xs
xsm
sm
md
lg

ฉาวทั่วรั้วโรงเรียน เมื่อครูอยากสอนเพศศึกษาเด็ก!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครูล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียน, แชตไลน์เชิงสัมพันธ์ชู้สาวครูกับนักเรียนหญิง ข่าวคราวเหล่านี้ปรากฏตามหน้าสื่อ หนังสือพิมพ์ ให้ได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย อะไรทำให้บุคคลที่เรียกตนเองว่า “แม่พิมพ์ของชาติ” กลับมาทำเรื่องเสื่อมเสียผิดจรรยาบรรณของความเป็นครูเสียเอง!

ชู้สาวอื้อฉาว ชีวิตคอซอง!
กลายเป็นประเด็นร้อนระอุในวงการการศึกษาอีกครั้ง เมื่อนักเรียนสาวออกมาแฉถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีตำแหน่งพ่วงท้ายเป็นถึงรองผู้อำนวยการโรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี ใน จ.อุตรดิตถ์ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเรื่องราวของการส่งข้อความทางไลน์แชทกับนักเรียนหญิงในเชิงสัมพันธ์ชู้สาว

เรื่องราวในกระทู้ "เกิดเหตุการณ์แบบนี้ควรทำไงดีคะ กระทำการโดยละ.... 18+ Edit" ซึ่งโพสต์โดย “ระทวย ระทมจิต” สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แฉรายละเอียดความฉาวดังกล่าวเอาไว้ อาจารย์ผู้ถูกกล่าวหาก็เดินทางเข้าแจ้งความในทันที โดยอ้างว่าถูกบุคคลอื่นสวมรอยแอบอ้างใช้ไลน์ของตนเอง แล้วติดต่อกับบุคคลอื่นในเชิงชู้สาวทำให้เกิดความเสียหาย






ทั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นไปยังสำนักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 39 จ.พิษณุโลก-จ.อุตรดิตถ์ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทราบแล้ว โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่น่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้เลย เพราะแค่คิดก็ผิดแล้ว ข่าวที่ออกมาทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แต่ที่อ้างว่ามีคนแฮกไลน์ส่วนตัวนั้น ยังไม่เข้าใจเพราะไลน์โทรศัพท์มือถือไม่ใช่ไลน์คอมพิวเตอร์สำนักงาน

อีกทั้งได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า รองผู้อำนวยการกับเด็กนักเรียนหญิงคนนี้ น่าจะเคยมีปัญหาส่วนตัวกันมาก่อนในเฟซบุ๊ก และเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการเอาคืนของนักเรียนหญิง แต่ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย




ทันทีที่ประเด็นดังกล่าวแพร่สะพัดออกไป ผู้คนต่างให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก และโหมกระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์ถึงบุคคลที่เรียกตัวเองว่าเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ถึงความเสื่อมเสียไร้จรรยาบรรณของความเป็นครูกันอย่างหนาหู

บ้างก็ว่า ถ้าโดนสวมรอยต้องมีหลักฐานมายืนยัน หากไลน์ล็อกอินจากที่อื่น จะมีข้อความเเจ้งเตือนมาในไลน์ ถ้ามีคนสวมรอยล็อคอินคุยจริงๆ ต้องมีข้อความแจ้ง ถ้าบริสุทธิ์ใจต้องเอาหลักฐานข้อนี้มายืนยันได้

บ้างก็ว่า เป็นครูต้องรู้จักผิดชอบ ชั่ว ดี “เป็นเราถ้าผู้ใหญ่มาทำนองนี้ แล้วไม่จบก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน ประจานมันให้คนรู้ จะได้ไม่มีใครกราบไหว้มันอยู่ให้เสียมือ มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาของผู้ชายนะ เรื่องหื่นเนี่ย อย่ามาอ้าง นึกถึงหน้าที่ตัวเองบ้าง มีสติรู้จักผิดชอบชั่วดีบ้าง เราเป็นมนุษย์ไม่ใช่เดรัจฉาน”

ยังไม่จบประเด็นข่าวคราวความเสื่อมทรามในรั้วคอซองเพียงเท่านั้น ยังมีกรณีครูฉาวมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ตามมาติดๆ นั่นก็คือ ผู้ปกครองของนักเรียนชายชั้นป. 2 ของโรงเรียนชื่อดัง ย่านรามคำแหง เข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยกล่าวว่า ลูกชายของตนและเพื่อนๆ อีก 3 คน ถูกครูชายรายหนึ่งซึ่งมีลักษณะท่าทางคล้ายผู้หญิงล่วงละเมิดทางเพศ ขณะเดินทางไปศึกษาดูงานโครงการนักเรียนวิทยาศาสตร์สู่สากล ที่ประเทศสิงคโปร์

หลังประเด็นฉาวนี้เป็นข่าวจึงได้มีการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน หากครูผู้ถูกพาดพิงผิดจริง ต้องมีมาตรการการลงโทษอย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และผิดจรรยาบรรณของความเป็นครูโดยสิ้นเชิง และพร้อมกันนี้ต้องดูแลสภาพร่างกายและจิตใจของเด็กอย่างเต็มที่ เหตุนี้เองทำให้โรงเรียนอีกหลายแห่ง ต่างกำชับให้ช่วยกันสอดส่องดูแลนักเรียนและครู ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยและสร้าง ความเสื่อมเสียเฉกเช่นกรณีนี้ขึ้นอีก


รู้ทัน! ไม่ตกเป็นเหยื่อกาม
ในฐานะครูผู้บุกเบิกการสอนเพศศึกษาแนวใหม่ "อ. นคร สันธิโยธิน" อาจารย์ประจำโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นข่าวดังกล่าวข้างต้น กับทีมข่าว ASTV ผู้จัดการLive ว่า การสร้างความรู้เรื่องเพศเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเยาวชนจะได้มีทักษะในการป้องกันตนเองได้

“คือเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เราก็ไม่รู้นะว่าความจริงมันเป็นยังไง ข่าวมันออกมาตรงหรือเปล่า ขอพูดเป็นกลางๆ นะคะ คือเรื่องความชอบรสนิยมความชอบทางเพศของคนแต่ละคนมันก็มีแตกต่างกันนะคะ เพราะฉะนั้น จึงถือว่าความจำเป็นที่จะต้องพูดเรื่องเพศวิถี การสร้างองค์ความรู้ที่ครบถ้วนแล้วก็รอบด้านให้แก่เด็กๆ เยาวชนทุกคน ควรต้องมีความรู้เรื่องนี้

เขาจะได้มีวิธีมีทักษะที่จะป้องกันตัวเอง เพราะว่ารสนิยมทางเพศเราไม่รู้ว่าคนแต่ละคนมีรสนิยมแบบไหน แต่ถ้าหากคนได้เรียนรู้ได้เข้าใจ มันก็จะมีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วเขาก็จะมีทักษะในการตัดสินใจในการที่จะป้องกันดูแลตัวเองได้ เอาตัวเองให้ได้ตลอดรอดฝั่งค่ะ”




จรรยาบรรณของความเป็นครู คือสิ่งที่ครูทุกคนต้องรักษาอยู่แล้ว และต้องอบรมสั่งสอนเยาวชนให้เป็นไปตามแบบที่ประเทศชาติต้องการ นี่คือสิ่งสำคัญ

“ครูทุกคนมันต้องมีจรรยาบรรณอยู่แล้วล่ะ จรรยาบรรณ 9 ข้อ ทั้งหมดค่ะ ที่ทุกคนต้องรักษาอยู่แล้ว การไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลก็ถือเป็นเรื่องผิดวินัยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เราจะทำยังไงให้เด็กเราไม่ตกเป็นเหยื่อ

ในทัศนะของอาจารย์นครนะคะ การจะเลี้ยงเยาวชนยังไงให้เป็นตามแบบที่ประเทศชาติต้องการประการที่ 1. ต้องไม่แสบ ไม่แสบทางโลก ไม่แสบทางธรรม ก็คือเอาตัวเองให้รอดตลอดรอดฝั่ง ดูแลตัวเองได้ เอาตัวรอดได้

ประการที่ 2 ก็ต้องไม่โง่ ไม่โง่ในที่นี้ก็คือ ไม่ตกเป็นเหยื่อ ไม่เอาคนอื่นมาเป็นเหยื่อของเรา และเราก็ไม่ตกไปเป็นเหยื่อของคนอื่น และประการที่ 3 ก็คือ ไม่แล้งน้ำใจ เยาวชนไม่แล้งน้ำใจค่ะ”

จะเห็นได้จากข่าวตามหน้าสื่อ หนังสือพิมพ์ว่าสังคมไทยทุกวันนี้มันเสื่อมลงไปเยอะ ครูที่มีหน้าที่สอน สร้างเยาวชนให้เป็นคนดีของสังคมกลับทำเรื่องเสื่อมเสียเสียเอง

“คนมันก็มีทั้งคนดีคนชั่ว มันจะหาคนดีโดยตลอดมันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้น ถ้าลักษณะนี้เขาอาจจะไม่ได้ชั่วก็ได้ มันอาจจะเกิดความผิดพลาด เพราะคนเราดีชั่วรู้หมดแต่มันอดใจไม่ไหว เดี๋ยวนี้สังคมทุกวันนี้จะเป็นลักษณะที่เขาเรียกว่า ไม่ได้โกหกแต่บอกไม่หมด

ข้อมูลมันต้องครบถ้วนและต้องรอบด้าน แต่ฉันให้ข้อมูลเธอ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เธอเอาไปแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 90 เปอร์เซ็นต์ไปหาเอาเอง เพราะฉะนั้น ไม่ได้โกหกแต่ว่าบอกไม่หมด นี่แหละคือวิธีการของคนสมัยนี้ ที่สำคัญระบบทุนนิยมมันก็เป็นแบบนี้แหละ มือใครยาวสาวได้สาวเอา เพราะคุณธรรม จริยธรรม มันเริ่มลดน้อยถอยลง ความเสื่อมต่างๆ มันก็จะเห็นชัดขึ้น มันก็เป็นเรื่องปกติค่ะ”

ทว่าดูเหมือนครูในยุคปัจจุบัน จะมีแต่เรื่องเสื่อมเสียซึ่งจะผิดและแตกต่างกับสมัยก่อนโดยสิ้นเชิง แต่ความจริงแล้วมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า ในปัจจุบันมีอะไรต่างๆ เข้ามามากมาย ข้อเสียต่างก็เลยผุดขึ้นมาเยอะ

“มันต่างกันเยอะไม่เยอะมันก็แล้วแต่ประสบการณ์ที่เขาได้ ประสบการณ์ที่มันถูกสั่งสมมา ว่าสมัยก่อนนี้มันอาจจะไม่มีคนที่มีลักษณะแบบนี้เยอะ มันก็ดูว่าสังคมมันมีคุณธรรม จริยธรรม มันก็ดูดีนะ แต่พอมายุคนี้มีอะไรต่างๆ เข้ามา ก็เหมือนกับน้ำลด ตอ ผุด ตรงนี้ก็ผุด ตรงนั้นก็ผุดข้อเสียต่างๆ เราก็จะเห็นมันก็เป็นเรื่องปกติ มันก็มีการเปิดเผยกันมากขึ้น เมื่อก่อนจะมีเหมือนกัน แต่มันไม่มีใครขุดค้น มันอาจจะเปิดไม่เจอ ไม่ค้นไม่พบอะไรแบบนี้”

เด็กรุ่นใหม่ ต้องไม่โง่!
อะไรที่เป็นตัวอย่างที่ดีก็จดจำไว้เป็นเยี่ยงอย่าง สิ่งไหนไม่ดีก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปในตัว เพราะฉะนั้น ถือว่าการกระทำที่เสื่อมทรามเช่นนี้เป็นบทเรียนชิ้นใหญ่ให้แก่ครูเลยทีเดียว

“ตัวเขาเองเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นยังไง และที่สำคัญมันก็เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี นี่แหละแบบอย่างที่ไม่ดีมันก็ต้องเป็นตัวอย่างของสังคมที่ว่าใครที่เรียนรู้ได้เข้าใจ คือแบบอย่างในสังคมมันก็ต้องมีทั้งภาพที่ดีและภาพที่ไม่ดีใช่มั้ย มันไม่มีที่ไหนหรอกที่ดีที่สุดไปทั้งหมดหรอก มันเป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้น สร้างอยู่แล้วก็แตกดับ มีคนดี คนไม่ดี คนไม่ดีก็ถือเป็นครูอย่างหนึ่ง เราก็จะไม่ทำแบบนั้น เราก็จะไม่ปฏิบัติตามแบบนั้น ก็จะเกิดการแยกแยะได้

เพราะฉะนั้น เราในฐานะที่เป็นผู้มอง ผู้เห็น เราก็ต้องแยกแยะให้ได้ว่า สิ่งเหล่านั้น การทำไม่ดี ก็อย่าไปทำสิ่งเหล่านั้น อันไหนที่เป็นตัวอย่างที่ดีเราก็จำไว้เป็นเยี่ยงเป็นอย่าง อันไหนเป็นสิ่งไม่ดีเราก็เรียนรู้ เรียนจากสภาพความเป็นจริงของสังคมนี่แหละค่ะ เพราะถามว่าบางเรื่องเด็กไม่เคยรู้เลย บางสิ่งบางอย่างเด็กไม่เคยเห็น แต่เอาในสิ่งที่เด็กเห็นอยู่ในทุกๆ วัน ว่าอันไหนมันเป็นปัญหา เป็นกรณีศึกษา แล้วเอาสิ่งเหล่านั้นมาพูดมาคุยกัน มันก็เกิดการเรียนรู้ว่าคราวต่อไป”




ปฏิเสธไม่ได้ว่า ใครหลายคนอาจจะคิดว่าภาพลักษณ์ความเป็นครูจะดูแย่ลงตามไปด้วย แต่ในทางกลับกันอาจารย์มองว่าขึ้นอยู่กับคนในสังคมมากกว่าว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องไหนมากกว่ากัน

“มันก็ขึ้นอยู่กับคนในสังคมค่ะ ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับเรื่องไหน มันมีเรื่องอื่นที่น่าให้ความสนใจมากกกว่านี้มั้ย มันก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะให้ความสำคัญ เพราะแต่ละครอบครัวให้ความสำคัญให้คุณค่าในชีวิตไม่เหมือนกัน เช่น ครอบครัวนี้ให้ความสำคัญในเรื่องการเรียน ครอบครัวนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องเงิน ครอบครัวนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องความซื่อสัตย์ ก็แล้วแต่ว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องไหน เขาก็จะให้คุณค่ากับเรื่องนั้น

เพราะฉะนั้น มันก็จะมีความหลากหลาย สิ่งสำคัญก็คือเราอย่าเพิ่งไปตัดสิน อย่าเพิ่งไปประเมินเพราะเรายังไม่ทราบเหตุผลที่แท้แน่จริง เพราะมันอาจจะมีนัยสำคัญของมันเยอะแยะที่แอบแฝงอยู่ เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ สิ่งที่เราทุกข์อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น ตราบใดที่เราไม่รู้เหตุผลการกระทำของใครอย่าเพิ่งไปตัดสินและประเมินคุณค่า เพราะคนเราไม่ชอบการตัดสินใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราคิด”

ต่อข้อซักถามที่ว่า การบรรจุครูใหม่ต้องตรวจสอบพฤติกรรมอย่างเคร่งครัดหรือไม่ เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

“ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ คนที่จะสอบบรรจุเข้ามาได้ก็ต้องดูหมดค่ะ ก็มีทั้งการสอบสัมภาษณ์ สอบข้อเขียน มีประวัติ มีผลงาน มีอะไรหลายๆ อย่าง มันก็มีมาตรฐานที่จะสอบคัดเลือกอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ มันตามมาอีก มันก็เป็นเรื่องที่อาจจะไม่รู้ว่ามันมาจากสันดานดั้งเดิมหรือเปล่ามันก็ต้องว่ากันไป เพราะถามว่า 24 ชั่วโมง คนเรายังทำอะไรได้ไม่เท่ากันเลย ได้ไม่เหมือนกันเลย เพราะฉะนั้น ก็เป็นเรื่องปกติค่ะอย่าไปคิดมาก”

ทุกเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันคือประสบการณ์ที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่โง่และอย่าไว้วางใจใคร ครูผู้บุกเบิกการสอนเพศศึกษาแนวใหม่ กล่าวทิ้งท้าย

“ถ้าเมื่อไหร่ที่เราถามตัวเองดีๆ ในทุกครั้ง มันหมายถึงว่าเราต้องกลับมาตั้งสติว่าอะไรเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ทุกเหตุการณ์บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวไม่ดี เราสามารถที่จะแยกแยะได้ทั้งหมดค่ะ เวลาเรามองเราต้องมองในภาพองค์รวม ในความรู้สึกของครู คิดว่าทุกเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน เป็นประสบการณ์ที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้และคุณแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไร เวลาจะทำอะไรทุกอย่างเราต้องนึกถึงความปลอดภัยเบื้องต้นไว้ก่อน สิ่งสำคัญก็คือต้องไม่โง่ มันต้องรู้จักเท่าทันและ อย่าไว้วางใจใครง่ายๆ”

ข่าวโดยASTV ผู้จัดการLive
ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต, คุณระทวย ระทมจิต สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น