เชื่อว่าหลายคนเข้าใจกันมาตลอดว่า "นมรสจืด" ไม่มีน้ำตาล แต่หากได้ลองสังเกตฉลากข้างกล่องดูแล้ว คุณจะพบว่า มีน้ำตาลอยู่ในนมรสจืดจริงๆ
หลังจากที่แฟนเพจ "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" คอลัมนิสต์ชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้เปิดประเด็น พร้อมกับนำภาพนมกล่องยี่ห้อหนึ่งมาโชว์ให้เห็นกันจะๆ เรื่องน้ำตาลในนมวัวรสจืด ซึ่งหากดูฉลากข้างกล่องนมแล้ว พบว่า มีการเขียนถึงปริมาณน้ำตาลไว้จริง
เพื่อให้เห็นกันชัดๆ ว่าในนมวัวรสจืดมีน้ำตาลหรือไม่ ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ได้ซื้อนมวัวบรรจุกล่องรสจืดในร้านสะดวกซื้อมา 4 ยี่ห้อ ปรากฏว่า มีเขียนปริมาณน้ำตาลไว้ข้างกล่องจริง แต่อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ โดยนมวัวรสจืดยี่ห้อหนองโพ 1 กล่อง (225 มล.) มีน้ำตาล 10 กรัม, นมวัวรสจืดยี่ห้อโฟร์โมสต์ 1 กล่อง (225 มล.) มีน้ำตาล 12 กรัม, นมวัวรสจืดยี่ห้อไทย-เดนมาร์ค 1 กล่อง (250 มล.) มีน้ำตาล 7 กรัม และนมวัวแท้ยี่ห้อจิตรลดา 1 กล่อง (200 มล.) มีน้ำตาล 10 กรัม
ส่วนความรู้เรื่อง 'น้ำตาลในนมวัวรสจืด' นั้น ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง แววตา เอกชาวนา ผู้คร่ำหวอดในเรื่องโภชนาการ โดยนักวิชาการท่านนี้ให้ความรู้ว่า น้ำตาลที่ระบุไว้ข้างกล่องนมวัวรสจืด เป็นน้ำตาลแลคโตสที่อยู่ในน้ำนมวัว ซึ่งมีความหวานน้อยกว่าน้ำตาลทั่วๆ ไป
"แลคโตสเป็นน้ำตาลที่มีความหวานน้อยกว่าน้ำตาลจากน้ำตาลอย่างอื่น เพราะฉะนั้นในนมสดจะมีน้ำตาลแลคโตสอยู่แล้ว ส่วนที่ระบุปริมาณน้ำตาลไว้นั้น เดาเอาเองว่าถ้าเขียนแลคโตสไปประชาชนก็คงจะสงสัยว่าแลคโตสคืออะไร ถามว่ามีผลต่อร่างกายไหม กินได้ไม่มีผลเสียหายอะไรค่ะ ยกเว้นแต่คนบางคนที่ไม่สามารถกินแลคโตสได้ หรือย่อยน้ำตาลชนิดนี้ไม่ได้ ซึ่งอาจทำให้ท้องเสียตามมา" นักโภชนาการอธิบาย
อย่างไรก็ดี ในบรรดา 'นมกล่องหรือนมขวด' ที่ขายตามท้องตลาด มีการวิจัยชี้ชัดว่า ดื่มนมจืดดีกว่าปรุงแต่ง
เรื่องนี้ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เคยบอกถึงผลการศึกษาของสำนักโภชนาการ โดยนำนมโคสดแท้ซึ่งเป็นนมจืด นมปรุงแต่งรสหวาน นมเปรี้ยว ปริมาณ 100 มิลลิลิตรเท่ากัน มาเปรียบเทียบคุณค่าสารอาหาร พบว่า นมโคสดแท้จะให้สารอาหารที่จำเป็น ได้แก่ แคลเซียม 135 มิลลิลิตร โปรตีน 3.3 กรัม วิตามินเอ 71 มิลลิกรัม และวิตามันอี 0.22 มิลลิกรัม
ในขณะที่นมปรุงแต่งรสหวานกลับให้สารที่จำเป็นลดลง คือ แคลเซียม ลงลดเหลือ 102 มิลลิกรัม โปรตีน 2.3 กรัม วิตามินเอ 28 มิลลิกรัม และวิตามินอี 0.16 มิลลิกรัม ดังนั้น นมโคสดจืดจึงเป็นนมที่มีคุณสมบัติดีที่สุดในการดื่มเพื่อผลของการมีสุขภาพที่ดี นอกจากนี้การดื่มนมจืดจะลดพฤติกรรมการติดหวาน ลดเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน และลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุด้วย
นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าการดื่มนมวันละประมาณ 2 แก้ว หรือประมาณ 400-500 ซีซี ร่วมกับการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และการออกกำลังกายประเภทที่มีการยืดตัว เช่น ว่ายน้ำ บาสเกตบอล และโหนบาร์ จะช่วยเพิ่มความสูงได้ ส่วนวัยผู้ใหญ่เป็นวัยที่ต้องการสารอาหารเพื่อใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ จึงขอแนะนำให้ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ดื่มนมชนิดพร่องมันเนยหรือขาดมันเนยวันละ 1 แก้ว ส่วนหญิงที่ตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรให้ดื่มวันละ 2 แก้ว ซึ่งแคลเซียมที่อยู่ในนมจะช่วยบำรุงกระดูกมารดาและสร้างกระดูกทารกในครรภ์
ส่วนความเข้าใจที่ว่า เด็กจะโตสูงใหญ่ได้ ควรจะต้องดื่มนมแทนน้ำเปล่านั้น แม้ข้อมูลทางวิชาการจะไม่มีผลเสียต่อร่างกาย แต่ นพ.พรเทพ บอกว่า อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน เพราะหลังการดื่มนมแล้วจะทำให้อิ่ม ไม่อยากรับประทานอาหารอย่างอื่นอีก
ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือ ให้ดื่มนมหลังมื้ออาหารอย่างน้อย 1 แก้ว หากมีอาการท้องอืด ท้องเสีย ไม่ต้องตกใจ เพราะอาการดังกล่าวเป็นผลมาจากดื่มนมไม่ต่อเนื่องหรือไม่ดื่มเป็นประจำตั้งแต่เด็ก โดยคนเอเชียฯ ส่วนใหญ่จะมีน้ำย่อยน้ำตาลแลคโตสซึ่งอยู่ในนมที่จะลดลงมากเมื่ออายุ 3 ปีขึ้นไป จึงทำให้ไม่เพียงพอที่จะไปย่อยน้ำตาลดังกล่าว คุณหมอแนะนำว่า ควรเริ่มต้นดื่มในปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพ และไม่ควรดื่มขณะท้องว่าง
***ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อึ้ง! “มัจจุราชรสหวาน” ในเครื่องดื่มยอดนิยมที่คุณต้องเคยเสพ
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754