xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งโสด ยิ่งสวย "เบลล์ Girly Berry" ผู้หญิงชอบไข่ (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สาวกรุ๊ปโอวัย 31 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ เอกการโฆษณา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ฉายแววนักร้อง นักเต้นมาตั้งแต่เด็ก จนวันหนึ่งก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลลี เบอร์รี (Girly Berry) แห่งค่ายอาร์เอสโปรโมชั่น ประกอบไปด้วย ปิยา พงศ์กุลภา หรือกิ๊ฟท์ซ่า, วนิดา เติมธนาภรณ์ หรือกิ๊ฟซี่, ภัทรนันท์ ดีรัศมี หรือแนนนี่ และสาวหมวยที่เรากำลังพูดถึง

ใช่แล้ว เธอคือ "เบลล์-มนัญญา ลิ่มเสถียร" สาวหมวยซ่อนเปรี้ยวที่สละเวลาส่วนตัวให้ทีมงาน M-Lite มานั่งพูดคุย และอัปเดตชีวิตในร้านคาเฟ่ไข่ "All ARE EGGs" แถวๆ แยกพงษ์เพชร ซึ่งเป็นกิจการล่าสุดของเธอกับหุ้นส่วนอีก 2 คน และเป็นคำตอบในคำถามที่ว่า "เธอหายไปทำอะไรมา"

"หายไปทำร้านขนมค่ะ เป็นคาเฟ่ไข่ ชื่อว่า All ARE EGGs ซึ่งมีอยู่ 3 ส่วนคือ ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่ซีฟูด ร้านขนม และสตูดิโอเอาไว้ซ้อมร้อง ซ้อมเต้น นอกจากนั้นยังเขียนหนังสือด้วยค่ะ เพิ่งเปิดตัวไปชื่อว่า สวย ประหยัดจากก้นครัว แถมยังได้ออกซิงเกิ้ลประกอบพ็อกเกตบุ๊กด้วย"

แยกย้ายหลังไร้สังกัด

เมื่อถามถึงเพื่อนๆ ในวง เบลล์บอกว่า ต่างคนต่างแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง "เพื่อนๆ ในวงก็ติดต่อกันอยู่ค่ะ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตัวเอง อย่างกิ๊บซี่ก็มีงานละคร มีงานเพลง เช่นเดียวกับกิ๊บซ่าก็มีละครเหมือนกันเพราะจบด้านการแสดงมา ส่วนแนนนี่ก็ไปทำธุรกิจส่วนตัวของเขา

อย่างตัวเบลล์เองก็ให้เวลากับคาเฟไข่ ซึ่งเปิดมาได้หลายเดือนแล้ว มีอยู่ 3 ชั้นคือ ร้านก๋วยเตี๋ยวไข่ซีฟู้ด ร้านขนม แล้วก็สตูดิโอเอาไว้ซ้อมร้อง ซ้อมเต้น นอกจากนั้นยังมีผลงานพ็อกเก็ตบุ๊ก 'สวย ประหยัดจากก้นครัว' ที่ทั้งทำ และลงมือเขียนด้วยตัวเอง แถมยังได้ออกซิงเกิ้ลประกอบพ็อกเก็ตบุ๊กชื่อว่า ยิ่งโสด ยิ่งสวยด้วยค่ะ



นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามภายใต้แบรนด์ Be Bella ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามสมุนไพรไทยที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ทั่วประเทศ ปัจจุบันได้เริ่มขยายตลาดส่งออกไปขายยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านด้วย" นักร้องหน้าหมวยเล่าไปยิ้มไป

แม้ที่ผ่านมาจะมีละครเข้ามา แต่ก็ต้องปฏิเสธไป เพราะอยากทุ่มเวลาให้กับคาเฟ่ไข่ ซึ่งเปรียบเสมือน "คนรัก" ที่ต้องให้เวลากับเขา

"การเป็นเจ้าของกิจการมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ มีแล้วต้องให้เวลากับเขา ต้องดูแลเขาเหมือนลูก ถ้าเราไม่ดูแลใส่ใจเขา ณ จุดหนึ่งเขาอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด เพราะฉะนั้น ในเมื่อเราเลือกที่จะมีเขาแล้ว เราก็ต้องเข้าไปดูแล และลงมือทำทุกๆ อย่างเองหมด ตั้งแต่ซื้อของ ตกแต่งร้าน สวมบทบาทเป็นเชฟเข้าครัวเพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับทุกเมนูอาหารคาวหวานในร้านไม่ว่าจะเป็นขนมหรือร้านก๋วยเตี๋ยว

ดังนั้น ในกรณีที่มีงานละครติดต่อเข้ามา ถ้าเรื่องไหนใช้เวลาถ่ายนานก็จะไม่รับเล่น แต่ก่อนหน้านี้ก็มีบางเรื่องที่รับเล่นนะคะ เพราะเลือกเรื่องที่ใช้เวลาถ่ายค่อนข้างน้อย ปัจจุบันไม่มีถ่ายอะไรแล้วค่ะ ทุ่มเทกับร้านอย่างเดียว เพราะการจับอะไรที่ไม่ค่อยถนัด เราต้องให้เวลากับเขา นับหนึ่งไปพร้อมๆ กันกับเขา อย่างงานเพลง เบลล์เรียนร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ซึ่งเบลล์ก็ให้เวลากับเขามากเหมือนกัน"

ยิ่งโสด ยิ่งสวย

แม้จะเพิ่มงานเขียนเข้ามาในชีวิต แต่งานเพลงก็ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน เพราะหนังสือเล่มนี้มาพร้อมกับเพลงประกอบหนังสือ "ยิ่งโสด ยิ่งสวย"



"โสดอยู่ได้ เป็นโสดอยู่ได้ ยังไม่มีแพลนจะหายโสด โสดยิ่งสวย ยิ่งโสดยิ่งสวย ใครอยากจะจีบ บอกด้วยไม่โกรธ โอ๊ย..คนมันโสด" เป็นท่อนฮุกในซิงเกิลใหม่แกะกล่องที่ได้รับเกียรติจาก "เอิร์ธ ณัฐดนัย" นักเขียนเพลงผู้เคยฝากผลงานเพลงฮิตอย่าง "มองได้แต่อย่าชอบ" ของลุลา และปุ๊ย-ดุสิต ตันสกุล เจ้าของลายมือเรียบเรียงเพลงเก๋ๆ อย่าง "เบาเบา" ของ Singular มาร่วมงาน โดยมีศิลปินเพื่อนซี้อย่าง "ยุ้ย-ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา" รับหน้าที่เป็น Executive Producer ดูแลการทำงานเพลงชิ้นนี้ด้วย

ได้ยินเธอเล่า และบอกว่าเพลงนี้ฟังสบายๆ จังหวะสนุก ทีมงานในฐานะคนโสดก็อดไม่ได้ที่จะหยิบหูฟังขึ้นมาใส่รูหู หลังจากฟังแล้วรู้สึกสนุก และยิ้มตามไปกับความโสด ไม่เชื่อลองไปหาฟังกันดู แต่สิ่งที่อยากถามเบลล์ต่อไปก็คือ เพลงนี้มีที่มาอย่างไร แต่งมาจากชีวิตจริงของเธอหรือเปล่า

"เพลงนี้อย่างที่บอก มันตั้งต้นมาจากพ็อกเก็ตบุ๊กค่ะ ซึ่งพี่เขาอยากให้เชื่อมโยงกับตัวเราเองด้วย ตอนนั้นพี่เขาก็ถามว่า เราเป็นยังไงล่ะ อืมพี่ หนูโสดนะ แต่หนูชิลล์ แล้วหนูก็ไม่ได้รู้สึกว่า หนูจะต้องมีคนเข้ามาคุย ถ้ามีใครเข้ามาคุยแล้วใช่มันก็คือใช่ ถ้าเข้ามาแล้วไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร แล้วพี่เขาก็ถามต่อว่า โสดมานานหรือยัง ก็นานแล้วนะพี่ หลังจากนั้นพี่เขาก็กลับไปแต่งเพลง โดยใช้ชื่อว่ายิ่งโสดยิ่งสวยค่ะ" เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้น

ถามว่าตอนนี้โสดไหม เธอตอบทันทีว่า "โสดค่ะ" ก่อนจะเผยให้เห็นข้อดีของความโสดว่า "ยิ่งโสดก็ยิ่งมีเวลาดูแลตัวเอง ได้ดูแลตัวเองให้สวยมากขึ้น ที่ผ่านมาก็ดูแลตัวเองค่อนข้างเยอะค่ะ โดยเฉพาะการออกกำลังกาย อย่างน้อยต้อง 3 วันต่อสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นโยคะ วิ่งบนลู่วิ่ง หรือไปขี่ม้าบ้าง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าช่วงนั้นว่างมากน้อยแค่ไหน ส่วนเรื่องกิน เบลล์ค่อนข้างกลางๆ อยากกินก็กิน"


ถ้าให้ตอบว่าส่วนไหนของร่างกายที่ชอบมากที่สุด เรื่องนี้สาวเบลล์ระบุไม่ได้ เพราะรู้สึกเฉยๆ แต่เธอมักจะมีนิสัยชอบจับผิดตัวเองเวลามองกระจกอยู่บ่อยๆ


"เหมือนเป็นโรคจิตไปแล้วค่ะ เวลาตื่นเช้าขึ้นมามองตัวเองในกระจก ก็จะตกใจว่า ห๊ะ! ทำไมตาฉันเป็นแบบนี้ ทำไมหน้าฉันเป็นแบบนี้ พอจับผิดได้แล้วก็หันมาดูแลตัวเองเฉพาะจุด เริ่มจากเข้าครัวหาของมาบำรุง เช่นผิวแห้ง กร้านก็เปิดตู้เย็นแล้วหยิบโยเกิร์ตออกมา หรืออยากลดอาการหน้ามันก็หยิบไข่ขาวขึ้นมาใช้ สิวขึ้นก็ใช้อบเชย ส่วนข้อศอกดำก็ใช้เกลือ ถ้าเข่าด้านก็ใช้มะนาวถูเอา หรือน้ำหนักขึ้นเซลลูไลท์เพิ่มก็ใช้กาแฟคั่วบดขัดผิว เรียกว่าตั้งแต่หัวถึงปลายเท้า กระทั่งเรื่องของเส้นผม ทุกอย่างหาได้ง่ายๆ และอยู่รอบตัวเราจริงๆ"

เป็นผู้หญิงชอบ "ไข่"

เมื่อเจาะลึกลงไปถึงร้านคาเฟ่ไข่ หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นไข่ ก่อนที่จะคิดลึกกันไกล ไปฟังคำอธิบายจากปากของเธอกัน

"เป็นคนชอบไข่ค่ะ เพราะว่ามันอร่อย แหม่..คิดลึกอยู่หรือเปล่าคะ ด้วยความเป็นไข่ มันมีเสน่ห์นะคะ เราไปกินอะไร ส่วนใหญ่ก็จะมีไข่เป็นส่วนประกอบ พอย้อนดูตัวเรา เฮ้ย! เราก็กินกันเกือบทุกวัน ซึ่งบางเมนูก็มีไข่โดยที่เรากินเข้าไปแบบไม่รู้ตัว แล้วทำไมถึงลืมเขาล่ะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเบลล์ถึงชอบไข่ ให้ความสำคัญกับไข่จนคุยกันกับหุ้นส่วนของร้านนี้ว่า เอาไข่นี่แหละมาเป็นเอกลักษณ์ของร้าน"

ด้วยความที่เป็นผู้หญิงชอบไข่ ไม่แปลกใจว่าทำไมร้านคาเฟ่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยไก่กับไข่ เริ่มตั้งแต่เมนูขนมหวานไปจนถึงการจัดแต่งร้านทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ฝาผนังต่างออกแบบ และเต็มไปด้วยภาพวาดของแม่ไก่ ลูกไก่ และไข่ไก่

"ทุกอย่างในร้านส่วนใหญ่ทำเองหมดเลยค่ะ (ผายมือไปรอบๆ ร้าน) แม้กระทั่งโซฟา (ชี้ไปที่โซฟา) มีน้องคอยช่วยออกแบบให้ ซึ่งร้านนี้ให้เวลากับเขามา 2-3 ปี กว่าจะเปิดเป็นทางการอย่างที่เห็นอยู่นี้ เบลล์เจอย้อนถามจากคนรู้จักว่า นี่ทำเฉพาะเสาร์ อาทิตย์หรือเปล่า (หัวเราะ)"





ส่วนโต๊ะ และเก้าอี้ที่กำลังนั่งกันอยู่นี้ เธอก็บอกอย่างภาคภูมิว่า ซื้อไม้มาทำเอง รวมไปถึงชั้นไม้ และป้ายไม้ด้วย

"ไปหาซื้อไม้กันมาแล้วก็เลื่อยๆๆๆๆ (ทำท่าเลื่อยไม้) ซึ่งเบลล์มีทีมดีค่ะ คอยช่วยกัน ส่วนเราก็ช่วยลงมือ ลงแรงด้วย ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ถามว่าทำไมไม่จ้างคนอื่นมาทำ เบลล์รู้สึกว่า มันเหมือนเป็นความสุขมากกว่า จากหนึ่งชิ้น สองชิ้น สามชิ้น มันรู้สึกภูมิใจนะ ส่วนชั้นล่างซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยม ทำกันประมาณ 7 เดือน นั่งทาสีเขียวเอง รูปก๋วยเตี๋ยวก็วาดเอง ระบายสีเอง ซึ่งมันน่าเกลียดมาก (หัวเราะ) แต่มันก็คือความสุขของเรา" เบลล์เล่าไปยิ้มไป

เช่นเดียวกับเมนูอาหารคาวหวานในร้านคาเฟ่ไข่ที่สาวเบลล์จะเป็น "เชฟ" เข้าครัวเพื่อเพิ่มความอร่อยให้กับทุกเมนูด้วยตัวเอง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอไปเรียนทำขนมมาจากไหน

"คุณแม่เป็นคนชอบทำขนมค่ะ โดยเฉพาะขนมหวานที่จะออกไปในแนวฟิวชั่นไทย-จีน เพราะที่บ้านเป็นครอบครัวคนจีน ซึ่งเขาก็เอาความชอบมาสอนเรา เช่น การทำเค้ก ซึ่งคุณแม่ก็จะไม่ได้บอกอะไรเราเยอะ แต่จะให้สูตรแล้วเอาไปทำเอง (หัวเราะ) กว่าจะออกมาดูดี ก็เละอยู่หลายรอบค่ะ" เธอเล่า

ช็อกโกแลตลาวา นี่แหละตัวเบลล์

คุยกันไปคุยกันมา ทีมงานนึกสนุก ลองให้สาวหมวยตาตี่ที่นั่งจิ้มลิ้มอยู่ตรงหน้าเลือกเค้กมา 1 ชิ้นเพื่ออธิบายตัวตนผ่านเค้กชิ้นนั้น เบลล์นิ่งคิดอยู่นานก่อนจะเลือก "ช็อกโกแลตลาวา" โดยเธอให้เหตุผลว่า "ที่เลือกเค้กนี้ก็เพราะข้างนอกมันดูแบบ...เธอแข็งหรือเปล่า เธอเป็นอะไร แต่ข้างในจริงๆ คือไส้ไหลนะจ๊ะ (ยิ้ม) คือเบลล์เป็นคนอ่อนหวาน ค่อนข้างอ่อนไหวกับอะไรง่าย โดยเฉพาะเรื่องเพื่อน และเรื่องสัตว์



เวลาเห็นช้างเดินอยู่ริมถนน เหมือนจินตนาการอยู่คนเดียวแล้วก็ร้องไห้ออกมา เพราะเราไม่ได้รู้สึกดีที่เขามาเดินแบบนี้ เคยคิดเล่นๆ เหมือนกันนะคะว่า ถ้าฉันเก็บตังค์ได้เยอะๆ ฉันก็จะเอาไปทำรองเท้าให้ช้าง (ทำท่านึกคิด) ดังนั้น ช็อกโกแลตลาวานี่ล่ะ เบลล์ มนัญญา" พูดจบนักร้องสาวหน้าหมวยก็ยิ้มอย่างแจ่มใส ทำให้เห็นตาหยีๆ ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งมันกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอไปแล้ว

คำสอนพ่อ "เป็นใครจำให้ดี"


ด้วยความเก่ง และความสดใส น่ารักของเธอ การย้อนกลับไปค้นหายังสถานที่ที่สร้างเขาขึ้นมาอย่าง "ครอบครัว" จึงเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจว่า สภาพครอบครัว และการอบรมเลี้ยงดูแบบใดที่สามารถสร้างให้คนๆ หนึ่งสามารถมายืนอยู่ได้ ณ จุดนี้โดยไม่แกว่งไปกับกระแสมายา หรือชื่อเสียง

"คุณแม่จะเลี้ยงลูกแบบปล่อย โดยให้อิสระในการคิดและการใช้ชีวิต ส่วนคุณพ่อไม่ค่อยห้าม อยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าผิด หรือไม่ถูกต้องเขาก็จะบอกว่าผิด ซึ่งคุณพ่อจะเข้มงวดในเรื่องมารยาท ส่วนความแก่น ความซ่า เบลล์น่าจะได้มาจากแม่ เพราะแม่จะแก่น และซน ทุกวันนี้ก็ยังซนอยู่ แม้จะบ่นว่า ม๊าปวดเข่าๆ แต่ก็ยังเห็นออกไปวิ่งอยู่ข้างนอก หรือออกไปทำขนมกับเพื่อนๆ





อย่างเบลล์ตอนเด็กๆ ก็ซนมาก ชอบปีนต้นไม้ หรืออะไรที่ผาดโผนผู้หญิงคนนี้เอาหมด พอโตขึ้นแม้ภายนอกจะดูหวานๆ แต่จริงๆ แล้วแมนมาก (ลากเสียงยาว) เพื่อนชวนไปไหน ไป โอเค (ทำเสียงฮ้าวๆ) หรือจะเป็นเพราะที่บ้านปล่อยให้ทำอะไรเองตั้งแต่เด็กๆ เราจึงกลายเป็นหญิงแก่น

เรื่องร้องเพลง เรื่องเต้นเขาก็ไม่คิดว่าจะส่งเราไปเรียน แต่เขาเห็นเบลล์เดินไปที่ไหนก็ชอบเต้น เดินไปที่ไหนก็ชอบร้องเพลง จำได้ว่าเคยไปยืนกลางสี่แยกแล้วก็ฉีกแข้งฉีกขาอยู่ตรงนั้นแหละ หรือคุณแม่พาไปเดินห้าง ในขณะที่คุณแม่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ ส่วนคุณพ่อก็ลองชุดอยู่ในห้องลองชุด นี่เต้นอยู่กลางห้าง (ชี้มาที่ตัวเอง) ไม่ว่าจะเปิดเพลงอะไรมา เด็กคนนี้จะเต้นๆๆ แล้วก็ร้องๆๆ เพลงอยู่คนเดียว

คุณแม่ก็เลยจับให้ไปเรียนตั้งแต่ 10 ขวบ จากนั้นก็ค่อยๆ เดินตามเส้นทางการร้อง การเต้นจนได้เป็นหนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลลีเบอร์รี (Girly Berry) แห่งค่ายอาร์เอสโปรโมชั่นตอนอายุประมาณ 17 ปี กระทั่งหมดสัญญารวมเวลาที่ได้เป็น เบลล์ เกิร์ลลีเบอร์รีก็ประมาณ 13 ปี เป็น 13 ปีที่เบลล์ได้เรียนรู้ถึงความอดทน ความพยายาม ความรับผิดชอบ ได้เพื่อน ได้เรียนรู้สังคมในแบบที่เราไม่เคยเจอ เช่นการทำงานด้วยกันเยอะๆ การรักษาน้ำใจคนถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานตรงนี้" เธอเล่า และสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลลีเบอร์รีให้ฟัง

แม้ว่าวันนี้เธอจะเป็นผู้หญิงที่มีคนรู้จัก และมีแฟนคลับติดตามกว่าหนึ่งแสนสองหมื่นคนจากอินสตาแกรม @bellegb แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองดัง เช่นเดียวกับสมัยตอนยังมีวงเกิร์ลลีเบอร์รีที่รู้สึกแค่ว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และจะทำอย่างไรให้งานเพลงออกมาดีที่สุด

"เบลล์ไม่เคยหลงระเริงไปกับชื่อเสียง เพราะมีคุณพ่อคอยเตือนสติอยู่ตลอดว่า 'เป็นใครจำให้ดี เรามาจากไหน จำเอาไว้' นี่คือสิ่งที่คุณพ่อคอยย้ำกับเราเสมอ เพราะสุดท้ายคนเราก็จะกลับไปที่เดิม 'สูงสุดสู่สามัญ' ถ้าคนที่ตามเบลล์ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ก็จะรู้ว่า เบลล์ก็เหมือนเดิมนะ (ยิ้มหวาน) ดังนั้นมีเกิดก็ต้องมีดับ เหมือนกันกับชื่อเสียง ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ทางที่ดีอย่าไปยึดติดค่ะ"



ความรักในโลกของเบลล์

หลังจากเปิดใจในตอนแรกไปแล้วว่า "โสดมาก" แถมยังเน้นย้ำอีกว่า "ยิ่งโสด ยิ่งสวย" เหมือนซิงเกิลใหม่ของเธอ ไม่ถามไม่ได้ถึงมุมมองความรักในแบบฉบับสาวเบลล์

"ความรักเป็นเรื่องสวยงามเสมอค่ะ เมื่อมีมันแล้วก็เหมือนผีเสื้อบินวนอยู่ในท้อง ชวนให้หัวใจเต้นแรง มีความสุข แต่ถ้าคนไม่ใช่ มันก็คือไม่ใช่อยู่ดี" เบลล์ยิ้มออกมาเหมือนคนเคยอาบน้ำร้อนมาก่อน "ประสบการณ์หลายๆ อย่างมันสอนให้เรารู้ว่า อยู่คนเดียวก็ดีเหมือนกันนะ นี่ก็โสดมา 3 ปีละ ถามว่าเหงาไหม ก็มีบ้าง แต่พออยู่กับเพื่อน อยู่กับน้องมันก็หายเหงา แล้วอีกอย่างเบลล์มีร้าน มีธุรกิจให้ทำ มันก็เลยเหงาไม่มาก" เธอบอก

เมื่อถามถึงผู้ชายในฝัน เธอวาดสเปกไว้อย่างไร "คนไทยคงไม่แล้วล่ะค่ะ (ยิ้ม)" เธอบอก "เคยมีคนเข้ามาแล้วทำให้เราตกหลุมรัก แต่วันหนึ่งหายไปไหนก็ไม่รู้ทั้งๆ ที่ไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ตอนนั้นเจ็บปวดมาก ทรมานมาก ทำไมมีอะไรไม่บอก ไม่พอใจอะไรก็บอกดิ (หน้าจริงจัง) เพราะสุดท้ายแล้วคือ โตแล้ว รับได้ ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็คือจบ

แต่นี่หายไปดื้อๆ พอเจอกันก็เหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อน ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เบลล์จึงเข็ดแล้วอ่ะ เอาจริงๆ ชายไทยดีๆ ก็มีเยอะค่ะ เพียงแต่เรายังไม่เจอ ดังนั้น ฝรั่งเลยดีกว่า (หัวเราะ) เพราะหมอดูเขาว่ามาอย่างนั้น ถ้าจะมีแฟน คบกับฝรั่งแล้วโอเคกว่า"



ส่วนอนาคตต่อจากนี้ เธอคงยังไม่ริเริ่มโครงการอะไรใหม่ๆ เพราะอยากทำ และดูแลส่วนที่มีอยู่ให้แข็งแรงก่อน นอกจากนั้นความสุขของเธอก็คือ "บ้าน"

"เวลาทำงานเหนื่อยๆ แล้วได้กลับบ้าน มันรู้สึกว่ามีความสุขจัง มีความสุขจังที่ได้อยู่กับพ่อแม่ มีความสุขจังเวลาที่ได้แชร์เรื่องราวต่างๆ ให้เขาฟัง ผิดกับเมื่อก่อนที่ไม่ค่อยเข้าใจอะไรพวกนี้เลย แต่พอ ณ จุดที่เราทำงานเยอะมากๆ มากจนบางทีเหนื่อย และอยากกอดแม่แล้วร้องไห้ พอเห็นหน้าพวกเขาเราก็มีแรงลุกขึ้นมาสู้ต่อไป ทุกวันนี้ความตั้งใจของเบลล์คือ อยากพาพ่อกับแม่เที่ยว เพราะท่านมักจะบอกอยู่บ่อยๆ ว่าอยากไปเที่ยว"

ตลอด 1 ชั่วโมงที่ตาสองชั้นของผู้สัมภาษณ์ได้ประจันหน้ากับตาตี่ๆ ของสาวหมวยหน้าหวานอมเปรี้ยวคนนี้ นอกจากความน่ารัก สดใสที่เห็นได้แจ่มชัดแล้ว ตัวตน และแววตาที่มุ่งมั่นคือสิ่งที่เห็นได้ชัดเช่นกัน รวมไปถึงความเป็นกันเองที่ชวนหลงใหล สร้างความกระชุ่มกระชวยหัวใจได้มากทีเดียว

ASTVผู้จัดการ Lite

เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช และขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากหนังสือ สวย ประหยัดจากก้นครัว



ประวัติส่วนตัว

ชื่อ-นามสกุล : มนัญญา ลิ่มเสถียร
ชื่อเล่น : เบลล์ หรือ เบลล์ เกิร์ลลี เบอร์รี
วัน/เดือน/ปีเกิด : 25 ธันวาคม พ.ศ. 2527
การศึกษา
- มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
- ปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ เอกการโฆษณา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ผลงานปัจจุบัน
- พ็อกเก็ตบุ๊ก 'สวย ประหยัดจากก้นครัว' โดยสำนักพิมพ์นิตยสารแพรว
- เปิดร้านคาเฟ่ไข่ "All ARE EGGs"
- เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมความงามสมุนไพรไทยแบรนด์ "Be Bella"



มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...

Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015

รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"



มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น