ปลาหมอตายเพราะปาก ดาราเกือบตายเพราะโพสต์! ทันทีที่ “เอมมี่ มรกต” โพสต์ภาพอวดบัตร 25 ใบ จากคอนเสิร์ต “Maroon 5” พร้อมแท็กชื่อเพื่อนดาราในอินสตาแกรม ดรามาก็มาเยือนทันที โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับวงร็อกอินเตอร์ที่ตั้งข้อสงสัยกันเอาไว้ว่าน่าจะเป็น “บัตรอภิสิทธิ์ชน” ได้จองก่อนแถมยังได้ที่นั่งติดกันเป็นเซต ทั้งๆ ที่คอเพลงทั่วๆ ไป ลงทุนตื่นตั้งแต่ไก่โห่เพื่อกดจองทางเน็ตและต่อคิวที่เคาน์เตอร์ด้วยตัวเอง แต่กลับได้เพียงคำว่า “sold out” กลับมา ไม่เหลือบัตรรอดถึงมือให้ได้มีสิทธิเข้าชมแม้สักใบเดียว
ยิ่ง “ซี-ศิวัฒน์” ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวยอมรับเรื่องซื้อบัตรผี ยิ่งตอกย้ำให้ได้รู้ชัดๆ ลงไปว่า ระบบเส้นสายและการคอร์รัปชันหยั่งรากลึกอยู่ในทุกอณูของสังคมไทย ไม่เว้นแม้แต่เรื่องบันเทิงอย่างระบบการจองบัตรคอนเสิร์ตซึ่งเต็มไปด้วยความมืดดำของคนที่เกี่ยวข้อง!
เข็ดแล้ว... “ตั๋วผี” ขอลา Maroon 5
(พระเอกหนุ่ม "ซี-ศิวัฒน์" แถลงข่าวขอโทษอย่างเป็นทางการ)
“ในส่วนของผมคือผมได้บัตรมาโดยที่ผมซื้อในราคาพิเศษ ผมเชื่อว่าวันนี้ทุกๆ คนคงจะเข้าใจว่าราคาพิเศษมันหมายความว่ายังไง” ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ นักแสดงหนุ่มสังกัดช่อง 7 สี ขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเพื่อไขข้อสงสัยในทุกประเด็น โดยเฉพาะประเด็นดรามาเรื่องวิธีการได้บัตรหายากเหล่านี้มาไว้ในกำมือ!
“ตั๋ว 25 ใบ 1 คนมีสิทธิ 6 ใบ มันใช้คนเพียงแค่ 5 คนเท่านั้นในการหา แต่ทุกคนคงจะสงสัยว่ายังไงก็ไม่มีทางได้ติด (ที่นั่ง) กัน ทีนี้วิธีการในการที่เขาจะหาตั๋วมาอยู่ใกล้ๆ กัน หรือติดกันไหมผมไม่ทราบ เพราะผมยังไม่เห็นบัตร แต่จะมีการล็อกหรือไม่ ผมเองก็ตอบไม่ได้เช่นเดียวกัน
แต่อย่างที่คุณเอมี่ (กลิ่นประทุม) ได้พูดไปในไอจี ทุกๆ คอนเสิร์ตที่เคยมีมาในเมืองไทย มันก็เป็นสิทธิร้อยเปอร์เซ็นต์ของสังกัด ว่าเขาจะมีวิธีทำการตลาดหรือทำกำไรอย่างไร อันนี้เป็นสิทธิของเขา เขาจะมีตั๋วพีอาร์ ตั๋วล็อกไว้ให้กับสปอนเซอร์ หรือเขาจะไปแจกใครนั้น ในมุมของผมก็เป็นสิทธิของทางต้นสังกัด แต่จะถูกใจใครหรือเปล่าอันนี้ก็ต้องไปว่ากันอีกเรื่อง เพราะต้องแยกประเด็น ทีนี้อย่างที่ผมบอกว่าตั๋วที่ผมได้มาไม่แฟร์แน่นอน เพราะว่าผมไม่ได้เป็นคนไปคลิกเองแน่นอน
(ตั๋วผี มีขายให้ว่อนเน็ต)
แต่ในส่วนของคุณเอมมี่ มรกต จะมีทีมงานช่วยคลิก หรือใครจะคลิกเองหรือไม่ อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ เพราะว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์มา มันเลยความรู้สึกที่จะต้องไปนั่งคุยเรื่องวิธีการแล้ว เพราะว่ามันช้ำกันทุกคน... ถามว่าติดต่อกับผู้จัดงานเองเลยไหม อันนี้ผมไม่ขอพาดพิงถึงใครแล้วกันนะครับ แต่เมื่อเราหาบัตรไม่ได้ เราก็ต้องเข้าไปในอินเทอร์เน็ต คือทำยังไงก็ได้ ผมน้อมรับแต่เพียงผู้เดียวนะครับ อาจจะเป็นคนรู้จัก ด้วยความที่เราเป็นดารานักแสดงโทร.หาว่ามีใครสามารถหาได้ไหม แล้วก็หายไป สุดท้ายก็หาได้จริงๆ ผมยอมจ่ายครับเพียงแค่นั้น
(โพสต์ต้นกำเนิดดรามา จาก IG ของ "เอมมี่ มรกต")
ผมแค่มองง่ายๆ ว่าผมอยากได้ ผมก็ลงทุนซื้อ โดยที่ไม่ได้คิดถึงเลยว่าแฟนคลับ Maroon 5 อีกเป็นหมื่นๆ ชีวิตนั้นเขาตั้งใจ ตั้งตาคอย และโอกาสที่เขาจะมาในเมืองไทยมันไม่ใช่ง่ายๆ เลย มันก็ไม่แฟร์กับเขา พอผมได้มีเวลาตั้งสติ ถ้าผมตั้งหน้าตั้งตารอด้วยความหวังที่เราจะได้ไปดูเขาสักครั้งหนึ่งในชีวิต และเราได้กลับมาที่เหมือนเป็นการโกงหัวใจเขาแค่นั้นเอง ผมก็ไม่ทราบว่าท่านอื่นจะเป็นยังไงนะครับ ตั๋วในส่วนของผมคือ 5 ใบ ที่แน่ๆ คือ 2 ใบ ผมกับคุณเอมี่ไม่ไปแน่นอนครับ
ถามว่าในอนาคตกับคอนเสิร์ตครั้งหน้าผมจะยังกลัวไหม กลัวมากจริงๆ มันก็ต้องเป็นบทเรียนที่สำคัญว่า ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็หาดูในยูทิวบ์ก็ได้ หรือไปตามดูที่ต่างประเทศก็ได้ ไม่กล้าใช้วิธีการเดิมซื้อบัตรแล้วครับ ผมยอมรับผิดที่ผมใช้ชีวิตแบบนี้ซะจนชินในความอยากได้อยากมี ทำในสิ่งที่ผิดซะจนมีความเชื่อว่ามันถูก เมื่อก่อนอยากได้ไอโฟนที่มันยังไม่เข้ามาในประเทศไทย มีคนหิ้วเข้ามาขายในราคาที่แพงกว่า ผมอยากได้ผมก็ซื้อ เฟอร์บี้ผมอยากได้ผมก็ซื้อ
ครั้งนี้ผมก็คิดอย่างนั้นเช่นเดียวกันโดยที่ไม่ได้คิดหรอกครับว่าผมได้ไปเบียดเบียนใคร ต่อให้มันมีการล็อกบัตรจริงๆ เกิดขึ้น ผมไม่ได้เป็นคนล็อก ผมแค่เป็นคนหนึ่งที่อยากดูคอนเสิร์ตและผมก็ซื้อบัตรไป เชื่ออย่างนั้นมาตลอด แต่จริงๆ แล้วหลังจากที่ผมได้อ่านคอมเมนต์หลายๆ คอมเมนต์ ก็ขอขอบคุณมากนะครับมีหลายๆ คอมเมนต์ที่ไม่ได้ใช้คำหยาบคายและเตือนสติผม อยากให้ผมปรับปรุงทัศนคติตัวเองว่าถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นคนล็อกบัตรหรือว่าล็อกบัตรก็ตาม แต่ผมเป็นคนซื้อ มันก็อยู่ในวงจรนี้อยู่ดี... ผมยินดีน้อมรับและพร้อมที่จะปรับปรุงตัว ถ้าทุกท่านให้โอกาส”
แบงก์พันคนธรรมดา มีค่าน้อยกว่าแบงก์พันคนดัง!?
(ชะตากรรมของคนที่ไม่ได้ "เล่นเส้น")
“ถ้าคุณทำตั๋วยืนนะ รับรอง! เซเลบ-ซุป'ตาร์ มันยืนรอกันไม่ไหวหรอกค่ะ เคยดูคอนเสิร์ตร๊อก ตั๋วยืนไม่มีปัญหาแน่นอน บัตร ก็มีชัวร์ๆ นั่งรอก่อนประตูเปิด 3 ชั่วโมง พอเข้าไปข้างในฮอลล์ ยืนรออีก 2 ชั่วโมง กว่าคอนฯ จะเริ่ม รับรองพวกดารา คุณไม่มีความอดทน เท่าแฟนคลับจริงๆ แน่นอน พูดเลย เฮ่อ... เบื่อจริงระบบนี้ คอร์รัปชัน เซ็ง”
“เรื่องบัตรจอง บัตรเส้นสาย ผมว่าคนไทยทุกคน (รวมถึงชาติอื่นด้วย) รู้กันหมดแหละครับ เอาแค่ขนาดซื้อข้าวแกงหน้าปากซอย ช่วงเที่ยงๆ คนเยอะ ถ้าสนิทกับแม่ครัว เราเดินไปบอกแม่ครัวว่า "หิวมากๆ ต้องรีบกิน รีบไปทำงานต่อ" เขาก็อาจตักให้เราซึ่งมาทีหลังก่อน มันเป็นธรรมชาติของสังคมมนุษย์ครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่ เมื่อไหร่ผมได้กับข้าวก่อนคนอื่น แล้วถ่ายรูปลง IG ว่า เย้! กูแซงคิวคนอื่นได้เว้ย! อันนั้นแหละคือปัญหาครับ”
“โกงกันจนเป็นเรื่องปกติ แล้วก็บอกว่าเป็นโลกแห่งความจริงทุกครั้งไป ถ้ามีจิตสำนึกกันสักนิด แค่คิด ชีวิตก็เปลื่ยนแล้วฮะ”
“คนธรรมดาก็ไม่มีสิทธิอะไรทั้งนั้น เก็บเงินมาซื้อตั๋วเพราะอยากดู ใจรัก แต่ก็สู้คนพิเศษๆ เยี่ยงพวกคุณๆ เขาไม่ได้หรอก”
“น่าจะเปิดแยกเป็นโซนสำหรับดารา-เซเลบไปเลย จะได้ไม่ต้องให้แฟนคลับอย่างเรามาลุ้นแบบลมๆ แล้งๆ เป็นเซเลบไม่ได้แปลว่าจะได้นั่งแถวหน้าสบตากับศิลปินเสมอนะ แฟนคลับก็มีสิทธิเท่าๆ กันและควรได้ใกล้ชิดไอดอลของตัวเองด้วย #ติ่งหนักมาก”
(แฟนคลับ Maroon5 ชาวไทย ถึงกับทวีตหาศิลปิน ประจานระบบคอนเสิร์ตไทยวันนี้!)
“เอางี้ เพื่อความยุติธรรม จัด 2 รอบ ให้สปอนเซอร์, ดารา, เซเลบรอบหนึ่ง แล้วให้แฟนคลับกลุ่มคนส่วนใหญ่ได้ดูรอบหนึ่ง เอามะ #นี่ประชดนะเฮ่ย”
“บางทีก็สงสัยนะ ทำไมไม่เปิดรอบสำหรับดารา เซเลบ คนดัง คนไฮโซทั้งหลายทั้งแหล่แยกไปเลยอ่ะค่ะ ส่วนอย่างเราคนธรรมดา ก็อีกรอบหนึ่งไปเลย”
“แบงค์พันกู มีค่าน้อยกว่าแบงค์พันพวกมันสินะ...”
ทั้งหมดนี้ คือคำตัดพ้อต่อว่าที่ปรากฏอยู่ในแฟนเพจ “Maroon 5 Thailand” หลังจากได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของการจองบัตรคอนเสิร์ต “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น พรีเซ้นท์ส มารูน ไฟฟ์ เวิลด์ ทัวร์ 2015 ไลฟ์ อิน แบงค็อก” แล้วพบว่ามีเรื่องเส้นสายเข้ามาเกี่ยวข้องจนทำให้คนธรรมดาไม่มีสิทธิได้ก้าวเท้าเข้าไปดูศิลปินระดับโลกที่ตนชื่นชอบ
แม้แต่คนธรรมดาที่อยากได้บัตรมาครอง ยังต้องยอมใช้ระบบเส้นสายเล็กๆ น้อยๆ กับ รปภ.ของห้างฯ ดังห้างฯ หนึ่ง เพื่อให้ได้เข้าไปในพื้นที่ต่อคิวก่อนห้างเปิด ให้ได้เป็นคิวแรกของการซื้อตั๋วคอนเสิร์ต กระทั่งได้บัตรมาอยู่ในกำมือท้ายที่สุด และบรรทัดต่อจากนี้คือคำบอกเล่าจากมุมมองของแฟนเพลง Maroon 5 ที่ได้บัตรมาจากความพยายามของน้องที่รู้จัก
“การที่คนปกติ ไม่ว่าจะต่อคิวเป็นคนแรกหรือเช้าแค่ไหน มันก็ยากมากที่จะได้ที่นั่งดีๆ อย่างที่ตั้งใจ เพราะบัตรถูกขายก่อนจะเปิดขายจริง อย่างน้อยๆ พนักงานภายในก็มีสิทธิซื้อก่อน จองก่อนได้ อย่างช่วงก่อนจะเปิดขายบัตร Maroon 5 รอบ 2 นี่ ก็มีเพื่อนที่รู้จักกับคนในบริษัท บอกว่ารู้ล่วงหน้าเป็นเดือนแล้วว่ามันจะมีอีกรอบ และตอนนั้น พวกคนภายในก็จองกันไปหมดแล้ว ล็อกที่ไว้เรียบร้อย พอเปิดขายที่นั่งเหล่านี้ก็ไม่ว่างแล้ว
ต้องทำใจว่าประเทศเราเป็นแบบนี้ มันมีระบบแบบนี้อยู่ และเป็นความจริงอันน่าเศร้าว่า ไม่ว่าคุณในฐานะแฟนคลับตัวจริงที่ติดตามวงมาตลอดและอยากดูที่นั่งดีๆ ยอมทุ่มเททำทุกวิถีทาง ตื่นเช้า อดทนยอมต่อคิวข้ามคืน สารพัด แต่การได้ที่นั่งดีๆ ในโซนที่ต้องการก็ยังมีโอกาสน้อยมาก เพราะที่นั่งถูกล็อกไว้ก่อนแล้ว ถูกเปิดขายก่อนแล้วให้บุคคลผู้มีอภิสิทธิ์ แค่ตั๋วสปอนเซอร์ก็เยอะแล้ว ยังจะมีเปิดขายตั๋วให้ดารานักแสดงกันก่อนอีก ที่แย่คือบัตรเหล่านี้หลุดมาเป็นบัตรผีในราคาขูดเลือดขูดเนื้อด้วย ตรงนี้แหละคือประเด็น ดูอย่างที่ดาราออกมาพูดๆ ก็เห็นทัศนคติแล้วว่า เขามองเรื่องตั๋วผีเป็นเรื่องธรรมดา อยากได้ มีเงิน ก็ซื้อสิ”
(คอเพลงเห็นพ้อง ร่วมสาปแช่งระบบจองบัตรจอมโกงให้ว่อนเน็ต)
แบ่งโซนให้ชัดเจน! ตั๋ว VIP หรือตั๋วซื้อขาย
(เปิดให้จอง 10.00 น. หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที คนธรรมดาฝันสลาย)
“เรื่องการจองโดยใช้เส้นสายจริงๆ แล้วมันอยู่กับเรามาตั้งนานแล้วแหละ ทั้งให้สปอนเซอร์ ให้คนดัง มันมีมาตลอด แต่ครั้งนี้บัตรมันดันหมดเร็วมาก คนก็เลยตั้งคำถามว่าทำไมถึงหมดเร็ว ต้องมีการซิกแซ็กอะไรกันแน่ๆ ก็เลยขุดคุ้ยกันใหญ่เลย” ปิโยรส หลักคำ คอลัมนิสต์ดนตรีและบรรณาธิการพ็อกเกตบุ๊ก “Music X” ผู้คร่ำหวอดในวงการและระบบคอนเสิร์ตแบบนี้มาหลายปีเปิดใจให้ข้อมูลกับทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ซึ่งถ้าเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในระดับสากลแล้ว เรื่องบัตรสปอนเซอร์นั้นถือเป็นเรื่องปกติ
“ของต่างประเทศก็มีเหมือนกันนะครับ ก็จะมีกันที่ไว้ให้ผู้สนับสนุนหลักกับค่ายเพลงของศิลปินรายนั้น แต่ส่วนใหญ่เขาจะแบ่งเป็นโซนๆ ไว้เลยครับ เท่าที่ทราบคือแบ่งเป็นบล็อก VIP ไว้เลย จะไม่เอามาปนกับที่นั่งที่ขาย คือเวลาเปิดขายให้เห็นในผังที่นั่ง จะไม่ปรากฏที่นั่งนั้นให้จองเลย จะไม่ใช่แบบว่าเปิดขึ้นมาแล้วเจอว่าที่นั่ง 4 แถวแรกเต็มแล้วเพราะถูกกันเอาไว้หมดก่อนแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ค่อยโอเคเท่านั้น เมืองนอกจะไม่ค่อยมีแบบนี้ เพราะถ้าเขาจะกันที่ เขาจะไม่โชว์ในผังเลยครับ จะตัดโซนที่นั่งนั้นไปเลย ไม่เอามาไว้ในผังขายอยู่แล้ว จะไม่มีว่าขึ้นว่าขาย แต่เปิดผังขึ้นมาแล้วเห็น sold out ตั้งแต่ยังไม่เปิดขาย
ผมเข้าใจในความลำบากใจของฝั่งผู้จัดด้วยนะครับ เพราะลักษณะของคนไทยจะมีเส้นสายกันอยู่แล้ว ถ้าไม่ช่วยหาบัตรให้ คราวหน้าจะไม่หาบัตรให้ หรือถ้าเป็นคนดังก็จะไม่ช่วยโปรโมตให้ มันเป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ทำต่อๆ กันมา ทางผู้จัดเอง ผมว่าเขาก็ไม่อยากจะให้มีลักษณะการเล่นเส้นแบบนี้ออกมาหรอกครับ แต่ด้วยวัฒนธรรมแบบนี้ของคนไทยมันเป็นแบบนี้ มันก็เลยจัดการยาก
ถ้าวัดจากการจองบัตร Maroon 5 ครั้งแรก กับครั้งนี้ (ครั้งที่ 2) ผมว่าครั้งนี้เส้นเด้งง่ายกว่าครั้งแรกด้วยซ้ำ เท่าที่รู้มาจากคนรู้จัก มีคนเขาพยายามจะใช้เส้นสาย แต่ผลออกมาว่าเส้นไม่ได้เลย ก็แสดงว่าเขาคุมกันเข้มมาก เท่าที่ทราบคือเขาแจ้งกันมาว่า ทางฝั่งเมืองนอกก็เข้ามาจับตามองด้วย เพราะ BEC Tero (ผู้รับผิดชอบในประเทศไทย) ทำร่วมกับ Live Nation (ผู้จัดจากฝั่งสากล) ในการจัดงาน ก็เลยต้องระวังเรื่องภาพลักษณ์ เพราะมันกระเทือนไปถึงเมืองนอกด้วย ทำให้ผู้จัดต้องเข้ามาควบคุมเรื่องเส้นกันแบบเข้มงวดสุดๆ ตอนแรกก็เลยคิดว่าครั้งนี้อาจจะไม่มีระบบเส้นสายอะไรกันแล้ว แต่พอข่าวออกมาก็เลยรู้ว่ายังมีอยู่ แสดงว่าคงเป็นกลุ่มคนที่อภิสิทธิ์จริงๆ ถึงจะได้บัตรไป”
บอกเลยว่าภาพที่ออกมาส่งผลลบต่อทั้งตัวดารา ผู้จัดคอนเสิร์ต รวมไปจนถึงบริษัทจัดจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ต ซึ่งเรื่องนี้ บรรณาธิการพ็อกเกตบุ๊ก “Music X” เข้าใจดีว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และทางแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือการออกมาชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดให้สังคมได้รับรู้
(หน้าเว็บปิดให้จองช่วงหนึ่ง สร้างความสงสัยให้แก่แฟนเพลง)
“อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนออกมา คือเรื่องหน้าเว็บการจองบัตรที่ขึ้นว่า ปิดการจองออนไลน์ชั่วคราว อันนี้อาจจะต้องมีการออกมาอธิบายว่าทำไมเป็นอย่างนั้น อย่างที่รู้กันว่าจองทางออนไลน์มันเร็วกว่ามาต่อคิวซื้อบัตรที่สาขาอยู่แล้ว นอกจากจะได้คิวแรกๆ จริงๆ เพราะต่อแถวกัน 300 คน เปิดจองตั้งแต่ 10.00 น. จองได้ทีละคน กว่าจะไปถึงคิวที่ 300 มันอาจจะ 10.30 น. ไปแล้วก็ได้ แต่จองออนไลน์ ต่างคนก็ต่างคลิก ก็น่าจะจองได้เร็วกว่า
ส่วนที่คนพูดๆ กันว่าน่าจะให้ใช้บัตรประชาชนซื้อ อนุญาตให้บัตรประชาชน 1 ใบ ซื้อได้แค่ตั๋ว 1 ใบ ผมว่าวิธีนั้นคงช่วยไม่ได้หรอกครับ เพราะถ้าคนเขาอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้บัตรมา ยังไงเขาก็จะทำให้ได้ด้วยวิธีไหนก็ตาม เพราะถ้าคนวงในเขากันที่เอาไว้ก่อนว่าให้สปอนเซอร์กับคนดังกี่ใบ เราก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี สมมติว่าได้บัตรไป 25 ใบ มันคือคนดู 25 คน ใครจะไปดูบ้างก็เอาบัตรประชาชนของคน 25 คนนั้นไปยื่นทีหลัง มันก็จบ จองล่วงหน้าได้เหมือนกัน ทุกอย่างถ้าจะทำให้มันซิกแซ็กได้ มันก็ทำได้หมด ใช้บัตรประชาชนซื้อไม่ใช่เรื่องแก้ ยิ่งจะทำให้ขั้นตอนในการซื้อแต่ละครั้งมันลำบากมากขึ้นสำหรับคนทั่วๆ ไปเข้าไปอีก
ถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องการล็อกที่ ผมมองว่าน่าจะกันโซนบัตรสปอนเซอร์หรือที่ VIP ไปเลยครับ อย่างที่อิมแพกอารีน่า มันจะมีห้องชั้น 2 ที่แบ่งบล็อกเอาไว้ อาจจะแบ่งพื้นที่ตรงนั้นให้กลุ่ม VIP, ผู้สนับสนุนคอนเสิร์ต แล้วก็ดาราไปเลย แต่อย่าไปเปิดขายก่อนให้ดาราโดยเฉพาะ หรือให้ผู้สนับสนุนเอาไปกี่แถวๆ ก่อนเลยดีกว่า แบ่งให้ขาดจากบัตรขายไปเลย
(ตั๋วที่หายไปอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบรรดาขาซื้อจอมโกง ที่เอาไปปล่อยราคา "ตั๋วผี" แพงจนไม่น่าให้อภัย)
ถ้าให้วิเคราะห์เรื่องระบบการขายบัตรในบ้านเรา อันนี้ผมพูดแบบไม่ลำเอียงเลย ผมว่า ThaiticketMajor ถือเป็นที่ที่ดูแลเรื่องการจัดจำหน่ายที่โอเคที่สุดแล้ว ระดับท็อปๆ ของเมืองไทย เพราะฉะนั้น ผมมองว่ามันไม่ได้อยู่ที่ตัวระบบที่ไม่ดี แต่น่าจะอยู่ที่ตัวนโยบายและการจัดการมากกว่า ระบบที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ก็คือการจำกัดการซื้อไม่เกินคนละกี่ใบๆ ก็พอจะช่วยตรวจสอบได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนเรื่องบัตรผี ที่ต่างประเทศก็มีเหมือนกันครับเป็นปกติ เพราะการซื้อขายตั๋วมันไม่ใช่สินค้าควบคุม ไม่ได้ผิดกฎหมาย ตราบใดที่เป็นความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย สมมติราคาบัตรมัน 5,000 แต่คนมาขายต่อขายในราคา 10,000 บาท แล้วฝั่งคนซื้อยอมจ่าย มันก็จบ
มองทางฝั่งผู้จัด ผมก็ว่าเขาได้ทำในส่วนที่ตัวเองทำได้แล้ว แต่ถ้าจะให้รัดกุมมากขึ้น ก็อาจจะออกมาอธิบายว่าทำไมตอนนั้นถึงปิดขายบัตรทางระบบออนไลน์ชั่วคราว ต้องออกมาแจ้งให้ชัดเจนทั้งครั้งนี้และการจองในครั้งหน้า แต่ถ้าจะไปกำหนดให้เขาห้ามมีบัตรสปอนเซอร์ มันทำไม่ได้แน่นอน เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่คอนเสิร์ตต้องให้บัตรสปอนเซอร์ เพราะสปอนเซอร์เขาลงทุน เขาก็ต้องได้อะไรบ้าง แต่จะทำยังไงให้คนดูรู้สึกว่าเขาไม่โดนแย่งหรือถูกเอาเปรียบ”
(โอกาสที่ 2 ของการจองตั๋ว จบลงตรงที่แฟนเพลงคนธรรมดา มีโอกาสได้บัตรมาครองน้อยเหลือเกิน)
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- ฟังเต็มๆ คลิป “ซี ศิวัฒน์” แถลงกรณีดรามาตั๋ว “Maroon 5” ลั่นไม่ดูแล้วเหตุกลัวโดนเท้า!
- “เอมี่” ดับดราม่า #เอมมี่ยี่สิบห้าตั๋ว ขอโทษแทนเพื่อน อ้างคิดน้อย
- จวกเละ “เอมมี่” ผิดคิวโพสต์อวดบัตร “มารูน ไฟฟ์” ที่นั่งติด 25 ใบรวด!
- เลิกดรามา! "Maroon5"ประกาศเพิ่มรอบขายบัตร 5 ก.ค.นี้
- ดรามาบังเกิดคอนเสิร์ตMaroon5บัตรขายเกลี้ยงแฟนโวยอดดูตั๋วผีโก่งราคาเพียบ