ยังจำสาวน้อยบ้านนาคนนี้กันได้ไหม? "แพรว-เฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชค" นางเอกเอ็มวี "ภูมิแพ้กรุงเทพ" ที่สร้างกระแสพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวางถึงความน่ารัก สดใส โดยเฉพาะรอยยิ้มพิฆาตใจหนุ่มๆ เห็นแล้วเคลิ้มจนอาจตกหลุมรักแบบไม่ทันได้ตั้งตัว วันนี้เธอกลับมาพร้อมผลงานละคร "เลือดตัดเลือด" รวมไปถึงนางเอกหนังรักโรแมนติก อารมณ์ดี๊ดี "มนต์เลิฟสิบหมื่น" ในบททองกวาวยุค 2015
แม้จะเคยเปิดใจผ่าน M-Lite ไปแล้วเมื่อปีก่อน แต่โลกของสาวน้อยคนนี้ ยังมีซอกซอยชีวิตที่ยังถูกปิดเอาไว้ และชวนให้เข้าไปค้นหาในบรรทัดต่อจากนี้
หายไปไหนมา
ไม่ถามไม่ได้ถึงช่วงที่ห่างหายไปจากวงการบันเทิง เพราะตั้งแต่โด่งดังจากเอ็มวี ภูมิแพ้กรุงเทพ ของป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ และตั๊กแตน ชลดา มาจนถึงนางเอกเอ็มวีวัยใสในเพลง "รอยยิ้ม" ของวง scrubb ชื่อของแพรวก็หายไปจนแฟนคลับถามถึง ถามหากันยกใหญ่ ถามว่าหายไป แพรว-เฌอมาวีร์ มีคำอธิบาย
"ไม่ได้หายไปไหน แพรวติดภารกิจเรื่องเรียน ซึ่งช่วงที่หายๆ ไป แพรวเรียนหนักมาก ตอนนั้นมีเรียน 3 วัน ถ่ายละคร 4 วัน แล้วก็มีภาพยนต์อีก และในแต่ละวัน แพรวมีอะไรให้ทำเยอะมาก เช่น ไปทำโปรเจกต์ส่งอาจารย์ที่ต่างจังหวัด เอารถไปล้าง ไปหาหมอสิว เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่แพรวจะต้องจัดการตารางชีวิตอย่างหนัก แต่ก็ไม่ได้ยากอะไรค่ะ รู้แค่ว่าตอนนี้เราทำอะไร พรุ่งนี้ทำอะไร จากนั้นก็จัดเตรียมไว้แต่เนิ่นๆ" เธอเริ่มเล่าถึงช่วงที่หายไป พร้อมยกมือขอโทษแฟนคลับ ก่อนให้คำมั่นสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่
"แพรวรู้ตัวว่าไม่ได้ทำงานในวงการอย่างสม่ำเสมอ เพราะมีภารกิจเรื่องเรียน และหลายๆ อย่าง แต่แพรวสัญญาว่าจะไม่หายไปไหน จะตั้งใจทำงาน ขอให้ทุกคนติดตามผลงานของแพรวตลอดไป แพรวสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ให้งานมันออกมาดีที่สุด และที่สำคัญ แพรวจะปรับปรุงตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เพราะแพรวก็ไม่ใช่คนเก่งที่สุด หรือคนสวยที่สุด แต่แพรวมีความพยายามอยู่เกินร้อยมากๆ อันนี้พูดเลย"
จากนั้นก็อัปเดตเรื่องการเรียนให้ฟังว่า "ตอนนี้เรียนจบแล้วค่ะ เย้ๆ (ทำท่าดีใจ) รับปริญญาปีหน้า ตอนนี้แพรวว่างแล้วนะคะ (ก้มลงพูดใส่เครื่องอัดเสียงด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูหวังจะบอกให้โลกรู้ว่าเธอว่าง และพร้อมกับทำงานอย่างเต็มที่) คือแพรวทำได้ทุกอย่าง เอ็มวีแพรวก็เล่นอยู่ พิธีกรแพรวก็เป็นได้นะคะ แพรวไม่เลือกงานเลยค่ะ และไม่ต้องกลัวว่าแพรวจะเรื่องมาก เช่น กลัวร้อน กลัวนอนดึก แพรวไม่เกี่ยง แพรวสามารถตากแดด ตากลม ตากฝนได้ค่ะ" พูดจบก็ออดอ้อนด้วยน้ำเสียงขอความอนุเคราะห์ "จ้างแพรวเถอะค่ะ แพรวว่างจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม)"
ทองกวาวยุค 2015
ปัจจุบันมีผลงานภาพยนตร์ 1 เรื่อง และงานละคร 1 เรื่อง สำหรับงานภาพยนตร์ เธอกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในบท "ทองกวาว" จากภาพยนตร์รักโรแมนติก อารมณ์ดี๊ดี "มนต์เลิฟสิบหมื่น" งานกำกับล่าสุดของ "ปริภัณฑ์ วัชรานนท์" (โต๊ะ พันธมิตร) ที่ให้กลิ่นอายของวิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ โดยบทดัดแปลงมาจากบทประพันธ์อมตะอย่าง "มนต์รักลูกทุ่ง" ที่เคยถูกทำมาเป็นทั้งละครทีวีและหนังจนได้รับความนิยมมาแล้วตั้งแต่รุ่นพ่อ
สำหรับเรื่องนี้ ได้มีการดัดแปลงให้ดูทันสมัยมากขึ้น เพื่อเพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวความรักของ "พี่คล้าว" รับบทโดย “นิว-ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต" และ "น้องทองกวาว" (แพรว-เฌอมาวีร์) ที่สลัดคราบทองกวาวยุคเก่ามาเป็นสาวงามบ้านนายุค 2015
นับเป็นการรีเมกที่แตกต่างจากต้นฉบับ และเวอร์ชั่นอื่นๆ ที่เคยมีมาให้เข้ายุคเข้าสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังคงเสน่ห์บรรยากาศบ้านทุ่งยุคพีเรียดอยู่ โดยจะผสมผสานทั้งเนื้อเรื่อง, การแสดง, มุกตลก, บทเพลงไพเราะ, งานภาพสวยงาม และงานสร้างทุกองค์ประกอบให้ออกมาอย่างกลมกลืน
"แพรวไม่คิดว่าจะได้กลับมาร่วมงานกับพี่นิว เพราะเราอยู่กันคนละค่าย พอได้มาเล่นด้วยกันอีก แพรวดีใจมากๆ ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แพรวชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก ทันทีที่มีการติดต่อให้แพรวเล่น แพรวรีบรับเล่นทันที อยากเล่นมากๆ (ลากเสียงยาว)" นางเอกของเรื่องเผยความรู้สึก
ด้านการแต่งตัวของตัวละครในหนัง โดยเฉพาะฝ่ายหญิง สิ่งที่เปลี่ยนไปจากทองกวาวยุคก่อนก็คือการแต่งกาย และการแต่งหน้าแบบเรียบง่าย ไม่จัดจ้าน
"พี่ผู้กำกับอยากให้แพรวเป็นแพรว เหมือนที่เล่นในเอ็มวีภูมิแพ้กรุงเทพ น่ารัก ใสๆ สไตล์สาวบ้านนาจริงๆ ส่วนสีสันจะไปอยู่กับไอ้แว่น รับบทโดยพี่แจ๊ส ชวนชื่น พี่เขาตลกมาก ฮาขนาดพี่นิวเกือบจะหลุดขำออกมาเวลาเข้าฉากกับพี่แจ๊ส" เล่าไป หัวเราะไป
นอกจากนี้ ยังมีบูม-ชญาภา พงศ์สุภาชาคริต" (ลูกสาวชูษี เชิญยิ้ม) ในบท "บุปผา" สาวขี้วีนคนรักของแว่น รวมไปถึง ปูไข่-พงศ์สิรี บรรลือวงศ์, สน-สนธยา ชิตมณี, ปั๋ง-ประกาศิต โบสุวรรณ, นักพากย์ลีลากวนโอ๊ยจอมปล่อยมุกเสี่ยว และนักแสดงอีกคับคั่งที่จะมาสร้างความหรรษาให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้
"จากละครที่เป็นตำนานรักของไอ้คล้าว และทองกวาวนำมารีเมกใหม่ ถามว่ากดดันไหม ไม่กดดันนะคะ แพรวตั้งใจกับเรื่องนี้มากๆ แพรวเชื่อว่าแพรวทำดีที่สุดแล้วค่ะ อยากให้ทุกคนได้ไปดู เพราะเวอร์ชั่นนี้ใส่ความฮาเข้าไปมากขึ้น โดยปรับให้เข้ากับนิสัยคนไทย"
ส่วนงานละคร เธอกลับมาพร้อมบทบาทที่ท้าทายขึ้นในละครแนวดราม่า-แอ็กชั่น "เลือดตัดเลือด" ของค่ายโพลีพลัส รับบทเป็น "ดุจดาว" ตำรวจหญิงคนเก่ง ประกบคู่กับ 2 พระเอกสุดฮอต เป้-อารักษ์ และกันต์ กันตถาวร เป็นเรื่องราวของชายสองสายเลือด ถือกำเนิดในฤกษ์ดาวโจร ชายหนึ่งเปลี่ยนแค้นด้วยความรัก อีกหนึ่งชายทำลายรักด้วยความแค้น โดยมีหญิงสาวผู้เป็นที่รักเป็นเดิมพันออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 และ ช่อง 7HD
"เรื่องนี้ค่อนข้างได้เป็นตัวเอก ส่วนตัวชอบบทบาทของดุจดาว (ตำรวจหญิง) มากๆ เพราะนิสัยเหมือนตัวจริงหนูมาก (ยิ้ม) เธอจะมีคาเรกเตอร์ที่โก๊ะ เฮฮา บ้าบอ อารมณ์ดี แต่มันมีเหตุการณ์บางอย่างในเรื่องที่ทำให้ดุจดาวต้องเปลี่ยนไป กลายเป็นดาร์กขึ้น เข้มขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ก็บู๊กระจายค่ะ และไม่คาดคิดว่าจะมีบทดรามา ร้องไห้ บีบน้ำตาด้วย ร้องไห้จนปวดหัวมาก (กุมขมับ) กลับบ้านไปกินยาแก้ปวดก็ไม่หาย เพราะซีนร้องไห้ แพรวเคยถ่ายหนักสุดตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่ม ร้องแบบไม่มีเทค ไม่มีหยุด ร้องได้เรื่อยๆ" เธอเล่าถึงฉากดรามาบีบน้ำตา
จากนั้น สีหน้า และแววตาเศร้าๆ เปลี่ยนมาเปล่งประกายอีกครั้ง เมื่อพูดถึงฉากบู๊ โดยเธอเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า "ยิ่งเล่น ยิ่งมัน"
"นิสัยแพรวเป็นคนลุยๆ อยู่แล้ว เราเลยชอบบทแบบนี้ พอยิ่งเล่น แพรวยิ่งมัน พอพี่ผู้กำกับเห็นว่าเล่นเราเล่นได้ก็จัดมาเลยค่ะ (หัวเราะ) ซึ่งจริงๆ แพรวไปเรียนมวยมาเพิ่มเติม เพราะต้องบู๊กับผู้ชายอีก 8 ชีวิต และเก่งกันมาก ดังนั้นเราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นภาระเขา พอมาเข้าฉากแล้วพี่ผู้กำกับเห็น และชื่นชมเรา ด้วยความเป็นคนบ้ายอ คราวนี้เลยโชว์ใหญ่เลย (หัวเราะ) จนพี่ผู้กำกับต้องเพิ่มบู๊ให้แพรวอีก งานนี้มันกันใหญ่ มันจนลืมเจ็บ ลืมช้ำกันไปเลย
พอเช้าวันรุ่งขึ้น พี่ผู้กำกับเขาก็ตกใจ แพรว! ตะโกนเรียกเรา แพรวไปโดนอะไรมา เขาก็ชี้มาที่แขนกับขา ซึ่งเราก็งงๆ มองลงไปดู โอ้! ม่วงเลย แต่ตอนนี้หายหมดแล้วค่ะ มีรอยผื่นบ้าง รอยเกี่ยวกับกิ่งไม้บ้าง ส่วนที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ เขารู้ว่าลูกสาวเขาเป็นคนยังไง (หัวเราะ)"
เขาว่า "แพรว" เป็นผู้ชาย
เห็นเป็นสาวหวาน อ่อนโยนแบบนี้ ใครจะไปรู้ว่า เธอมีความแมนอยู่เต็มร้อย ส่วนจะแมนแค่ไหน ไปฟังคำตอบของเธอกัน
"แพรวเป็นคนถ้าไม่ยิ้มจะกลายเป็นคนนิ่งทันที ไม่หยิ่งก็คือดูเรียบร้อย ดูหวานไปเลย ซึ่งแพรวไม่ได้ตั้งใจให้คนคิดแบบนั้นนะ แต่อยากจะบอกว่า ดุจดาวในเรื่องเลือดตัดเลือดคือตัวตน คือนิสัยของแพรวเลย มีทั้งแบบลุยๆ เข้มๆ อารมณ์ดี แถมบ้าๆ บอๆ ไม่คิดอะไรมาก
ถึงขนาด 3 หนุ่มในเรื่องอย่างพี่เป้-อารักษ์ พี่กันต์-กันตถาวร และพี่โก้-วศิน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แพรว เป็นผู้ชาย ถ้าเจอลองไปถามดูได้เลยค่ะ แต่แพรวได้ยินตอนนักข่าวสัมภาษณ์พี่โก้-วสินว่า เป็นไงเข้าฉากกุ๊กกิ๊กกับแพรว รู้สึกเขินไหม พี่โก้บอกว่า ไม่นะครับ ก็ผู้ชายอ่ะ ส่วนพี่กันต์ก็มักจะพูดว่า มาๆ มาอยู่กับพวกฉัน ไม่มีอะไรหรอก ผู้ชายหมดทุกคนเลย แบบว่า รวมแพรวกับพี่แพร-นิชาไปด้วย" เล่าไปยิ้มไป
Normal but natural
มาลงลึกถึงชีวิตส่วนตัวกันบ้าง เมื่อถามถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต "Normal but natural" คือคำตอบที่เธอบอกกับทีมงาน สำหรับความหมายของมัน เธอแปลให้เข้าใจง่ายๆ ว่า "แพรวก็เป็นผู้หญิงธรรมดา ใช้ชีวิตธรรมดา แต่ในความธรรมดา มันคือธรรมชาติของคนไม่ใช่เหรอ แพรวคิดแบบนี้ค่ะ (ยิ้ม)"
นอกจากนั้น เธอยังเป็นผู้หญิงที่มีทั้งความเป็นผู้หญิง และความง่ายๆ อะไรก็ได้ในแบบที่ผู้ชายเป็น แถมยังชอบทำตามใจตัวเองในบางอารมณ์
"แพรวไม่ใช่ผู้หญิงเพอร์เฟกต์ ใช้ชีวิตง่ายๆ ไม่มีอะไรมาก บางวันถ่ายละครเสร็จเที่ยงคืน ยังไม่อยากกลับบ้าน ขับรถไปปากคลองตลาดกับเพื่อนเลยจ้า (ลากเสียงยาว) ไปซื้อดอกไม้ไหว้พระที่บ้าน หรือบางวันถ่ายละครเสร็จตีสอง ขับรถไปวัดหัวลำโพงเพื่อไปทำบุญ น้องที่รู้จักก็โทรมาด้วยความเป็นห่วงว่ากลับถึงบ้านหรือยัง นางตกใจ ตีสองแล้วนะยังไม่กลับบ้านอีก
หรือเวลาจะไปไหน แพรวไม่ชอบแต่งตัวสวยไปเดินสยาม หรือไปชอปปิ้ง สไตล์การแต่งตัวหลักๆ ก็จะเป็นรองเท้าผ้าใบ ชุดง่ายๆ สบายๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า แพรวไม่ดูแลตัวเองนะ แต่แพรวเป็นคนชอบธรรมชาติ ชอบต้นไม้ ชอบสถานที่เงียบๆ แล้วมุดตัวเข้าไปอยู่ในโลกของเรา ดังนั้น วันว่างของแพรวคืออ่านหนังสือ เขียนอะไรเล่นๆ ลงสมุด บางครั้งสมุดสวยมาก รู้สึกไม่อยากทำร้ายสมุดเลย ฉันขอเก็บเธอไว้เฉยๆ ละกัน"
ผู้หญิงสาย "Zakka"
อีกหนึ่งเรื่องที่ใครหลายคนยังไม่รู้ก็คือ การเป็นผู้หญิงสาย "Zakka" ซึ่งฟังดูแล้วคงเกิดเครื่องหมายคำถามในใจ แต่หากลองดูความหมายแล้ว "ซักกะ (Zakka)" ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงของกระจุกกระจิกทั่วไป เน้นโทนสีอ่อน หรือสีหวานๆ เช่นสีขาว สีครีม สีฟ้า สีชมพู แต่บางคนก็นำวัสดุไม้มาตกแต่งในสไตล์นี้ โดยเน้นการโชว์สีเนื้อไม้แบบดั้งเดิม
"แพรวชอบสะสมของกระจุกกระจิกน่ารักๆ เช่นสมุดน่ารักๆ จานชามน่ารักๆ อย่างเวลาอยู่บ้าน และแม่ทำกับข้าว แม่ใส่จานธรรมดาให้ เราก็ไปเอาจานไม้สไตล์ Zakka ที่เขาฮิตๆ กันตอนนี้มาใช้ใส่ข้าวแทน หรือบางครั้งเป็นช้อนรูปการ์ตูน คือแพรวจะชอบกินของแพรวแบบนี้ แม่ก็ถามว่า กินช้อนธรรมดาไม่ได้เหรอแพรว เราก็บอกว่า แม่ มันเป็นอินดี้ มันเป็นอารมณ์ทุกอย่างทำตามฟิวลิ่ง" เธอเผย
ปัจจุบัน ร้าน "Zakka" ในเมืองไทย นิยมเปิดในรูปแบบของ Zakka & Café มีทั้งของกุ๊กกิ๊กและอาหารเครื่องดื่มควบคู่กันไป ไม่ได้ถูกจำกัดความตายตัวแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบอะไรก็นำเอาความชอบนั้นมาใช้กับร้านของตัวเอง แต่จุดร่วมที่เหมือนกันก็คือ "ความสุข" เช่นเดียวกับ "แพรว" ที่ชอบทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข
"ความสุขของแพรวคือ อ่านหนังสือ ดูหนัง แพรวชอบดูหนังรักที่ทำให้ร้องไห้ได้ (ทำท่าบีบน้ำตา) อินตาม หนังฝรั่งดีๆ ก็ชอบดู อย่าง 500 Days of Summer หรือ Begin Again แล้วก็ about time อะไรประมาณนี้ แล้วแต่ช่วงอารมณ์ค่ะ อย่างช่วงนี้อยากดูหนังรักก็จะดูหนังรัก วันนี้อยากดูหนังฝรั่งดีๆ ก็จะดู
อีกอย่างแพรวไม่ชอบทำอะไรตรงกลาง ถ้าเป็นหนัง X-Men มีมาหลายภาคละ แพรวจะไปหาภาคแรกมาดู หรือช่วงที่ Fast & Furious 7 เข้าโรง แพรวยังไม่ได้ดู Fast 6 ก็ไปตามหามาดู ดูไปดูมา ย้อนดูตั้งแต่ภาคแรกเลยละกัน (หัวเราะ) ส่วนเพื่อนเป็นคนคบไม่เยอะ แต่เน้นคุณภาพ" สาวน้อยเล่า
ไม่พึ่งมีดหมอ แต่พึ่งตนเอง
เห็นสวยวันสวยคืนแบบนี้ เธอยืนยันเสียงดังฟังชัดในประเด็นเดิมๆ เรื่องการทำศัลยกรรม ว่าไม่เคยผ่านมีดหมอ ไม่เคยฉีดผิวขาว ที่สวยใส ดูดีก็เพราะดูแลตัวเองจากภายใน
"แพรวไม่ได้ทำอะไรเลยพี่ (ลากเสียงยาว) จะมีก็แต่ดัดฟัน ดัดฟันอย่างเดียวค่ะ พอเริ่มทำงานในวงการบันเทิง ก็เริ่มที่จะมาดูแลตัวเองมากขึ้น จนคนรอบๆ ข้างที่รู้จัก ฝากเพื่อนมาถามว่า ไปทำอะไรมา ฉีดผิวมาเหรอ หรือทำไมตอนมัธยมไม่ขาวเท่านี้ แพรวก็บอกนะ ว่าทาครีม ทาครีม ขาวได้จากการดูแลผิว และทาครีมจริงๆ ค่ะ
นอกจากการดูแลผิวแล้ว แพรวยังให้ความสำคัญกับอาหารการกินด้วย แพรวกินอาหารคลีน 70 เปอร์เซ็นต์ของชีวิต ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์ก็มีกินอย่างอื่นบ้าง อย่างเวลาไปงานเลี้ยงปิดกล้องละคร แพรวก็กิน แต่ถ้าอยู่บ้านปุ๊บ แพรวจะกินข้าวกล้อง ส่วนผลไม้กินเป็นประจำ แอปเปิ้ลวันละ 2 ลูก หรือเวลาไปรับประทานอาหารนอกบ้าน แพรวจะเลือกร้านอาหารคลีนๆ ไม่ใช้น้ำมัน หรือพยายามเลี่ยงของผัด ของทอด" นางเอกสาวเผยเคล็ดลับความสวยใส
ไม่เพียงแต่อาหารการกินเท่านั้น เธอยังเผาผลาญเป็นประจำด้วยการออกกำลังกายบนลู่วิ่งที่บ้าน "แพรวมีเครื่องวิ่งอยู่ที่บ้านค่ะ เพราะแพรวไม่สามารถไปอยู่ฟิตเนสได้ เนื่องจากแพรวต้องตื่นตี 5 กลับถึงบ้านก็เที่ยงคืนแล้ว อย่างบางวันมีงาน 8 โมงเช้า แพรวก็ต้องลุกขึ้นมาออกกำลังกายก่อนสักครึ่งชั่วโมง มาเดินบนลู่วิ่งแบบมึนๆ ซึ่งแพรวให้ความสำคัญกับวินัยมาก"
ค้นหัวใจ "สาวแพรว"
ปิดท้ายกันที่เรื่องราวความรัก เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบให้ผู้ชายมาจีบก่อน ถ้ารู้ว่ามีคนเข้ามาจีบ เธอจะปฏิเสธทันที
"แพรวกลัวคนแปลกหน้า ถ้ามีผู้ชายเข้ามาจีบ แพรวจะกลัวมาก ประมาณว่า อย่านะ ฉันกลัวๆ (หัวเราะ) เพื่อนๆ มักจะบอกตลอดว่า แกๆ แกก็เปิดใจบ้างสิ ส่วนตัวชอบคนที่เคยเห็นเขามาก่อน รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร เพราะการที่แพรวจะคบกับใครสักคน แพรวก็ต้องการคนที่เขารับแพรวได้ทุกเรื่อง
มีหลายคนที่เห็นเราในจอและบอกว่า แพรวต้องเป็นคนเรียบร้อน อ่อนโยน ซึ่งเรื่องนั้นมันก็จริง แพรวมีมุมเรียบร้อย แพรวเป็นแม่บ้านแม่เรือน แพรวทำงานบ้านได้ แต่ลึกๆ แพรวก็มีด้านแมนๆ ไปไหนไปกัน ลุยๆ พอคบไปคบมาแล้วเห็นด้านนี้ของเรา บางคนก็บอกว่า แพรวกระเปิ๊บกระป๊าบ ไม่เห็นเหมือนในทีวีเลย"
เมื่อถามถึงชายในฝัน "แพรวชอบคนตลก ถ้าเล่นดนตรี เล่นกีฬา หรือมีกิจกรรมอะไรสักอย่าง ผู้ชายคนนั้นจะดูเท่ในสายตาแพรวขึ้นมาอีก 20 เปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ) สุดท้ายก็คือ ต้องเป็นได้ทั้งพี่ ทั้งเพื่อน อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ที่สำคัญ รับแพรวที่แพรวเป็นแบบนี้ได้ แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ"
ASTVผู้จัดการ Lite
เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร
/////////////////////////////
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-นามสกุล เฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชค
ชื่อเล่น แพรว
วัน/เดือน/ปีเกิด วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ 2535
การศึกษา
- โรงเรียนศึกษานารี
- ปัจจุบันจบการศึกษาคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เอกการตลาด
ผลงาน
- ละคร ชิงนาง รับบทเป็น หนูนา
- ภาพยนตร์แต๋วเตะตีนระเบิด
- ภาพยนตร์กองพัน ครึกครื้น ท.ทหาร คึกคัก
- ภาพยนตร์หลวงพี่เท่ง 3
- เอ็มวีเพลงผีเสื้อที่หายไป-วงเคลียร์
- เอ็มวีเพลงภูมิแพ้กรุงเทพ-ป้าง นครินทร์ Feat ตั๊กแตน ชลดา
- เอ็มวีเพลง ที่พักของหัวใจ - Pianismo feat. Bianchi Bicycle Club
- เอ็มวีเพลงรอยยิ้ม ของวง scrubb
ผลงานปัจจุบัน
- ละครเลือดตัดเลือด ทางช่อง 7
- ภาพยนตร์ "มนต์เลิฟสิบหมื่น" (เข้าฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์)
ความสามารถพิเศษ
- รำไทย แดนเซอร์ประกอบเพลง
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754