้เจอก็พอแล้วค่ะ"
"ขนาดรายการตามติดชีวิตเด็กๆ เกาหลี เขายังให้ตากล้องเว้นช่องว่างกับเด็กๆ เลยนะคะ เพราะน้องจะรู้สึกถึงความน่าอึดอัดได้เร็ว น้องมะลิแค่ 2 ขวบ คุณบอกน้องงอแง ไม่ใช่แล้วค่ะ น้องเหนื่อยนะคะ 2 ขวบนี่ แม่พาเข้านอนกลางวันแล้วค่ะ"
"น่าสงสารจังเลยมะลิน้อย... ทุกอย่างในชีวิตหนูเปลี่ยนไปมากๆ เลยใช่ไหมลูก... เด็กวัยนี้ต้องการพักผ่อนมากๆ เพืิ่อพัฒนาการ... น่าสงสารจังเลย"
"อายแทนเด็กอ่ะ ผู้ใหญ่ไม่รู้จักกาลเทศะ เพลียค่ะ"
รู้ไว้! เด็กก็มี "สิทธิ" ปฏิเสธและคุ้มครองตัวเอง!!
"เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง" สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธุ์ ประธานมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ให้ความเห็นกรณีคลิปน้องมะลิถูกแฟนคลับตามขอถ่ายรูปถึงบนรถตู้เอาไว้อย่างชัดเจน บอกเลยว่าการเข้าไปรุกล้ำเช่นนี้ขณะที่เด็กมีอาการเหนื่อยและเพลียมาก ถือเป็นการละเมิดสิทธิเด็กด้วยการแทรกแซงโดยพลการ ซึ่งตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อที่ 16 ระบุไว้ชัดเจน ดังนี้
"1.เด็กจะไม่ถูกแทรกแซงโดยพลการ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในความเป็นส่วนตัวครอบครัว บ้านหรือหนังสือโต้ตอบ รวมทั้งจะไม่ถูกกระทำโดยมิชอบต่อเกียรติและชื่อเสียง 2. เด็กมีสิทธิได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายจากการแทรกแซง หรือการกระทำ ดังกล่าว"
สอดคล้องกับความคิดเห็นของ ณัฐฐา กีนะพันธ์ ผู้ช่วยฝ่ายสารนิเทศ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ซึ่งช่วยขยายความในเรื่องเดียวกันนี้เอาไว้เพิ่มเติม ในฐานะผู้ทำงานด้านสิทธิเด็ก เอาไว้ว่าแฟนๆ ทั้งหลายที่อยากถ่ายรูปและใกล้ชิดน้อง ควรคำนึงถึง "ผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก" เป็นลำดับแรก
"ผลประโยชน์สูงสุดของเด็กระบุอยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อที่ 3 ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรกับเด็กก็ต้องกลับมาถามตัวเราเองว่าเด็กได้อะไร ซึ่งในกรณีน้องมะลิ สิ่งแรกที่จะต้องพิจารณาคือ ผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กมีไหม เพราะเด็กต้องมีเวลาเรียนรู้ มีเวลาเล่น และพักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงต้องพิจารณาว่าการที่สื่อหรือแฟนคลับเข้าไปทำข่าว ถ่ายรูปเด็ก มันส่งผลกระทบในเรื่องพัฒนาการหรือไม่
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นเรื่องความปลอดภัย ซึ่งการที่เด็กถูกนำเสนอ หรือรายงานเรื่องราวชีวิตในสื่อมากๆ ส่วนตัวมองว่าอาจจะมีผลกระทบในเรื่องนี้ รวมไปถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวของเด็กและครอบครัว ทางที่ดี สื่อมวลชนและแฟนคลับต้องถามตัวเองให้ได้ว่า เด็กได้อะไร และคนอื่นๆ ได้อะไร เราอยู่ในฐานะที่เห็นประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือเปล่า ถ้าเกิดเป็นลูกเป็นหลานเรา แล้วมีคนมาทำแบบนี้ เราจะรู้สึกอย่างไร
ส่วนกรณีละเมิดสิทธิเด็กโดยใช้เป็นเครื่องมือในทางไม่ดี บ้านเราจะมี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตราที่ 27 ที่ระบุว่า ห้ามโฆษณา หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็ก โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง หรือเกียรติคุณ หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตัวเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ ซึ่งทางครอบครัวของเด็กสามารถเอาผิดได้ หากเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายที่ว่านี้"
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม @malisahawong
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754