แก๊งบิ๊กไบค์นับ 10 คัน จอดขวางทางเพื่อถ่ายรูปหมู่ในอุทยานราชภักดิ์ โดยไม่นึกถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นว่าจะมีพื้นที่ถ่ายรูปหรือไม่ สะท้อนให้เห็นปัญหาการถ่ายรูปของคนไทยที่เน้นเท่ โดยไม่สนใจกาลเทศะ บวกกับการทำงานของเจ้าหน้าที่คุมเข้มน้อยเกินไป
โชว์กร่างต่อหน้าพระบูรพกษัตริย์
ดรามารถบิ๊กไบค์ปะทุเดือดขึ้นอีกครั้ง หลังสมาชิกเว็บไซต์พันทิปท่านหนึ่งได้ออกมาตั้งกระทู้ในหัวข้อ "ความไม่มีมารยาทของกลุ่มบิ๊กไบค์ (บางกลุ่ม)" ระบุว่า ได้มีแก๊งบิ๊กไบค์กลุ่มหนึ่งได้นำรถเข้ามาจอดบริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขวางการถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เพื่อจะถ่ายรูปหมู่รวมกันเองอย่างไม่มีความเกรงใจ และเมื่อทหารเข้าไปแจ้งว่าที่ตรงนี้ห้ามจอด กลับโดนตอกกลับมาว่าถ่ายก่อนแป๊บหนึ่ง
ภายหลังผู้อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มบิ๊กไบค์ดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงว่า ทางกลุ่มได้ขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่แล้ว และเจ้าหน้าที่ก็มีการโบกรถจัดแจงที่จอดให้ ซึ่งใช้เวลาในการถ่ายไม่ถึง 10 นาที เพื่อนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อุทยาน และขออภัยที่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน
เมื่อประเด็นนี้แพร่สะพัดออกไป ผู้คนในโลกออนไลน์ต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก บ้างก็ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำไม่มีมารยาทและไม่รู้จักกาลเทศะ บ้างก็ว่าหากขออนุญาตแล้วก็ควรจะมีเอกสารยืนยัน เพราะสถานที่ดังกล่าวมีกฎบอกไว้อย่างชัดเจนว่าห้ามจอดรถ
“บิ๊กไบค์ ในสังคมปัจจุบัน ก็ไม่ต่างจากเด็กแว้นที่สร้างความเดือดร้อนบนท้องถนน แค่ยกระดับ แว้นมีตังค์ ก็เท่านั้น ขับเป็นฝูงคิดว่าเท่ แต่ก็มีหลายกลุ่มนะคับ ที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม เคารพกฎจราจรและมีน้ำใจ ทุกสังคมมีทั้งกลุ่มคนดีและกลุ่มคนเลวปะปนกันไป”
“เขาห้ามจอดรถแล้วยังดันทุรังจะจอด ดันทุรังจะขออนุญาต กฎข้อบังคับแค่นี้ยังจะแหกนับประสาอะไรกับกฎจราจร กฎหมายอื่นๆ พวกมันคงไม่ใส่ใจ ขยะสังคมชัดๆ”
“ถ้าคนมีมารยาทจริงต้องรอคิวคนมาก่อนถ่ายก่อน มาทีหลังรอคิว พวกนี้ชอบใช้กฎหมู่แทนกฎหมาย”
“มาเป็นกลุ่ม ก็นึกถึงสาธารณะชนบ้าง เวรกรรม เจ้าหน้าที่ก็แจ้งแล้ว แบบนี้ต้องปรับปรุงครับ”
เจ้าหน้าที่ปล่อยให้ประชาชนดรามากันเอง!
จากประเด็นดังกล่าวข้างต้น ชี้ให้เห็นว่าสังคมไทยเสพติดการถ่ายรูปจนเกินความพอดีไปหรือเปล่า แม้แต่ในที่ที่ห้ามนำรถเข้าไปจอดก็ยังมีผู้ฝ่าฝืน โดยไม่รู้จักกาลเทศะจนสร้างความเดือดร้อนให้แก้ผู้อื่น “ธาม เชื้อสถาปนศิริ” นักวิชาการสื่อสาธารณะ ได้วิเคราะห์ประเด็นนี้ผ่านทางทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ว่า พฤติกรรมนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ หากอยากโปรโมตการท่องเที่ยวควรใช้มุมอื่นจะดีกว่า
“ส่วนตัวมองว่ากาลเทศะไม่ได้อยู่ที่ 10 นาทีนะ แต่อยู่ที่การเข้าไปให้พื้นที่มากกว่า ต้องเข้าใจว่าพื้นที่ลานแบบนั้น ปกติถ้าเป็นลานท่องเที่ยวแบบอื่นคงสามารถเอารถเข้าไปได้ แต่ถ้าเป็นหุ่นรูปปั้นพิพิธภัณฑ์มีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เขาจะไม่ค่อยให้เอารถไปใช้จอด โดยพื้นที่ของอุทยานราชภักดิ์ลานข้างหน้าไม่สมควรแก่การเอารถไปจอด ดูจากการออกแบบ การใช้อิฐบล็อกที่ปู มันไม่เอื้อต่อการให้เอารถน้ำหนักเยอะๆ ไปจอดถ่ายรูปหรอก
เพราะฉะนั้น พื้นที่ถ้าดูแต่แรก กาลเทศะของมันคือประชาชนที่เข้าไปใช้พื้นที่ต้องไปในลักษณะของการเดินเท้าเข้าไปนั่ง เดิน ยืน ตรงนั้นได้ แต่การเอารถไปย่ำดูเป็นการไม่เหมาะสม มันเป็นพื้นที่ที่แสดงความทำความภักดีของประชาชน ดังนั้น การเอารถไปจอด มันไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เราถือว่าตรงนั้นเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ คนที่ไปเขาไปกราบไหว้เคารพบูชา แต่กับการถ่ายรูปโปรโมตท่องเที่ยวมันดูผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อย ถือว่าเป็นเจตนาที่ดีเหมือนกันแต่ควรใช้มุมอื่นดีกว่า”
อีกทั้ง เรื่องราวนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการบริหารจัดการที่ดีพอ เพราะฉะนั้น ต้องวางกฎระเบียบ ข้อปฏิบัติให้ชัดเจน และแบ่งพื้นที่ให้ถูกต้องและเหมาะสม โดยที่ไม่รบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ นักวิชาการสื่อสาธารณะชี้แนะ
“ประเด็นอยู่ที่การจัดการของเจ้าหน้าที่ ฝ่ายทหาร หรือว่า ฝ่ายอุทยาน คือเจ้าหน้าที่ต้องมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ เช่น มีสถานที่ท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มให้ได้ถ่าย คือปกติแล้วในเมืองไทยค่อนข้างแปลก เวลามาเป็นกรุปหรือมาเป็นทัวร์จะได้รับสิทธิ์ก่อน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ ถ้าดูในต่างประเทศ คนที่ได้รับสิทธิ์ก่อนก็คือตัวประชาชนทั่วๆ ไป คณะทัวร์เป็นคนที่ต้องรอ คือทุกคนไปอยากถ่ายรูปหมดแหละ
เจ้าหน้าที่ที่ต้องจัดกฎระเบียบการกำกับการใช้พื้นที่ เพราะพื้นที่นี้ไม่ใช่ลักษณะของพื้นที่ส่วนตัว สังเกตได้ว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เป็นความขัดแย้งที่ต้องการถ่ายรูปเป็นหมู่คณะ ในมุมผมเจ้าหน้าที่ควรจะมีพื้นที่ให้เฉพาะไปเลย ให้ใช้พื้นที่อย่างถูกต้องและเหมาะสม อย่างที่ไม่รบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เพราะฉะนั้น เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานราชการทหารต้องวางกฎระเบียบให้ชัดเจน
พอเหตุการณ์นี้เป็นข่าวก็สะท้อนให้เห็นว่า คนก็ยังไม่เข้าใจว่าสถานที่แบบนี้ ฝ่ายที่หายไปคือฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ที่ดูแล เขาก็ยังปล่อยให้ประชาชนไปดรามากันเองอยู่ ซึ่งมันไม่ได้ เพราะมันสะท้อนเรื่องของการบริหารจัดการอาจจะยังไม่มีกฎระเบียบที่รัดกุมเพียงพอ”
ข่าวโดยASTV ผู้จัดการLive
ขอบคุณข้อมูล: สมาชิกหมายเลข 1471042 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...
Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
