ข่าวการตายเพราะเรื่องรักๆ หรือคนรัก ยังคงมีให้เห็น และถี่ขึ้นเรื่อยๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ล่าสุด อาจารย์สาวจาก ม.มหิดล ว่าที่ด็อกเตอร์จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ถูกแฟนหนุ่มยิงดับในสหรัฐฯ ก่อนจะลั่นกระสุนปลิดชีพตัวเอง กลายเป็นอีกข่าวสุดสะเทือนใจที่ชวนให้ตั้งคำถามถึงความรักของคนยุคนี้ที่เปลี่ยนจาก 'รักกลายเป็นร้าย' จนขาดสติ เลือกจบปัญหาด้วยการฆ่าเขา ฆ่าเธอ และฆ่าตัวเองตายตาม
รักขาดสติ? ดับ 2 คู่รักคนเก่ง
เป็นข่าวอันน่าเศร้าสลด เมื่อสื่อต่างประเทศรายงานเหตุฆาตกรรม น.ส.ชลาลัย หรือ จิ๊บ อาจารย์สาวจาก ม.มหิดล วัย 26 ปีซึ่งกำลังศึกษาระดับปริญญาเอกอยู่ที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน รัฐเพนซิลเวเนีย ถูกแฟนหนุ่ม (ไบรอัน สปริงเกอร์) วัย 29 ปี สังหารโหดด้วยกระสุนปืนก่อนจะฆ่าตัวตายตาม
สาเหตุที่ทำให้ตำรวจเชื่อว่า สปริงเกอร์ น่าจะลงมือยิงแฟนสาวก่อนที่จะปลิดชีพตนเองนั้น สืบเนื่องจาก 2 วันก่อนเกิดเหตุ แฟนหนุ่มของเธอได้ไปซื้อปืนกระบอกหนึ่งมาจากห้างค้าอาวุธ ไอรอน ซีตี อาร์เมอรี (Iron City Armory) ที่เขตบริดจ์วิลล์ หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจก็ได้รับแจ้งจากผู้จัดการอพาร์ตเมนต์ เชอร์วูด ทาวเวอร์ส บนถนนนอร์ธเครก ให้เข้าไปช่วยตรวจสอบห้องพักดังกล่าว เมื่อเข้าไปภายในห้องก็พบสปริงเกอร์ นอนเสียชีวิตโดยมีรอยกระสุนปืนเจาะที่ศีรษะ ส่วนน.ส.ชลาลัย ถูกยิงที่ศีรษะ และหน้าอกหลายนัด
ทางด้านเหตุผลของการลงมือสังหารแฟนสาวในครั้งนี้ ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด แต่จากคำบอกเล่าของเพื่อนฝูง พบว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ระหองระแหงมาได้พักใหญ่แล้ว ที่น่าเสียดายก็คือ ทั้งคู่เป็นคนเก่ง จากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.ชลาลัย เป็นลูกสาวของนายยุทธกร ไชยหิรัญการ อดีตผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.).ได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล
ก่อนจะได้ทุนไปศึกษาต่อในระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วน สปริงเกอร์ แฟนหนุ่มเรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ในปี 2007 และทำงานอยู่ที่สถาบันวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของมหาวิทยาลัย คาร์เนกี เมลลอน
แรงรักมรณะ เกิดเกลื่อน ถี่ขึ้น!
จากกรณีดังกล่าว แม้จะยังไม่รู้ถึงสาเหตุการตาย แต่เรื่องการตายเพราะเรื่องรักๆ หรือคนรัก ยังคงเกิดเกลื่อน และถี่ขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย เรื่องนี้ นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินรีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมนต่อมไร้ท่อและการเจริญพันธุ์ ในฐานะผู้เป็นคลินิกแห่งรักให้แก่ใครหลายๆ คน มองเรื่องรักๆ ที่นำไปสู่ความตายไว้อย่างน่าสนใจ
"ปัจจุบันความรักมันไปผูกพันกับปัญหา แล้วความรักที่ผูกพันกับปัญหาก็เกิดจากการครอบครอง ในอดีตจะเห็นว่าปัญหาแบบนี้มันน้อย เพราะรักแบบไม่ครอบครอง รักแล้วไม่มีเซ็กซ์ หรือรักแล้วไม่ได้มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แต่ปัจจุบันคนเรารักกันง่าย รักแล้วต้องเป็นของกันและกัน พอเป็นของกันและกัน ตอนจะเลิกก็ไม่ยอมให้ใครได้ของเรา มันก็เลยเกิดปัญหาซึมเศร้า ทำร้ายตัวเอง จนทำร้ายอีกคน"
ที่เป็นเช่นนี้ นพ.พันธ์ศักดิ์ ขยายความให้เห็นว่าถึงปัจจัยหลักๆ ก็คือ สภาพสังคม และแนวการสอนที่เปลี่ยนไป
"สังคมเราเปลี่ยนแปลงไปมาก จากสังคมอัตนัยมาเป็นสังคมปรนัย อย่างในอดีตการเรียนการสอนจะเป็นลักษณะอัตนัย คือหยิบยกคำถามมาให้ลูกศิษย์หาเหตุหาผลว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ทำไมเป็นแบบนี้ แต่ปัจจุบันต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียว ดังนั้น คนก็เลยไม่มีใครคิดว่าตัวเองผิด เกิดเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยแนวคิด 'ฉันถูกเธอผิด'
พอมาโยงเข้ากับความรัก สามารถขยายให้เห็นภาพชัดๆ ได้ว่า ฉันรักเธอ เธอก็ต้องรักฉันสิ ถ้าเธอไม่รักฉัน เธอผิดนะ ไม่ใช่ฉันผิด สุดท้ายเกิดเป็นแรงรัก แรงแค้น อีกอย่าง เราไม่ได้เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ แต่เราเรียนรู้ที่จะใช้อารมณ์ ขณะเดียวกัน ส่วนใหญ่ดูหนังดูละครกันเยอะ คิดว่าในละครทำได้ ฉันก็น่าจะลองดูจนลืมไปว่ามันคือหนัง มันคือละคร" คุณหมอที่ปรึกษาเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวเผย
นอกจากนั้น คุณหมอคนเดียวกัน ยังมองด้วยความเป็นห่วงถึงความอดทนของคนยุคนี้ เพราะมีอยู่น้อยเหลือเกิน โดยเฉพาะความอดทนต่อความผิดหวังต่างๆ
"อย่างเรื่องของความรัก พอมันไม่เป็นไปตามที่หวัง ผลที่เกิดตามมา 3 อย่างก็คือ ผิดหวัง คิดว่าตัวเองไร้คุณค่าก็เลยฆ่าตัวเองตาย หรือบางคนเกิดความแค้นเคืองว่าทำไมอีกคนไม่รักเรา ก็เลยไปฆ่าเขาตาย หรือฆ่าเขาหรือเธอตายแล้ว ชีวิตนี้คงอยู่ต่อไปไม่ได้ สุดท้ายก็เลยฆ่าตัวเองตายตาม" นพ.พันธ์ศักดิ์บอก ก่อนจะฝากทิ้งท้ายไว้ให้คิด
"เมื่อความรักเกิดขึ้น ใครที่เป็นคู่บุญคู่วาสนา เขาหรือเธอก็จะอยู่กับคุณเสมอ ส่วนใครที่ไม่ใช่ รั้งให้ตาย สุดท้ายเขาหรือเธอก็ไปอยู่ดี หากมีรักก็ควรดูแลคนรักให้ดีๆ ชีวิตก็จะมีความสุข แต่ถ้าใครถามต่อว่า ระหว่างคนที่เขารักเรา กับคนที่เรารักเขา จะเลือกใครดี รักคนที่รักเราดีกว่า เพราะคนที่เรารักบางครั้งก็ทำให้เราเจ็บช้ำดวงใจ
ดังนั้น คิดจะรักก็ต้องมีสติ ถ้าเขาไม่รักเรา ถามว่าจำเป็นไหมที่จะต้องฆ่าตัวตาย หรือฆ่าคนที่เรารักให้ตายไปต่อหน้าต่อตา ถ้าเกิดเราใช้ปัญญาก็แค่ถอยออกมาตั้งหลัก และมองดูรอบๆ ว่า ยังมีคนที่รักเราอีกตั้งหลายคน โดยเฉพาะตัวเราเองที่ต้องรักให้มากๆ"
ความรัก VS ธรรมะ
ปิดท้ายกับข้อคิดเรื่องความรักในมุมธรรมะ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย เคยเตือนสติคู่รักเอาไว้ว่า อารมณ์อย่างหนึ่งซึ่งควรระมัดระวังอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีความรักก็คือ 'อารมณ์หึงหวง' ซึ่งภาษาพระท่านเรียกว่า 'ภวตัณหา' อันได้แก่ ความรู้สึกว่า คนที่เรารักนั้นเป็น 'สมบัติของเรา' แต่เพียงผู้เดียว โดยลืมนึกถึงความจริงพื้นฐานไปว่า คนที่เรารักนั้นมีความซับซ้อนมากกว่าสมบัติซึ่งเป็นวัตถุสิ่งของ
ทางที่ดี เมื่อเรารักใครสักคน ต้องระลึกอยู่เสมอว่า คนที่เรารักไม่ใช่สมบัติของเราแต่เพียงผู้เดียว แต่เขาก็ยังคงเป็นสมบัติของตัวของเขาเอง ซึ่งเราต้องเคารพ และให้เกียรติเขาด้วย ไม่เช่นนั้น อาจตกเป็นทาสของอารมณ์อย่างชั่ววูบ เช่น ความทะเลาะเบาะแว้ง ความเข้าใจผิดจนนำพาไปสู่ 'ความตาย'ได้
"...เมื่อมีความรักเกิดขึ้นในดวงใจ ก็ควรจะเปิดตาเปิดใจของตัวเองเอาไว้ให้กว้างเสมอ อย่าจมดิ่งลงไปในหลุมดำของความรักจนลืมพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน อนาคต ภาระหน้าที่ ศีลธรรม และสถานภาพทางสังคมของตัวเอง เมื่อตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก ควรหาทางชั่งดูหัวใจและหัวสมองของตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่า สองสิ่งนี้ยังสมดุลกันดีอยู่หรือไม่ อย่าริรักทั้งๆ ที่ยังหลับตา แต่จงรักอย่างลืมตาอยู่เสมอ"
อ่านถึงบรรทัดนี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า คนเราเกือบทุกคนยังคงปรารถนาความรัก หรือคนรัก หากใครก็ตามที่ใช้คำว่า "รัก" ในทางที่ผิด หรือมีความต้องการโดยไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี โปรดเตรียมตัวไว้เลย คุณหรือคู่ของคุณ อาจตกเป็น "เหยื่อแรงรักมรณะ" รายต่อไป
/////////////////////
ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สื่อนอกรายงานข่าว “อ. สาวมหิดล” ถูกแฟนหนุ่มยิงดับในสหรัฐฯ
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754