เป็นเวลานับสิบปี ที่กลุ่มรถออฟโรดขับแข่งลุยลำธารบริเวณ 'คลองมะเดื่อ' จ.นครนายก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ขับขี่ของกลุ่มคนรักการผจญภัย ที่สนุกสนานกับการตะลุยบุกเบิกเส้นทางสมบุกสมบัน ทว่า อีกมุมหนึ่งกิจกรรมเหล่านี้ดูจะขัดแย้งกับการดำรงอยู่ของธรรมชาติ ทำลายวิถีชาวบ้าน และสร้างบาดแผลแก่กลุ่มคนรักษ์น้ำรักษ์ป่าอย่างไร้ปรานี
หลังมีการเผยแพร่ คลิปรถออฟโรดขับลุยน้ำในคลองมะเดื่อ ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก ผ่านโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ที่นี่.. นครนายก' ที่มีหลักคิดเปิดเผยและแลกเปลี่ยนทุกแง่มุมของจังหวัดนี้ ดูจะเป็นนาทีสุดท้ายของระเบิดลูกใหญ่ที่ถูกตั้งเวลามานานราวทศวรรษ เสียงดังโครมจากแรงประทุส่งผลให้ผู้คนในสังคมจับจ้องประเด็นร้อนนี้ขึ้นมาทันที กลายๆ ว่า รถออฟโรดล้อมหึมาที่ขับลุยน้ำในลำธารทดสอบสมรรถะเครื่องยนต์นั้นเป็นอาชญกรรมที่บ่อนทำลายทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่
ไอ้ล้อใหญ่ผู้เหี้ยมโหด
หลังมีการตีแผ่ข้อเท็จจริงในปะเด็นรถออฟโรดที่ขับขี่ลุยธารน้ำเส้นทางคลองมะเดื่อ จ.นครนายก อย่างต่อเนื่อง ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'ที่นี่.. นครนายก' มีการรวมตัวจากกลุ่มคนรักธรรมชาติ ภายใต้ชื่อ 'กลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำ' จังหวัดนครนายก ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ และยื่นหนังสือเปิดผนึกร้องเรียนท่านผู้ว่าฯ จ.นครนายก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาจัดการปัญหาหมักหมมของกลุ่มออฟโรดบางกลุ่ม ที่ทำการแข่งรถกันในลำน้ำที่คลองมะเดื่อ โดยพฤติกรรมการขับขี่ด้วยความคึกคะนองดังกล่าว เป็นการทำลายธรรมชาติทำลายทรัพยากรในแหล่งน้ำ ก่อเหตุให้ลำธารขุ่นมัว บั่นทอนความสวยงามทางธรรมชาติ ที่สำคัญส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ที่พักอาศัยอยู่บริเวณใต้ต้นน้ำ เพราะไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา พวกเขาใช้น้ำในคลองมะเดื่อดำรงชีวิต
อย่างไรก็ตาม หลังท่านผู้เกี่ยวข้องทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวก็ดำเนินการสั่งการตรวจสอบทันควัน จตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนกรณีการแข่งออฟโรดในคลองมะเดื่อว่า ขณะนี้สั่งการให้สำนักทรัพยากรน้ำภาคที่ 1 จ.นครนายก ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีผลกระทบต่อระบบนิเวศของคลองมะเดื่ออย่างไร พร้อมทั้งประสานจังหวัดนครนายกตรวจสอบว่าคลองแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ หรือขึ้นทะเบียนคูคลองที่ต้องอนุรักษ์ระดับจังหวัดหรือเปล่า
ในการเอาผิดทางกฎหมาย ท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้ เพราะเป็นความรับผิดชอบโดยตรง คลองหรือแหล่งน้ำถือเป็นพื้นที่สาธารณะ สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน หากบุคคลใดบุคคลหนึ่งนำรถออฟโรดมาแข่ง หรือทดสอบในลำคลอง ต้องเคารพกฎกติกา และคำนึงถึงความเหมาะสม
ซึ่ง จากการร้องเรียนของกลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำ ทางกลุ่มออฟโรดที่ถูกเผยแพร่คลิปและถล่มคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก มีการเข้าพบพูดคุยทำความเข้าใจ กับคณะทำงานฯ และชาวบ้าน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลงตรวจสอบพื้นที่บริเวณคลองมะเดื่อ จ.นครนายก พร้อมออกหมายเรียกกลุ่มออฟโรดจัดแข่งรถในลำธารเข้าให้ปากคำ
อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานฯ มีข้อบังคับชัดเจนในประเด็นดังกล่าว โดยไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอุทยานแห่งชาติทุกแห่งเป็นสถานที่ประลองความเร็วของรถยนต์ทุกชนิด เพราะรบกวนสัตว์ป่า เนื่องจากมีเสียงดัง และห้ามรถแต่งล้อขนาดใหญ่ เร่งเครื่องยนต์แรงๆ รวมทั้งห้ามบางพื้นที่ฯ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของสัตว์ป่า
เขาเหยียบ เขาย่ำ เขาทำลาย
ข้อเท็จจริงจากปากคำนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางไปยังคลองมะเดื่อ เปิ้ล (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า โดยเฉพาะในหน้าฝนที่กลุ่มคนรักออฟโรดนิยมขับขี่เข้าไปยังท่องเที่ยวยังป่าเขา หลังออฟโรดขับเคลื่อนผ่านถนนดินจารึกรอยยางลักษณะเป็นร่องหยึกหยัก สร้างความเสียหายแก่ผิวถนน หากมีมอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านขับตามหลังมาแทบขับไปตามทางไม่ได้ แน่นอนการเดินเท้าก็ลำบากเช่นกัน
เธอยังเล่าเหตุการณ์ขณะกินข้าวริมคลองมะเดื่อว่า ในลำธารไม่ได้มีเพียงรถออฟโรดที่ลงแข่งขันกัน แต่ยังมีสิงห์นักบิดกลุ่มมอเตอร์ไซค์วิบากที่ซิ่งผ่าสายน้ำ ผ่านหน้าผ่านตาของนักท่องเที่ยวผู้เดินทางเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติโดยหวังว่าจะได้รับอากาศบริสุทธิ์และพักผ่อนหย่อนใจริมน้ำกลางป่าใหญ่ แต่กลับต้องมาเผชิญมลพิษดังกล่าว
สอบถามไปยัง ดร.ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เขาให้คำตอบอย่างชัดเจนถึงประเด็นการนำรถออฟโรดไปขับแข่งกันในธารน้ำ
“ในระหว่างก้อนหินมันเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ เขาใช้วางไข่ เอารถลงไปหินพวกนี้จะถูกเคลื่อนไปตามน้ำ แล้วการที่บดอัดลงไปแน่นๆ สิ่งมีชีวิตที่เขาต้องอาศัยช่องว่างระหว่างหินก็เสียสมดุลไปหมดครับ”
“คือมีปัญหานิดเดียวครับ อย่างชาวบ้านรถที่เขาใช้จริงๆ ไม่ต้องใช้ล้อใหญ่ขนาดนั้นก็ได้ ล้อมันเล็กกว่ากันเยอะเลย ดอกยางก็เล็กกว่า ถ้าเป็นรถชาวบ้าน หรือ รถอีต๊อก มันจะกินดินลงไปนิดเดียว แต่บิ๊กฟุตเวลาที่ลงไปในดินหรือหิน ยิ่งพวกนี้ถ้าเขาไปหลายๆ คัน ดินมันก็จะยิ่งเละ ถ้าขับไปเป็นทางในป่า ที่มีชุมชน มีเด็กอยู่ จะเดินไม่ได้เลย หรือรถชาวบ้าน รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ไม่ได้แต่งล้อใหญ่ หรือ รถอีต๊อก เวลาที่จะต้องขับตามล้อบิ๊กฟุตพวกนี้มันจะไปไม่ได้”
อย่างไรก็ตาม ทางที่กลุ่มออฟโรดใช้นั้นอาจไม่ใช่ทางปกติที่ชาวบ้านสัญจร พวกเขาจะนิยมตัดเส้นทางใหม่ บางทีก็ปืนเนินหินแสวงหาเส้นทางใหม่
“ตัวควันรถไม่เท่าไหร่หรอกไม่ใช่ปริมาณมาก แต่ล้อรถพวกนี้มันเข้าไป ก็ทำให้คนที่อยู่ในนั้นสัญจรลำบาก ลงไปในลำห้วยมันก็เป็นภัยต่อสัตว์น้ำ ถึงอาจไม่มีอะไรรุนแรง แต่มันสมควร มันต้องมีสำนึก คุณบอกว่าคุณรักธรรมชาติแต่พฤติกรรมคุณมันใช่อย่างนั้นหรือเปล่า?” ดร.ศศิน ทิ้งท้าย
เจตนาดี ขับออฟโรดใต้กติกา
สาธิต ยศสง่า บรรณาธิการบริหารนิตยสารออฟโรด ในฐานะคนรักออฟโรดแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวสั้นๆ “ทุกคนไม่อยากเข้าไปทำลาย” พร้อมอธิบายพฤติกรรมการขับขี่ของกลุ่มคนรักออฟโรด
“พฤติกรรมของทุกคนจะช่วยเหลือสังคม โอเค..ทำรถมา พาหนะมันสามารถเข้าถึงถิ่นทุรกันดารได้ แต่ยอมรับว่าออฟโรดมีทั่วประเทศก็อาจจะมีที่เล่นสนุกจนเกินไป แต่พื้นฐานส่วนใหญ่เราไม่ได้เข้าไปทำลาย เราเข้าไปฟื้นฟู ปลูกป่า ไปช่วยเหลือสังคม อย่างพวกผมไปร่วมกับทันตแพทย์เคลื่อนที่ พอ. สว. มาทำฟันอุดฟันให้ชาวบ้าน หรือเคสที่ป่วยมาก คือกรณีน้ำท่วมใหญ่ก็เข้าไปร่วมกับทางตำรวจ พฤติกรรมของผู้ใช้รถออฟโรด ประมาณ 80 - 90 เปอร์เซ็นต์ ทำรถขึ้นมา รถเราพร้อมที่จะเข้าไปช่วย.. โอเค! เราอาจจะเข้าไปช่วยศึกษาธรรมชาติ แต่เราไม่ฝ่าฝืนเข้าไปในเขตอุทยานฯ”
ถามถึงกิจกรรมของกลุ่มออฟโรด สาธิต อธิบายว่า “ทุกคนเขาก็อยากไปสัมผัสธรรมชาติกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าไปบุกทำลาย คือเป็นเส้นทางที่กรมป่าไม้ฯ เขาอนุญาตให้เดินทางเข้าไปได้ อาจมีบ้างที่หลุดเข้าไปเพราะพื้นที่ประเทศไทยเรามีเยอะ แต่ส่วนใหญ่ยึดกฎระเบียบของกรมอุทยานฯ ไม่ได้หมายความทุกกลุ่มจะเข้าไปทำลายเส้นทางที่หวงห้ามเราไมได้เข้าไปทำลาย
“อยากให้มองว่าคนเล่นออฟโรดไม่ได้ไปทำลายธรรมชาติ เราเข้าไปช่วยเหลือธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ เราเข้าไปสร้าง โรงเรียน ไปสร้างห้องสมุด ไปแจกผ้าห่ม ในถิ่นทุรกันดาร ทุกคนทำหน้าที่กัน ทุกคนเป็นจิตอาสาเป็นเส้นทางที่รถธรรมดาเข้าไปไม่ได้”
โดยมีสนามออฟโรดไว้รองรับไลฟสไตล์การขับขี่อยู่แล้ว ทั้งแถบ มีนบุรี, จ.ปทุมธานี, จ.กาญจนบุรี ฯลฯ เอาบิ๊กฟุตไปลุยได้เลย ฉัตรมงคล ดวงฤทธิ์ บรรณาธิการฝ่ายเทคนิค นิตยสาร4X4สเปเชียล เปิดเผยว่า เส้นทางคลองมะเดื่อเป็นที่นิยมของกลุ่มออฟโรดนานนับสิบปี “กลุ่มออฟโรดมีไลฟสไตล์แอดเวนเจอร์ อยากได้ความท้าทายในชีวิต อยากได้ความสนุกสนาน วิธีการของพวกเขาจึงสร้างรถเพื่อขับเคลื่อนเข้าไปในที่ที่ รถปกติไม่สามารถเข้าได้
“คนออฟโรดแท้ จะลุยเข้าไปเปิดเส้นทางใหม่ เปิดความสวยงาม เข้าไปสัมผัสธรรมชาติ ในเส้นทางที่ไม่มีใครเคยเข้าไป มันจะรู้สึกเหมือนเป็นเกียรติประวัติ เขาจะหลีกเลี่ยงทำลายป่า และอยู่ในกติกา”
.................
เรื่องโดย ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Live
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : วิจารณ์แซด! กลุ่มรถบิ๊กฟุตใช้ลำธารแข่งรถ (ชมคลิป)
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754