ภาพแมลงสาบตัวเล็กตัวน้อยในจานอาหารถูกตั้งเป็นกระทู้ในโลกออนไลน์ทวงถามถึงมาตรฐานความสะอาดของโรงอาหารในสถานศึกษา ในหัวข้อกระทู้ “ความสกปรกของโรงอาหาร ม.ดังท่าพระจันทร์แถวท่าพระอาทิตย์” เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นที่วิจารณ์ในโลกออนไลน์กันอย่างมากมาย ล่าสุดทีมงาน ASTV ผู้จัดการ LIVE ลงพื้นที่ตรวจสอบความสะอาด จากเมนูเดียวกับที่เป็นเหตุจนถึงความคิดของผู้ใช้บริการ กระทั่งเจ้าของร้านอาหาร เหตุใดจึงเกิดภาพดังกล่าวขึ้นได้!
ยังไงก็ต้องกิน
ด้วยราคาที่ประหยัด และความสะอาดที่เชื่อถือได้ โรงอาหารตามสถานศึกษาต่างๆ จึงถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลายคน ไม่แปลกหากหลายคนจะหันมาฝากท้องกับโรงอาหารเหล่านี้ ทว่าภาพจากกระทู้ดังในเว็บบอร์ดพันทิปก็ทำให้ความคิดของหลายคนต้องเปลี่ยนไป เมื่อพบสิ่งแปลกปลอมเป็นแมลงสาบตัวเล็กวางปะปนอยู่ในจานอาหาร
แม้จะมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น โรงอาหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ก็ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่เข้ามาใช้บริการ ในโรงอาหารแบบเปิดโล่งที่มีร้านอาหารให้บริการอยู่ 10 ร้านค้าด้วยกัน คละไปด้วยร้านอาหารตามสั่ง ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว เครื่องดื่ม ขนมหวาน จนถึงอาหารสำหรับมุสลิม สภาพของโรงอาหารโดยทั่วไปนั้นมองดูไม่ได้มีความสกปรกมากมาย แต่อาจจะไม่ได้สะอาดเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นพื้นที่เปิดดังนั้นจึงมีบางจุดอย่าง จุดเก็บจาน ทิ้งขยะที่ดูจะมีความสกปรกมากเป็นพิเศษ
ประสิทธิ์ศักดิ์ น้อยเอี่ยม นักศึกษาปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่เข้ามาใช้บริการโรงอาหารของที่นี่ได้ 1 ปีเผยว่า ยังไม่เคยเจอกับตัวเองเหมือนอย่างที่เจ้าของกระทู้เจอ และไม่ได้มีอาการท้องเสียแต่อย่างใด ความสะอาดนั้นแม้จะไม่ได้สะอาดมากมาย แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอใจในการเข้ามาใช้บริการเพราะราคาที่ไม่แพงมาก
ทว่าในส่วนของกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งมีอาคารเรียนอยู่ใกล้ๆ โชโกะ ทานากะ หนึ่งในกลุ่มนักศึกษาเผยว่า เคยเจอฝอยขัดหม้ออยู่ในจาน สำหรับเธอแล้วหากเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันก็อาจให้โอกาสใช้บริการที่นี่อีกครั้ง แต่หากเจออีกก็คงไม่ทานอีกต่อไป
ทางด้านของพิมลพร จิตนฤทธิ์ นักศึกษากลุ่มเดียวกันเผยว่า ที่นี่มีโรงอาหารเพียงแค่ 2 ที่เท่านั้นพร้อมระบุว่าที่นี่คือโรงอาหารที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงน่าจะมาใช้บริการที่นี่โดยเธอเองก็เผยเจอเศษผมในจานอาหาร ตัวเธอเองก็ได้เห็นกระทู้ดังกล่าวแล้วก็พอจะทราบว่าเป็นของร้านไหน ก็เพียงแค่เปลี่ยนร้านทานเท่านั้น ยังคงใช้บริการโรงอาหารที่เดิมอยู่
“เท่าที่ดูภาพในกระทู้ก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นร้านข้าวราดแกง ดูจากสีจานที่ใช้ ข้าวในกระทู้เป็นข้าวกล้อง แต่จริงๆ แล้วเท่าที่เคยกิน อาหารร้านเขาก็ดีและเราก็ยังไม่เคยเจออะไรขนาดนั้นด้วย”
ทว่า วทันยา ประสพรัตน์ อีก 1 นักศึกษาในกลุ่มเดียวกันกลับมองในประเด็นที่ว่ากระทู้ดังกล่าวน่าสงสัย เพราะดูจะเป็นไปได้ยากกับการที่คนๆ หนึ่งจะเจอแมลงสาบถึง 2 ร้านติดกันในการใช้บริการ
“มันจะเป็นไปได้เหรอที่ซื้อร้านนี้ก็เจอ อีกร้านก็เจอ ทำไมคนอื่นไม่เจอ เรายังไม่เคยโชคร้ายเหมือนเจ้าของกระทู้ ถ้ามีจริงๆ ไม่รู้ว่าเราจะได้เห็นมันมั้ย หรือว่าไม่ทันได้เห็นก็กินเข้าไปก่อน (หัวเราะ) เพราะมันตัวเล็กมาก”
ดูเหมือนว่า แม้จะมีข่าวดังกล่าวเป็นประเด็นฉาวแต่หลายคนก็ยังคงตัดสินใจใช้บริการโรงอาหารดังกล่าวต่อไป แต่แน่นอนว่า บางคนก็เจอกับประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป โดยนักศึกษาปริญญาโทท่านหนึ่ง(ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เล่าประสบการณ์ที่ไม่ดีกับร้านอาหารนี้ไว้ว่า รู้สึกแย่มากกับร้านชื่อ ร้านทวนทอง ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ขายส้มตำ ยำทุกประเภท จำได้แม่นว่าได้สั่งยำวุ้นเส้นมากิน พอตักเข้าปากคำแรก รู้สึกว่าเป็นยำที่ไม่มีรสชาติเลย ที่สำคัญคงลืมใส่มะนาวเพราะจืดสนิท
“พอเดินไปถาม เจ้าของร้านก็หยิบจานยำไปให้แม่ครัวแบบสีหน้าไม่พอใจ แต่ที่ตกใจคือ แม่ครัวหยิบทัพพีตักน้ำมะนาวหรือน้ำอะไรไม่ทราบราดลงไปในยำ แล้วหยิบจานยำมาคืน ผลปรากฏการณ์ว่า กินไม่ได้เลย เปรี้ยวมากจนกินไม่ได้ รู้เลยว่า นี่คือการประชดและแสดงความไม่พอใจของแม่ค้า แต่ก็ไม่เป็นไร คิดไว้ว่า เมื่อไร้มารยาทแบบนี้ ก็ไม่ไปกินอีกเลย”
สถานที่ไม่อำนวย
เหตุการณ์ในกระทู้ดังกล่าวนั้น ผู้โพสต์ได้เล่าไว้ว่า
“เริ่มเลยคือ ผมทานข้าวที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัยนี้เป็นประจำ จะเห็นแมลงสาบวิ่งและเดินผ่านแทบทุกร้าน ส่วนตัวผมคิดว่าไม่เป็นไรมันคงไม่มีอะไรเกินเลย ด้วยความที่เร่งรีบในเวลาช่วงพักก่อนเข้าเรียนจึงต้องรีบทานๆเข้าไปโดยไม่สนใจ จนกระทั่งมีวันหนึ่งผมเริ่มสงสัยว่า มันคงมีวัตถุประหลาดในจานอาหารผม อาหารในวันนั้นคือ ข้าวกะเพราไข่เจียว+คอหมูย่างสรุปคือมีแมลงสาบอยู่ในจานจริงๆ ผมจะอ้วกและหมดฟิลลิ่งในการกินมากๆ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้”
ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือสถานที่ที่อาจไม่สะอาดนัก หลังจากทีมงานได้ลงสำรวจก็พบความไม่สะอาดในบางจุด โดยมีจุดทางเดินด้านหลังที่แต่ละร้านจะใช้ร่วมกันซึ่งอาจมีสิ่งสกปรกเกิดขึ้นได้
อิสรีย์ ทองศรี เจ้าของร้านอาหารอินเตอร์ฟู๊ดเริ่มขายอาหารตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่มีการปรับปรุงโรงอาหารใหม่ เผยว่า สถานที่ค่อนข้างไม่สะดวกในการทำความสะอาดเนื่องจากไม่มีรางระบายน้ำที่ปกติจะมีให้ตามโรงอาหารทั่วๆไป
“ในการทำความสะอาดจะยากนิดนึง พื้นเวลาน้ำหกจะลื่นแล้วที่สำคัญคือมันไม่มีรางระบายน้ำ ปกติจะมีท่อน้ำทิ้ง เราก็ต้องมาทำความสะอาดข้างนอก จริงๆมันควรมีท่อดัก”
นอกจากในส่วนครัวเองก็มีส่วนที่ทำให้สกปรกได้ง่ายจากการที่อ่างล้างจานกับเตาอยู่คนละฝั่งของห้องครัว การล้างกระทะจำเป็นต้องโยกผ่านกลางจึงทิ้งเศษขยะไว้มากเกินกว่าปกติ
“ตามครัวโรงแรมเตากับอ่างจะอยู่ใกล้กันสามารถล้างกระทะได้ทันที แต่ที่นี่ต้องโยกไปมามันเลยเกิดเศษขยะทิ้งไว้มากขึ้น”
แต่ที่ผ่านมาการควบคุมความสะอาดภายในโรงอาหารแห่งนี้ก็อยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานตรวจสอบในทุก 6 เดือน หลังจากตรวจสอบก็จะมีการแจ้งผลกับทางมหาวิทยาลัย หลังจากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นทางร้านของเธอก็ได้ถูกเรียกประชุมกับทางมหาวิทยาลัย
“ทางมหาวิทยาลัยก็มีนโยบายที่จะตรวจสอบให้เข้มงวดขึ้น ส่วนเรื่องการสร้างท่อระบายน้ำก็ไม่ได้พูดถึง แต่เท่าที่ทำอยู่เราก็ทำความสะอาดเพิ่มขึ้นแทน ปกติร้านทั่วไปอาจจะทำอาทิตย์ละครั้ง แต่เราต้องขัดล้างน้ำทุกเย็นเพราะมันสกปรกง่าย การเตรียมวัตถุดิบก็ต้องล้างต้มก่อนนำมาทำเป็นอาหารตามสั่ง จริงๆ ที่นี่มีนโยบายจะให้ทำเป็นอาหารปรุงสำเร็จคล้ายข้าวแกง แต่สถานที่มันไม่อำนวย มันเล็กเกินไป ที่ขายอยู่ตอนนี้สถานที่ก็ไม่พอ”
สุ่มตรวจสอบ
หลังจากทีมงานได้ลงสำรวจบริเวณโดยรอบทั้งหมด แน่นอนว่า ยังคงมีคราบสกปรกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้พบเห็นแมลงสาบ นอกจากนี้ทีมงานยังได้ทำการสุ่มซื้ออาหารเพื่อตรวจสอบ ราคาอาหารนั้นอยู่ระหว่าง 30 - 35 บาทเท่านั้น
เริ่มจากเมนูกะเพราไก่กรอบไข่เจียวที่คล้ายกับกะเพราคอหมูย่างไข่เจียวของเจ้าของกระทู้สั่งรับประทาน เมื่อลองเขี่ยดูก็ไม่พบสิ่งแปลกปลอมใดๆ นอกจากนี้ยังมีข้าวแกงจากร้านที่ต้องสงสัยก็ยังไม่พบสิ่งแปลกปลอมเช่นกัน แต่กับข้าวไข่เจียวหมูสับระหว่างรับประทานกลับพบเศษฝอยขัดหม้อเล็กๆ ตกอยู่ในจาน
จนถึงตอนนี้โรงอาหารธรรมศาสตร์ก็ยังคงเป็นที่นิยมของประชาชนและนักศึกษาในการมาใช้บริการกันอยู่เป็นจำนวนมากอย่างเช่นทุกวัน
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
