xs
xsm
sm
md
lg

เปิดประสบการณ์แย่ๆ! ทำไม 'รพ.รัฐ' ถึงทำกับฉันได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดุ ตะคอก ไม่ให้เกียรติ สองมาตรฐาน ไร้หัวใจบริการ...เป็นปัญหาร้องเรียนที่ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง จากความหวังกลายเป็นความผิดหวังเมื่อหมอ พยาบาลพึ่งไม่ได้ ไร้ความรับผิดชอบ จนคนไข้สุดทน! ร้องเรียนออนไลน์ระบายความห่วยต่อการบริการที่แย่จนเสียความรู้สึกถึงขนาดบางคนขอถามด้วยเสียงดังๆ ชัดๆ ผ่านตัวหนังสือว่า "ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำแผลกับผลาญงบหรอคะ"

วิกฤตศรัทธา โรงพยาบาลรัฐ!

ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบการบริการของโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง เพราะถูกตั้งคำถามถึงการบริการอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอ หรือนางพยาบาล รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ส่งผลให้ช่องวางทางความสัมพันธ์ระหว่างคนไข้กับคุณหมอค่อยๆ เปลี่ยนไป จากเป็นมิตรเริ่มไม่ค่อยจะเป็นมิตรต่อกัน


เห็นได้จากการร้องเรียนทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แม้จะเปิดระบบให้กรอกแบบฟอร์มเพื่อยื่นคำร้อง หรือคำขอผ่านเว็บไซต์ แต่ที่น่าสนใจก็คือความคิดเห็น และข้อเสนอแนะด้านล่างที่ผู้ใช้บริการหลายคนได้เข้ามาแสดงความเห็น โดยส่วนมากเป็นโพสต์ร้องเรียนถึงระบบการบริการของโรงพยาบาลรัฐทั้งเรื่องการใช้คำพูด การแสดงพฤติกรรม รวมไปถึงจรรณยาบรรณของแพทย์ และพยาบาล

นี่คือความเห็นยอดนิยมในช่องแสดงความเห็นคิดที่ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ขออนุญาตหยิบยกมานำเสนอต่อเพื่อขยายความให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น

#2 Jirutchaya : 

เรื่องจรรยาบรรณของแพทย์โรงพยาบาลรัฐบาล

เมื่อวันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2556 ดิฉันได้มีนัดกับแพทย์รักษาโรคปอดที่โรงพยาบาลเฉพาะทางของรัฐแห่งหนึ่งในจ.นนทบุรี เมื่อได้เวลาเข้าพบแพทย์ที่คลินิก TB ช่วงเวลา 13.30 น. คุณหมอได้แจ้งค่าใช้จ่ายที่จะทำการรักษาเดือนละ 70,000 บาท ซึ่งดิฉันไม่มีสิทธิ์ประกันสังคมหรือว่าบัตรทอง คุณหมอจึงได้ไปปรึกษากับนายแพทย์ที่อยู่ห้องข้างๆ ที่เดินออกมาสอบถามดิฉันว่า "ใครเป็นสปอนเซอร์จ่ายค่ารักษา"

ดิฉันตอบว่าไม่มีค่ะต้องจ่ายเอง แพทย์คนดังกล่าวกลับหัวเราะอย่างขำขันราวกับว่าเป็นเรื่องตลก ไม่มีแม้กระทั่งคำแนะนำว่าดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดี ซึ่งคนที่เรียนจบถึงขั้นนี้แล้วก็ควรมีจรรยาบรรณที่ดีบ้าง ถึงคนไข้จะไม่มีเงินรักษาก็ควรจะแนะนำหรือทำอะไรที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่หัวเราะคนที่กำลังจะตายด้วยการหัวเราะ และพูดจาเป็นเรื่องสนุกสนานแบบนี้

อยากร้องเรียนให้กรมการแพทย์หรือคนที่เกี่ยวข้อง ช่วยอบรมจรรยาบรรณของแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลรัฐบาลให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่เลือกทำการรักษาแต่คนรวย และเห็นคนจนเป็นตัวตลก เลือกปฏิบัติอย่างกับผู้ป่วยยากไร้ไม่ใช่คน





#24 sasinet :

อยากร้องเรียนค่ะ เรื่องการให้บริการของ แพทย์/พยาบาล/เจ้าหน้าที่รพ.รัฐบาล

- ดิฉันไม่เข้าใจค่ะว่าทำไม 'พยาบาล' สมัยนี้ ชอบดุคนไข้คะ เป็นเพราะอะไร ยิ่งกับคนแก่ด้วยแล้วจะตะคอกทำไมก็ไม่รู้ สงสารคนไข้ค่ะ


พูดกันตามตรงเลยนะคะ ถ้าคุณไม่เต็มใจทำงานก็ลาออกไปสิ เงินเดือนของพวกคุณก็ภาษีของประชาชนน่าจะทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้นะ ถ้าจะแสดงกิริยา มารยาท ทรามๆ แบบนี้ แล้วพวกคุณเลือกที่เรียนพยาบาล มาเรียนแพทย์กันทำไม จรรยาบรรณไม่มีเลยหรือไง หรือว่าหยิ่งผยอง ลืมตัวว่าตนมีการศึกษาสูง มีเกียรติ แทนที่จะปฏิบัติตนให้สมกับอาชีพที่มีเกียรติ แต่หากยังคงปฏิบัติตนแบบนี้ต่อไป อาชีพนี้ ก็ไม่สมกับเป็นอาชีพที่เกียรติแล้วล่ะ


* ให้แพทย์/พยาบาล ถามตนเองก่อนดีไหมว่าเลือกที่เป็นอาชีพนี้เพราะอะไร? (ถ้าเพราะจะมาดุ ด่า คนไข้ ก็เรียนเชิญ ไปทำอาชีพอื่นนะคะ)


* จัดอบรม และทำความเข้าใจให้ แพทย์/พยาบาล ก่อนดีไหมคะว่า ควรจะปฏิบัติตนกับคนไข้ยังไง


* การพูดจา ใช้คำพูด แสดงกิริยาท่าทางกับคนไข้ (ควรมีการจัดอบรมเข้มนะคะ)


*** ไม่อยากเห็น คนไข้ โดนดุ โดนด่า เพราะความไม่รู้ (ยิ่งเป็นคนแก่ด้วยแล้ว) สงสารจริงๆ ค่ะ จะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างไรคะ อยากให้แก้ไขโดยด่วนเลย มีหลาย ๆ คนที่เจอแบบนี้ค่ะ


นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายความเห็นที่เข้ามาโพสต์แชร์ประสบการณ์แย่ๆ ของตัวเองต่อระบบการบริการในโรงพยาบาลรัฐทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะความไม่สนใจของแพทย์และพยาบาล รวมไปถึงการวินิจฉัยโรคผิดๆ ถูกๆ ซึ่งบางคนถึงกับตั้งคำถามด้วยความรู้สึกแย่ๆ ต่อโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในจ.นครปฐมกันเลยว่า "...ถามหน่อยค่ะ ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำแผลกับผลาญงบหรอคะ?"


สุดทน! แฉความห่วย รพ.รัฐย่านปทุมวัน


ต่อประเด็นเดียวกันนี้ ทีมข่าวยังได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณแม่วัย 28 ปีท่านหนึ่งที่เคยไปฝากครรภ์กับรพ.รัฐแห่งหนึ่งย่านปทุมวันเพราะไว้วางใจในการรักษา และเชื่อมั่นว่ามีมาตรฐานที่ดีเยี่ยม แต่หลังจากได้รับการตรวจกับคุณหมอท่านหนึ่งก็ทำให้ความไว้วางใจที่มีลดหวบลงไปในทันที


"วันนี้ 17 พ.ค.56 ดิฉันไปฝากครรภ์ครั้งแรก พยาบาลที่โรงพยาบาลดีมากจริงๆ และในการไปตรวจแต่ละครั้ง ดิฉันจะชี้แจ้งแก่พยาบาลว่าไม่ขอทำอัลตราซาวนด์ หากเกิดความผิดปกติอันเกิดจากทารกประการใด ดิฉันจะรับผิดชอบเองทั้งหมด ซึ่งหมอก็งงๆ จนกระทั่งวันที่ 28 มิย.56 ได้เข้าตรวจกับหมอท่านหนึ่ง


ดิฉันก็แจ้งว่าไม่ขอทำอัลตราซาวนด์ เพราะไม่อยากให้คลื่นเสียงมากระทบกระเทือนก่อกวนลูกในท้อง ซึ่งดิฉันก็คิดว่านี่คือการใช้สิทธิในการตัดสินใจของการรักษาที่ดิฉันพึ่งได้ เนื่องจากผลการตรวจอัลตราซาวนด์ ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าทารกจะปกติหรือไม่ปกติ ดังที่ได้ระบุไว้ในหนังสือการฝากครรภ์ และก่อนจะทำจะมีเอกสารให้เซ็นต์ยืนยันว่าหากเกิดข้อผิดพลาด จะไม่เอาผิดกับทางรพ. ซึ่งดิฉันก็ไม่เซ็นรับ และปฏิเสธ


แต่หมอกับต่อว่า หน้าตาโมโหมาก บอกว่า ถ้าไม่ทำ ทางโรงพยาบาลจะไม่ทำคลอดให้ ไปรพ.อื่น ตอนนั้นดิฉันก็เลยตกลงทำๆ ไป และหมอก็บอกว่า โง่จริงๆ ส่วนผลการตรวจบอกว่าเราจะคลอด วันที่ 29 ส.ค. แต่ที่คาดคะเนกับพยาบาล คือวันที่ 7 ส.ค. เราจะไม่โกรธ ถ้าหมอเก่งจริง แต่ดิฉันคลอด 5 ส.ค. ซึ่งมันห่างไกลไปไหม" เธอบอก และเผยต่อไป


"วันที่ 5 ส.ค. ดิฉันมุ่งหน้าไปรพ.เดิม เพราะมีน้ำเดิน หมอบอก โอเคแล้ว ได้ออกแน่ๆ แต่การเต้นของหัวใจเด็กผิดปกติ ที่รพ.ไม่มีตู้อบแล้ว เกรงว่าหากต้องใช้จะส่งไปรพ.เด็กไม่ทัน ให้ไปคลอดที่รพ.รัฐย่านอนุสาวรีย์ดีกว่า ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็เข้าใจนะ แต่ให้เดินทางไปติดต่อเรื่องเอง และย้ำมาอีกว่า ห้ามบอกว่ามาจากรพ.นี้นะ และเน้นอีกว่า อย่ากลับบ้านนะ คลอดแน่ๆ ตอนนั้น เอาไงล่ะ แต่ให้ไปโบกแท็กซี่เอาเองเนี่ยนะ อะไรคือความรับผิดชอบของทางรพ."





เธอให้ข้อมูลต่อไปว่า ในคืนเดียวกันมีคุณแม่ที่ถูกรพ.รัฐแห่งนี้ปฏิเสธการทำคลอด แล้วมาคลอดที่รพ.รัฐย่านอนุสาวรีย์ถึง 4 คนด้วยกัน


"เตียงก็ไม่พอ ห้องพักก็เต็ม ดิฉันคลอดตีสี่ กว่าจะได้เข้าพักก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่า เวลาระหว่างวัน คือนอนเตียงเสริมข้างทางเดิน คืนนั้นมีคนคลอดประมาณ 10 คน หมอบอก 'มันคือ มหกรรมอะไรเนี่ย' วุ่นสุดๆ ขนาดวางเตียงให้นอนยังกลับหัวเลยอ่ะ" เธอขยายความถึงประสบการณ์สุดแย่ที่ได้รับจากโรงพยาบาลของรัฐ ปัจจุบันลูกชายของเธอแข็งแรงดี แต่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม และไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก


เมื่อมองในมุมหมอ


อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ย่อมทำให้โรงพยาบาลรัฐ รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ดีๆ ต้องถูกเหมาเข่งตามไปด้วย เมื่อถามในมุมของ พญ.อุทุมพร กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษาประธานประชาคมสาธารณสุข การบริการและการแสดงพฤติกรรมของบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่น่ารัก เป็นเรื่องของตัวบุคคล ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป


"ทุกวันนี้โรงพยาบาลรัฐมีประชาชนจำนวนไม่น้อยมาหาหมอเพื่อต้องการการรักษาที่ดี สิ่งที่ตามมาก็คือความคาดหวังต่อการบริการที่ดีก็มีมากขึ้นตามไปด้วย แต่ภาระของผู้ให้บริการก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และบางทีอาจให้บริการไม่ทัน ทำให้ประชาชนไม่ได้รับการบริการอย่างทั่วถึงจนเกิดความรู้สึกไม่พอใจ
ส่วนพฤติกรรมแย่ๆ ของคุณหมอ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลรัฐ ส่วนนี้ก็ตอบยาก แต่ส่วนตัวมองว่าอยู่ที่บุคลิกส่วนตัวของคนคนนั้น บวกกับภาระงานที่เยอะจนอาจสร้างความไม่พอใจ และไม่ทันใจในความรู้สึกของประชาชน

เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ สิ่งหนึ่งที่โรงพยาบาลต้องให้ความสำคัญก็คือ การดูแลในเรื่องของคุณภาพทั้งวิชาการ การจัดการ ซึ่งเป็นส่วนที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องช่วยกันดูแล ส่วนประชาชนก็ต้องเข้าใจภาระงานหรือการบริการในจำนวนมากๆ ของโรงพยาบาลรัฐด้วย" ที่ปรึกษาประธานประชาคมสาธารณสุขบอก


แม้จะมีเสียงบ่น เสียงก่นด่าถึงการบริการในโรงพยาบาลรัฐหลายแห่ง แต่เชื่อว่าบุคลากรทางการแพทย์ดีๆ ยังคงมีอยู่ ส่วนที่แย่ๆ มองความทุกข์ยากของประชาชนด้วยสายตาแห่งความเหนื่อยหน่ายน่ารำคาญ นอกจากประชาชนจะเอือมและหมดศรัทธาแล้ว ยังเป็นตัวชี้คุณภาพของโรงพยาบาลด้วย


ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น