xs
xsm
sm
md
lg

ลุคใหม่ "สาวหยก" ผมสั้นเซ็กซี่เกิร์ล นางเอกคน-อก-หัก (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผ่านงานโฆษณาทีวีมากว่า 10 ชิ้น ก่อนได้เป็นนางเอกหนังเรื่องแรก "ชิงหมาเถิด" ตามมาด้วย "Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์" วันนี้ "หยก-ณัฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์" เปลี่ยนลุคใหม่ ไฉไลกว่าเดิม สวมบทนางเอกเต็มตัวในหนัง "คน-อก-หัก Love H2O" ประกบ 3 พระเอกสุดฮอต (อนันดา-โทนี่-นาวินต้าร์) บอกเล่าเรื่องราวของคนอกหักที่จะทำให้รู้จักความรักมากขึ้น เช่นเดียวกับชีวิตนอกบทที่จะถูกเปิดเผยในแบบเอ็กซ์คลูซีฟผ่านการสัมภาษณ์หลากหลายรสชาติ



เธอเป็นใคร นางเอกชื่อ "หยก"

ไม่ใช่นักแสดงหน้าใหม่ แต่เคยผ่านงานมาแล้วหลายชิ้น "ชิงหมาเถิด" ผลงานกำกับของ "อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง" คือชิ้นแจ้งเกิด ทำให้ชื่อของ "หยก" เริ่มเป็นที่รู้จัก แต่ด้วยใบหน้ารูปไข่สไตล์อาหมวย กลับมีให้เห็นได้ทั่วไปในวงการ จึงอาจเป็นเรื่องยากที่ใครๆ จะจำเธอได้ตั้งแต่แรกเห็น

"หยก" เคยให้สัมภาษณ์ผ่าน M-Lite โดยยอมรับว่า ตัวเองไม่ใช่คนสวย หรือหน้าตามีเอกลักษณ์มากมายนัก ที่เริ่มมีผลงานในวงการขึ้นมาบ้างเป็นเพราะความพยายามและการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ แต่กว่าจะได้รับโอกาสอย่างทุกวันนี้ ต้องเจอกับความผิดหวังมาแล้วหลากหลายรูปแบบ





"แคสต์มาเยอะ เจ็บมาเยอะ" คือสิ่งที่ "หยก" บอกเล่าถึง "เส้นทางบันเทิง" ที่ไม่ได้โรยรายด้วยกลีบกุหลาบ 

เธอเริ่มแคสต์งานครั้งแรกตอนเรียนอยู่ชั้น ม.5 ตามคำชักชวนของโมเดลลิ่งที่เจอโดยบังเอิญขณะไปเดินสยามฯ กับเพื่อนๆ ทั้งที่ไม่เคยมีความคิดจะเป็นดารามาก่อน แต่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่และไม่อยากปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป จึงเริ่มตระเวนเทสต์หน้ากล้องดู ครั้งสองครั้งแรกที่ถูกปฏิเสธก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เข้าใจว่าเป็นเรื่องของจังหวะ จนกระทั่งผ่านไป 30 งานยังไม่ได้รับเลือกจึงถอดใจ หยุดพักเรื่องแคสต์ไปเลย 1 ปี

นอกจากต้องแบกความผิดหวังจากการเทสต์หน้ากล้องกลับบ้านมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง โชคชะตายังกลั่นแกล้งไม่เลิกแม้เข้าประกวดบนเวทีคัดเลือกนางแบบ หยกตกรอบทั้งที่ยังไม่มีโอกาสได้เดินโชว์ เธอเสียใจมากกับการผิดหวังครั้งนี้ ต้องใช้เวลารักษาแผลใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจกลับมาแคสต์อีกครั้ง จนกระทั่งได้รับเลือกให้แสดงโฆษณาชิ้นแรกในชีวิต ตามมาด้วยอีกหลายงานในเวลาต่อมา



หลังจากช่วงเวลาแห่งความยากลำบากเหล่านั้นผ่านพ้นไป วันนี้เธอกลายเป็นนักแสดงที่มีคนรู้จัก และติดตามมากขึ้น แถมยังได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่านจนมีผลงานเด่นๆ หลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็น The Dog ชิงหมาเถิด,Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์, นางเอก MV ไม่ขอก็จะให้ ของดา เอ็นโดรฟิน

นอกจากนี้ ยังเคยผ่านงานพิธีกรรายการ GirlZaa Dating, Zaa Report ทางช่อง ZaaNetwork39 แถมยังเคยพิสูจน์เส้นเสียงด้วยการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ ชิงหมาเถิด ในเพลง "คนเดียวพอไหม" มาแล้ว

"สาวหยก" คน-อก-หัก

ล่าสุดกับบทนางเอกเต็มตัวที่ต้องผ่านการแคสติ้งอย่างหนักเพื่อมารับบท "น้ำ" สาวมั่นที่ต้องกลายเป็นคนอกหักในหนังโรแมนติกดรามา "คน-อก-หัก Love H2O" ที่กำลังเข้าฉายอยู่ในขณะนี้ ทำให้เธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ต้องอกหัก ซึ่งนำไปสู่เรื่องราวของผู้ชายอีก 3 คนอย่าง ด็อก รับบทโดย โทนี่ รากแก่น, โจ รับบทโดย นาวิน ต้าร์ - นาวิน เยาวพลกุล และ โอม รับบทโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม กับเรื่องอกหักที่แตกต่างกันออกไป

นางเอกของเรื่องบอกเล่าให้ว่า เป็นบทบาทการแสดงที่ท้าทายมาก ให้ประสบการณ์แตกต่างจากการแสดงหนังเรื่องก่อนๆ ถือเป็นก้าวที่โตขึ้นมาก

"ได้ยินโปรเจกต์นี้มาปีกว่าแล้วค่ะ จากนั้นก็เงียบหายไป จู่ๆ วันหนึ่งก็เอากลับมาทำใหม่ มีเปิดแคสต์นางเอก โดยคุยกันว่าจะใช้เด็กข้างนอกที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย คือไม่เคยผ่านงานอะไรมาก่อนเลย พอแคสต์ไป 1 เดือน ก็มีสายโทร.เข้ามาเรียกให้หนูไปแคสต์ บอก เนี่ย! 5 คนสุดท้าย หนูก็ตัดสินใจลองไปดู สรุปได้เฉยเลย (ทำหน้างงๆ) ตอนนั้นรู้แค่ว่าจะมีพระเอก 3 คน แต่ไม่รู้ว่ามีใครบ้าง" หยกเริ่มเล่าถึงจุดเริ่มต้น



สำหรับคาแร็กเตอร์ในหนัง (รับบทเป็น น้ำ) เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับคาแร็กเตอร์จริงไม่น้อย แต่ก่อนจะเล่าถึงจุดนั้น เธอพูดถึงตัวบทที่เล่นยากมากๆ "พอมาอ่านบทจริงๆ ต้องบอกว่า ยากมากเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะเล่นยาก มันเป็นอะไรที่เราไม่เคยผ่านมาก่อนทั้งดรามา คอมเมดี้ โรแมนติก คือทุกอย่างมันอยู่ในตัวผู้หญิงชื่อน้ำหมดเลย ยอมรับว่าต้องทำการบ้านอย่างหนัก โดยเฉพาะบทที่ต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมา อ่านอยู่หลายรอบเหมือนกันค่ะ"

พอโยงให้พูดถึงคาแรกเตอร์ในหนัง "น้ำ" คือไฮโซสาวมั่น เจ้าของนิตยสารเกี่ยวกับความรัก H2O ที่ไม่เคยเจอปัญหาเรื่องความรักเลย แถมได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญเรื่องความรัก เพราะเป็นคอลัมนิสต์ตอบปัญหาความรักในนิตยสารของตัวเองด้วย แต่คู่รักที่กำลังจะแต่งงานกลับทำให้เธอกลายเป็นคนอกหักเสียเอง คล้ายกันกับชีวิตนอกบทที่ค่อนข้างมีความเป็น "มนุษย์ผู้หญิง" สูง หากมีเรื่องไม่ได้ดั่งใจก็จะเกิดอาการฮึดฮัดขึ้นมาทันที

"สิ่งที่คล้ายกันคือความเป็นผู้หญิง ที่พอไม่ได้ดั่งใจก็จะเกิดอาการฮึดฮัดขึ้นมา อยากได้อะไรที่มันดีกว่านี้ คือจะยอมแพ้ไม่ได้ ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหาให้มันผ่านไปให้ได้ ออกแนวผู้หญิงขี้ประชดประชันนิดหน่อย เวลาแสดงต้องมีหลายอารมณ์ อย่างเวลาอยู่กับอีกคนหนึ่ง เราต้องกลายเป็นน้องสาวที่อ่อนหวาน หรือกับอีกคนหนึ่งเราก็ต้องวีนๆ เพราะว่าในเรื่องนี้มีการอกหักหลายแบบมาก ซึ่งบางทีสับสนมากว่ามันต้องอารมณ์ไหน ตอนเวิร์กช้อป เขาจะขุดอารมณ์เราลึกมาก ให้มันออกมาทีละนิดๆ จนมาได้ครบทั้งหมด" เธอเล่า



นอกจากเรื่องราวของคนอกหักอันเข้มข้นแล้ว ฉากหลังของภาพยนตร์ยังเต็มไปด้วยความโรแมนติก โดยมีไฮไลต์สำคัญที่ทีมงานยกกองไปถ่ายทำกันถึง เมืองลี่เจียง ประเทศจีน เช่นเดียวกับเบื้องหลังซีนโรแมนติกดรามา กว่าจะได้มาแต่ละซีนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

"ส่วนตัวมีปัญหาเรื่องการสวิตช์อารมณ์ค่ะ เช่น อยู่กับผู้ชายคนนี้แล้วจะต้องปรับอารมณ์เป็นแบบนี้ พอเข้าฉากกับอีกคนจะต้องเปลี่ยนเป็นแบบนั้น พี่ผู้กำกับอธิบายละเอียดมากๆ พูดจนเราเข้าใจ ยกตัวอย่างฉากที่จะต้องจินตนาการว่ากล้อง คือพี่อนันดา ซึ่งเราต้องมองด้วยความเคลิบเคลิ้ม แต่หนูทำไม่ได้จนหยุดถ่าย เพราะเล่นต่อไม่ได้แล้วจริงๆ พี่ผู้กำกับต้องใช้เพลงมาช่วยผ่อนคลาย ซึ่งมันได้ผล

ดังนั้น ฉากที่หนูต้องเศร้าเคล้าน้ำตา หนูจะมีเพลงประจำคอยสร้างอารมณ์ นั่นก็คือเพลง "แด่คนเคยรัก" เพลงเก่าที่นำมาร้องใหม่โดยพี่มาเรียม เปิดปุ๊บ น้ำตามาเลยค่ะ หลังๆ แค่ได้ยินอินโทรขึ้นมา น้ำตามันก็ไหลแล้วค่ะ (ยิ้ม) จนเพลงนี้ได้กลายมาเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ไปโดยปริยาย"

ใครๆ ก็เคยอกหัก

แน่นอนว่า "หยก" เองก็เคยเป็นคนอกหักมาก่อน การรับบทเป็นคนอกหักเธอจึงนำความรู้สึกจริงบางส่วนมาปรับใช้ในบทด้วย



"หยกว่าทุกคนที่เคยอกหักก็ต้องมีความคิดที่แบบว่าฉันจะต้องหาคนที่ดีกว่าให้ได้ ก็เคยมีมุมความคิดแบบนี้บ้างเหมือนกัน การอกหักจริงๆ ก็คือความเศร้ากับการเริ่มต้นใหม่ จบตรงนั้นเสร็จปุ๊บก็ไปเริ่มต้นใหม่ คือมันจะเป็นแบบนี้ทุกคน แต่ถ้าจะไปนิยามว่า อกหักแล้วจะเป็นอย่างไร จะมีผลอย่างไรต่อไป บอกไม่ได้อยู่แล้ว เพราะแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน แต่เราก็เคยเจอมาทั้งสองอย่างนะก็คือเศร้าเสร็จปุ๊บ เดี๋ยวก็ไปเจออะไรใหม่ๆ สุดท้ายแล้วคนเราก็จะไปเจอสิ่งที่ดีกว่า คือเหมือนบางคนอกหัก เศร้า จมปลักแต่รู้ไหมว่าในอนาคตข้างหน้า อาจมีอะไรที่ดีกว่ารออยู่ก็ได้"

เมื่อถามลึกลงไปถึงเรื่องราวการอกหักของสาวหยก เธอยอมเปิดเผยกับ M-Lite เป็นที่แรก "ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย ได้มีโอกาสเจอเพื่อนชายต่างโรงเรียนในงานวันคล้ายวันเกิดพี่ที่รู้จัก เขาเข้ามาขอเบอร์เราผ่านทางพี่เจ้าของวันเกิด จากนั้นเราก็ได้คุยกัน ตรงสเปกทุกอย่าง (หัวเราะ) สูง หล่อ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แถมยังเป็นผู้ชายรักสุขภาพ เล่นฟิตเนส สุดท้ายก็ต้องมีวันเลิกรากันไป" เธอเล่า และบอกสาเหตุของการเลิกราให้ฟังต่อไปว่า

"มันมีจุดพีกตรงที่เขาไม่อยากให้เราทำงานในวงการ เขามีทัศนคติที่ไม่ดีต่อวงการบันเทิง ส่วนตัวเขาเป็นคนขี้หวง ขนาดไปเดินโลตัสยังไม่อยากจะให้เราไป เพราะกลัวคนอื่นจะมองตอนนั้นก็ยื้อกันอยู่นานมาก สุดท้ายเราก็ต้องเลือก เพราะกำลังเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง และมีโอกาสหลายๆ อย่างเข้ามา กลายเป็นเรื่องเศร้าๆ ที่กว่าจะผ่านมาได้ก็ยากอยู่เหมือนกัน แต่พยายามไม่จมอยู่กับอดีต หาอะไรทำเยอะๆ แล้วพาตัวเองเดินหน้าต่อไป"



อย่างไรก็ดี เธอในฐานะตัวแทนของผู้หญิงที่เคยเสียน้ำตาให้ความรักมาก่อน สิ่งเดียวที่อยากจะฝากก็คือ "ใครๆ ก็เคยอกหัก หากเกิดอาการอกหัก ไม่มีใครช่วยให้ผ่านไปได้นอกจากตัวของเราเอง ร้องไห้ได้แต่อย่าร้องนาน ลุกขึ้นเดินหน้าต่อไป อย่าจมอยู่กับความเสียใจ หรืออาการอกหักนานเกินไป"

เรียนรู้ได้จากตัวละครของ "น้ำ" ที่ผู้กำกับพยายามบอกว่า "การเริ่มต้นใหม่ได้เร็ว มันก็มีประโยชน์มากกว่า" เพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องจมอยู่ตรงนั้นตลอดไป

"คือคนเราเวลาเลิกกัน จะชอบคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเลวไปมีคนอื่น แต่ลืมคิดอะไรไปหรือเปล่าว่าตัวเราก็ไม่ดีเหมือนกัน ทำไมเราไม่คิดว่าที่เขาเลิกกับเรา เพราะว่าเราไม่ดีจริงๆ ก็เหมือนตัวนางเอกที่ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง ผ่านการกระทำของตัวเองด้วย" เป็นข้อคิดๆ ดีที่หนุ่ย-ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์ฝากให้คิดในฐานะผู้กำกับ

ก่อนจะเชิญชวนให้มาเรียนรู้มุมมองความรักจากหนังเรื่องนี้ว่า ชีวิตคนเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ เพียงแค่เราปล่อยออกมา แล้วเดินหน้าต่อไป อย่างตัวละครทุกตัวในหนังเรื่องนี้ที่ยังอยู่กับสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าเกิดแค่คุณเปลี่ยนมุมมองหรือตัดสินใจที่จะปล่อยมันไป คุณก็สามารถไปต่อได้

Q&A กับ "กูรูหยก"

ได้เจอตัวทั้งที ทีมงานขอถือโอกาสให้นางเอกสาว สวมบทเป็น "กูรูความรัก" ผ่านการตอบ 4 คำถามด้านความสัมพันธ์ ดังนี้



คำถาม : แฟนมีกิ๊กจะทำอย่างไรดี

หยก : ถ้าจับได้ว่าแฟนมีกิ๊กก็ต้องให้เขาเลือกค่ะ แต่ถ้าเป็นหยก ผู้หญิงสายแข็ง ในเมื่อเราไม่ดีพอสำหรับคุณก็ไปเลย อาจจะขอดูหน้ากิ๊กของเขาด้วย (หัวเราะ) ถ้าอยากได้แบบนั้นก็ไปเลย ส่วนตัวถ้าจับได้ว่านอกใจ ครั้งแรกก็เกินพอแล้วค่ะ เพราะถ้ารักเราจริงก็ไม่ควรไปมีกิ๊กค่ะ หากกลับไปคบกันอีก ความระแวงมันจะก่อตัวขึ้นมา อยู่ที่ใครจะเลือกแบบไหน เลือกที่จะคบ หรือเลือกที่จะเลิกเพื่อตัดปัญหา

คำถาม : ถ้าชอบคนที่มีแฟนแล้วจะทำอย่างไร

หยก : จะดีเหรอค่ะ (หัวเราะ) ต้องถามก่อนว่าชอบในลักษณะไหน จริงจังหรือแค่แอบปลื้ม ถ้าจริงจังแล้วอีกฝ่ายเล่นด้วย เราเองที่จะบาปนะคะ กรรมมันตามไวนะคะ คิดดูให้ดีๆ

คำถาม : อยากจะลืมใครบางคน มีวิธีแนะนำไหม

หยก : หาใหม่ค่ะ (หัวเราะ) ลืมได้แน่นอน ถ้ายังไม่พร้อมจะมีใครใหม่ก็หาอะไรทำไป ซึ่งเอาเข้าจริง ถ้ารักมาก มันก็ลืมยากนะ วิธีที่จะคิดถึงให้น้อยลงก็คือ ค่อยๆ พาตัวเองเดินออกมา อย่าไปจมปลักกับเรื่องในอดีต ดูแลตัวเองให้ดี แล้วใช้ชีวิตให้มีความสุขเพื่อตัวเอง และคนรอบข้าง

คำถาม : ผู้หญิงจีบผู้ชายก่อน คิดว่าน่าเกลียดไหม

หยก : ถ้าด้วยความทันสมัยของยุค หยกว่าไม่แปลกค่ะ แต่ก็ต้องดูด้วยว่า ผู้หญิงเข้าไปจีบในลักษณะไหน เพราะผู้หญิงมีหลายแบบ เห็นผู้ชายหล่อรวยแล้วอยากกินจัง แบบนี้ก็ไม่ดีนะคะ ส่วนตัวเคยเจอแบบประมาณว่า จับผู้ชายหล่อรวยเพื่อให้ชีวิตตัวเองสบายสักเดือนหรือสองเดือนก็ยังดี แบบนี้หยกเองมองว่ามันไม่โอเคมากๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็คงต้องถามผู้ชายด้วยว่า เขาคิดอย่างไรหากมีผู้หญิงเข้ามาจีบก่อน

Simple Love รักสไตล์ "หยก"



เมื่อถามถึงมุมมองความรักของนางสาวเอกคนนี้ เธอบอกว่า "Simple Love" คือคำอธิบายที่ชัดเจนที่สุด

"ความรักของหยกมันเป็นอะไรที่ง่ายๆ ไม่ต้องอะไรเยอะ ไม่ต้องตั้งกฎเกณฑ์อะไรมากมาย หรือมีอะไรพิเศษๆ แค่ทำทุกๆ วันให้เป็นวันที่เรียบง่าย เพราะส่วนตัวไม่อยากให้ทั้งเรา และเขาคาดหวัง หรือผูกมัดกันเร็วเกินไป

ยกตัวอย่างแรกๆ เซอร์ไพรส์กันตลอด พอคบกันไปเรื่อยๆ หลังๆ เริ่มไม่มี ซึ่งหยกไม่อยากพูดประโยคที่ว่า เมื่อก่อนเป็นแบบนี้ทำไมเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป คือหยกจะไม่ชอบคำพวกนี้เลย เพราะมันจะไปทำร้ายความรู้สึกเขาด้วย ดังนั้น รักกันแบบเรียบง่าย ทำทุกวันให้เป็นวันพิเศษกันดีกว่า ถามว่าตอนนี้มีคนคุยหรือยัง มีแล้วค่ะ (ยิ้มเขินๆ)"



นอกจากนี้ คิดจะรักแล้วต้องมี "สติ" และ "สมาธิ" คอยกำกับ หากเกิดปัญหาต่างๆ ต้องทำใจให้นิ่ง อย่าแกว่งไปตามความรู้สึกชั่ววูบหรือเพลินไปกับอารมณ์ชั่วขณะ

"สติกับสมาธิ ไม่ว่าจะกับเรื่องไหน เราต้องมี ส่วนตัวชอบอ่านหนังสือธรรมะบ้าง เมื่อก่อนเป็นคนจิตตกง่ายมาก ใครว่าอะไรนิดนึงก็เสียความมั่นใจแล้ว บางทีเข้าไปอ่านคอมเมนต์ เฮ้ย! เราเป็นแบบที่เขาว่าจริงเหรอ สุดท้ายแล้วก็มาคิดได้ เราไม่สามารถให้ใครมารักเราได้ทุกคน จะไปบอกว่าพี่คะ หนูนิสัยแบบนี้นะ หนูดีอย่างนั้น หนูดีอย่างดีนะ บางคนก็ไม่เชื่อหรอก ทั้งหมดนี้มันอยู่ที่ตัวเราว่าจะพิสูจน์ให้เห็นได้ไหม"

สำหรับอนาคต เธอบอกไม่ได้ว่า ตัวเองจะเป็นดารานักแสดงไปถึงเมื่อไร มาถึงวันนี้ได้ก็เกินความคาดหมายแล้ว ปัจจุบันกำลังทำแบรนด์เครื่องสำอาง (ลิปสติก) ส่วนหลักคิดในการดำเนินชีวิต ยังคงยึดหลัก "ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ"

คนอกหักผ่านมุมมอง 3 พระเอกสุดฮอต

โทนี่ รากแก่น



ในบทของ "ด็อก" ถือได้ว่าเป็นตัวละครที่อกหักอย่างเห็นชัดที่สุด ซึ่งโทนี่เองก็ค่อนข้างอ่อนไหวในเรื่องการอกหักเช่นกัน เพราะเชื่อว่าความรักคือสิ่งที่ต้องเต็มที่กับมันที่สุด

"อกหักเป็นความรู้สึกที่ทรมานที่สุด อกหักเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว ช่วงวัยก็จะบอกถึงความรุนแรงในความรู้สึกอกหักด้วย คือตอนช่วงวัยรุ่นความรู้สึกนี้มันรุนแรงสำหรับผม แก้ไม่ได้ต้องใช้เวลาอย่างเดียวเลย ซึ่งอารมณ์อกหักมันเป็นไปตามความรู้สึก อย่างผมเรียกได้ว่าถ้าอกหักก็ยอมตายได้ แต่ตายแบบแอ็กอาร์ต คือมีความรู้สึกอยากเรียกร้องความสนใจ อยากให้คนได้รับรู้ คือเราก็เต็มที่กับทุกความรักที่เราเข้ามา เพราะไม่อยากจะเสียดายทีหลังว่า เฮ้ย ทำไมตอนนั้นเราไม่ทำเต็มที่ ถ้าเกิดเต็มที่แล้วยังอกหักอีก ก็ถือได้ว่าทำเต็มที่แล้ว"

นาวิน ต้าร์ - นาวิน เยาวพลกุล



ด้วยความที่เคยผ่านประสบการณ์ความรักมาแล้วมากมาย ทำให้นาวิน ต้าร์มองความรักและการอกหักอย่างที่เป็นจริงๆ

"การอกหักเหมือนเป็นแผลที่อยู่ข้างใน มองไปหาใครก็ช่วยเราไม่ได้ ต่อให้ใครจะดีแค่ไหน ก็ช่วยเราไม่ได้จริงๆ ซึ่งเวลาเท่านั้นจะเป็นตัวแก้ไขสิ่งเหล่านี้และช่วยรักษาตัวเราเองในที่สุด คือเราเสียใครไป เราก็เสียไปตลอดชีวิต พอวันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ยังไม่เปลี่ยนไป มันเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุด

เมื่อไรที่เรายอมรับความจริง เราก็จะรู้สึกว่าเราจะไปคิดอะไรกับมันทำไม บางทีดูเป็นเรื่องง่ายๆ ที่จะทำ แต่ทำได้ยากมากๆ คือจริงๆ ในโลกใบนี้คนเราไม่ได้พยายามหรือตั้งใจที่จะทำร้ายกันหรอกนะ แต่การที่เราเป็นตัวของเราเอง เป็นการทำตัวเองให้ถูกทำร้ายเอง เราถูกสร้างมาให้ประกอบไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ง่ายต่อการตกหลุมของเราเอง

อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม



แม้ในบทโอมจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะปิดเรื่องความรัก แต่สำหรับมุมมองส่วนตัวแล้ว อนันดาเองกลับมีมุมมองเรื่องการอกหักและความรักที่น่าคิดตามไม่น้อย

"ผมไม่ได้เป็นคนมีปัญหาเรื่องรักใคร และไม่ได้มีปัญหากับการอกหัก ผมเป็นคนแบบไม่ค่อยฟูมฟาย อกหักก็อกหัก รักก็คือรัก มันเป็นสิ่งธรรมชาติในชีวิตของคนเรา ไม่คิดว่าเราเป็นเจ้าของใครอยู่แล้ว วันหนึ่งเขาอยู่ในชีวิตเรา มีความสุข มีความรัก แต่เราก็ไม่ใช่เจ้าของเขาอยู่ดี เขาออกไปจากชีวิตเรา เขาก็เป็นเหมือนเดิมและเราก็เป็นเหมือนเดิม

ถามว่าเหงาไหม คิดถึงไหม ก็เป็นเหมือนทุกคนแหละ ผมก็ไม่เคยบอกตัวเองว่า ถ้าผมอกหัก จะต้องทำอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้ จะต้องแกร่ง คือแล้วแต่สถานการณ์ เหมือนในหนังเรื่องนี้คือมันเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจได้ และทุกคนมีอารมณ์ร่วมกันมันได้ครับ"

ASTVผู้จัดการ Lite

เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : วรวิทย์ พานิชนันท์

///////////////////////

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ : ณัฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์

ชื่อเล่น : หยก

เกิด : 9 เมษายน 2533 (อายุ25ปี)

การศึกษา : นิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

ของสะสม : คาแร็กเตอร์การ์ตูน “มาริโอ้” กว่าร้อยชิ้น

ผลงาน

- ถ่ายแบบ/ โฆษณา
- ภาพยนตร์เรื่อง ชิงหมาเถิด
- ภาพยนตร์เรื่อง Art Idol อยากให้เธอรู้ว่ากูติสท์
- ภาพยนตร์เรื่อง คน อก หัก (อนันดา-โทนี่-นาวินต้าร์) เข้าฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์



มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...

Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015

รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"



มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น