xs
xsm
sm
md
lg

ถลกชีวิตนางงามวัยรุ่น 'มายด์-พัฒนิดา' มิสทีนไทยแลนด์ 2014

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่านผู้สมัครสาวสวยที่ไม่ได้น้อยไปกว่ากองทัพโจโฉ สำหรับ 'มายด์-พัฒนิดา พุ่มชูแสง' วัย 18 ปี จากเด็กสาววัยใส กลายมาเป็น 'นางงามวัยรุ่น' ที่มาพร้อมกับความสดใสกับตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ปี 2014 นับเป็นอีกหนึ่งดาวดวงใหม่ที่ทีมงาน M-Open จะพาไปเปิดโลกใสๆ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ รวมไปถึงเบื้องหลังชีวิตที่จะทำให้ผู้อ่านได้รู้จักเธอคนนี้กันมากขึ้น

จาก 'เด็กวัยใส' สู่ 'นางงามวัยรุ่น'


ท่ามกลางผู้สมัครนับพันนับหมื่นคน แถมยังมีความหวัง ความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และความใฝ่ฝันว่าจะเป็นมิสทีนไทยแลนด์ เหมือนกัน ไม่ง่ายที่จะผ่านแต่ละด่านมาได้ แต่ 'มายด์' เด็กสาววัย 18 ปีจากจ.นครปฐม คือหนึ่งในผู้สมัครนับพันที่ได้สวมมงกุฎมิสทีนไทยแลนด์ปี 2014





"ตื่นเต้นค่ะ ตอนเริ่มประกาศตำแหน่งจนเหลือมายด์กับน้ำหวานคือเราจับมือกันแบบตื่นเต้นทั้งคู่ค่ะ พอพี่เติ้ล ประกาศคนที่ได้รับตำแหน่งมิสทีน ไทยแลนด์ 2014 คือ หมายเลข 41 แล้วขานชื่อมายด์ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกตกใจมากค่ะ เหมือนอยู่ในความฝัน คุณแม่ดีใจที่เราทำได้ ตื่นเต้นไม่แพ้กันเลยค่ะ

สิ่งที่มายด์คิดว่าจุดที่ทำให้ชนะใจกรรมการนั้น มายด์มองว่าน่าจะมาจากการยิ้ม และความสดใสที่มีในตัวมายด์ค่ะ ต่อจากนี้มายด์จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม ให้สมกับที่ทุกคนให้โอกาสค่ะ"
มายด์เล่าถึงวินาทีประกาศผล


หลังจากปิดฉากเวทีการประกวด แน่นอนว่า การเดินสายขอบคุณสื่อ และผู้สนับสนุนคือภารกิจแรกที่เข้ามาฝึกความอดทน และความรับผิดชอบ


"เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะพี่ๆ เขาทำให้พวกหนูเต็มที่ พวกหนูก็ต้องเต็มที่ให้พี่ๆ เขาเหมือนกัน โดยเฉพาะพี่ๆ สื่อมวลชน ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุกค่ะ" มายด์เล่าด้วยรอยยิ้มที่สดใส ก่อนจะเผยให้ฟังต่อไปว่า "พี่ๆ น่ารักทุกที่ ให้การต้อนรับอย่างดีค่ะ"


เมื่อถามถึงบรรดาคำถามที่ถูกถาม คำถามไหนตอบยากสุด มายด์ยิ้มก่อนจะตอบว่า "กินอะไรถึงผอมนี่ตอบยากสุดๆ แล้ว" เธอบอก "หนูก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร หนูก็กินปกติอ่ะค่ะ (หัวเราะ)" 

อย่างไรก็ดี แม้ชีวิตจะเปลี่ยนไป แถมยังต้องปรับลุค และวางตัวให้ดี แต่สาวน้อยคนนี้ก็ยืนยันด้วยเสียงใสๆ ว่า "ใจหนูยังดวงเดิมนะคะ"

"ตั้งแต่ได้ตำแหน่ง ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะค่ะ ส่วนตัวยังไม่ค่อยชินกับการถูกขอถ่ายรูป หรือออกหน้ากล้อง เวลาจะทำอะไรก็ต้องวางตัวดีๆ จะมาแว้นๆ ไปนั่นไปนี่ หรือซิ่งมอ'ไซด์หัวฟูไปมหา'ลัยคงไม่ได้ละ แต่หนูก็ยังเป็นหนูคนเดิมนะ ใจหนูยังดวงเดิมนะคะ (ยิ้ม)"


เรียนด้วย ทำงานด้วย


ส่วนเรื่องเรียน หลังจากได้ตำแหน่ง มายด์ยืนยันว่า ไม่ทิ้งการเรียนอย่างแน่นอน เพราะการศึกษาคือพื้นฐานสำคัญของชีวิต


"ที่บ้านให้ความสำคัญกับการเรียนมากค่ะ พอได้ตำแหน่งมาก็บอกให้เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยคุยกันอีกที ตอนนี้เข้าปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา ค่ะ ท่านอธิการบดีให้การต้อนรับอย่างดีค่ะ แล้วก็สนับสนุนให้เรียนควบคู่ไปด้วย เพราะท่านไม่อยากให้ทิ้งการเรียน ส่วนตัวก็ไม่อยากทิ้ง หลังจากได้ตำแหน่งก็มีการคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องการเข้าเรียน


ต่อไปนี้คงต้องอ่านหนังสือหนักกว่าเพื่อนหลายเท่าค่ะ เพราะมีหลายอย่างให้ต้องทำ ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาก็เข้าใจ เรื่องไหนช่วยได้ท่านก็ช่วย" เธอเล่า ก่อนจะพูดถึงเพื่อนๆ ในรั้วมหาวิทยาลัย "ส่วนเพื่อนๆ ในรั้วมหา'ลัยก็น่ารักมากๆ ค่ะ ตอนได้ตำแหน่ง เพื่อนๆ ดีใจกันมาก เข้าไปในมหา'ลัยก็จะวิ่งเข้ามาขอถ่ายรูป เพราะหนูไม่ได้ไปมหา'ลัยนาน เพื่อนก็คิดถึงหนู หนูก็คิดถึงเพื่อนๆ เหมือนกันค่ะ"





มายด์ เล่าให้ฟังต่อไปถึงความแตกต่างระหว่างชีวิตในรั้วโรงเรียนกับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย


"การเรียนในมหาวิทยาลัยต้องปรับตัวพอสมควรค่ะ อย่างตอนที่เรียนม.ปลาย (โรงเรียนทวารวดี จ.นครปฐม) อาจารย์จะดูแลอย่างใกล้ชิด คอยตามงาน ถามงานเรา แต่พอเราเข้ามหาวิทยาลัย เราต้องดูแลตัวเองทุกอย่าง ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น คือเราต้องคอยตามงานเองอ่ะค่ะ เพราะอาจารย์เขาจะไม่มาเข้มงวดกับเรามากนัก ส่วนเรื่องการปรับตัวมายด์คิดว่าถ้าเราเจอเพื่อนดี เจอสังคมที่ดี สิ่งแวดล้อมดี ก็จะช่วยเหลือกันและกันได้ค่ะ"


เมื่อถามถึงการเรียนในคณะ มายด์ บอกว่า ที่เลือกเรียนบริหารธุรกิจ เอกสารสนเทศมัลติมีเดีย เพราะอยากทำแอนิเมชันได้ แต่ใจจริงอยากเป็นนักแสดงมากกว่า หากไม่ได้ทำงานอยู่เบื้องหน้า อย่างน้อยๆ ก็ยังมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการทำงานเบื้องหลัง ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งการทำงานที่สนุก

"งานในวงการ ขึ้นอยู่ที่ผู้ใหญ่จะให้โอกาสด้วยค่ะ ส่วนตัวอยากฝึกตัวเองตั้งแต่บทเล็กๆ ไปก่อนค่ะ แม้ใจจริงจะอยากเป็นนางเอกก็ตาม (ยิ้ม) แต่ส่วนตัวหนูคิดว่า เริ่ม และเรียนรู้จากบทเล็กๆ เพื่อจะได้สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ" เธอบอก ก่อนจะเผยให้ฟังถึงอีกหนึ่งเหตุผล "หนูมีเป็นพี่เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ เป็นไอดอลค่ะ ปลื้มพี่เชียร์มาก (ลากเสียงยาว) พี่เขาเป็นคนที่เก่งทั้งงานพิธีกร และงานละครค่ะ"


เปิดชีวิต กะเทาะตัวตนนางงามวัยรุ่น


ลงลึกไปถึงชีวิต และตัวตนของสาวน้อยคนนี้ ข้างหลังดวงตา และรอยยิ้มที่สดใส ใครจะไปรู้ว่ามีความดรามาซ่อนอยู่





"พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่หนูยังเด็กค่ะ หนูโตมากับยายค่ะ ยายทำอาหารในโรงเรียน พอขึ้นม.1 แม่ลาออกจากงาน (เป็นเจ้าหน้าที่ป่าชายเลน) แล้วก็มาอยู่ด้วยกัน แต่หนูกับยาย เราจะสนิทกันมากกว่า เพราะยายจะตามใจมาก เวลาอยู่กับยาย ยายจะสอนหนูทำอาหารไทยๆ จำนวกแกง ต้มจืด ดังนั้นวิชาที่ติดตัวมา ก็คือการทำอาหารเนี่ยแหละค่ะ (ยิ้ม) บางวันยายไม่เข้าครัว หนูก็เป็นคนทำให้ที่บ้านรับประทาน ถามว่ากินได้ไหม ก็อร่อยดีนะคะ (หัวเราะ)"


ถึงวันนี้ แม้คนภายนอกจะมองว่า เธอขาด แต่มายด์ยิ้มแฉ่ง ก่อนจะบอกเพื่อเป็นการยืนยันว่า "ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตกันปกติค่ะ หนูไม่ได้รู้สึกขาด เพราะทางบ้านให้ความรัก ความอบอุ่นกับหนูอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะยายกับแม่ ทั้งสองคนเข้ามาเติมเต็มให้ตลอด นอกจากนั้นยังมีน้าที่เปรียบเสมือนพ่ออีกคนของหนู"


ดังนั้น อะไรคือความสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิต เธอตอบได้ทันทีเลยว่า "ครอบครัว"


"ตอนนี้ที่จ.นครปฐม เราอยู่เป็นบ้านเช่ากันค่ะ ตั้งใจอยากจะซื้อบ้านให้แม่กับยาย อยากให้ท่านอยู่ดี กินดี มีความสุข เพราะทุกวันนี้ก็ลำบากกันค่ะ โดยเฉพาะยายที่แก่ขึ้นทุกวัน สงสารยายค่ะ อยากให้ยายได้พักค่ะ อย่างเงินรางวัลที่ได้มาหนูก็ให้แม่กับยายหมดเลย อยากได้อะไรจะได้ซื้อตามใจท่าน เพราะแม่กับยายเหนื่อยเพื่อหนูมาเยอะแล้ว ส่วนหนูค่อยขอแม่ทีหลัง (ยิ้ม)"


อีกหนึ่งความน่ารักในการแสดงความรักต่อคนในครอบครัวของเธอ ก็คือ การซื้อของให้แม่กับยายในวันสำคัญๆ อย่างวันปีใหม่ โดยเธอเล่าว่า 
"หนูจะชอบเก็บตังค์ซื้อของให้ยายกับแม่ค่ะ ล่าสุดอัดกรอบรูปให้ตากับยาย มีหนูอยู่ตรงกลาง จากนั้นก็เอาไปแขวนไว้บ้านตาที่จ.เพชรบุรี"

เมื่อให้ลอกคราบตัวตนออกมาผ่านคำพูด นี่คือตัวตนที่เธอมอง
"เป็นเด็กไม่โตค่ะ ยายยังเห็นหนูเป็นเด็กอยู่เลยค่ะ แต่ที่บ้านไม่ค่อยตีนะคะ ส่วนใหญ่จะเอ็ดแล้วก็ดุ ส่วนหนูก็จะมานั่งร้องไห้คนเดียว (หัวเราะ)" สาวน้อยบอก

แต่ที่จะขยายความให้เห็นตัวตนของเธอได้ดี เห็นจะเป็นวีรกรรมในรั้วโรงเรียน 

"มีเยอะค่ะ (ยิ้ม) ที่จำได้ไม่รู้ลืมก็คือ สมัยเรียนม.ปลาย หนูจะใส่กระโปรงยาวค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นน่าจะใส่เตะตะกร้อ เห็นลูกตะกร้อมันกลิ้งมาหา ในขณะที่หนูกำลังจะเตะคืนให้เขา ปรากฎว่ากระโปรงมันตึง หนูนี่ล้มหงายท้องลงไปเลยค่ะ (หัวเราะ) ฮากลิ้งไปกันเลยทีเดียว"




ไม่แปลกที่เพื่อนๆ จะตั้งฉายาให้เธอว่า 'โก๊ะ' เรื่องนี้เธอเล่าย้อนให้ฟังว่า "ตอนเรียนประถม ส่วนมากเพื่อนจะเรียก 'โก๊ะ' ค่ะ เพราะชอบทำอะไรเปิ่นๆ โก๊ะๆ" เธอบอก "แต่พอขึ้นม.1 เพื่อนๆ จะเรียกหนูว่า 'น้องหอย' ฉายานี้มาจากเรื่องสังข์ทอง แล้วหน้าหนูไปคล้ายน้องจีโน่ (สังข์ทองตอนเด็ก) เพื่อนก็เลยเรียกหนูว่าหอยสังข์ๆ เรียกไปเรียกมา คำว่าสังข์หาย เหลือหอยแทน (หัวเราะ) ส่วนตัวก็โอเคค่ะ (ยิ้ม) ตามใจเพื่อน"


เห็นเป็นคนสนุกๆ อารมณ์ดีแบบนี้ เธอมีเรื่องให้เสียน้ำตาเหมือนกัน 
"ส่วนใหญ่ที่ทำให้เสียน้ำตาก็เพราะตัวหนูเองค่ะ (ยิ้ม) อย่างตอนที่ไม่เชื่อฟังแม่ ดื้อกับแม่ แม่ก็งอน ไม่คุยด้วย หนูทำอะไรไม่ได้ก็ร้องไห้ให้แม่หายโกรธ แต่หลังๆ ไม่ค่อยมีแล้วค่ะ เป็นเด็กดีขึ้นค่ะ เพราะเราก็โตแล้ว เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว วันนี้ก็ต้องโตได้แล้วค่ะ" เธอบอก "ตอนนี้แม่ห่วงค่ะ ห่วงในที่นี้คือเรื่องการวางตัว เพราะปกติเวลาอยู่บ้านนี่วิ่ง (ลากเสียงยาว) ซนมากค่ะ แม่ก็จะติว่า ไม่โตสักที"

จากใจ "มายด์" ถึงวัยรุ่นยุคโซเชียลฯ

ท้ายนี้ ในฐานะที่เป็นตัวแทนของเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ 'มายด์' ฝากถึงการใช้สื่อโซเชียลมีเดียไว้อย่างน่าสนใจ



"สื่อโซเชียลฯ อย่างเฟซบุ๊ก แม้จะเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ตราบใดที่เราไม่ได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว มันก็ยังเป็นสาธารณะ มีคนเข้ามาดู มาอ่านได้ ดังนั้นเวลาจะโพสต์อะไรก็คิดก่อนโพสต์ทั้งข้อความและรูปภาพ แล้วอีกอย่างที่ต้องระวังก็คือ พฤติกรรมก้มหน้าแบบไม่ลืมหูลืมตา เช่น เดินข้างถนน เดินข้ามถนน หรือเล่นอยู่ตรงป้ายรถเมล์ พฤติกรรมแบบนี้อันตรายมันเกิดขึ้นได้ตลอดค่ะ" เธอฝากด้วยความเป็นห่วง

ส่วนที่อีกหนึ่งเรื่องที่ชวนให้อารมณ์เสียเวลานัดเจอเพื่อนก็คือ นัดมาแล้ว แต่กลับก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเรื่องนี้ เธอสะท้อนให้เห็นถึงการติดสื่อโซเชียลมากเกินไป ส่งผลให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของคนในสังคม กลุ่มเพื่อน หรือแม้แต่คนในบ้านค่อยๆ ถอยห่างจนอาจไม่สนใจกันไปเลยก็เป็นได้


แม้จะได้คุยกับเจ้าของมงกุฎมิสทีนไทยแลนด์ปี 2014 ในระยะเวลาอันสั้น แต่สิ่งที่สัมผัสได้ก็คือความน่ารักสดใสและเต็มไปด้วยมุมมองของสาวรุ่นใหม่...ต่อไปนี้คือก้าวสำคัญสู่โลกใบใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า เป็นอีกก้าวที่รายล้อมไปด้วยอุปสรรคเพื่อทดสอบพลังใจ ความอดทน และความมุ่งมั่น 
ถ้าผ่านไปได้ ก็ถือว่าเป็นการการันตีความสามารถของตัวเธอเอง

เรื่อง : ปิยะนันท์ ขุนทอง
ภาพ : พงษ์ฤทธิ์ฑา ขวัญเนตร




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น