xs
xsm
sm
md
lg

ไล่-ล่า-ฉะ! 'OHO ปูนิ่ม' เศรษฐีสาวผู้ค้าความสวยที่แลกด้วยความตาย?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์เมื่อ “ปูนิ่ม - ศิรินทา เส็งสิน” หรือที่รู้จักกันในฉายา “OHO ปูนิ่ม” เจ้าของธุรกิจยาลดความอ้วนที่รวยกว่า 500 ล้าน ด้วยเวลาเพียง 3 ปีจากธุรกิจยาลดความอ้วนออนไลน์ ทว่าเธอกลับถูกทหารบุกค้นคลังสินค้า ทั้งยังตรวจพบสารต้องห้าม “ไซบูทรามิน” (sibutramine)

ยิ่งเป็นประเด็นร้อนขึ้นกับธุรกิจมูลค่าหลายล้านที่มีผู้เสียหายมากมาย กระทั่งตอนนี้เจ้าตัวยังคงโพสต์เฟซบุ๊กแต่ก็ถูกกระแสตอกกลับอย่างรุนแรง ความหรูหราของชีวิตเศรษฐีที่ร่ำรวยอยู่ความน่าสงสัย ในประเทศที่โฆษณาชวนเชื่อทำงานได้ผลกว่าข้อมูลความรู้ ปรากฏการณ์ไฮโซร้อยล้านจากสินค้าต้องสงสัยเกิดขึ้นได้อย่างไร

ไซบูทรามีน สารยอดฮิตในยาอยากสวย

อุตสาหกรรมอาหารเสริมลดความอ้วนถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่เฟื่องฟูขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กาแฟลดน้ำหนัก อาหารเสริมกระชับหุ่น ยาเสริมสวย ตัวยามากมายหลายสูตรถูกคิดค้นชื่อขึ้นมาเพื่อส่งเข้าสู่ตลาด ปั่นกระแสขายผ่านสื่อโฆษณากระแสรองอย่างทีวีเคเบิ้ล หลายยี่ห้อโด่งดังในการค้าขายระบบออนไลน์

กิเลสของการอยากสวย อยากดูดีย่อมมีอยู่ในทุกผู้คน เงินที่ต้องจับจ่ายเพื่อให้ได้มาเป็นกลไกหนึ่งที่ขับเคลื่อนมากับการโฆษณาชวนเชื่อแบบฮาร์ดเซลที่ไร้การควบคุม ไร้การตรวจสอบอย่างเข้มงวดพอ ท้ายที่สุด ปัญหาของการใช้เครื่องสำอาง การใช้อาหารเสริม กระทั่งยาเสริมสวยเหล่านี้แล้วเกิดผลข้างเคียงก็เป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงและเกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้ง

"ไซบูทรามีน" คือสารต้องห้ามตัวหนึ่งที่ถูกใช้ในผลิตภัณฑ์เหล่านั้น แม้จะช่วยให้เห็นที่ดีเยี่ยม หากแต่ในระยะยาวแล้วกลับส่งผลเสียอย่างร้ายกาจ โดยสารดังกล่าวถือเป็นสารต้องห้ามยอดนิยมของผลิตภัณฑ์แนวนี้ ในปี 2553 กระทรวงสาธารณสุขก็เคยตรวจสอบสารดังกล่าวจากอาหารเสริมและกาแฟ 3 รายการด้วยกัน นอกจากในปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ร่วมกับตำรวจผู้ผลิตอาหารเสริมที่มีสารดังกล่าวประกอบอยู่ โดยพบของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทอีกด้วย

อย.ได้มีการประกาศถอนสารดังกล่าวออกจากประเทศทั้งยังยกเลิกทะเบียนตำรับยาตั้งแต่ปี 2553 แล้ว แต่ทว่ายังคงมีการนำสารตัวนี้มาใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์เสริมความงามและกาแฟลดน้ำหนักอยู่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สารดังกล่าวมีผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง และหัวใจเต้นเร็ว นอกจากนี้ยังมีผลให้เกิดอาการปากแห้ง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ และท้องผูก ยานี้ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ดี ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ ผู้ป่วยโรคตับ ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่มีโรคต้อหิน รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เป็นต้น

โกยร้อยล้านปรับแสนเดียว!

หลังจากมีการบุกค้าโกดักสินค้าพร้อมตรวจสอบ ล่าสุดก็มีการหมายออกจับคู่ “สามี - ภรรยา” เจ้าของผลิตภัณฑ์ OHO พร้อมสรรพากรรอลงดาบ แน่นอนว่า ผลกำไรที่มหาศาลถึงขั้นกลายเป็นเศรษฐีย่อมมากมายมหาศาล แต่หลายคนก็หวั่นใจ หากถูกจับและปรับเพียงไม่เท่าไหร่ ผู้กระทำผิดคงย่ามใจลงมือซ้ำเดิม

ทั้งนี้ ความนิยมระดับที่อาจเรียกได้ว่าบ้าคลั่งของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้น

"ผมไม่รู้นะครับ ที่ไปรษณีย์ศูนย์ใหญ่จังหวัดผมที่ผมส่งของประจำหากส่งตอนหลัง 16.00 น.(เปิดบ่ายโมงปิดสามทุ่ม)จะจอ OHO มาส่งของมาที 4-5 รถกระบะ เจ้าของไลน์ที่นี่จากเด็กไม่มีอะไร 4 ปีออกปอร์เช่คาเยนได้ รวยบรมรวย ผมอิจฉาเขานะ แต่ผมรู้แล้วว่าพวกนี้ไม่ดีแน่ๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ตอนนี้ก็เห็นส่งได้ปกตินะ แล้วลองคิดดูเอาเองเหอะ ปรับแสนเดียวที่พวกโง่ซื้อไปกินทั้งๆ ที่เตือนโครมๆ มันโคตรคุ้มแค่ไหน ตาสว่างเหอะ" ความเห็นหนึ่งได้เผยถึงความนิยมของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

ต่อมา เฟซบุ๊กของ OHO ปูนิ่มก็ได้มีการโพสต์ข้อความชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยแจงว่าสิ่งที่ตนทำเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้คนนับแสน แน่นอนว่า ข้อความดังกล่าวถูกคอมเมนต์โต้กลับอย่างรุนแรง จนในเวลาต่อมาเธอต้องลบโพสต์ข้อความหลายต่อหลายโพสต์ที่มีคอมเมนท์แฉถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

โดยบรรดาผู้ที่เข้ามาคอมเมนต์แฉมีตั้งแต่ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์เป็นผู้เสียหาย กระทั่งผู้ที่รับรู้เบื้องหลังว่า มีการให้ค่าคอมมิชชันที่สูงมากผิดปกติ จึงทำให้มีบางคอมเมนต์ที่ยังคงให้กำลังใจเธออยู่

"สู้ๆค่ะพี่ปูนิ่ม เบียร์เองก็มั่นใจในผลิตภัณฑ์ของพี่ค่ะไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้นเลย แถวน้ำหนักลดลงเยอะอีกด้วยค่ะ นี่ก็พึ่งไปตรวจสุภาพมาแล้วทั้งสแกนสมอง วัดความดัน ไขมันในเลือด ปกติดีทุกอย่าง เบียร์เชื่อมั่นค่ะถ้าของไม่ดีจริงเบียร์คงตายไปนานแล้ว แล้วขอยืนยันค่ะว่าจะสั่งต่ออีกเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ พี่ปูนิ่ม" หนึ่งในคอมเมนต์ให้กำลังใจ

ขณะที่อีกหลายคอมเมนต์เป็นคอมเมนต์ในเชิงลบ

"สั่งเซตเทอร์โบมา กินไป 13วัน แต่ดีท็อกหมดไปกล่องเละ บอกเลยรู้สึกแย่ๆมากๆ ตอนขายแม่งบอกไม่มีสารต้องห้ามของเราดีใจสุดๆ พอมีเรื่อง แม่งปิดเฟซบุ๊กหนีเลย"

"สมงสมองไปกันหมดแล้ว (สงสัยกินยามาก) ของอันตราย ตายไม่ตายไม่สนใจ เผือกให้กำลังใจ คือ ใครตายก็ได้ก็ตายไป ไม่ใช่ญาติตัวเอง"

"เคยซื้อด้วยกระปุกละ 1,200 บาทแนะ มี 30 เม็ด ลองไป 1 เม็ด เกือบตาย ใจสั่นมาก หายใจไม่ทัน ปากแห้ง นอนไม่ได้เลยตัดสินใจ ไม่เก็บไว้ให้ใครลองทั้งสิ้น เทเงิน 1,200 บาท ลงชักโครกหมดเลย ค่าโง่"

"ตัวแทนบางราย ออกตัวแรง ได้ค่าคอมฯ เดือนเป็น ล้านๆ ขาย ดิบขายดี ได้วันละเปนร้อยๆชุด หายหัวไปไหนกันหมดค่ะ"

"มันจะไม่เลียได้ยังไงค่ะ ดูค่าคอมมิชชันมันสิค่ะ ได้กันเป็นแสนเป็นล้าน กรรมติดจรวจ นะค่ะ สมัยนี้"

ทั้งนี้ ในส่วนของเฟซบุ๊กส่วนตัว และหน้าเพจร้านของเธอก็ได้มีความพยายามที่จะลบคอมเมนต์ด้านลบออกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีคนเข้าไปโพสต์แฉอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การจับกุมอย่างเป็นกระแสถล่มทลายครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการกวาดล้างธุรกิจค้าความอยากสวยของประเทศไทยได้หรือไม่

ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!

และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754








กำลังโหลดความคิดเห็น