ในช่วงเทศกาลปีใหม่ นายกฯ "ตู่" ใจดี จัดแพกเกจ "ของขวัญปีใหม่" ให้ประชาชนภายใต้แนวคิด “ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลไทย นำความเป็นไทยสู่ใจประชาชน" โดยสั่งการให้แต่ละกระทรวง จัดหาของขวัญปีใหม่เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และลดค่าครองชีพของประชาชน นอกจากนี้ ยังตวัดปากกา แต่งเพลง "เพราะเธอคือประเทศไทย" เป็นของขวัญส่วนตัวให้ประชาชนในเทศกาลแห่งความสุขนี้ด้วย
ทว่า ของขวัญสำหรับเด็ก ดูเหมือนจะไม่มี "เซอร์ไพร์ส" จากรัฐบาลชุดนี้เท่าไรนักในความรู้สึกของเด็กบางกลุ่ม นอกจากคำขวัญวันเด็กปี 2559 ที่ระบุว่า "เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต" ทำให้เด็กกลุ่มหนึ่ง เกิดไอเดีย ลุกขึ้นมาทำภาพยนตร์เพื่อเด็กที่ผู้ใหญ่ดูได้ เรื่อง The Assassin หรือ "ฆาตกร" ในชื่อภาษาไทย โดยหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นของขวัญให้เด็กๆ รวมไปถึงผู้ใหญ่ได้ดูกันฟรีๆ ในโรงภาพยนตร์ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ (เสาร์ที่ 9 ม.ค. 2559)
"ถ้าผู้ใหญ่ในสังคมยังไม่คิดที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เราก็ต้องทำหนังขึ้นมาสะกิดให้สะดุ้งว่า หันมาสนใจปัญหากันหน่อยครับ แม้จะเป็นหนังที่ผมอยากให้เป็นของขวัญวันเด็ก แต่ผู้ใหญ่มาดูได้ครับ ชวนเด็กมานั่งดูด้วยกันก็ได้ ทางเรายินดีเลย เพราะจะได้เห็นฆาตกรที่อยู่รอบตัวเด็กในมิติที่ลึกขึ้น" พชรพรรษ์ ประจวบลาภ หรือ อั้ม ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร วัย 19 ปี เปิดใจในฐานะหัวเรือใหญ่ที่ทุ่มเทสุดกำลังเพื่อผลิตภาพยนตร์น้ำดีออกสู่สังคมไทย
ก่อนจะเน้นย้ำถึงตัวหนังว่า ไม่ใช่สารคดี หรือภาพยนตร์วิชาการตามสไตล์กระทรวงฯ หรือหน่วยงานราชการที่หลายคนคุ้นเคยกันดี แต่เป็นภาพยนตร์จริงๆ มีซีนอารมณ์ตั้งแต่ ดรามา เฮฮา ความรัก รวมไปถึงความหลอนที่สอดแทรกอยู่ในเรื่องนี้
เมื่อถามลึกลงไปถึงแรงบันดาล เขาให้เหตุผลว่า สื่อสีขาวยังมีอยู่น้อย อยากให้สังคมมีสื่อสีขาวเพื่อจะได้ตระหนักถึงฆาตกรที่นับวันจะยิ่งครอบงำเด็กมากขึ้น ก่อนจะขยายความให้ฟังถึงแนวคิดของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า เป็นการผูกเรื่องปัจจัยเสี่ยงทางด้านสุขภาพของเด็ก และเยาวชนเข้าไป เช่น สุรา บุหรี่ พนัน ท้องไม่พร้อม เนื่องจากปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาสำคัญที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ และถือได้เป็นฆาตกรที่ทำร้ายเด็กเยาวชนไทยมาอย่างยาวนาน
"หนังเรื่องนี้เราชูเรื่องบุหรี่เป็นไฮไลต์ครับ เพราะเป็นสารเสพติดตั้งต้น โดยมีผลสำรวจจากศาลอาญาพบว่า เด็กใน 10 คน ที่ถูกดำเนินคดียาเสพติดมีประวัติการสูบบุหรี่มาแล้วทั้งสิ้น มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ถ้าเด็กยุ่งกับบุหรี่ ในอนาคตเด็กก็จะเข้าถึงสารเสพติดชนิดอื่นๆ ได้ ผมจึงเน้นเรื่องนี้ และทำออกมาให้เห็นภาพโดยยังคงเน้นย้ำเหมือนเดิมว่า ไม่ใช่สารคดีนะครับ เป็นหนังความยาว 40 นาทีที่ดูแล้วไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน"
ด้านนักแสดงคือ กลุ่มคนสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เช่นกัน เพราะถือเป็นผู้สวมบทบาทถ่ายทอดเรื่องราวและความรู้สึกนึกคิดที่อยู่ในบทละครมาสู่ผู้ชม
"เราคัดเลือกเด็กวัยรุ่นจาก 100 คน เหลือ 2 คน เป็นเน็ตไอดอลสุดป็อปในรั้วโรงเรียนชายล้วน อย่างน้องเจมส์ จักราช นิลละออ รับบทพี่ชายและเฟิร์ส คณพันธ์ ปุ้ยตระกูล รับบทน้องชาย เป็นเด็กชมรมการละคร โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เคยผ่านงานโฆษณา การเดินแบบมาแล้วด้วย แถมยังเคยเล่นละครโรงเรียนด้วยกัน
ดังนั้นเวลาเข้าฉาก น้องทั้งสองจะเข้ากันได้ดีมาก ผู้กำกับต้องการแบบไหน น้องๆ เขาจัดให้หมด เล่นได้หมด โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาได้ไม่แพ้นักแสดงมืออาชีพเลย ซึ่งทั้งสองคนบุคลิกเหมือนพี่กับน้องจริงๆ แม้คนเล่นเป็นน้องจะอายุมากกว่า แต่ก็เล่นได้สมบทบาท" อั้มเล่าถึงความน่าสนใจของตัวละครหลัก ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้คนเขียนบท ผู้อำนวยการสร้าง ตัวแสดงประกอบ หรือแม้แต่ผู้ดูแลฉากและเสื้อผ้า
ทั้งนี้ ในฐานะคณะทำงานการป้องกันและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับเด็กและเยาวชนอย่างมีส่วนร่วม กรมกิจการเด็กและเยาวชน และหัวเรือใหญ่ในการทำหนังเพื่อเด็กในครั้งนี้ นี่คือเสียงเล็กๆ ที่เขาอยากส่งไปถึงผู้ใหญ่ทุกคนในสังคมไทย
"เรื่องแรกอยากจะบอกผู้ใหญ่ว่า เด็กไทยทุกคน ไม่ใช่อนาคตของชาติ เราเป็นปัจจุบันของชาติแล้ว และเด็กในวันนี้ไม่ใช่เป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า แต่เด็กในวันนี้ก็คือผู้ใหญ่ในวันนี้แล้ว ส่วนตัวอยากให้ผู้ใหญ่สนับสนุน และให้ความร่วมมือเวลาเด็กขอให้ช่วยทำอะไรที่เป็นประโยชน์
โดยเฉพาะเด็กอย่างผมที่เป็นเด็กกิจกรรม เรื่องที่สอง ถ้าผู้ใหญ่อยากเห็นเด็กมีอนาคตที่สดใส ไม่สร้างปัญหา อยากจะอ้อนวอนให้สนับสนุนร่างกฎหมายยาสูบ เพิ่มอายุผู้ซื้อจาก 18 ปี เป็น 20 ปีเพื่อลดการเข้าถึงของเด็กให้ห่างไกลจากสารเสพติดตั้งต้นอย่างบุหรี่ได้"
สำหรับ The Assassin : ฆาตกร เป็นภาพยนตร์ที่ผลิตโดยเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร (ยทก.) และชมรมหนังสั้นและการถ่ายภาพ โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) นำเรื่องราวของพี่น้องสองคนที่ต้องอยู่ด้วยกันแค่สองคน
ขณะที่พี่ชายเป็นเด็กที่ไม่รักดี เรียนไม่เอา ยุ่งอบายมุข แต่มีความพิเศษที่รักน้องมากช่วยเหลือน้องทุกเรื่อง ส่วนน้องชายเป็นเด็กเรียนดี เรียบร้อย รักพี่ชายมาก แต่สุดท้ายพี่น้องสองคนนี้ก็ต้องแยกจากกัน ซึ่งจะด้วยสาเหตุอะไรนั้น "อั้ม" ในฐานะผู้ควบคุมการผลิตภาพยนตร์ บอกว่า คุณจะคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
"ตัวบท หรือทุนในการประชาสัมพันธ์ เราอาจจะสู้ซีรีส์ฮอร์โมนไม่ได้ แต่มุมมอง และมุมภาพในการถ่ายทำ เราสู้ได้แน่นอนครับ รวมไปถึงตัวนักแสดงที่เราเลือกเน็ตไอดอลมารับบทเป็นตัวเอกของเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่เด็กคิดเด็กทำ เขียนบทเอง ตัดต่อเอง มีคุณภาพมากที่สุด ฉายในรูปแบบความคมชัด 1K" อั้มบอก
ลงทะเบียนรับบัตรชมภาพยนตร์ได้ที่ www.ynetbangkok.or.th โดยหนังจะฉายในวันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2559 จำนวน 5 รอบ ได้แก่รอบ 12.00, 14.00, 15.00, 16.00 และ 17.00 น. ชั้น 7 โรงภาพยนตร์ SF World Cinema Central World ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
"ตอนนี้รอบ 12.00 น. เต็มแล้วเรียบร้อยครับ ส่วนรอบอื่นๆ ก็ใกล้จะเต็มแล้วเช่นกัน อยากให้รีบลงทะเบียนครับ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผมขอเป็นผู้ที่มารับชมภาพยนตร์ได้จริงๆ เท่านั้น หากลงทะเบียนแล้วไม่สามารถมารับชมได้ผู้อื่นจะเสียสิทธิ์ในการรับชมครับ ยังไงก็ฝากติดตามหนังของพวกเราด้วยนะครับ พวกเราทุ่มเทกันมากๆ เป็นหนังที่เด็กดูดี ผู้ใหญ่ดูได้" ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กทม. กล่าวทิ้งท้าย
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754