เธอคือนักว่ายน้ำผู้พิชิตระยะทางกว่า 1.7 กม. ในแม่น้ำโขง 'คิทตี้ - ชิชา อำมาตยกุล' สาวสวยผิวสีแทน เจ้าของบุคลิกมาดมั่น และบ้าพลังแบบสุดกู่ หนึ่งในสามสาว 'ทีมนางฟ้านาวิน' ผู้เข้าร่วมแข่งขันกิจกรรมไตรกีฬาฯ จากการเชื้อเชิญเชิงท้าทายของแฟนหนุ่มนักร้องรุ่นพี่ 'นาวิน ต้าร์' ที่นั่งแท่นเป็น 'โค้ช' เทรนด์สาวๆ ไม่ห่าง
ภายนอกหน้าต่างกระจก ปรากฎภาพหญิงสาว 2 คนกำลังเดินตรงเข้ามาในร้านประตูสีฟ้า ย่านเอกมัย ประตูบานใหญ่ถูกผลักเข้ามาจากด้านนอก คิทตี้ เดินเข้ามาพร้อมผู้จัดการส่วนตัว เธอสวมเสื้อยีนส์แขนกุดสีซีดเข้ากันดีกับกางเกงยีนส์ขาสั้น เผยยิ้มกว้างพร้อมกล่าวทักทาย ทีมงานฯ เป็นสัญญาณก่อนบทสนทนาที่จะเปิดเผยตัวตนของเธอจะเริ่มต้นขึ้น
นางฟ้านาวิน
ไล่ลำดับการพิชิตความสามารถทางร่างกายด้วยการสมัครลงแข่งขันในกิจกรรมไตรกีฬา คิทตี้ เล่าย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2557 ความที่หนุ่มรุ่นพี่คนสนิท นาวิน ต้าร์ สนใจในกิจกรรมปั่นจักรยานและเข้าร่วมแข่งขันในกิจกรรมกีฬาจำพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว หลังจากคุยเล่นกันก็ตกลงปลงใจว่าจะเข้าร่วมในรายการ ไตรกีฬาสามเหลี่ยมทองคำ จัดโดยกระทรวงกีฬา และมูลนิธิโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียม เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเป็นรายการแรก
ซึ่งรายละเอียดสำคัญของไตรกีฬานั้น คือจะมีกิจกรรมกีฬา อยู่ 3 ประเภท แบ่งเป็นทีม ซึ่งสาวนักไตรกีฬามือสมัครเล่นผู้นี้ เป็นหนึ่งในสามของสมาชิกสาวสวย หวานหวาน เบล และคิทตี้ ภายใต้ชื่อ 'ทีมนางฟ้านาวิน' ประกอบด้วยกิจกรรม ว่ายน้ำ 1.7 กม. ปั่นจักรยาน 53 กม. และ วิ่ง 12 กม. ซึ่งเธอเข้าร่วมรายการว่ายน้ำ โดยมีหนุ่ม ต้าร์ เป็นโค้ชฝึกซ้อม
ทีมนางฟ้านาวิน ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่ว่าเป็นการรวมตัวของสาวสวยระดับนางฟ้า แต่เป็นมุขเล่นคำ
ให้พ้องกับภาพยนตร์เรื่องดัง 'นางฟ้าชาร์ลี' นั่นเอง เปลี่ยนจากสายลับหญิงเก่งสุดแกร่ง มาเป็นสปอร์ตเกิร์ลฟิตแอนด์เฟิร์มแทน
และนี่เป็นไตรกีฬารายการแรกที่เธอตัดสินใจเข้าร่วม อาจเป็นเรื่องกล้วยๆ ตอนยื่นใบสมัครเข้าร่วมแข่งขัน แต่การผ่านเข้าสู่เส้นชัยถือเป็นเรื่องยากทีเดียว
ครั้งนั้นต้องลงว่ายน้ำในแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นครั้งแรกในเรื่องชุดก็เลยไม่พร้อมอย่างผู้เข้าแข่งขันท่านอื่นๆ ซึ่งแม่น้ำโขงเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นปราการด่านหนึ่งที่ค่อนข้างโหด น้ำขุ่น กระแสน้ำไหลแรง ค่อนข้างเย็น ซึ่งเป็นระยะทาง 1.7 กม. ที่ต้องผ่าสายน้ำไปให้ถึงเส้นชัย
คิทตี้ เล่าถึงบรรยากาศการแข่งขัน คือในน้ำเรามองแทบไม่เห็นอะไรเลย แต่เรารู้ว่าต้องไหว้ไปให้ถึงองค์พระ (พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน พระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐาน ณ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย) คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดคือใจเราเองนั่นแหละ
“มันท้าทายตัวเราเอง สุดท้าย..เราทำมันสำเร็จไหม มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร อยู่ที่ตัวเราเอง”
แต่สำหรับผู้ที่ว่ายไปต่อไม่ไหว ทางผู้จัดฯ เตรียมเรือเล็กเข้าช่วยเหลือทันที ซึ่งงานนี้คิทตี้โชว์ความฟิตว่ายน้ำถึงเส้นชัยตัวเอง ซึ่งเธอเผยว่างานนี้ พี่ต้าร์ ก็เข้าร่วมเช่นกัน แต่ว่ายถึงเส้นชัยทีหลังเพราะกระแสน้ำแรงดันลอยไปติดทุ่นเสีย คิทตี้ เล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เด็กดีของพี่ต้าร์
ความรักต่างวัย ราวๆ 14 ปี ค่อยๆ ผูกมัดทั้งคู่ในฐานะแฟน ซึ่งหลังจาก นาวิน ต้าร์ เปิดตัว คิทตี้ ในฐานะแฟนแบบเต็มปากเต็มคำ เธอถูกจับจ้องจากสื่อตาเป็นมันส์ แน่นอนว่าหลีกไม่พ้นข่าวเม้าส์ต่างๆ นานา 'อยากดังเหรอ', 'สร้างกระแสรักโปรโมตเหรอ', 'อายุห่างกันตั้ง 14 ปี จะไปกันรอดเหรอ' ฯลฯ คำถามมากมายโหมกระหน่ำเข้ามาไม่หยุด ในอีกพาร์ตหนึ่งเธอคือนักแสดงวัยรุ่นที่เพิ่งแจ้งเกิดในวงการบันเทิง
ความต่างของอายุไม่ได้เป็นอุปสรรคของทั่งคู่แม้แต่น้อย ซึ่งความเป็นผู้ใหญ่ในตัวแฟนหนุ่มดูจะเป็นแรงดึงดูดให้เธอเลือกคบหาดูใจกับเขาโดยไม่ลังเล คิทตี้ ยิ้มกริ่มรับความสัมพันธ์ที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
"ก็ดีค่ะ (ยิ้ม)"
คิทตี้ เปิดใจหมดเปลือก "พี่ต้าร์ก็ชัดเจนของพี่ต้าร์ค่ะ ถือว่าเป็นการให้เกียรติเราด้วยเหมือนกัน ซึ่งคิทเองก็ต้องขอขอบคุณพี่ต้าร์มากจริง ๆ ที่ออกมาบอกกับสื่อแบบนั้น"
แม้จะคงความสัมพันธ์ในสถานะแฟน แต่คิทตี้ไว้วางใจให้หนุ่มรุ่นพี่ควบสถานะผู้ปกครอง นอกจากดูแลเอาใจใส่ ความเป็นผู้ใหญ่ของเขายังให้คำปรึกษาคำแนะนำได้ในทุกๆ เรื่อง
เรื่องรักๆ ของนักร้องหนุ่มคนดัง แววข่าวว่าครั้งนี้ทุ่มเทเต็มที่ถึงขั้นหวังแต่งงาน แต่ความที่อายุห่างกันหลายปีจึงมีคนเป็นห่วงและถามไถ่เรื่องนี้เสมอ คิทตี้ ตอบทีเล่นทีจริงในทำนองว่า ตอนนี้ก็อายุ 21 ปีแล้ว ไม่เข้าข่ายพรากผู้เยาว์เสียหน่อย
"คิทเองก็รักใครรักจริงเหมือนกันค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงานคิทต้องขอบคุณมากค่ะ แต่มันอาจจะเร็วไปหน่อยสำหรับตอนนี้ ไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่าค่ะ"
แน่นอนว่า ถูกมองว่าแฟนหนุ่มเป็นป๋าดันเข้าวงการอีกแรง "พี่ต้าร์ก็อาจจะมีดันบ้างนิดหน่อย แต่ว่าคิทก็ทำงานเบื้องหลังอย่างเช่นเรื่องเขียนบทอยู่เหมือนกัน"
สาวตาคมให้สัมภาษณ์ตัดบทประเด็นรักที่หลายคนมองว่าความต่างของอายุเป็นอุปสรรค "เรื่องอายุที่ห่างกัน จริง ๆ คิทว่าดีแล้วนะค่ะ เพราะคิทเป็นเด็กมีพี่ต้าร์เป็นผู้ใหญ่เหมือนมีผู้ปกครองอีกคนให้คำแนะนำต่าง ๆ อนาคตน่าจะไปได้ คิทก็คบใครคบจริงเหมือนกันค่ะ ครอบครัวก็เจอแล้วพ่อแม่ก็โอเคคบกันอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ที่บ้านพี่ต้าร์ก็น่ารักมากค่ะ ถามว่าคิดเรื่องแต่งงานมั้ย ผู้หญิงทุกคนก็อยากแต่งงานนะคะ แต่อาจจะเร็วไปหน่อยถ้าเป็นตอนนี้ เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ พี่ต้าร์ยังรู้ว่าคิทยังเด็ก รูปในไอจีก็ไม่ได้หวานมากนะคะ ลงปกติ เรามีหลาย ๆ อย่างคล้าย ๆ กันทั้งเรื่องกีฬา ออกกำลังกาย พี่เขาเป็นคนน่ารัก ถามว่ากังวลคนเอาไปเทียบกับแฟนเก่าพี่เขามั้ย ไม่กังวลเลยค่ะ อย่างน้อยคนของเราก็คงไม่เปรียบเทียบกับใคร"
ชีวิตวัยรุ่นสุดเหวี่ยง
นอกจากชื่นชอบในกิจกรรมกีฬาแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน สาวสะพรั่ง วัย 21 ปี เปิดตัวด้วยการเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป Kiss me five ค่าย Kamikaze เดินเตาะแตะในเส้นทางบันเทิงทำงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอแข่งขันกับจิตใจตัวเองพิสูจน์ความสามารถที่ซ่อนอยู่ภายใน ทำงาน..หาเงิน เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ ลองผิด..ลองถูก ตามประสาวัยรุ่น
ตอนอายุ 14 ปี เป็นก้าวแรกของเด็กสาวที่ออกเดินในเส้นทางสายบันเทิง คิทตี้ ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกวง Kiss me five ซึ่งถือเป็นจุดพลิกผันสำคัญในชีวิต
“พอทำงานที่ RS อยู่ในวง Kiss me five ของค่าย Kamikaze ตอนได้เงินจากการทำงานก็ตกลงกับคุณแม่แล้วว่า มี 2 แบบให้เลือกนะ ให้เรารับเงินจากคุณแม่เหมือนเดิม แล้วคุณแม่จะคอยเก็บเงินเดือนไว้ให้ อยากได้อะไรก็ต้องมาคุยกันเป็นกรณีไป หรือจะเอาเงินที่ได้จากงานทั้งหมดเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่คุณแม่ไม่มีค่าขนมไม่มีเงินเดือนนะ
“เด็กๆ ก็แบบว่าเห็นว่าเล่นคอนเสิร์ตครั้งหนึ่งได้ตังค์เป็นหมื่นแล้ว เอาตังค์ตรงนี้ดีกว่าได้เงินเยอะ มันเยอะกว่าอีก คุณแม่ก็ตกลงแล้วบอกว่าเราจะมากลับคำทีหลังไม่ได้นะ ก็เลยเลือกจะดูแลเงินเองตั้งแต่นั้นมา”
หลังออกจากวง Kiss me five คิทตี้ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์สายงานนี้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ของงานบันเทิง เป็นเอ็กซ์ตร้า ถ่ายโฆษณา เล่นละคร เล่นซิทคอม เล่นภาพยนตร์ และก็ได้รับการชักชวนเข้าไปทดลองทำงานเบื้องหลังเขียนบทภาพยนตร์ด้วย
ไลฟสไตล์ส่วนตัวเธอชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ เล่นเซิร์ฟ, ว่ายน้ำ ฯลฯ เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทดลองในสิ่งแปลกใหม่โดยไม่ลังเลใจ นั่นเท่ากับกว่า 21 ปี ที่ผ่านมา เธอแทบจะไม่พลาดเรื่องสนุกๆ ในชีวิตเลย
“ก็ใช้ชีวิตทุกอย่าง เหมือนที่เด็กคนนึงทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีๆ หรือเรื่องแย่ๆ คิทก็ทำทั้งหมด รู้สึกว่าก็ไม่ได้พลาดอะไรไป หรือเรื่องแย่ๆ คิทมองว่ามันเป็นประสบการณ์นะคะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต มันคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ ถ้าเรามีแต่สิ่งดีๆ เราก็คงไม่รู้ว่าเรื่องแย่ๆ เป็นยังไง”
ถามถึงความเป็นผู้ใหญ่ เธอไม่ไม่ได้ตัดสินด้วยอายุ แต่มองในเรื่องความรับผิดชอบเป็นหนัก “คิทยังมองว่าตัวเองเป็นเด็กด้วยซ้ำ คนเราควรจะมีความรับผิดชอบ ความตรงต่อเวลา การรักษาสัจจะ รักษาคำพูด ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็ตาม รักษาคำพูด..ทำตามสิ่งที่เราพูด”
คิทตี้ เล่าถึงวิธีการสอนของคุณแม่ในวัยเด็กที่ทำให้เธอยืนได้ด้วยตัวเองอย่างเข้มแข็ง
“ยังจำได้เลยว่าตอนเด็กๆ เวลาไปห้างอยากได้อะไรคุณแม่ก็จะซื้อให้เสมอ แต่ว่าซื้อมาล็อคใส่ตู้กระจกตรงโต๊ะกินข้าวให้นั่งมองทุกวัน คุณแม่สอนว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ถ้าอยากได้มันต้องทำอะไรสักอย่างมาแลก
“ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้คุณแม่ทำให้คิทโตเป็นผู้เป็นคน พอคิทมาเริ่มทำงานตอนอายุ 14 คุณแม่ก็ถามคิทว่าเงินที่ได้จะให้คุณแม่ดูแลไหม ถ้าไม่คิทก็จะไม่ได้เงินเดือนอีกต่อไปแล้วนะ ตอนนั้นด้วยความงกคิทเลือกที่จะไม่เอาเงินเดือน เพราะเงินที่ได้จากการทำงานมันเยอะกว่า
“แต่พอผ่านมาคิทก็เริ่มรู้ว่าเงินที่ได้มันไม่แน่นอน บางเดือนได้เยอะ แต่บางเดือนก็ไม่ได้เลย ก็ต้องจัดสรรดีๆพยายามเอาชีวิตตัวเองให้รอด
“คุณแม่ไม่เคยใจอ่อนตอนคิทช็อตสักครั้งเดียว ผ่านมา 6 ปี ได้คุยกะคุณแม่เรื่องเก่าๆ คุณแม่กลับบอกว่าเห็นไหมว่าตอนนี้คิทรู้จักเก็บเงิน ไม่ใช่ทำงานได้ 20,000 แต่ฝืนใช้ 200,000 คุณแม่บอกว่าคุณแม่ไม่ได้ไม่รักคิทนะ ที่ทำแบบนี้เพราะคุณแม่รักคิทมาก และอยากให้คิทมีภูมิคุ้มกันกับโลกแห่งความเป็นจริง”
ชอบเรื่องเล่าบนแผ่นฟิล์ม
นอกจากการไลฟ์สไตล์แอดเวนเจอร์ คิทตี้ ยังชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ดูจนจบทุกเรื่องและดูทุกแนวเพราะอยากรู้เรื่องราวที่ผู้กำกับรวมทั้งคนเขียนบทที่นำมาร้อยเรียงบนแผ่นฟิล์ม หนังบางเรื่องคนดูหลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่าห่วย ไม่สนุกเลย บางคนอาจนั่งทนดูจนจบ บ้างเลือกที่จะลุกเดินออกจากโรงหนังเสียดื้อ แต่เธอคิดต่างไป
“เวลาคิทไปดูหนังที่คนบอกไม่สนุก คิทพยายามทำความเข้าใจว่าผู้กำกับหรือคนเขียนบท เค้าพยายามเล่าอะไรให้คนดูฟังมากกว่าค่ะ เพราะว่าบางทีถ้าเราปฏิเสธเค้าตั้งแต่ 2-3 นาที เราอาจจะพลาดอะไรไปก็ได้ คิทเชื่อว่าผู้กำกับ คนเขียนบท ที่เค้าพยายามจะเล่าหนังเรื่องนั้น เค้าก็คงเสียใจที่ไม่ฟังเรื่องของเค้า คิท ชอบที่จะทำเรื่องทั้งหมดจนจบ แล้วค่อยตัดสินว่ามันเป็นอย่างไรมากกว่า”
เธอเล่าต่อ “ส่วนตัวเป็นแฟนหนังของหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็น Marvel ตัวของ Tim Burton ชอบดูหนังทุกค่าย แต่ละค่ายมันก็ต่างกัน”
ซึ่งไม่นานมานี้เธอเป็นหนึ่งในผู้โชคดีมีโอกาสร่วมกิจกรรมกับทาง Marvel Thailand เมื่อครั้งภาพยนตร์เรื่อง Guardians of the galaxy เข้าฉายในประเทศไทย
“ชอบผลงานของเค้าอยู่แล้ว พอเห็นว่าทางเพจ Marvel เหมือนมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกตอบคำถาม แล้วได้ไปร่วมกิจกรรมกับเค้า ในมุมของคิทมองว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว มันไม่เสียหายอะไรที่จะลองส่งคำถามเข้าไป ตอนแรกก็คิดว่าไมได้หรอก เพราะว่าคนก็ร่วมสนุกกันเยอะ ก็เป็นเรื่องบังเอิญที่เค้าเลือกเรา”
โชคดีของยังไม่หมด เธอถูกเลือกจากการสุ่มยกมือถามกับถามกับผู้กำกับคนดังที่ตนชื่นชอบด้วย ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ของคอหนังผู้นี้ คิทตี้ บอกว่า ส่วนตัวชอบ James Gunn ผู้กำกับ Guardians of the Galaxy อยู่แล้ว ปลื้มผลงานและความกวนอารมณ์ที่แฝงอยู่ในเนื้องาน
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงชอบดูหนัง และเรื่องรับชมหนังทุกเรื่องโดยไม่มีข้อแม้ เพราะตอนนี้เธอทำงานเบื้องหลังเขียนบทภาพยนตร์เป็นงานหลักนั่นเอง
รักงานเบื้องหลัง เขียนบทหนัง
ที่ผ่านมา คิทตี้ รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาบทภาพยนตร์ เรื่องตุ๊กแกรักแป้งมาก การชักชวนจากรุ่นพี่โปรดิวเซอร์คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เข้ามาพัวพันสายงานด้านนี้ “มีพี่คนหนึ่งเขาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พี่ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค เขาเลยแนะนำให้ลองส่งทรีตเม้นต์มาดู แล้วบังเอิญว่าที่บริษัทชอบ เขาเลยชวนมาเป็นทำงานแรกเป็นที่ปรึกษาบทฯ ให้พี่ต้อมในหนังเรื่องตุ๊กแกรักแป้งมาก”
ถามว่าในบทบาทที่ปรึกษาฯ ทำอะไรบ้าง คิทตี้ อธิบายว่า ต้องอ่านบททั้งหมด ให้ความคิดเห็นว่าตรงไหนควรแก้ หรือตรงไหนควรตัดออก
ดูเหมือนทักษะด้านภาพยนตร์จะเป็นสิ่งที่ติดตัวเธอมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งเป็นคนชอบดูหนังดูมาทุกแนวก็เป็นหนึ่งที่การันตีว่ามาถูกทางแล้ว
“คิทมองว่าหนังทุกเรื่องที่เป็นหนังที่ดี หนังที่สนุกหรือไม่สนุกมันก็คือการเล่าเรื่องอยู่ที่ว่าเค้าเล่าแล้วจะมีคนชอบกับเค้าไหม เห็นด้วยกับเค้าหรือเปล่า”
เร็วๆ นี้ เธอกำลังจะมีผลงานเขียนบทภาพยนตร์อย่างเต็มตัวเปรยว่าเป็นแนวผีๆ โดยร่วมงานกับทาง ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับฯ ชื่อดัง
ถามถึงแนวบทภาพยนตร์ที่สนใจและอยากทดลองเขียนในอนาคต คิทตี้ ใช้เวลาคิดเพียงครู่เดียวก่อนตอบขึ้น
“เอ่อ.. คิทอยากเขียนหนัง Surreal หนังที่ไม่จริง หนังที่อยู่กึ่งกลางระหว่างโลกของความเป็นจริงกับโลกของจินตนาการ หนัง Surreal คนไทยอาจจะคุ้นแนว Harry potter แต่ในต่างประเทศ เช่น About time หนังที่เป็นหนังปกติ แต่มีพลังพิเศษเข้ามา เพราะว่าเป็นหนังที่แทบไม่เห็นในประเทศไทย คนไทยส่วนมากเห็นแต่ หนังผี หนังรัก หนังตลก”
นอกจากงานเขียนบทฯ งานเบื้องหลักที่เป็นงานประจำ คิทตี้ ยังมีงานแสดงซีรี่ย์ Love Blood จัดรักให้ตรงกรุ๊ป ออกอากาศทาง เวิร์คพอยท์ ทีวี และผลงานภาพยนตร์เรื่อง รักสุดจิ้น ฟินสุโค่ย ที่กำลังฉายทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
ถ้าชั่งน้ำหนักว่ารักงานไหนมากกว่ากัน ประเมินจากสายตาแล้วค่อนไปทางงานเขียนบทฯ มากกว่า ณ วันนี้ คิทตี้ เป็นนักแสดงอิสระไม่สังกัดค่ายใด และค่อนข้างจะเลือกรับงาน เพราะต้องแบ่งเวลากับงานเขียนบทฯ เป็นหลัก ซึ่งงานประเภทนี้ไอเดียเป็นสิ่งสำคัญ
“ไอเดียมาจากทุกๆ อย่าง และทุกๆ สิ่งในชีวิตเรานะคะ หมายถึงว่าบางครั้งก็มาจากเรื่องเล่าของเพื่อน มาจากสิ่งที่เราเห็นสิ่งที่เราเจอ คิทเป็นคนช่างฝันแต่เป็นฝันร้าย ยังเชื่อในดิสนี่แลนด์ ยังเชื่อในเจ้าหญิง แต่ขณะเดียวกันก็ชอบอะไรที่มันดาร์กๆ หน่อย ชอบดูข่าวฆ่าตกรรม ชอบดูดาร์กฟิล์ม มันทำให้เห็นนะคะ บางทีคนเราคิดว่ามันจะมีแค่ในหนัง มันคือเรื่องจริงที่ชีวิตคนเราบอกว่ายิ่งกว่าหนังอีก หนังนี่ยังสู่เรื่องจริงที่คนเราทำกันไม่ได้เลย”
สำหรับความฝันสูงสุดในเวลานี้ เธอ ยอมรับว่าไม่พ้นเรื่องงานภาพยนตร์ “อยากทำหนังสักเรื่องหนึ่ง อยากกำกับเอง หรือไม่ก็อยากลงไปเขียนบทที่ฮอลลีวูดดู” เธอยอมรับว่าเป็นความฝันที่ยากเสียหน่อยที่จะปลุกปั้นให้เป็นเรื่องจริง “อย่างฮอลลีวูดก็เกินเอื้อม ถ้าได้ไปดูงานได้ไปฝึกงานก็คงจะดี ถ้าได้ไปอยู่ตรงนั้นคงจะดีมาก”
คิทตี้ ทิ้งท้ายถึงการใช้ชีวิตในรูปแบบของตัวเอง เรื่องราวความรักต่างวัยระหว่างเธอกับนักร้องรุ่นพี่ นาวิน ต้าร์ ไม่ได้กลืนกินชีวิตส่วนตัว เธอยังเปิดโอกาสให้ตัวเองสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ก้าวเดินบนเส้นทางที่รัก
“สำหรับคิท รู้สึกว่า.. ชีวิตของคิทมันอาจจะเหมือนแบบฤดูในแต่ละปีที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในแต่ละช่วงก็ต่างกันไป ถ้าอยู่ในหน้าร้อนก็อยากจะไป ว่ายน้ำ เล่นเซิร์ฟ ไปชายหาด อาบแดด แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวอยากคุดคู้อยู่ในบ้านทำงานมากกว่า”
…......................
เรื่องโดย ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Lite
ภาพโดย วชิรา สายจำปา
ขอบคุณภาพประกอบ IG@kittychicha
ขอบคุณร้านประตูสีฟ้าที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำ
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : ชิชา อำมาตยกุล ชื่อเล่น : คิทตี้
วันเดือนปีเกิด : 5 สิงหาคม 2536 อายุ : 21 ปี
การศึกษา : คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ / คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ผลงานที่ผ่านมา : เพลง - ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป Kiss me fiveค่าย Kamikaze
โฆษณา - ไอศกรีมคอนเนตโต้, อาหารแมววิสกัส, สัญญาณโทรศัพท์ ของ DTAC , ทาร์ตไข่ KFC, ธนาคารกรุงไทย , ซิมโทรศัพท์ Happy 2499 ,พรเกษมคลินิก ฯลฯ
ผลงานละคร - เรื่อง ชาติเจ้าพระยา, ซี่รี่ย์ จุดนัดภพ ตอนสาวปากแดงและตอน รักจุกอก, ซี่รี่ย์ Love Blood จัดรักให้ตรงกรุ๊ป
ภาพยนตร์ - เรื่องATM 2 คู่เวอร์เออเร่อเออรัก, เรื่อง รักสุดจิ้น ฟินสุโค่ย
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754