ภัยใกล้ตัว! ใกล้มากจริงๆ!! ใครจะไปคิดว่าแค่ตักลูกชิ้นร้อนๆ จากหม้อสุกี้มาตัดกิน ก็เสี่ยง “เสียโฉม” กันได้ง่ายๆ อย่างลูกค้ารายนี้ที่โพสต์เรื่องราวเตือนใจเอาไว้จนกลายเป็นประเด็น ถกเถียงกันให้ว่อนว่างานนี้เกิดจากความประมาทของคนกิน หรือความสะเพร่าของคนทำกันแน่!!?
ดีลิเวอรี “น้ำซุป” ส่งตรงถึงหน้าคุณ!
[ทาเจลว่านหางจระเข้ที่พนักงานส่งให้ หลังน้ำซุปกร่อนหน้าจนลอกเป็นแผ่น]
“...กินอยู่ดีๆ เพื่อนที่ไปด้วยกันก็เลือกลูกชิ้นที่หน้าตาประหลาดๆ มีหัวแหลมๆ มันบอกว่าน่ารักน่าชัง มันตั้งใจมากว่าจะได้กินอย่างเอร็ดอร่อย พอนำลงหม้อไปสักพัก และตักขึ้นมาเตรียมจะกิน ด้วยนิสัยของเพื่อนผมที่ไม่ชอบกินอาหารชิ้นใหญ่ๆ ก็เลยใช้ช้อน (ทู่ๆ) ตัดลูกชิ้นหัวหลิมเข้าไป เท่านั้นล่ะฮะ น้ำสีเหลืองๆ ก็พุ่งปรี๊ด! ใส่หน้าเพื่อนผมเต็มๆ คือตอนนั้นตกใจมาก รีบเช็ดใหญ่ แต่พอเช็ดแล้ว หน้าที่โดนน้ำเหลืองๆ เปรอะก็ลอกออกมาเป็นแผ่น เป็นขุยๆ รู้เลยว่าต้องโดนลวกแน่ๆ เลยรีบเอาน้ำแข็งมาประคบ...”
นี่คือส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ระทึก! ซึ่งเพื่อนของลูกค้าผู้โชคร้ายรายนั้นได้โพสต์เตือนภัยและเตือนใจเอาไว้ ผ่านกระทู้พันทิปจนกลายเป็นกระแสให้ได้ถกเถียงในวงกว้าง ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ ร้านสุกี้ชื่อดัง สาขาเซ็นทรัลฯ แอร์พอร์ต เชียงใหม่ บ้างก็วิจารณ์ว่าเป็นความประมาทของตัวลูกค้าเอง บ้างก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ทางร้านจะต้องรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้ตั้งกระทู้ไม่ได้เจตนาจะดิสเครดิตร้านสุกี้แบรนด์ดังแต่อย่างใด ทั้งยังกล่าวชมการช่วยเหลือของพนักงานในวินาทีวิกฤตเอาไว้ด้วย บอกว่าทันทีที่พนักงานรู้เรื่องก็รีบเอาเจลว่านหางจระเข้มาให้ทา และเอาน้ำแข็งมาประคบเพิ่มอย่างถูกวิธี แต่ที่จำเป็นต้องเผยแพร่ประสบการณ์ร้ายๆ ครั้งนี้บนโลกออนไลน์ ก็เพราะไม่อยากให้มีลูกค้ารายไหนต้องมาเสียโฉมจากการรับประทาน “ลูกชิ้นน้ำแตก” หรือที่มีชื่อเรียกในเมนูว่า “ลูกชิ้นคริสตัล” ก็เท่านั้นเอง
“ที่อยากจะเตือนก็คือ ถ้าหากมันโดนส่วนอื่นที่บอบบางกว่านี้ ผมไม่อยากจะคิดเลย และสิ่งที่ฮอตพอตควรจะมีก็คือข้อบ่งใช้หรือวิธีกิน เพราะเราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้างในลูกชิ้นประเภทไหนจะมีน้ำร้อนๆ อยู่ ถึงมันไม่โดนหน้า เข้าปาก ปากก็คงจะสุกกันพอดี”
[ต้นเหตุ "ลูกชิ้นคริสตัล" ซ่อนน้ำซุปร้อนๆ ไว้ข้างใน]
“โห! แค่ลูกชิ้น มันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย น่ากลัวจัง” ฟีดแบกที่ได้รับกลับมาส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คืดนึกไม่ถึงว่า “อุบัติเหตุจากการกิน” จะอันตรายจนสุ่มเสี่ยงต่อการเสียโฉมกันได้ขนาดนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผลสะท้อนกลับจากบางคนที่มองว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดของตัวลูกค้าเองเช่นกัน อย่างความคิดเห็นนี้ที่ออกมาค้านและชวนให้มองในอีกมุมหนึ่ง
“ส่วนตัวนะครับ กินของร้อนควรจะระวัง อันนี้ผมว่าไม่ใช่ความผิดทางร้านครับ จะให้เขาสอนวิธีการกินเลยหรือครับ เกินไปนิดนะผมว่า แต่ยังไงก็แสดงความเสียใจด้วยครับ คุณน่าจะเขียนให้ดูเป็นการกินที่ต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ใช่ไปโทษทางร้านว่าต้องบอกว่ามันร้อน หรือต้องบอกว่ามันกินลำบาก แล้วเจ้าของกระทู้ต้องการให้ทางร้านเขารับผิดชอบ หรือมาสอนวิธีการกินให้ล่ะครับ พออ่านแล้วมันดูแปลกๆ ตอนเข้ามานึกว่าจะมาเตือนเรื่องอะไร”
“เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้” ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเสียงคัดค้านดังกล่าวเท่าใดนัก จึงพร้อมใจกันเข้ามาตอบกลับ พร้อมส่งเสริมความหวังดีของผู้ตั้งกระทู้และแสดงความเห็นใจต่อลูกค้าผู้โชคร้ายเสียมากกว่า และนี่คือความคิดเห็นของสาวผู้โชคร้ายที่ขอเข้ามาชี้แจงเองผ่าน account ของเพื่อนในกระทู้พันทิป ตามมาด้วยหลากความคิดเห็นที่ช่วยสนับสนุนและให้กำลังใจ
“คือทราบนะคะ ว่าเวลากินของร้อน เราก็ต้องระวังอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ไม่ได้ไปกินบ่อยๆ ก็เลยไม่ทราบจริงๆ ว่าข้างในลูกชิ้นจะมีน้ำเหลวๆ อยู่ แล้วหนูเป็นคนปากเล็ก ไม่ชอบกินของที่ชิ้นใหญ่ๆ เวลากินก็เลยต้องตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อน แต่ด้วยเนื้อลูกชิ้นมันเหนียวเลยกด แล้วน้ำข้างในมันพุ่งขึ้นมาสูงจริงๆ ค่ะ ถึงไม่ได้หั่น แต่ด้วยความที่ลูกชิ้นมีไส้ และไส้ข้างในก็มักจะร้อนกว่าข้างนอกด้วย ถึงเป่าแล้วข้างในก็ยังร้อนอยู่ดี ถ้าเอาเข้าปากเลยก็คงลวกปากเหมือนกันค่ะ (อันนี้หนูที่เป็นคนโดนมาตอบเองนะคะ)” คนเป็ดบิน
“คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เจ้าของกระทู้ไม่ต้องการให้มาสอนวิธีการกิน แต่เขามาเตือน ซึ่งเผลอๆ ทางร้านก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ลูกชิ้นของตัวเองสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบนี้ได้ ในเมื่อรู้แล้ว สิ่งต่อไปที่ควรทำก็คือทำป้ายกำกับในเมนู หรือบนโต๊ะอาหารว่าให้ระวัง ไม่งั้นอาจเกิดอันตรายจากของร้อนกระเด็นเข้าหน้าเข้าตาได้” สมาชิกหมายเลข 1685680
“เฮ้ย! ทำไมเคสนี้มันเป็นความผิดผู้บริโภคล่ะ!!? ถ้าอาหารมันอันตราย ร้านก็ไม่ต้องขายก็ได้นะ ตัดๆ ออกไปเหอะ หรือถ้าจะมี ก็ควรมีป้ายเตือนในเมนู หรือพนักงานต้องแจ้ง ไม่ใช่ให้เอาประสบการณ์รู้กันเองแบบนี้ ไม่งั้นน้ำยาล้างห้องน้ำไม่ต้องติดป้ายอันตรายพร้อมข้อบ่งใช้ก็ได้ป่ะ ใครๆ ก็รู้!?
ตอนกินเสี่ยวหลงเปา ก็ไม่เห็นมันจะพุ่งแบบนี้ อาจจะเพราะแป้งมันบาง ความดันเลยไม่ถึง มันเป็นเรื่องการออกแบบอาหารที่ต้องไม่ทำอันตรายกับผู้บริโภค ไม่ใช่ให้มารับความเสี่ยงกันเอง เป็นเราจะลองโทร.ไปคุยกับ สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) เลยว่าฟ้องเรียกค่ารักษาได้ไหม มาให้รับผิดชอบเอง ตลกละ!!! ขอให้หายไวๆ นะคะ อ่านแล้วโกรธแทนอ่ะ” มิโนรุ
"คำเตือน" สิ่งที่ร้านอาหารห้ามมองข้าม!
["เสี่ยวหลงเปา" เมนูที่ถูกหยิบยกมาเปรียบเทียบว่า มีน้ำซุปร้อนข้างในและทุกร้านมีป้ายเตือน]
“แผลรุนแรงกว่าที่คิดนะครับนี่ หายไวๆ ครับ ส่วนทางร้าน ทางที่ดีควรจะมีป้ายแปะไว้นิดนึงครับ ตอนผมไปสิงคโปร์ มีร้าน Hot Pot ที่ผมชอบไปทานประจำชื่อ “Sukiya” เขามีลูกชิ้นแบบนี้ล่ะครับ ไส้ชีส อร่อยเชียว และเขาก็มีป้ายเตือนนะครับว่า “ระวัง! ไส้ร้อน”
ส่วนตัว ผมทำงานโรงแรมนะครับ ร้านอาหารนี่ยังต้องมีป้ายเตือน ในเมนูยังต้องมีสัญลักษณ์บอกเลยครับว่า อันนี้มีส่วนประกอบจากถั่วนะ อันนี้อาหารทะเล กลัวคนที่แพ้มาทานเข้าไปอาจถึงตายได้ ถามว่าลูกค้าทุกคนที่มีการแพ้ตัองระวังตัวเองไหม ถูกต้องครับ แต่ลูกค้าก็ไม่ได้รู้ทุกคนหรอกครับว่าอาหารจานนั้นๆ มันทำมาจากอะไร
ในกรณีเพื่อนเจ้าของกระทู้ เขาไม่ทราบครับว่าข้างในมีไส้ร้อน จะพุ่งออกมาได้ ก็ใช้ช้อนตัดแบ่ง แล้วมีลูกชิ้นกี่อันกันครับที่มีไส้ร้อนลวกปากแบบนี้ได้” ออนไลน์ยันสว่าง
“วัตถุอันตรายเขายังต้องมีคำเตือนเลย ของกินของร้อนที่อันตรายก็ควรมีคำเตือนบ้างนะครับ ลูกชิ้นที่เรากินๆ อยู่ทุกวัน เป็นผมก็คงไม่คิดหรอกว่ามันจะมีน้ำอะไรร้อนๆ อยู่ข้างใน เป็นผมคงเป้าๆ แล้วใส่ปากเคี้ยวไปทั้งลูก คิดสภาพน้ำร้อนๆ ที่มันลวกลิ้น-ลวกปาก-ลวกคอ คงกินข้าวไม่อร่อยไปอีกหลายวัน ในภาพนี่ถ้าไม่โดนแก้ม แต่โดนตาแทนคงบอดไปแล้วมั้งครับ บางคนไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอก” สมาชิกหมายเลข 702583
“ปกติลูกชิ้นมันก็ไม่เคยมีน้ำร้อนๆ ข้างในเลยนะคะคุณ อันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ปกติเลยค่ะ ควรจะมีเตือนไว้ดีที่สุด คุณจะระวังยังไงคะถ้าตักเข้าไปเคี้ยวในปากทั้งลูก แล้วมันแตกใส่ปากลวกลิ้นคุณ แค่เอาช้อนตัดลูกชิ้น ปกติก็ไม่มีน้ำแตกใส่หน้าหรอกค่ะ
เราว่าลูกค้ากินลูกชิ้นแบบนั้นมันก็เป็นการกินแบบปกติดีแล้ว คงระวังการกินมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วค่ะ ถ้าไม่รู้ว่ามีน้ำร้อนข้างใน แต่ถ้ารู้อยู่แล้วว่ามีน้ำร้อนๆ อยู่ในนั้น ก็ระมัดระวังเป็นพิเศษได้ บอกเลยชุ่ยมาก! ที่ไม่เตือนให้รู้ก่อนว่าลูกชิ้นมีน้ำข้างใน” Jifuhao
“ขนาด “เสี่ยวหลงเปา” ที่มีไส้ข้างในเป็นน้ำซุปร้อน เขายังเตือนในเมนูว่าข้างในเป็นน้ำร้อนมาก เวลากินต้องระวัง (ไปกินที่สิงคโปร์ พนักงานเสิร์ฟบอกตอนเสิร์ฟเลยนะคะ) ถ้าลูกชิ้นมีไส้เป็นน้ำ ก็ควรจะมีป้ายเตือนค่ะ เพราะเป็นเมนูที่ต้องเอาลงหม้อเพื่อทำให้ร้อนก่อนอยู่แล้ว” zeeyahs.cu
“เราเพิ่งไปกินมาวันนี้เองเหมือนกันค่ะ ไม่รู้ด้วยว่ามีไส้ แต่คุณแม่ทานแล้วบอกอร่อยมากเลยลองทานดู ตอนเราลวกเสร็จก็ตักขึ้นมาพักไว้ที่ถ้วย รอให้ควันมันหายไประยะนึงก่อน จริงๆ เราก็เจาะ (ใช้ตะเกียบจิ้ม) เหมือนกันนะคะ เพราะคิดว่าลูกใหญ่มีไส้ด้วยน่าจะร้อน แล้วก็อยากถ่ายรูปตอนไส้มันไหลอวดเพื่อนๆ แต่ถือว่าโชคดีของเราที่มันไม่พุ่งแบบนี้ เห็นแล้วกลัวเลย ขอให้หายไวๆ นะคะ” poun_pond
“หลานๆ ชอบทานอาหารที่นี่มากเลย เรานี่รีบส่งกระทู้นี้แปะไปให้พ่อแม่พวกเขาอย่างไว ทางร้านรู้ปัญหาแล้วก็ควรติดป้ายเตือนเป็นเรื่องเป็นราวนะคะ เพื่อนเจ้าของกระทู้เป็นหนักเลยเขียนกระทู้เตือนคนอื่นๆ ก็ดีแล้ว เพราะมีคนที่กินแล้วปากพองอีกตั้งเท่าไหร่ที่ไม่ได้ออกมาพูด แล้วก็ปล่อยๆ ไป
สำหรับเรา คนกินไม่ได้ซุ่มซ่าม แต่ทางร้านต้องมีป้ายเตือนค่ะ อ่านหลายๆ คอมเมนต์แล้วเศร้าใจ ปกป้องร้านซะงั้น ไม่เกิดกับตัวเองหรือกับคนที่ตัวเองรักก็แล้วไปนิ” Gatinha Bonita
“พฤติกรรมการกินของคนไม่เหมือนกัน และคนที่เขาไม่รู้ว่าลูกชิ้นมันมีไส้ หรือไส้มันร้อนมากๆ ก็ยังมีอีกเยอะ ฉะนั้น ถ้าของกินมันจะร้อนขนาดทำร้ายคนได้แบบนี้ มันต้องมีป้ายเตือนค่ะ ไม่ต้องถึงกับต้องออกมาเป็นคู่มือสอนการกินหรอก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านหนังสือ แค่เตือนประมาณว่า “ลูกชิ้นนี้มีไส้ เมื่อต้มแล้วจะร้อนมาก (อุณหภูมิเท่าไรก็ว่าไป) โปรดกินด้วยความระมัดระวัง”
ถ้าที่ร้านมีป้ายเตือนแบบนี้ แล้วคนกินยังโดนลวกอีก นั่นล่ะคือเขาโง่/ เขาผิด/ เขาซุ่มซ่าม หลายเสียงบอกลูกชิ้นนี้อร่อย ถ้าติดป้ายเตือนเรื่องความร้อนที่ร้อนมากๆ คนกินที่ไม่ทันคิดถึงเรื่องนี้จะชื่นชมคุณด้วยซ้ำว่าใส่ใจลูกค้าค่ะ” Gatinha Bonita
[ออกมาตอบกระทู้ แสดงความรับผิดชอบ]
ล่าสุดทางร้านได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบผ่าน account “Hot Pot Buffet” ในเว็บบอร์ดพันทิป ทั้งยังลงนามปิดท้าย แสดงตัวเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นตัวแทน “บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน)” พร้อมชี้แจงรายละเอียดเอาไว้ ดังนี้
“เรียนคุณคนเป็ดบิน และลูกค้าทุกท่าน... ทางบริษัทฯ ต้องขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างสูงนะคะ ไม่ทราบว่าขณะนี้อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ ภายหลังทราบข่าวบริษัทฯ ไม่นิ่งนอนใจ โดยได้เตรียมปรับปรุงและจะมีการตั้งวิธีการรับประทานเมนูให้ละเอียดมากยิ่งขึ้นค่ะ รวมทั้งมาตรการที่รัดกุมและปลอดภัยต่อการใช้บริการต่างๆ ในร้าน
ทั้งนี้ทางบริษัทฯ รบกวนขอชื่อและเบอร์ติดต่อกลับคุณ "คนเป็ดบิน" ด้วยนะคะ โดยสามารถส่งกลับมาได้ที่ Inbox เฟซบุ๊ก www.facebook.com/hotpotbuffet ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ส่วนจะช่วยเรียกความมั่นใจของเหล่านักชิมกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องให้ผู้บริโภคเป็นคนตอบ...
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพและข้อมูล: กระทู้พันทิป
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754