สร้างความฮือฮาอย่างมาก 'ร้านกาแฟคนมีบุญ' ตั้งอยู่ภายใน วัดสันก้างปลา จ.เชียงใหม่ ไม่เพียงกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นเพราะความพิเศษของร้านนี้ 'พระภิกษุ' เป็น 'บาริสต้า' ชงกาแฟให้ญาติโยมพร้อมละเลียดรสธรรม
อ้างอิงข้อมูลจาก สวท.เชียงใหม่ พระครูสิทธิปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดสันก้างปลา ตำบลทรายมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงแนวคิดของร้านกาแฟคนมีบุญ เพื่อเป็นช่องทางดึงคนเข้าวัด กล่อมเกลาจิตใจ และเป็นพื้นที่สนทนาธรรม สำหรับผู้ชงกาแฟ หรือ บาริสต้า เป็นพระภิกษุ สามเณร และญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา
ร้านกาแฟคนมีบุญ เปิดให้บริการด้วยเครื่องชงกาแฟทันสมัย เมนูเครื่องดื่มเหมือนร้านกาแฟสดทั่วไป แต่สิ่งสำคัญคือไม่คิดเงินเหมือนร้านอื่นๆ ประชาชนสามารถบริจาคตามกำลังศรัทธา หรือหากไม่มีก็สามารถดื่มฟรีได้
โดยภิกษุในบทบาทบาริสต้าจะใช้เวลาว่างหลังจากกิจกรรมทางพุทธศาสนา มาให้บริการชงกาแฟแก่ญาติโยม ด้าน พระครูสิทธิปัญญาภรณ์ อธิบายเพิ่มเติม ความว่า
“ร้านกาแฟคนมีบุญ เป็นเหมือนห้องรับแขกของวัดที่เปิดรับทุกคนโดยไม่เลือกยาก ดี มีจน ไม่มีเงินก็เข้ามาดื่มกาแฟ สนทนาธรรมได้ เป็นการประยุกต์ เอาวัฒนธรรมสมัยใหม่อย่างเช่นร้านกาแฟที่ทุกคนนิยมเอามาไว้ภายในวัด วัตถุดิบต่าง ๆ ญาติโยมเป็นผู้บริจาค และวัดแห่งนี้ก็เป็นของทุกคน เปิดบริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด มีทั้งห้องแอร์ และอินเตอร์เน็ตให้บริการ หรือสนใจจะนั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอก กลางสวนลำไย ติดแอ่งน้ำก็ได้”
อย่างไรก็ตาม ในมุมของนักวิชาการด้านศาสนา ผศ.ดร.ผจญ คำชูสังข์ ประธานกรรมการหลักสูตรบัณฑิตศึกษา อดีตหัวหน้าภาควิชาปรัชญาและศาสนา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิพากษ์ถึงกรณีร้านกาแฟคนมีบุญ โดยมีพระภิกษุสวมบทบาริสต้าชงกาแฟหอมกรุ่นเสิร์ฟญาติโยม มองว่าไม่ใช้หน้าที่ของสงฆ์ หากพิจารณาด้านแนวคิดนั้นเป็นเจตนาที่ดี ทว่าวิธีการไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม การที่พระภิกษุเป็นผู้จัดเตรียมอาหารเครื่องดื่มแก่ฆราวาสไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในอดีตกาลก็มีพระหาข้าวหาน้ำให้ญาติโยมรับประทาน ผศ.ดร.ผจญ กล่าวต่อว่าเป็นธรรมดาที่ประชาชนมอง 2 มุม ทั้งเห็นดีเห็นงามด้วย และมุมที่ไม่เห็นพ้องมองว่าไม่เหมาะสม
“บางอย่างในเรื่องที่คนไทยรับมาก็ผิดเยอะ บางอย่างที่น่าจะเป็นประโยชน์คนไทยอาจจะไม่รับ ระหว่างพระที่ไปปลุกเสก ปัญหาพุทธพาณิชย์ มันผิดยิ่งกว่าพวกนี้อีกนะ เป้าหมายไม่ได้เผยแพร่ศาสนาแต่เป็นการหาเงิน แต่นี่เจตนาดีแต่วิธีการไม่ค่อยจะดีเสียเท่าไหร่”
ผศ.ดร.ผจญ กล่าวทิ้งท้าย “โลกมันเปลี่ยนไป โลกเปลี่ยนไปวิธีการเปลี่ยนไปแล้ว การเผยแผ่ศาสนาจะพึงธรรมะอยู่อย่างเดียวไม่ได้แล้ว พระประเภทนี้ส่วนใหญ่ใช้วิธีการที่เรียนมากจากทางโลก ส่วนใหญ่มีความรู้มาจากฆราวาสแล้วไปบวช และนำความรู้วิธีการไปใช้ พระประเภทที่บวชมาตั้งแต่เณรจะไม่ใช่หรอก”
อย่างเช่น ทำไมธัมชโยถึงมีลักษณะนี้ เพราะเรียนมาจากฆราวาส เขารู้วิธีการจะหาเงินอย่างไร พุทธอิสระทำไมทำตัวแบบนั้น เพราะท่านเรียนมาจากฆราวาสจึงมีลักษณะแบบนั้น ออกมาประท้วง ฯลฯ
สำหรับประเด็นร้านกาแฟคนมีบุญ โดยมีภิกษุเป็นบาริสต้า ภายใต้แนวคิดดึงประชาชนเข้าวัดกล่อมเกลาจิตใจ และเป็นพื้นที่สนทนาธรรม นั้นเป็นกุศโลบายของพระที่นำแนวคิดการศึกษาแบบฆราวาสมาปรับใช้ มีอิสระภาพในการแสดงออก แต่ความเหมาะสมขณะอยู่ในสถานะสงฆ์ก็เป็นสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาก่อนกระทำการใด
….........................
ขอบคุณข้อมูล : สวท.เชียงใหม่
ภาพประกอบ : www.khaosod.co.th
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754