xs
xsm
sm
md
lg

เจาะประเด็น 'ผิวขาวออร่า..ด้วยไฮเตอร์' ครีมกิโล(ซักฟอก)หนังกำพร้า!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เบื้องลึกอันเน่าเฟะของ 'ครีมกิโล' อวดอ้างสรรพคุณ 'ขาวใส' ถูกแชร์สะพัดบนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนผสมอันตรายที่เป็นพิษเป็นภัยต่อร่างกาย อย่างสารฟอกขาวที่มีการนำ 'ไฮเตอร์' น้ำยาฟอกผ้าขาว หรือ 'วิกซอล' น้ำยาขจัดคราบ มาใช้เป็นส่วนประกอบสร้างความขาวเปล่งประกาย ตกเป็นประเด็นเก่าเล่าใหม่ที่ถูกนำมาถกเถียงใหม่เป็นระลอก

แน่นอนว่า การที่ผู้ประสงค์ดีแชร์ข้อมูลลับเตือนภัยสาธารณชนบนโลกออนไลน์ เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหลายท่านยับยั้งชั่งใจ เกิดการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนก่อนควักเงินซื้อเครื่องสำอางประทินผิว จำพวกครีมกิโลไร้มาตรฐาน ที่วางขายเกลื่อนทั่วไปโดยเฉพาะในอินเทอร์เน็ตแฝงโฆษณาชวนเชื่ออวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ที่ตกเป็น 'เหยื่อความสวย' ไม่น้อยเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ไม่สู้ดีผลพวงจากการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารอันตราย

สูตรลับครีมกิโล
ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Live ติดต่อไปยังผู้คลุกคลีอยู่ในวงการควบคุมมาตรฐานเครื่องสำอาง ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สอบถามในประเด็นข่าวลือสะพัดโลกออนไลน์ที่ยังคงเป็นปริศนาไร้หลักฐานยืนยันมาหลายมาปี ครีมกิโลจำพวกโอ้อวดสรรพคุณ ขาวภาพใน 3 วัน 7 วัน มีส่วนผสมของสารจำพวกไฮเตอร์, วิกซอล ฯลฯ จริงหรือไม่

“ท่าทางมันจะกัดผิวหน้าเสียมากกว่า มันไม่น่าจะมีฤทธิ์ทำให้เซลล์มีอายุมากผลัดออก ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะเป็นสารเคมีทำความสะอาดเครื่องครัว ห้องน้ำ เสื้อผ้า ซึ่งผิวหน้าเรามันไม่สามารถทนฤทธิ์พวกนี้ได้อยู่แล้ว ถือว่าเป็นกรดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง

“ฉะนั้น พวกนี้มันไม่น่าใช่ส่วนผสม เพราะว่าเป็นกรดค่อนข้างจะรุนแรงไง คือถ้าเกิดใส่ลงไปผิวหน้าจะระคายเคือง ผื่นขึ้นแดงเสียเปล่าๆ โดยส่วนใหญ่ที่มีการใช้เป็นส่วนผสมแล้วมีผลในเรื่องของการทำให้เซลล์ผิวผิวหน้ามันผลัด คล้ายๆ ลอกเอาผิวหน้าออก ก็จะเป็นกรดผลไม้เสียมากกว่าน่ะ”

กลายๆ ว่าทาง อย. ไม่เคยตรวจพบสารปนเปื้อน อย่างพวกไฮเตอร์หรือวิกซอลในเนื้อครีมเครื่องสำอาง ขณะที่แหล่งข่าวในแวดวงสารธารณสุขให้ข้อมูลว่า ประเด็นการนำไฮเตอร์มาเป็นส่วนผสมของครีมกิโลนั้นเป็นเรื่องที่มีการพูดถึงอย่างไม่มีมูล

ทว่า กลุ่มผู้ผลิตครีมกิโลนอกรีดมักนิยมใช้สารอันตราย 3 ชนิดดังต่อไปนี้ ซึ่งขณะนี้ทาง อย. สั่งห้ามใช้เป็นส่วนผสมเด็ดขาด ภก.ประพนธ์ อธิบาย

“เท่าที่เคยมีการส่งตรวจแล้วสารที่เรามักพบและก่อให้เกิดสรรพคุณแบบนี้มี 2 - 3 ตัว คือ ปรอทแอมโมเนีย, ฮโดรควิโนน และวิตามินเอ เป็นสารห้ามใช้แล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังพบว่าในตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ไม่ได้จดแจ้งก็มีการใช้สารเหล่านี้อยู่ แต่กรณีเครื่องสำอางที่ใช้สรรพคุณลักษณะคล้ายๆ ลอกเซลล์ผิวหนังด้านบนออก โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นกรดผลไม้เสียมากกว่าที่จะใส ซึ่งจริงๆ แล้วในเครื่องสำอางอนุญาตให้ใช้นะ เพียงแต่ว่าผลจะไม่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรงเหมือน 3 ตัวที่กล่าวมา นั้นเป็นสารเคมีเลย”

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เหมารวมว่าครีมกิโลทุกในตลาดเป็นครีมไร้มาตรฐานไม่ดีไปเสียหมด เพราะผู้ผลิตผู้ประกอบการที่มีจริยธรรมไม่เอาเปรียบผู้บริโภคก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ในส่วนของคุณภาพหรือสรรพคุณต้องยอมรับว่า ของดีราคาถูกบนโลกนี้ไม่มีหรอก

ผ่าน อย. เรื่องกล้วยๆ
เครื่องสำอางบางตัวได้รัยมาตรฐานการรองรับจาก อย. ใช่ว่าจะเป็นมิตรต่อผู้บริโภค ภก.ประพนธ์ เปิดเผยช่องโหว่ที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการปฏิบัติงานของทาง อย.

“ตัวเครื่องสำอางเนี่ย ในเรื่องขั้นตอนการขออนุญาตขอเลขที่จดแจ้งมันขอไม่ยาก คือเดี๋ยวยื่นขอในระบบอินเทอร์เน็ตสามารถได้ในวันนั้นเลย ซึ่งถ้าเกิดมีการทำเพื่อจำหน่าย ก็ควรจะมีการขออนุญาตให้ถูกต้องซึ่งขั้นตอนก็จะให้ดูเรื่องส่วนประกอบ ซึ่งระบบอัตโนมัติจะเช็กอยู่แล้วว่าสูตรที่ใส่มามันมีสารที่เป็นอันตรายหรือไม่ ถ้าระบบเช็กแล้วไม่มีสารอันตรายอยู่ระบบก็จะเเจนเนอเรทเลขให้เลย”

เท่ากับว่า ผู้ขอจดอนุญาตอาจกรอกข้อมูลเท็จ กรอกส่วนผสมให้ผ่าน อย. แต่ขั้นตอนการผลิตจริงอาจผสมอย่างอื่นก็มีความเป็นไปได้ ภก.ประพนธ์ กล่าว

“เนื่องจากตรงนี้ก็กลับมาที่ผู้ค้าเองต้องมีจรรยาบรรณด้วย เพราะทางราชการเองก็มีขั้นตอนการตรวจสอบหลังจากที่คุณมาจดแจ้งแล้ว สมมุติว่าจดแจ้งแล้วไม่เป็นความจริงไปแอบใส่สารห้ามใช้ เราก็จะดำเนินคดีและเพิกถอนใบรับแจ้ง”

จะว่าไป การเป็นเจ้าของแบรนด์ครีมกิโลนั้นไม่ยากเลย เพราะมีสูตรสำเร็จอยู่ในอินเทอร์เน็ตมากมาย สามารถหาซื้อส่วนผสมได้ตามร้านขายสารเคมีทั่วไป ซึ่งส่วนผสมหลักนั้นมีแม่แบบไม่ต่างกัน “ตรงนี้สูตรมันเป็นหลักการโดยทั่วไปอยู่แล้ว หรือว่าในตำราเรียนมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับภาคชีวิตเภสัช หรือวิทยาศาสตร์ที่เขามีวิชาด้านเครื่องสำอาง ก็มี”

ในส่วนของบทลงโทษตามกฎหมายนั้นต่างกันไป เขายกตัวอย่าง ผลิตขายไม่มีฉลากภาษไทย ไม่มีเลขจดแจ้ง ปรับไม่เกิน 30,000 บาท, ใส่สารห้ามใช้ ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีโทษจำคุก 5 ปี, โฆษณาเอาเปรียบผู้บริโภคทาแล้วขาวภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม แม้ข่าวคราวแง่ลบของครีมกิโลถูกแฉออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่คนไทยจำนวนหนึ่งก็ไม่ได้เกรงกลัวต่อภัยเงียบที่จะตามมา ภก.ประพนธ์ เปิดเผยว่า การที่จะตัดสินว่าครีมกิโลนั้นอันตรายหรือเปล่า ต้องตรวจสอบส่วนผสมของเนื้อครีมเป็นรายๆ ไป

“มันต้องดูสูตรส่วนประกอบ เพราะว่าเราบอกไม่ได้ว่าตัวครีมกิโลสูตรจดประกอบมันมีสารห้ามใช้หรือไม่ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นไม่แนะนำให้ซื้อมาใช้”

อยากขาว ฉันผิดตรงไหน?
เรื่องของผิวพรรณเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ ยกตัวอย่าง นำครีมกิโลโอ้อวดสรรพคุณขาววิ้งไปให้พวกนิโกรใช้ก็ใช่ว่าสีผิวเขาจะเปลี่ยนขึ้นมาได้ ภก.ประพนธ์ เปรียบเปรยพร้อมอธิบาย

“โดยหลักแล้วเครื่องสำอางเราต้องระลึกว่าไว้เสมอ มันเป็นสิ่งที่ใช้ทำความสะอาดและก็เพื่อความสวยงามเท่านั้น กรณีเครื่องสำอางที่มาอ้างว่าใช้สำหรับทำหน้าขาวเปล่งปลั่งภายใน 7-10 วัน ต้องพึงระวังไว้ว่าข้อความอาจจะเกินความเป็นจริงไปเพราะว่าโดนปกผิวหน้าหรือผิวหนัง มันจะมีเซลล์สร้างเม็ดสีที่เป็นกรรมพันธุ์อยู่แล้ว เราไม่สามารถสร้างเม็ดสีที่จะเปลี่ยนสีผิวของเราได้อย่างถาวร คือเครื่องสำอางบางอย่างที่กล่าวอ้างว่าจะทำให้เซล์ลผิวชั้นนอกหลุดไปก็ตามที มันก็จะทำให้เซลล์ผิวหนังชั้นถัดมาแทนทีก็เป็นสีเดิมนั้นแหละ คล้ายๆ เราขัดขี้ไคลชั้นบนออกไป”

ภก.ประพนธ์ กล่าวถึงทัศนคติของกลุ่มผู้บริโภคในไทย “ตอนนี้เทรนด์มันคือต้องหน้าเรียวเหมือนเกาหลีและก็ขาว ตรงนี้เป็นเรื่องของความเชื่อ และพฤติกรรมความชอบในแต่ละยุค ในขณะนี้ผู้ขายเขาจับจุดพฤติกรรมของผู้บริโภคได้”

ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่ง ครีมทาหน้าทาตัวสรรพคุณเพื่อความขาวไม่ใช่ปัจจัยแรกที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีผิวให้เปล่งปลั่งขึ้น ประเด็นสำคัญคือเรื่องของการดูแลตัวเอง หมั่นทำความสะอาดผิวพรรณ กำจัดอะไรที่มันเป็นปัจจัยเสี่ยง ก่อนที่จะไปใช้พวกสารเคมี หรือเครื่องสำอาง

ยกตัวอย่าง เราต้องดูว่าเราอยู่ในภาวะเสี่ยงที่ทำให้ตัวสีผิวคล้ำขึ้นไหม มันจะดำไหม หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ความเครียดทำผิดหนังขาดน้ำขาดนวล หรือตากแดดควรมีอะไรปิดบังผิวหนัง หรือทาครีมกันแดด ดื่มน้ำ วันละ8 แก้ว เพื่อคืนความสดชื่นให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าเครียด และกินอาหารให้ครบ 5 หมู่

รองเลขาธิการ อย. ทิ้งท้ายถึงผู้บริโภคในการเลือกซื้อเครื่องประทินผิว 1.เลือกซื้อเครื่องสำอางจากร้านที่มีหลักแหล่ง ไม่ควรซื้อจากอินเทอร์เน็ต หรือตามตลาดนัดแผงลอย 2.ตรวจสอบเลยจดแจ้งเครื่องสำอาง 10 หลัก 3.สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงเลขจดแจ้งได้ทางเว็บไซต์ หรือแอปฯ อย. 4. ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ 5.หากมีปัญหาสามารถเข้าเรียนได้ที่สาธารณะสุขจังหวัด และทาง อย. หรือโทร 1556
….................

ข่าวโดย Astv ผู้จัดการ Live
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น