การโจรกรรมครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกจับตามอง กรณี 'พระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง' ของไทยถูกโจรกรรมไปจากพิพิธภัณฑ์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หายไปพร้อมงานศิลปะรวม15 ชิ้น พระมหาพิชัยมงกุฎจำลองนั้นทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างไร ที่นี่มีคำตอบ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 มี.ค. เหตุโจรกรรมโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์จีน ในพระราชวังฟงแตนโบล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แพร่สพัดไปทั่วโลก กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่ามีโบราณวัตถุถูกโจรกรรมทั้งสิ้น 15 ชิ้น หนึ่งในนั้นคือ 'พระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง' ของไทยที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) มอบให้กับกษัตริย์นโปเลียนที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2404
ด้าน วีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวหลังทราบเหตุดังกล่าว “เป็นที่น่าเสียดายเพราะพระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง ถือเป็นเครื่องมงคลราชบรรณาการ อันเป็นโบราณวัตถุที่ประเมินค่ามิได้ ทำจากทองคำแท้ เป็นมงกุฎทองประดับเพชร 233 เม็ด ทับทิม 2,298 เม็ด มรกต 46 เม็ด และไข่มุก 9 เม็ด ส่วนเรื่องของการติดตามและดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ถือเป็นเรื่องของทางการฝรั่งเศส”
'พระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง' ถือเป็น 'เครื่องมงคลราชบรรณาการ' วีระ อธิบายว่าคำนี้มีความหมายต่างจาก ' เครื่องราชบรรณาการ' การเติมคำว่า 'มงคล' แทรกลงไปในคำว่าเครื่องราชบรรณาการ มีนัยแฝงว่าพระเจ้ากรุงสยาม มีสถานะเทียบเท่ากับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เท่ากับว่า 'เครื่องมงคลราชบรรณาการ' เป็นของขวัญแก่มิตรประเทศ แสดงเกียรติยศเปรียบเสมอกับระหว่างราชสำนักตะวันตกกับตะวันออก ไม่ใช่การโอนอ่อนยอมรับอำนาจเป็นเมืองขึ้นเหมือนการส่งเครื่องบรรณาการ เปรียบได้กับการแสดงเกียรติยศของกษัตริย์ทั้งสองซีกโลก ซึ่งถือเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าระดับมรดกศิลป์ของชาติ หรืออาจจะของโลกที่ยากเกินการประเมินค่า
ภายหลังพระมหาพิชัยมงกุฎจำลองถูกโจรกรรมมีผู้คนในแวดวงศิลปะออกมาให้ความรู้ถึงปูมหลังทางประวัติศาสตร์ไม่น้อย เช่นเดียวกับ กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการต่างประเทศและกีฬา หนังสือพิมพ์ M2F โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Kornkit Disthan ถึงเรื่องราวของคณะราชทูตไทยที่เดินทางไปถวายเครื่องมงคลราชบรรณาการ พร้อมภาพวาดจากจิตรกรฝีมือดีผู้ตวัดพู่กันบันทึกเหตุการณ์สำคัญ ความว่า
“วันนี้ (2 มีนาคม 2558) มีข่าวการโจรกรรมศิลปวัตถุล้ำค่าในพระราชวังฟงแตนโบล ชานกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในสิ่งของที่ถูกขโมยไปคือ พระมหาพิชัยมงกุฏองค์จำลอง ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงส่งถวายเป็นเครื่องราชบรรณาการแด่จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส เมื่อพ.ศ. 2404 โดยผู้ถวายพระมงกุฏพร้อมด้วยเครื่องราชูปโภค คือคณะราชทูตนำโดยเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา (แพ บุนนาค)
เมื่อพูดถึงคณะราชทูตชุดนี้ นอกจากพระมหามงกุฎจำลองและเครื่องราชูปโภค ยังมีอีกหนึ่งประจักษ์พยานที่เหลือไว้ คือภาพการต้อนรับคณะราชทูตสยามโดยพระเจ้านโปเลียนที่ 3
กระทรวงวัง ได้ว่าจ้าง ฌอง-เลอ็ง เฌโฮม (Jean-Léon Gérôme) จิตรกรลือชื่อในยุคนั้นให้วาดภาพที่ระลึก "การต้อนรับคณะราชทูตสยามโดยพระเจ้านโปเลียนที่ 3" (Réception des ambassadeurs siamois par l'empereur Napoléon III ) ณ ท้องพระโรงใหญ่ แห่งพระราชวังฟงแตนโบล เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2404 เฌโฮม ใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าจะวาดภาพนี้แล้วเสร็จ โดยจุดเด่นของภาพนี้อยู่ที่การปะทะสังสรรค์ระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ขณะที่คณะราชทูตสยามหมอบกราบตามธรรมเนียมตนยามเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน ส่วนบรรดาข้าราชบริพารฝรั่งเศสกลับยืนเข้าเฝ้าอย่างลำลองตามปกติวิสัยของตน ภาพนี้ยังสอดคล้องกับแนวการทำงานของ เฌโฮม ที่นิยมวาดภาพในแนวบูรพาคดีนิยม (Orientalism) หรือภาพที่แสดงความลึกลับ น่าค้นหาของโลกตะวันออก ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมกันมากในยุคก่อนศิลปะโมเดิร์น
จุดเด่นอีกประการ ก็คือ ภาพนี้เป็นการรวบรวมภาพเหมือนบุคคลสำคัญในยุคนั้น ที่มีความเหมือนจริงอย่างมาก ทั้งข้าราชการฝรั่งเศส และราชทูตฝ่ายไทย อย่างน้อย 80 ท่าน ที่สามารถระบุตัวตนได้ ไม่แน่ว่า เฌโฮม อาจวาดขึ้นจากภาพถ่ายราชทูตที่ถ่ายโดย กัสปาร์ด-เฟลิกซ์ ตูร์นาคง (Gaspard-Félix Tournachon) ช่างภาพเอกอุในยุคนั้น แต่ก็ยังมีช่างภาพอีกท่านหนึ่งถ่ายภาพคณะราชทูตไว้อีกชุด คือ ฌัก-ฟิลิป ปอต์โต (Jacques-Philippe Potteau) ซึ่งผมเคยลงภาพชุดนี้ไปแล้ว (https://www.facebook.com/kornkitd/posts/10152529612951954?pnref=story)
ปัจจุบันภาพการต้อนรับคณะราชทูตสยามโดยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 จัดแสดงที่พระราชวังแวร์ซาย ซึ่งผมซูมจับออกมาเป็นส่วนๆ เพื่อจะได้ชมกันชัดๆ โดยเฉพาะส่วนของคณะราชทูตสยาม”
อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามกันต่อไปว่าทางฝรั่งเศสจะสามารถนำ พระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง และโบราณวัตถุที่ถูกโจรกรรมกว่า15 ชิ้น กลับคืนมาได้หรือไม่? หรือจะหลงเหลือไว้เพียงภาพจิตรกรรมอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
…...............................
ข่าวโดย Astv ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบ : FB@Kornkit Disthan
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 มี.ค. เหตุโจรกรรมโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์จีน ในพระราชวังฟงแตนโบล กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แพร่สพัดไปทั่วโลก กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่ามีโบราณวัตถุถูกโจรกรรมทั้งสิ้น 15 ชิ้น หนึ่งในนั้นคือ 'พระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง' ของไทยที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) มอบให้กับกษัตริย์นโปเลียนที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2404
ด้าน วีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวหลังทราบเหตุดังกล่าว “เป็นที่น่าเสียดายเพราะพระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง ถือเป็นเครื่องมงคลราชบรรณาการ อันเป็นโบราณวัตถุที่ประเมินค่ามิได้ ทำจากทองคำแท้ เป็นมงกุฎทองประดับเพชร 233 เม็ด ทับทิม 2,298 เม็ด มรกต 46 เม็ด และไข่มุก 9 เม็ด ส่วนเรื่องของการติดตามและดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ถือเป็นเรื่องของทางการฝรั่งเศส”
'พระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง' ถือเป็น 'เครื่องมงคลราชบรรณาการ' วีระ อธิบายว่าคำนี้มีความหมายต่างจาก ' เครื่องราชบรรณาการ' การเติมคำว่า 'มงคล' แทรกลงไปในคำว่าเครื่องราชบรรณาการ มีนัยแฝงว่าพระเจ้ากรุงสยาม มีสถานะเทียบเท่ากับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศส เท่ากับว่า 'เครื่องมงคลราชบรรณาการ' เป็นของขวัญแก่มิตรประเทศ แสดงเกียรติยศเปรียบเสมอกับระหว่างราชสำนักตะวันตกกับตะวันออก ไม่ใช่การโอนอ่อนยอมรับอำนาจเป็นเมืองขึ้นเหมือนการส่งเครื่องบรรณาการ เปรียบได้กับการแสดงเกียรติยศของกษัตริย์ทั้งสองซีกโลก ซึ่งถือเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าระดับมรดกศิลป์ของชาติ หรืออาจจะของโลกที่ยากเกินการประเมินค่า
ภายหลังพระมหาพิชัยมงกุฎจำลองถูกโจรกรรมมีผู้คนในแวดวงศิลปะออกมาให้ความรู้ถึงปูมหลังทางประวัติศาสตร์ไม่น้อย เช่นเดียวกับ กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการต่างประเทศและกีฬา หนังสือพิมพ์ M2F โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Kornkit Disthan ถึงเรื่องราวของคณะราชทูตไทยที่เดินทางไปถวายเครื่องมงคลราชบรรณาการ พร้อมภาพวาดจากจิตรกรฝีมือดีผู้ตวัดพู่กันบันทึกเหตุการณ์สำคัญ ความว่า
“วันนี้ (2 มีนาคม 2558) มีข่าวการโจรกรรมศิลปวัตถุล้ำค่าในพระราชวังฟงแตนโบล ชานกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในสิ่งของที่ถูกขโมยไปคือ พระมหาพิชัยมงกุฏองค์จำลอง ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงส่งถวายเป็นเครื่องราชบรรณาการแด่จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส เมื่อพ.ศ. 2404 โดยผู้ถวายพระมงกุฏพร้อมด้วยเครื่องราชูปโภค คือคณะราชทูตนำโดยเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา (แพ บุนนาค)
เมื่อพูดถึงคณะราชทูตชุดนี้ นอกจากพระมหามงกุฎจำลองและเครื่องราชูปโภค ยังมีอีกหนึ่งประจักษ์พยานที่เหลือไว้ คือภาพการต้อนรับคณะราชทูตสยามโดยพระเจ้านโปเลียนที่ 3
กระทรวงวัง ได้ว่าจ้าง ฌอง-เลอ็ง เฌโฮม (Jean-Léon Gérôme) จิตรกรลือชื่อในยุคนั้นให้วาดภาพที่ระลึก "การต้อนรับคณะราชทูตสยามโดยพระเจ้านโปเลียนที่ 3" (Réception des ambassadeurs siamois par l'empereur Napoléon III ) ณ ท้องพระโรงใหญ่ แห่งพระราชวังฟงแตนโบล เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2404 เฌโฮม ใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าจะวาดภาพนี้แล้วเสร็จ โดยจุดเด่นของภาพนี้อยู่ที่การปะทะสังสรรค์ระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ขณะที่คณะราชทูตสยามหมอบกราบตามธรรมเนียมตนยามเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน ส่วนบรรดาข้าราชบริพารฝรั่งเศสกลับยืนเข้าเฝ้าอย่างลำลองตามปกติวิสัยของตน ภาพนี้ยังสอดคล้องกับแนวการทำงานของ เฌโฮม ที่นิยมวาดภาพในแนวบูรพาคดีนิยม (Orientalism) หรือภาพที่แสดงความลึกลับ น่าค้นหาของโลกตะวันออก ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมกันมากในยุคก่อนศิลปะโมเดิร์น
จุดเด่นอีกประการ ก็คือ ภาพนี้เป็นการรวบรวมภาพเหมือนบุคคลสำคัญในยุคนั้น ที่มีความเหมือนจริงอย่างมาก ทั้งข้าราชการฝรั่งเศส และราชทูตฝ่ายไทย อย่างน้อย 80 ท่าน ที่สามารถระบุตัวตนได้ ไม่แน่ว่า เฌโฮม อาจวาดขึ้นจากภาพถ่ายราชทูตที่ถ่ายโดย กัสปาร์ด-เฟลิกซ์ ตูร์นาคง (Gaspard-Félix Tournachon) ช่างภาพเอกอุในยุคนั้น แต่ก็ยังมีช่างภาพอีกท่านหนึ่งถ่ายภาพคณะราชทูตไว้อีกชุด คือ ฌัก-ฟิลิป ปอต์โต (Jacques-Philippe Potteau) ซึ่งผมเคยลงภาพชุดนี้ไปแล้ว (https://www.facebook.com/kornkitd/posts/10152529612951954?pnref=story)
ปัจจุบันภาพการต้อนรับคณะราชทูตสยามโดยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 จัดแสดงที่พระราชวังแวร์ซาย ซึ่งผมซูมจับออกมาเป็นส่วนๆ เพื่อจะได้ชมกันชัดๆ โดยเฉพาะส่วนของคณะราชทูตสยาม”
อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามกันต่อไปว่าทางฝรั่งเศสจะสามารถนำ พระมหาพิชัยมงกุฎจำลอง และโบราณวัตถุที่ถูกโจรกรรมกว่า15 ชิ้น กลับคืนมาได้หรือไม่? หรือจะหลงเหลือไว้เพียงภาพจิตรกรรมอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
…...............................
ข่าวโดย Astv ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบ : FB@Kornkit Disthan
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754