xs
xsm
sm
md
lg

[ชมคลิป] หัวหยิก ฟันเหยิน กระโดกกระเดก 'เดียร์ ดาริน' แก้วหน้าม้า 2558

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


'แก้วหน้าม้า' ละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องแรกที่ฮิตที่สุดในโซเชียลมีเดีย ร้อนแรงติดอันดับไทยเทรนด์ในสังคมทวิตเตอร์ ขณะที่นางเอกสาวหน้าตาอัปลักษณ์อุปนิสัยกระโดกกระเดกถูกสืบค้นอย่างล้มหลาม เปลือกนอกของแก้วหน้าม้า
อาจไม่น่าอภิรมย์เท่าใดนัก แต่เมื่อมันถูกกระเทาะออกมา เธอกลับกลายเป็นสาวงามที่ต้องตาต้องใจใครต่อใครต่อ 'เดียร์ - ดาริน ดารากานต์' นางฟ้าจำแลงผู้มารับบทนางเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ฮิตที่สุดในตอนนี้ (ละคร แก้วหน้าม้า ออกอากาศ ช่อง 7 เวลา 8.00 น. - 9.00 น.)

ความร้อนแรงของนางเอกสาวแห่งแก้วหน้าม้าขับเคี่ยวกับสภาพอากาศอันร้อนระอุของเมืองไทย ทีมข่าว M-Lite ไม่รอช้ารีบติดต่อไปยังต้นสังกัดของเธอ เชิญมาร่วมพูดคุยกะเทาะเปลือกตัวตนให้ได้ทราบกันเลยว่า แก้วหน้าม้า ในปี 2558 ของ บริษัท สามเศียร จำกัด นั่นจะเป็นอย่างไร เธอผู้นี้จะทำให้ผู้ชมรัก 'ยัยม้าดีดกะโหลก' ก่อนแปลงโฉมจนสวยเล่อค่า เปล่งรัศมีแบบนางเอกรุ่นพี่ที่สวมบทบาท แก้วหน้าม้า หรือ แก้วมณี ได้หรือเปล่า?

ไทยเทรนด์ #แก้วหน้าม้า
แก้วหน้าม้า ถือเป็นวรรณคดีไทยอมตะอีกเรื่องหนึ่ง ประพันธ์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 และถูกนำเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี 2530 และต่อมาทางช่อง 7 นำบทประพันธ์มาสร้างละครพื้นบ้านเมื่อปี 2554 โดยนักแสดงสาวสวย ออย - สิริมา อภิรัตนพันธุ์ รับบท แก้วหน้าม้า ซึ่งได้รับความนิยมอย่าง แน่นอนว่า แก้วหน้าม้า ฉบับรีเมค ปี 2558 เป็นแรงกดดันสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ เดียร์ - ดาริน ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะว่านางเอกรุ่นพี่แสดงได้ดีเยี่ยม

หลังออกกาศได้เพียงไม่กี่ตอน ปรากฏว่าแก้วหน้าม้าแบบฉบับของ เดียร์ กระแสตอบรับดีเกินคาด สร้างปรากฏการณ์ในโซเชียลมีเดีย เป็นละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องแรกที่ฮิตติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ โดยเฉพาะในช่วงเช้าของ วันเสาร์ - อาทิตย์ ผู้ชมจำนวนมากตื่นแต่เช้าเพื่อรอชมละครเรื่องดังกล่าว พร้อมติดแฮชแท็ก #แก้วหน้าม้า พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

เดียร์ ยอมรับว่ารู้สึกปลื้มกับกระแสตอบรับที่แรงเกินคาด เสียงตอบรับของท่านผู้ชมถือเป็นของขวัญของนักแสดงและทีมงานฯ

“ความรู้สึกหนูเหรอ? ดีใจ..ดีใจมากเลยที่คนดูเรื่องนี้ รายละเอียดของละครทีมงานทุกคนใส่ใจ เพราะว่าทุกเวอร์ชั่นเขาทำดีไว้ตลอดเลย ฟีดแบกดีก็คุ้มค่าก็ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ (ยิ้มกว้าง)” เดียร์ ทวนคำถามก่อนสารภาพความในใจ

ฉันดัง! เพราะไม่สวย
สำหรับละครเรื่องแก้วหน้าม้า ไม่ใช่ผลงานละคนพีเรียดเรื่องแรกของเธอ ก่อนหน้านี้ เดียร์ แสดงโชว์ฝีไม้ลายมือรับบทนางเอกในละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องมนต์นาคราช แสดงเป็น 2 คาแรกเตอร์เป็นเรื่องแรกที่ท้าท้ายฝีมือนักแสดงหน้าใหม่อ่อนด้อยประสบการณ์ไม่น้อย แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจ ใฝ่รู้ เพียรพยายาม ผลงานละครเรื่องแรกของเธอแสดงได้ออกมาได้ไม่เลวเลยเพียงแต่ไม่โด่งดังเปรี้ยงปร้าง ลาจอไปได้ไม่นาน เดียร์ ก็ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ทางบริษัทสามเศียร มอบบทนางเอกหน้าตาอัปลักษณ์นิสัยกลายๆ ม้าดีดกระโหลก ในละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องที่สองเรื่อง แก้วหน้าม้า และดูเหมือนว่าเธอจะได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก 
แก้วมณี กับ พระปิ่นทอง จากละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องแก้วหน้าม้า

ชื่อของ เดียร์ - ดาริน ดารากานต์ นางเอกละคร แก้วหน้าม้า 2558 ถูกนำไปค้นหาในเว็บเสิร์ชเอ็นจิ้น หลังปลายนิ้วกดปุ่ม Enter ปรากฎภาพหญิงสาวหน้าตาน่ารักอย่างพรั่งพรู งานนี้กลับลายเป็นว่าแก้วหน้าม้าหน้าตาอัปลักษณ์ในละคร ที่แท้เป็นนางฟ้าจำแลงที่มีอยู่จริง

เดียร์ ยิ้มร่ารับว่าตัวเองนั้นดังจากความไม่ชอบ “ชอบค่ะ เพราะหนูไม่ได้เป็นคนสวยมาก ขี้เล่น สบายๆ ตลกๆ (ยิ้มกว้าง)”

แก่นแก้วดีดกระโหลกไม่เพียงเป็นนิสัยของแก้วหน้าม้า เดียร์ พูดถึงนิสัยที่คล้ายคลึงระหว่างเธอกับตัวละคร
“เยอะค่ะ กะโหลกกะลา อย่างแก้วเค้าจะไม่ค่อยอยู่นิ่ง ชอบมีเพื่อน ชอบหาอะไรทำ แล้วก็ไม่ค่อยเรียบร้อย ไม่ห่วงสวย”

เล่นจริง เจ็บจริง
สำหรับความท้าทายของ ละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องนี้ นางเอกสาวเล่าว่าเรื่องของการแสดงเป็นสิ่งที่ต้องการการบ้านอย่างหนัก

“ละครจักรๆ วงศ์ๆ ทุกอย่างเราแสดงเองหมด กระโดด ตีลังกา ไม่ว่าจะยังไงต้องเล่นเองหมด ส่วนเรื่องคำพูดสำคัญมากค่ะ เราผิดไมได้ คำเฉพาะเราพูดผิดไมได้เลย เราต้องคิดลึกเข้าไปอีก เพราะมันเป็นสมัยก่อน คำพูด กิริยาท่าทางเราต้องระวัง พูดกับเจ้ายังไง ร.เรือต้องชัด และก็การแสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึก หนูจะอ่านบทก่อน ได้บทมาเตรียมตัวอาทิตย์นึงก่อนเข้าฉาก มานั่งดูวิเคราะห์ ดูแต่ละประโยคที่พูดว่าคิดออย่างไง อาจจะพูดในเชิงน้อยใจ เพราะตัวละครแก้วจะค่อยข้างคิดเยอะเก็บความรู้สึก”

ความเป็นแก้วหน้าม้าในเรื่อง เป็นลูกสาวชาวบ้าน เป็นตัวละครแก่นกะโหลกกะลาส่งผลใหนางเอกสาวได้แผลฟกซ้ำจากการเข้าฉากในหลายๆ ครั้ง

“ตอนแรกอยู่บ้านป่าคือถอดรองเท้าเล่นทุกซีนอยู่กับดิน มีบ้างที่เท้าพอง แต่มีบ้างดีปุ๊บไปโดนหินก็เลือดออก อย่างฉากเมื่อวานกลิ้งลงสะพาน 2 รอบก็ช้ำ ไม่เป็นไรมันก็หาย” เดียร์ เล่าด้วยน้ำเสียงร่าเริงไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดจากแผลเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างแสดง

ทีมงานฯ สังเกตุเห็นว่าที่นิ้วก้อยซ้ายของเธอมีผ้ากอซพันอยู่ เดียร์ เล่าว่า เป็นผลจากการเล่นละครเรื่องคาดเชือกที่เพิ่งปิดกล้องไปในเรื่องต้องต่อยมวยแล้วเกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้ถูกดามอยู่ “ตอนแรกนิ้วซ้น พอไปต่อยไปเอ็กซ์เรย์มันหัก”

อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุหรือบาดแผลที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน เธอมองเป็นเรื่องเล็กน้อย เธอเล่าขึ้นอย่างอารมณ์ดี ว่าพี่ในกองละครแก้วหน้าม้าบอกให้ ชูนิ้วสู้ๆ โดยปกติจะโผล่เฉพาะนิ้วชี้กับนิ้วกลาง กลายเป็นว่านิ้วก้อยที่ถูกดามไว้ก็โผล่ขึ้นมาเป็นส่วนเกินให้ได้ขบขันกันเสียทุกครั้งไป

แก้วหน้าม้า รีเมก
“กดดันมากค่ะ ย้อนดูของเก่าและเอาตัวเองไปเปรียบเทียบว่าขาดตรงไหนไป แล้วหนูก็นั่งวิเคราะห์ตัวละครว่าแก้วน่ะมันเป็นยังไง รูปลักษณ์ภายนอกก่อน หัวหยิก ฟันเหยิน มีกระ แต่รูปร่างดี แต่หน้าไม่ดี เหมือนได้อย่างเสียอย่าง นิสัยภายนอกมันกระโดกกระเดก อยู่ไม่นิ่ง เสียงดัง หรือว่าบางทีก็โวยวายเอาแต่ใจ แต่ลึกๆ แล้วถึงหน้าจะเป็นม้าแต่เขาก็เป็นคนนี่แหละที่เกิดมาหน้าเหมือนม้า แต่ทุกการกระทำของเขาเป็นอุปนิสัยภายนอก แต่ลึกๆ ใจดี เป็นคนมีเมตตา แค่จะไม่ดีกับคนที่แกล้ง ขัดขวางทำไม่ดีกับเขา แค่จะแกล้งดีดกะลาดีดขี้ม้าใส่” เดียร์ เล่าถึงความกดดันที่เป็นแรงผลักให้เธอพยายามสร้างผลงานที่ดี

ย้อนกลับไปตั้งแต่ก่อนเข้ามาเล่นละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องแรก เธอมีโอกาสได้เรียนการแสดงคอร์สสั้นๆ ปรับพื้นฐานเพื่อนำมาต่อยอดด้วยตัวเอง สำหรับเรื่องนี้ก็ได้นำมาปรับใช้เช่นกัน ถามว่าทำการบ้านอย่างไรบ้าง เธอตอบ

“ดูของเก่าด้วย แต่ไม่ได้เล่นเหมือนกันหมด ดูเวอร์ชั่นนั้นเค้าเล่นยังไง ใส่รายละเอียดตรงไหน บทแต่ละเวอร์ชั่นก็ต่างกัน เวอร์ชั่นนี้ก็ปรับบทให้เค้ากับยุคปัจจุบัน ดูแล้วผ่อนคลาย ไม่เครียด"  


เป็นเรื่องธรรมดามีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียด เธอเล่าถึงคอมเม้นต์ลบๆ ในโซเชียลฯ “ส่วนใหญ่ไม่มีกับบทนี้ อย่างเมื่อวานไปนั่งอ่านรอเข้าฉากกลางคืนพอกลางวันเราก็จะว่าง นั่งอ่านคอมเม้นต์ก็จะมีคนมาเม้นต์ ไม่สวยเท่าไหร่นะไม่ใช่สเปก ต่อมาก็มีคนมาเม้น์ตอบว่า..ดูหน้าตัวเองหรือยังสก้อยยังไม่เอาทำสามีเลย? หรือ กรุณาเม้นต์ให้เกียรติน้องเดียร์แฟนผมด้วยนะ เราก็ ฮ่ะ! เรามีแฟนแล้วหรอ? ก็เป็นเรื่องขำๆ กันไปค่ะ”

กลายๆ ว่าจะโดนกระเซ้าเหย้าแหย่เรื่องหน้าตามากกว่าการแสดง “ถอดรูปแล้วยังไม่ค่อยสวยงั้นๆ จมูกใหญ่จัง ตาห่างจัง แต่หนูไม่ซีเรียสกับพวกนี้หรอก เพราะว่ามันไม่มีใครดีไปทุกอย่าง เรารู้สึกทำสิ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบให้มันดีดีกว่า เพราะส่วนใหญ่เค้าก็ดูก็สนุก ขำ เราก็ดูคนส่วนมาก”

เมกอัพครึ่งชั่วโมง
อย่างที่เธอยอมรับว่าดังเพราะไม่สวย การเมกอัพแก้วหน้าม้านั้นใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง ใส่ฟันปลอมฟันเหยิน ใส่วิกผม

“ลงเฉดดำๆ ตรงนี้เยอะ ใช้อายไลน์เนอร์ มาสคาร่า คิ้ว20 มิติ คิ้วเหมือนม้าตั้งๆ จุดกระ และเหงือก(หัวเราะ)”

โดยเฉพาะเหงือกปลอมฟันเหยินคับริมฝีปากบาง ได้รับความสนใจจากท่านผู้ชมเป็นอย่างมาก เดียร์ เล่าว่าเป็นเหมือนฟันปลอมของคนแก่ ทำอยู่หลายรอบกว่าจะได้พอดีกับฟันของตัวเอง ทีมข่าวฯ ถามว่า เวลาใส่ฟันปลอมแล้วหุบปากได้สนิทหรือเปล่า?

“ไม่สามารถนะ” (ทำท่าทะเล้นประกอบ)”

เธอเล่าว่า มีปัญหาเรื่องเหงือกแห้งปวดกรามด้วย อย่างฉากที่แก้วหน้าม้าขึ้นเรือเหาะ จะมีพัดลมตัวใหญ่มาพัด สิ่งที่นางเอกสาวต้องปฏิบัติคือ เอาลิ้นดุนเหงือกปลอมบ้าง ดื่มน้ำบ้าง

“ใช่เราหรอ หลังๆ มันก็เก๋ๆ ดีนะ” เดียร์ กรอกตาก่อนเฉลยถึงความรู้สึกเมื่อเห็นตัวเองแปลงโฉมเป็นแก้วหน้าม้าครั้งแรก “เขินมั้ย? ไม่นะคะ มันตลกดีไปแกล้งคนนั้นคนนี้”

อย่างไรก็ตาม ท่ากระโดกกระเดกของตัวละครแก้วหน้าม้าเป็นสีสรรสร้างความสนุกสนาน แต่ก็มีพาร์ตเรียบร้อยกุลสตรีเช่นกัน ในเรื่องต้องมีการรำด้วยซึ่งเธอยอมรับว่าไม่ถนัดเลย

“ต้องเรียนรำ ซึ่งหนูไม่ถนัด หนูเรียนประมาณเดือนนึง เรียนอาทิตย์ละ 1-2 วัน มี ครูก้อย ของสามเศียรสอน ก็จะเริ่มกดดัน เกร็ง แค่ท่าชะมายตาเฉียด ผู้กำกับบอกเป็นท่าในตำนาน พี่ออย สิริมา รำยันตี 4 ส่วนหนู ตี1”

เอวบางร่างเล็กอย่างนี้แต่ก็ไม่รอดที่จะถูกทีมงานของกองละครแก้วหน้าม้าแกล้ง เดียร์ เล่า

“เค้าจะชอบแกล้ง ให้ไปอยู่ใต้ต้นไม่ ให้หมอบ เค้าถ่ายเสร็จแล้วเค้าค่อยๆ เก็บของ ปล่อยให้หนูนอน หนูก็ไม้กล้าเงยหน้าเค้าไม่สั่งคัต แล้วยุงก็กัด จนคุณแม่บอกเสร็จแล้ว(หัวเราะ) แล้วฉากนอนมันดึกอะ เราก็หลับจริงไปเลยแล้วเค้าไม่คัตปล่อยให้หลับ(ยิ้ม)”

สำหรับเรตติ้งของละครแก้วหน้าม้า นางเอกสาวบอกว่าอยู่ที่ 6 ถือว่าดีสำหรับละครจักรๆ วงศ์ๆ แต่เรื่องที่ดังสุดๆ ต้องยกให้สังข์ทอง เรตติ้ง 9 - 10 เลย

เอกลักษณ์ของแก้วหน้าม้าไม่เฉพาะหน้าตา แต่ท่าทางยังเป็นเสน่ห์ชวนขบขันอีกด้วย ถามว่าติดมาเล่นในชีวิตประจำวันไหม เธอบอกว่ากิริยาซนๆ เป็นสิ่งที่ติดตัวมานานแล้ว

ยัยลูกม้าขี้เหร่
เนื้อเรื่องของละครแก้วหน้าม้า พรหมลิขิตนำพาให้นางเอกอัปลักษณ์มาพบเจ้าชายรูปงาม และทำงานพิสูจน์ตัวเองเพื่อได้ครองคู่ตามสัญญาที่ฝ่ายชายให้ไว้ ทว่า พระปิ่นทอง พระเอกกลับแสดงทีท่ารังเกียจ แก้วหน้าม้า นางเอกอยู่ร่ำไป

“เราก็ไม่สนใจเพราะเรามั่นใจ เราสวย แก้วเชื่อมั่นในตัวเองว่าความรักจะเอาชนะทุกสิ่ง” เดียร์ พูดในฐานะแก้วหน้าหญิงสาวผู้ศรัทธาในความรัก

ทีมข่าวฯ สอบถามว่าแล้วในชีวิตจริงเธอเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า?

“มีบ้าง เรารักใครก็คงอยากทำทุกอย่างที่จะอยู่กับเค้า แต่เป็นอย่างที่พระปิ่นทองเป็นถามว่าเป็นหนูหนูท้อมั้ย? (ยิ้มบาง) แก้วเค้าอดทนมากกว่า ทั้งที่เค้าอยู่แล้วว่ามันไม่สวย แต่มันรัก พยายามจนถึงนาทีสุดท้าย พยายามให้พระปิ่นทองรักในแบบที่แก้วเป็น ต้องมาลุ้นกันว่าพระปิ่นทองเวอร์ชั่นนี้จะรักแก้วแบบหน้าไม่สวยได้มั้ย?"  เดียร์ หยอดให้ติดตามต่อในละคร


อย่างไรก็ตาม ผู้ชายมีอีกเยอะแยะทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนี้ที่แก้วหน้าม้ามอบหัวใจทั้งที่โดนแสดงท่าทีรังเกียจ เดียร์ ตอบในมุมมองของแก้ว

“ทุกอย่างมันลิขิตเอาไว้แล้ว เพราะเราเห็นหน้าคนนี้มันใช่อะ มันไม่ใช่ทุกคนหรอกที่แก้วจะชอบ พอมาเจอคนนี่มันใช่อ่ะ รักตั้งแต่แรกเห็นแล้ว”

ถามเล่นๆ ถ้าแก้วหน้าม้ามีตัวตนจริงๆ เกิดในยุคสมัยนี้เธอจะพึ่งมีดหมอศัลยกรรมหรือเปล่า เดียร์ ไล่ลำดับความคิดก่อนตอบขึ้น

“ถ้าเป็นคนแล้วไม่มีชีวิตแบบในละคร ถ้าเป็นจริงๆ ก็ทำ จริงมั้ยคะ? บางคนไม่พอใจ บางคนก็อยากสวยแหละแต่สมัยนั้นมันไม่มี ได้แต่ขอเทวดาขอฤาษี สมัยนั้นยังเอาขมิ้นมาทาตัวเลย แต่ถ้ามองอีกมุมนึงในนิสัยแก้ว ก็ไม่ทำนะ..อาจจะทำแต่ไม่เปลี่ยนตัวเอง นิสัยมันจะยึดมั่นในตัวเอง ถ้าใครรักก็รักที่มันเป็นแบบนี้ แต่มันก็จะพยายามให้ถึงที่สุดก่อนให้เขาเห็นว่าเป็นยังไง"

ตัวละครแก้วหน้าม้า เป็นเหมือนตัวแทนของคนหน้าตาไม่ดีที่ถูกผู้อื่นแกล้งหยอกล้อ เดียร์ บอกว่า รูปลักษณ์ภายนอกของคนไม่สำคัญเท่านิสัยใจคอ การคบหากันที่นิสัยจะทำให้มิตรภาพหรือความรักของเรายืนยาวมากกว่า

“คือทุกคนสวยไม่เหมือนกัน จะมีจุดที่เด่นของตัวเองไม่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นนิสัยแหละที่โดดเด่น อยู่ด้วยแล้วสบายใจ จะเป็นคนยังไงอยู่ที่ลักษณะนิสัยมากกว่า แต่ละคนมีดีต่างกัน”

ลูกสาวคนเก่งของคุณแม่
บุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเธอคือคุณแม่ พวกเธอสนิทกันมากพูดคุยตามประสาผู้หญิงได้ทุกเรื่อง คุณแม่จะคอยดูแลไม่ห่างอย่างไปทำงานที่กองละครฯ ก็จะคอยไปให้กำลังใจ
คุณแม่กับลูกสาวคนเก่ง

เดียร์ เป็นลูกสาวคนเดียว คุณแม่คอยดูแลตารางชีวิตประจำวันให้ อย่างเรื่องอาหารการกินต้องกินเป็นเวลา แบ่งเวลาออกกำลังกาย ฯลฯ เจ้าตัวสารภาพว่าตัวเองไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่จึงเป็นหน้าที่ของคุณแม่ที่ต้องจัดการให้

ในวันที่มีนัดสัมภาษณ์กับนางเอกสาว คุณแม่ก็มาคอยดูแลไม่ห่าง ทีมงานฯ หันไปสอบถามการเลี้ยงดูลูกสาวคนนี้ในแบบฉบับของคุณแม่ ท่านบอกว่าเลี้ยงแบบสอนให้สู้ชีวิต ให้ลูกทำเป็นทุกอย่าง แต่ก็จะคัดสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ มีเรื่องอะไรสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง

เดียร์ กล่าวถึงคุณแม่ว่าเป็นผู้หญิงเก่ง ซิงเกิลมัม คอยดูแลเรา และเธอได้รับนิสัยๆ กล้าๆ ลุยๆ มาเต็มๆ หรือเรื่องความอดทนก็เป็นนิสัยสำคัญที่ได้รับการปลูกฝังมาจากคุณแม่

“คุณแม่เข้าใจวัยรุ่น มีอะไรก็นั่งคุยกัน บอกทุกอย่าง ให้รู้ดีกว่าไม่รู้ อย่างตอนเด็กๆ ไปเที่ยวกับเพื่อนคุณแม่ก็จะรู้ว่าไปไหนกับใครกลับกี่โมง มีปัญหาอะไรก็แม่คุณ”

แต่ไม่ใชว่าคุณแม่จะหวงติดลูกสาวไปทุกที่ คุณแม่ให้อิสระให้เวลาส่วนตัว เดียร์บอกว่าชอบไปไหนมาไหนกับคุณแม่เพราะคุณแม่เป็นเหมือนเพื่อนคุย อย่างไปกองละครฯ คุณแม่ไปด้วยก็ไม่เหงาดี ซึ่งถ้าวันไหนลูกสาวคนสวยว่างก็ทุ่มเวลาให้กันเพื่อนๆ กลายๆ ว่าเป็นสาวขี้เหงาติดเพื่อนติดคุณแม่

เด็กๆ ดื้อพอตัวเลย ชอบเถียงชอบเอาชนะ เดียร์ เล่าวีรกรรมแสบๆ ในวัยเด็ก

“คุณแม่ให้กินวิตามิน1 ตับปลา หนูไม่ชอบกินยาก็จะเอาไปเก็บไว้ในกล่องทุกวันๆ หนูก็ทำเป็นว่ากินแล้ว เยอะมากล้นกล่อง จนหมดอายุต้องทิ้งเสียดาย ทีนี้คุณแม่ทำความสะอาดแล้วไปเจอ ก็โดนตี(หัวเราะ)”

ช่วงมัธยมต้นจัดอยู่ในก๊วนเด็กแสบ “หนูจะแสบช่วง ม.ต้น ก็จะมีเพื่อนเป็นแก๊งค์ 20 คน แต่ละห้องรวมกัน และก็จะแบบว่าโดดเรียน คาบครูฝรั่งก็จะไม่เรียน ไปนั่งเล่นกับเพื่อน จนโทรตามคุณแม้เพราะจับได้ว่ามานั่งเล่นหลังบันไดไม่เรียน อีกเรื่องคือลูกใส่กระโปรงสั้น แต่หนูสูงไงก็เลยดูสั้น คุกเขาลงไปมันไม่เกินลงมาทบนึงก็โทรตาม ตักเตือนหลายคนแล้ว ต้องให้ผู้ปกครองรับรู้ด้วย แล้ว ม.ต้น อยากสวยค่ะ ซอยผมตามเพื่อน โดนเรียกผู้ปกครองอีก บอกคุณแม่ไม่ต้องไปหรอก ตัดผมไมได้ทำให้เด็กโง่นะ (หัวเราะ) แล้วก็มีไปเล่นสาดน้ำในห้องน้ำ เสร็จปุ๊บน้ำไปโดนตรงปลั๊ก แล้วอาจารย์มาใช้ปลั๊กในห้องน้ำแล้วไฟดูด เค้าก็ควานหาตัวการว่าใคร”

เรื่องเรียนเรื่องใหญ่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในชีวิต ตอนนี้ เดียร์ เซ็นต์สัญญากับทางบริษัท สามเศียร เป็นเวลสายน้ำา 5 ปี ซึ่งตัดสินใจรับงานแสดงเป็นสิ่งที่ต้องชั่งน้ำหนักกับเรื่องเรียน เพราะงานแสดงเรื่องนึงใช้เวลาถ่ายทำค่อยข้างเยอะในแต่ละสัปดาห์แทบไม่มีเวลาว่างเลย หลังการปรึกษากับคุณแม่เธอได้ข้อสรุปว่าจะทำการดรอปเรียนไว้ก่อน เพราะโอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้มอบให้กับทุกคน

“ตอนแรกลังเล เพราะว่าอยากเรียนด้วย แต่พอผู้ใหญ่ให้โอกาสแล้วเรื่องนี้ เราก็ชอบด้วย”

ขณะนี้ เธอกำลังศึกษาอยู่ ชั้นปี 2 ภาควิชาการสื่อสารตรา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เมื่อเรื่องงานลงตัวจะรีบกลับไปเรียนทันที


“คิดอีกมุมนึงเราได้ประสบการณ์ ได้ทำงาน หาเงินก่อนคนอื่น ได้ประสบการณ์มาใช้เลย การเรียนถ้ามุมมองของคนทุกคนมันจะสำคัญตามหลักการทำงาน ต้องใช้ใบปริญญา แต่อย่างคนที่เค้าประสบความสำเร็จโดยที่เค้าไม่ได้เรียนแต่เรียนรู้เลยจากการทำมันก็มี ซึ่งหนูว่าจริงๆ แล้วมันต้องใช้ตรงนี้มากกว่า ประสบการณ์จากการทำ พวกความรู้พวกนี้เราไปหาเสริมได้ แต่พวกประสบการณ์มันหาได้ยาก”

ค่าตอบแทนของงานแสดงอาจไม่มากมายเท่าประสบการณ์ “ได้ประสบการคุ้มกว่า เพราะว่าทำอย่างอื่นอาจจะได้มากกว่านี้ก็ได้ ไม่ต้องเหนื่อยมากขนาดนี้ เราทำแล้วเราได้เรียนรู้ได้อยู่กับคนหลายๆ คน ตอนแรกๆ หนูอาจจะคิดไม่เอาแล้วเหนื่อย ไม่อยากทำแล้ว พอมาคิดดูอีกที พี่ๆ ในกองฯ คนนี้ยกไฟ คนนี้จัดไฟ คนนี้ทำฉาก คนนี้ตั้งกล้อง คือถ้าขาดไปสักคนไม่ได้เลย เราไม่ได้เหนื่อยคนเดียวนะ คนอื่นเค้าเหนื่อย มองอีกมุม เราถ่ายเสร็จปุ๊บก็กลับ แต่เขายังนั่งอยู่ เราไมได้เหนื่อยคนเดียว”

ความฝันในวัยเด็กเธออยากเป็นหมอฟัน เพราะประทับใจในวิชาชีพนี้ตั้งแต่ไปจัดฟันช่วง ม.ต้น จากนั้นคุณแม่ก็แนะนำให้เรียนสายวิทย์-คณิตฯ แต่เมื่อลองเรียนไปแล้วเธอรู้ตัวว่าไม่ชอบฟิสิกส์ม่ชอบท่องสูตร อย่างไรก็ตาม เธอเรียนสายนี้จนจบมัธยมปลาย และสอบติดมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง แต่ตัดสินใจเรียนในสายนิเทศศาสตร์เพราะรู้ตัวว่าชอบ เลือกเรียนสาขาแบรนด์คอมมูนิเคชั่น หรือ การสื่อสารตรา เพราะเรียนควบคู่มาร์เกตติ้งนำมาปรับใช้ได้ต่อยอดธุรกิจของตัวเองในอนาคตได้

“รู้ตัวตั้งแต่เริ่มเรียน ม.5 แต่ก็มาเรียนมาตลอด ทำความเข้าใจสอบโอเคได้ แต่ก็คิดว่าถ้าเราอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบไปนานๆ เราจะไม่มีความสุข มันจะอยู่ได้แค่แป๊บเดียว เรียนนิเทศฯ ดีกว่า น่าจะเอาไปปรับใช้ได้”

เดียร์ เปิดเผยว่าไม่ค่อยชอบกิจกรรมประกวดเวทีต่างๆ แต่คุณแม่อยากให้ลูกสาวมีประสบการณ์ก็จะคอยผลักดัน เมื่อตอน ม.ปลาย มีโอกาสเข้าร่วมเวทีมิสทีนไทยแลนด์จนผ่านเข้ารอบ แต่ก็สละสิทธิ์ก่อนเพราะรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง ครั้นพอเข้ามหาวิทยาลัยก็เข้าร่วมกิจกรรมอย่างงงๆ จากคำชวนของรุ่นพี่ เพียงอัดคลิปทักทายตอบคำถามแล้วลุ้นรับของขวัญ จู่ๆ ก็ได้รับการโหวตล้นหลามนั่งแท่น ทูตประชาสัมพันธ์ (BU Rangers) และครองรางวัล ป๊อปปูลาร์โหวตของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
…............ 
กะเทาะเปลือกนอกออกมาแล้วไม่ธรรมดาเลยจริงๆ สำหรับนางเอกหน้าขี้เหล่จากละครจักรๆ วงศ์ๆ เรื่อง แก้วหน้าม้า เนื้อแท้เธอคือ 'สาวสวย จิตใจดี ขี้เล่น'

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Lite
เรื่อง : นฤมล ประพฤติดี
ภาพ : จิรโชค พันทวี
คลิป/พิธีกร : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ขอบคุณภาพประกอบ IG@dearr_darin
ขอบคุณร้าน Hidden Backyard เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำ



ประวัติส่วนตัว
ชื่อ - สกุล : ดาริน ดารากานต์ ชื่อเล่น : เดียร์
วันเดือนปีเกิด : 6 มีนาคม 2536อายุ : 21 ปี
การศึกษา : ระดับมัธยมปลาย โรงเรียนหอวัง, ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
งานอดิเรก : ฟังเพลง, ร้องเพลง
 รางวัลที่ได้รับ : ทูตประชาสัมพันธ์ (BU Rangers) และรางวัลป๊อปปูลาร์โหวตของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ผลงานโฆษณา : ไวไว รสหมูสับ
ผลงานละคร : มนต์นาคราช, ใยกัลยา, คาดเชือก, แก้วหน้าม้า





มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น