กลายเป็นข่าวแฉฉาวสร้างกระแสได้ตลอดกับความลับดาราที่จากอดีตจนปัจจุบัน ความลับที่ถูกแฉเป็นสิ่งที่สังคมจับจ้องให้ความสนใจ เมื่อเทคโนโลยีก้าวมาถึงยุคปัจจุบัน โซเชียลมีเดีย ภาพนิ่ง คลิปวิดีโอ คลิปเสียง กระทั่งข้อความบทสนทนาผ่านโลกออนไลน์กลายเป็นความลับที่ถูกแฉออกมาได้ง่ายๆ และมันกลายเป็นบทเรียนราคาแพง
มหากาพย์หลุดกระจาย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาพลับ คลิปลับจนถึงบทสนทนาของเหล่าดาราถูกแฉออกมามีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ทำให้สิ่งเหล่านี้หลุดออกมาได้หลายต่อหลายครั้ง ไม่ว่าจะจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแน่นอนว่าสิ่งนั้นต้องเป็นประเด็นฉาวเรื่องลับที่ทำให้อีกฝ่ายเสียหาย
ล่าสุดกับบทสนทนาจากไลน์ที่เป็นกระแสของ “เสก โลโซ” ที่ถูก “กานต์”ภรรยาของตัวเองปล่อยออกมาว่า “โชว์ของลับ” พร้อมมีถ้อยคำหยาบคายในการพูดคุย กรณีนี้ยังต่อมาด้วยคลิปเสียงต้องสงสัยของพระเอกคนดัง “โดม ปกรณ์ ลัม” กับคนรักเก่า “กัสจัง” เท่านั้นยังไม่พอ ความฉาวจากบทสนทนาลับยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อปรากฏบทสนทนาทางไลน์ของ “กัสจัง” เข้ามาปั่นกระแสฉาวโดยปรากฏคำพูดที่มีลักษณะด่านางเอก “ใหม่ - ดาวิกา” ว่าโง่อีกด้วย
ทว่าหากมองย้อนกลับไป หลายกรณีที่เป็นข่าวนั้นก็เคยเกิดขึ้นมาและเป็นบทเรียนให้เหล่าดาราทั้งหลายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ตั้งแต่กรณีภาพหลุดแบบฟิล์มหลุดมาแล้วมีภาพส่งไปให้หนังสือพิมพ์ ไปสู่ยุคคลิปฉาวภาพหลุดที่หลุดมาจากการนำคอมพิวเตอร์หรือมือถือไปซ่อมกระทั่งกรณีถูกแอบถ่าย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาลักษณะการถูกแฉ หรือความลับที่หลุดออกมาของดาราทั้งหลายก็เปลี่ยนแปลงไป จากภาพนิ่งมาเป็นภาพเคลื่อนไหว กระทั่งมาเป็นบทสนทนาและคลิปเสียง
ในโลกยุคใหม่ที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แน่นอนว่าคนทั่วไปรวมไปถึงดาราเองก็หันมาใช้เครื่องมือสื่อสารเหล่านี้ จึงไม่แปลกที่จะเกิดกรณีแบบนี้เพิ่มมากขึ้น
ตั้งแต่กรณีหนุ่มคาสโนวาอย่าง “ฟลุค - เกริกพล” ที่ไลน์คุยกับสาวเซ็กซี่นางแบบแม็กซิมที่ฉาวถึงขั้นขอขึ้นคอนโดฯ แม้ภายหลังจะออกมาบอกว่าแค่ล้อเล่น แต่ก็เป็นประเด็นสร้างกระแสที่มาจากไลค์สนทนาหลุดเป็นคนแรกๆของเมืองไทย
ต่อมาก็เป็นรายของพระเอกหนุ่ม “อาร์ต - พศุตม์” กับกะเทยพลอยที่หลุดมาเป็นบทสนทนาสุดสยิวชวนขึ้นคอนโดฯ ซึ่งไม่นานจากนั้นข่าวดังกล่าวก็ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับ “น้ำฝน - พัชรินทร์” กระทั่งต่อมาปรากฏคลิปเสียงของฝ่ายหญิงมาอีกระลอก ท้ายที่สุดทั้งสองก็ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ลง
เรื่องฉาวๆ ของดารานั้นยังมีกรณีของ “เคน - ภูภูมิ”ไลน์แบบติดเรตกับนางแบบคนหนึ่ง และยังมีกรณี “โดม - ปกรณ์ ลัม” ที่ไลน์คุยหวานใส่นางเอกที่พึ่งร่วมงานกันในตอนนั้นอย่าง “ใหม่ - ดาวิกา” โดยช่วงนั้นพระเอกหนุ่มมีข่าวเพิ่งเลิกรากับแฟนเก่าของตนเองพอดี
และในช่วงปีที่ผ่านมากรณีไลน์สนทนาของพระเอกดาวรุ่งอย่าง “หมาก - ปริญ” และ “มิ้น - ชาลิดา” ที่เต็มไปด้วยถ้อยคำหยาบคายก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก มองกันถึงขั้นว่า ดาราเหล่านี้หน้าฉากหลังฉากนั้นเป็นอย่างไร?
มาถึงตอนนี้กระแสข่าวภาพหลุดของดาราฮอลลีวูดก็กลายเป็นกระแสที่คนสนใจโดยทั้งหมดมีข่าวว่าเป็นฝีมือของแฮกเกอร์ที่เจาะระบบเข้าไป เห็นได้ชัดว่า ในยุคปัจจุบันหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำบนโลกออนไลน์นั้นอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป และข่าวฉาวก็เป็นสิ่งที่ขายได้เสมอ
บทเรียนราคาแพง?
หลังจากกรณีคลิปเสียง ไลน์สนทนาหลุด หากมองในเชิงเทคนิคแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นกับดาราฮอลลีวูดนั้นอาจเป็นฝีมือของแฮกเกอร์จริง แต่กับกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น อาจมีเหตุปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้สิ่งเหล่านั้นหลุดออกมามากกว่าจะถูกแฮกมาได้จริงๆ
พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ หรือหนุ่ย IT กูรูด้านเทคโนโลยี มองปรากฏการณ์ภาพลับแชตลับหลุดในสังคมไทยว่า มีเหตุปัจจัยที่อาจแตกต่างกันตามกรณีที่เกิดขึ้น โดยมีทั้งกรณีหลุดแบบถูกแฉจนเสียหาย จนถึงกรณีหลุดแบบจงใจให้หลุดเพื่อสร้างข่าว สร้างกระแสให้กับตัวเอง
“บ้านเรามันมีทั้งตั้งใจหลุดกับไม่ตั้งใจหลุด ตั้งใจหลุดเนี่ยคือตั้งใจอัดตั้งใจปล่อยก็เห็นหลายครั้ง อย่างล่าสุดเสียงพี่โดม(ปกรณ์ ลัม) อันนี้ก็แน่นอนว่าเขาอัดเองเพราะเสียงฝั่งเขามันชัดกว่า ซึ่งเขาคงอึดอัดมานานจากการที่โดนน้องกัสจังปล่อยข่าวเสียๆ หายๆ หลายครั้ง เขาก็เลยต้องปล่อยบ้าง”
นอกจากนี้ เท่าที่สังเกตมาเขามองว่า ยังมีกรณีหลุดแบบที่ไม่ใช่หน้าคล้ายอย่างล่าสุดกับกรณีนักเล่าข่าวชื่อดัง “สรยุทธ สุทัศนจินดา”ที่มาเป็นคลิปหลุดทว่าแท้จริงแล้วกลับเป็นหนังโป๊จากประเทศเกาหลี ยังมีประเภทหลุดแบบด่ากันก่อเป็นดรามาสร้างกระแส และกรณีหลุดอย่างจงใจที่สุดก็เห็นจะเป็น เจมี บูเฮอร์ที่ครั้งแรกนั้นกลับมาเป็นกระแสด้วย คลิปหลุดที่ตั้งกล้องจงใจถ่ายอย่างชัดเจน
“เจมี บูเฮอร์นี่ไม่มีทางไม่ตั้งใจเพราะเขาก็อยากจะกลับมาดัง คิดว่าเราต้องมาดูที่เจตนาแล้วว่ามันตั้งใจหลุดหรือหลุดจริงๆ ไอ้ประเภทที่ตั้งใจหลุดมันเยอะเหมือนกัน”
กรณีภาพหลุดแบบจงใจเหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่ใช้ความอยากรู้ของผู้คนมาเป็นเครื่องมือหนึ่งทางการตลาด เขามองว่า กรณีแบบนี้คล้ายภาพหลุดไอโฟนที่รู้กันดีว่า จงใจหลุด
“จริงๆมันก็เป็นแผนการโปรโมตแหละ มันก็ต้องการจะกระตุ้นเรียกข่าวแล้วคนที่ไปอยู่ในสายการผลิตตรงนั้นส่วนตัวก็อยากจะพูดด้วย”
อีกตัวแปรหนึ่งที่เขาเห็นว่า มีส่วนทำให้ภาพหลุดเหล่านี้มีมากขึ้น มากขึ้นในแบบที่จงใจก็คือความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่ภาพหลุดต่างๆไม่ใช่เรื่องเสียหายอย่างที่เคยเป็นมาก่อน
“เมื่อก่อนก็มีกรณีภาพหลุดที่ผู้ชายเอาฟิล์มวางไว้ที่บ้านแล้วเมียหลวงมาเห็นก็รู้สึกยัวะเลยเอาไปล้างแล้วปล่อยส่งไปหนังสือพิมพ์ สมัยนั้นมันเป็นเรื่องน่าอายชนิดที่อายไปตลอดชีวิต ทุกวันนี้ผมว่าดาราท่านนั้นก็ยังมีสิ่งเหล่านี้ตกค้างอยู่ในใจบ้าง แต่ว่าทุกวันนี้พฤติกรรมคนเปลี่ยน มันกลายเป็นยิ่งหลุดยิ่งฉาวก็ยิ่งดัง”
ธรรมชาติของวงการบันเทิงไทยที่ยิ่งดารามีข่าวฉาว นักข่าวก็ยิ่งติดตาม ยิ่งโด่งดังก็นำมาซึ่งโอกาสและผลงานในวงการบันเทิง กลไกเหล่านี้เขามองว่าเป็นวงจรอุบาทว์ที่ยิ่งจะทำให้เกิดภาพหลุดคลิปที่จงใจหลุดกันมากขึ้น
“สื่อบันเทิงเองก็เลือกที่จะนำเสนอแต่ด้านฉาว มันก็ส่งผลต่อพฤติกรรมของดาราที่อยากจะทำให้ตัวเองได้งาน เรื่องภาพหลุดอะไรต่างๆ ผมเชื่อว่าตั้งใจจงใจมากกว่าครึ่ง”
ป้องกันได้ด้วยตัวเอง
หลายกรณีกับความลับที่ถูกแฉของเหล่าซุป'ตาร์หลายครั้งนำมาซึ่งกระแส ทว่าหลายครั้งก็ถึงกับทำให้ต้องร้างราจากวงการ อย่างไรก็ตาม เรื่องเสียหายเหล่านี้ล้วนมีสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยน และหลายกรณีก็เกิดจากความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของผู้ใช้งานที่ไม่รู้เท่าทันเทคโนโลยีจริงๆ
หนุ่ย IT ยกกรณีบทสนทนาในโปรแกรมไลน์ เขาเลือกจะยกตัวอย่างกรณีของภูริ หิรัญพฤกษ์ ญาติของเขาที่มีบทสนทนาหลุดในกรณีพูดถึงเจนี เทียนโพธิ์สุวรรณ โดยเขาเผยว่าหลุดออกมาจากเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มแชตซึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
“กรณีแบบนี้มันก็เกิดขึ้นได้ เจ้าตัวเขาไม่รู้และไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นข่าวใหญ่ เขาเอาไปโพสต์ในกลุ่มแชตอื่นเหมือนหาเรื่องคุยกัน แล้วจากนั้นมันก็หลุดกระจายไปเป็นข่าว ซึ่งกรณีนี้หลังจากเรื่องเกิดแล้วเขาก็ไม่ได้เลิกคบเลิกคุยกันนะ เพราะมันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์”
โดยในปัจจุบันเขาเผยว่า สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แล้วเพราะระบบไลน์ก็มีออปชันในการhidden chat หรือแชตลับที่จะทำให้ข้อความหายไปหลังจากมีคนอ่านแล้ว
“ถ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องลับมากก็ป้องกันด้วยวิธีนี้ได้ครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องทั่วๆไป ผมมองว่าการคุยงานในไลน์ มันอ้างอิงและยืนยันสิ่งต่างๆเป็นลายลักษณ์อักษรได้”
ทั้งนี้ ในส่วนของวิธีป้องกันนั้นจากกรณีต่างๆ เขาเห็นว่าต้องเริ่มจากตัวเองก่อนที่ต้องคิดอยู่เสมอว่า การปล่อยอะไรลงไปสู่โลกออนไลน์นั้นมักจะมีดิจิตอลฟุตปริ้น หรือรอยเท้าบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ
“ไม่ว่าภาพนั้นจะถูกคุณตัดสินใจลบใน 5 วินาทีถัดมา แต่คุณเชื่อมั้ยว่าใน 5 วินาทีนั้นก็มีคนแคปเจอร์ภาพนั้นทันแล้ว เพราะว่าอินเทอร์เน็ตเป็นโลกของการทำหลักฐาน ในขณะเดียวกันมันก็เป็นโลกของการหาเหยื่อด้วย”
โดยธรรมชาติของโลกออนไลน์นั้น เขามองว่าเป็นโลกที่ต้องหาเรื่องพูดคุยสื่อสาร หลายครั้งจึงต้องหาเหยื่อเป็นใครสักคน และต้องหามุมไม่ดีมาพูดถึง และเมื่อเหยื่อที่มีความลับรั่วไหลเป็นดาราเรื่องก็ยิ่งเป็นที่พูดถึงเข้าไปใหญ่!
“แล้วดาราก็หันมาใช้โซเชียลมีเดียกันมากขึ้น โอกาสที่ดาราจะพลาดก็มีสูงเพราะดาราก็คือมนุษย์ปกติ แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนก็ใช้ชีวิตแบบปกติก็มี บางคนใช้ชีวิตแบบวู่วาม ไม่ได้ระวังตัวอะไรมากก็มีเยอะ ดังนั้นเรื่องเหล่านี้เขาก็ลืมคิดไปว่า คนอื่นก็เอาไปได้นี่หว่า”
ในส่วนของความปลอดภัยนั้น เขามองว่าโปรแกรมแชตหลายอย่างมีความปลอดภัยเว้นแต่จะมีการตั้งรหัสที่เดาง่ายเกินไป ทั้งนี้กับวงการบันเทิงไทยนั้นภาพหลุด ไลน์หลุดอาจไม่ได้มาจากการแฮกสักเท่าไหร่ อาจเป็นกรณีพลั้งเผลออย่างการเอาโทรศัพท์ไปซ่อม เขายกตัวอย่างเก่าก่อนของดาราท่านหนึ่งที่มีคลิปหลุดเป็นภาพวิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์ซึ่งกรณีนั้นเกิดจากการที่ดาราคนนั้นนำโทรศัพท์ไปซ่อม
“กรณีแบบนี้มันขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของช่างด้วย ช่างเขาอยู่กับสื่อแบบนี้ตลอด เราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าช่างเหล่านั้นมีจรรยาบรรณหรือไม่ ถ้ามีจรรยาบรรณก็ไม่เป็นไร แต่บางคนไม่มีจรรยาบรรณก็อาจจะเปิดดูแล้วกู้ข้อมูลเอาไปทำให้เกิดความเสียหายได้”
เขาเผยถึงรายละเอียดพื้นฐานว่า หน่วยความจำของอุปกรณ์เหล่านี้ในทางกายภาพแล้วข้อมูลต่างๆ แม้จะถูกลบไปแต่แท้จริงยังคงอยู่ แต่ถูกสั่งให้อยู่ในสภาพที่มองไม่เห็นเท่านั้น
“ในเชิงเทคนิคไฟล์นั้นยังคงอยู่ในตำแหน่งนั้น การถูกลบคือระบบถูกบอกว่าไม่ต้องเห็น ซึ่งไฟล์นั้นจะหายไปเมื่อมีไฟล์ที่ใหม่กว่ามาเซฟทับในจุดเดิมพอดีเท่านั้น
“ผมเคยแนะนำเองแหละว่า ถ้าจะนำกล้อง มือถือหรือหน่วยความจำต่างๆ ไปซ่อม คุณควรจะเซฟภาพทับให้เต็มหน่วยความจำนั้นอีกรอบด้วยภาพอื่น หรือไม่ก็โยนข้อมูลใหญ่ๆเข้าไปก็ได้ เพื่อเซฟทับสิ่งที่เขียนไปแล้ว”
…
ความลับไม่มีในโลกอาจเป็นคำกล่าวที่แท้จริงกับผู้คนที่ถูกความจริงไล่ล่า ทว่าหากมีความรู้เท่าทันอุบัติเหตุของเรื่องฉาวเหล่านี้ก็อาจไม่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ดีไปกว่านั้นอย่างการซื่อสัตย์กับการกระทำของตนเอง ไม่สร้างเรื่องฉาวลับหลังก็อาจเป็นเกราะป้องกันเรื่องฉาวเหล่านั้นได้ดีที่สุด
เรื่องโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754