xs
xsm
sm
md
lg

'เด็กไทย – ซ้อนท้าย – ใส่หมวก' ปฏิบัติ! เพื่อลูกหลานที่คุณรัก (มีคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทราบหรือไม่? การที่เด็กๆ ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก เป็นปัจจัยเสี่ยงของอุบัติภัยร้ายแรง ส่งผลให้บาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต อ้างอิงข้อมูลจากมูลนิธิไทยโรดส์ เผยว่า เด็กวัยเรียนกว่า 1.3 ล้านคน เดินทางด้วยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ แต่มีเพียง 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สวมใส่หมวกกันน็อก

เหตุนี้ จึงเป็นที่มาของโครงการรณรงค์ให้เด็กไทยส่วมใส่หมวกกันน็อก 'The 7 % Project เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก' โดยความร่วมมือจากหลายองค์กร มุ่งหวังปรับทัศนคติและกระตุ้นพฤติกรรมในกลุ่มเด็กและผู้ปกครอง ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใส่หมวกกันน็อกขณะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ในการเดินทาง

จัดงานเปิดตัวโครงการฯ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยมีกิจกรรมมากมาย อาทิ มินิคอนเสิร์ตเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลี Crayon Pop Live in Bangkok กับเอกลักษณ์เฉพาะ พวกเธอมักใส่หมวกกันน็อคในการแสดงเสมอ, การแสดงดนตรีจาก น้องเกล - โสพิชา หนูน้อยอูคูเลเล่ เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศจากรายการ Thailand’s Got Talent ซีซั่น 2, การแสดงคัฟเวอร์แดนซ์ จาก 'ครูนกเล็ก' เจ้าของฉายา 'ครูพันธุ์ใหม่ หัวใจโซเชียล' เจ้าของคลิปสื่อการสอนสุดเกรียนยอดวิวทะลุล้าน ฯลฯ

สำหรับโครงการ 'The 7% Project เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก' เกิดจากความร่วมมือจากเครือข่ายองค์กรด้านคุ้มครองเด็ก และป้องกันอุบัติภัยบนท้องถนน นำโดย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย, องค์การช่วยเหลือเด็กประเทศไทย มุ่งเน้นการปรับทัศนคติและพฤติกรรมของเด็กรุ่นใหม่ เกี่ยวกับการสวมหมวกกันน็อกในการเดินทาง โดยความร่วมมือจากครูและผู้ปกครอง


รัตนวดี เหมนิธิ วินเธอร์ ผู้อำนวยการประเทศไทย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย กล่าวถึงความเป็นมาของโครางการฯ

“เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เด็กจำนวนมากต้องเสียชีวิตจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ การสวมหมวกกันน็อคที่ได้มาตรฐานสามารถลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตได้ 42 เปอร์เซ็นต์ และลดโอกาสบาดเจ็บที่ศีรษะได้ถึง 69 เปอร์เซ็นต์ เราหวังว่า 'โครงการ The 7% Project' นี้จะช่วยสร้างความตระหนักให้ ครอบครัว ชุมชน โรงเรียน ผู้บังคับใช้กฎหมาย และผู้มีอำนาจ เห็นความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อค และในที่สุดจะช่วยลดจำนวนเด็กที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้”

ด้าน อลิสัน เซลโควิทซ์ ผู้อำนวยการองค์การช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทย เล่าว่า ตนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางไปทำงาน จากบ้านย่านสาทรไปที่ทำงานย่านชิดลม ทุกๆ วันจะพบเห็นเด็กๆ ตั้งแต่อายุ 3 - 12 ขวบ ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ที่มีผู้ปกครองเป็นผู้ขับขี่โดยไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อก


“แม้ว่านี่จะดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย หากมอเตอร์ไซค์ชนกับรถยนต์ รถบรรทุก หรือมอเตอร์ไซค์อีกคันหนึ่ง เด็กๆ จะถูกเหวี่ยงออกจากรถ ผู้ปกครองไม่สามารถจับตัวเด็กๆ ไว้ได้ และศีรษะของพวกเขาก็จะกระแทกกับทางเท้า หรือรถอีกคันหนึ่งอย่างรุนแรง เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ในพริบตา และชีวิตของเด็กๆ และพ่อแม่ก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันหวนคืน”

ความสำคัญของการสวมใส่หมวกกันน็อคเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้อีกต่อไป โดยโครงการฯ มุ่งเน้นกระตุ้นพฤติกรรม เพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กจาก 7 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็น 60 เปอร์เซ็นต์ ทั่วประเทศไทยภายในปี 2560

ในระยะเริ่มแรก โครงการฯ จะขอความร่วมกับโรงเรียนประถมศึกษาต่างๆ รณรงค์ให้หมวกกันน็อกเป็นส่วนหนึ่งของชุดนักเรียน เนื่องจากผู้ปกครองจำนวนมากเดินทางรับส่งบุตรหลานด้วยรถมอเตอร์ไซค์ และจะขยายเครือข่ายร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเพิ่มการรณรงค์ให้ครอบคลุมความปลอดภัยแก่เด็กๆ ในทุกเส้นทาง

ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก เผยว่า ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยในแต่ละปีมีเด็กกว่า 2,600 คนเสียชีวิต หรือมากกว่า 7 คนต่อวัน ขณะที่อัตราการบาดเจ็บและพิการสูงถึง 72,000 คนต่อปี หรือ 200 คนต่อวัน แน่นอนว่า ความสูญเสียเหล่านี้สามารถป้องกันได้ ด้วยการให้เด็กๆ ที่เดินทางด้วยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อกทุกครั้ง

ภาพบรรยากาศภายในงาน 'The 7 % Project เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก'









.......................
ข่าวโดย Astv ผู้จัดการ Live
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754


กำลังโหลดความคิดเห็น