กรณี "ณเดชน์" โดนแฉเส้นใหญ่ ใช้ความเป็นดาราได้รับอภิสิทธิ์เหนือนศ.คนอื่น แม้ทางมหา'ลัย อาจารย์ รวมถึงพระเอกหนุ่มออกมาชี้แจง บอกพยายามแบ่งเวลาเป็นสัดส่วน แถมไปมหา'ลัยทุกๆ ครั้งที่มีงานจำเป็นหรืองานสำคัญ แต่ก็ไม่วาย จุดประเด็นให้สังคมตั้งคำถามถึงเหล่าดาราที่ได้เกียรตินิยม (แต่แทบไม่เข้าเรียน) ว่าควรชื่นชมในความพยายาม หรือด่าทอในอภิสิทธิ์ อึ้ง! ดาราไม่มาเรียน แต่ส่งผจก.ส่วนตัวเข้าเรียน เข้าสอบแทน แบบนี้ก็มีด้วย
เมื่อ 'ณเดชน์" ถูกแฉใช้เส้นจนเรียนจบ
"...ผมให้ความสำคัญกับเรื่องของการเรียนเสมอ เพราะการเรียนมันก็เหมือนกับการรับผิดชอบของคนคนหนึ่งเหมือนกัน เราก็แบ่งเวลาให้เป็น ผมทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยค่อนข้างจะคูณสองเลยแหละ เพราะฉะนั้นต้องอดทนมากเหมือนกัน กับการที่จะผ่านมาได้ ช่วงปี 1 ปี 2 ผมลงค่อนข้างเต็มมากๆ ปี 3 ปี 4 มันเลยมีช่วงเวลาที่เราค่อนข้างจะได้ผ่อนคลายตัวเอง
และอีกอย่างหนึ่ง นิเทศศาสตร์ มันค่อนข้างเป็นสาขาวิชาที่ปฏิบัติซะส่วนใหญ่ ไม่ใช่การที่จะนั่งอยู่ในคลาส และจดโน้ต ฉะนั้นผมจะเน้นเรื่องการออกกองกับการทำงานนอกสถานที่มากกว่าครับผม ภาพที่ออกมาก็จะไม่ค่อยได้เห็นผมอยู่ที่มหาวิทยาลัยสักเท่าไหร่"
เป็นคำยืนยันของพระเอกหนุ่ม 'ณเดชน์ คูกิมิยะ' กรณีถูกแฉไม่ค่อยเข้าเรียน แต่จบออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ก่อนจะชี้แจงต่อไปในประเด็นมหาวิทยาลัยใช้ 2 มาตรฐานว่า
"ผมว่าทางมหาวิทยาลัยไม่น่าจะเอาเข้ามาเสี่ยงกับผมหรอกครับ ผมเป็นเหมือนแค่นักศึกษาคนหนึ่งเท่านั้นเอง ผมเองก็ทุ่มเทกับเรื่องเรียนมากพอสมควร คือบางทีตื่นเช้าๆ ไปเรียนก็ไปครับ คือแม่จะคอยปลุกตลอด ใครที่เป็นเพื่อนก็จะรู้ตลอดว่าผมไปเรียนบ่อยแค่ไหน ถ้าเกิดว่าคุยกันรู้เรื่อง สมมติว่ามีงานตอนบ่ายก็ไปเรียนตอนเช้า และก็อีกอาทิตย์หนึ่งก็ย้ายงานไปตอนเช้าและมาเรียนตอนบ่ายแทน ก็พยายามไม่ให้มันกระทบกัน เราจัดคิวค่อนข้างดีทีเดียวครับ"
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ทางคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ได้ออกมาชี้แจงเหตุผลทั้งหมดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนช่วยเหลือนักศึกษาให้เรียนจบแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะพระเอกดังเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้วต่างหาก
ดาราเกียรตินิยม เก่งจริงหรือเพราะเป็นดารา
แม้ตัวพระเอกชื่อดัง และทางมหาวิทยาลัย รวมไปถึงอาจารย์ผู้สอนได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการเป็นเด็กขยัน และไม่ทิ้งการเรียนของณเดชน์ แต่ก็จุดประเด็นให้เกิดการตั้งคำถามในสังคมต่อตัวนักแสดงท่านอื่นๆ ด้วยว่า เก่งจริงหรือได้มาเพราะว่าเป็นดารา
ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ได้ทำการเปิดประวัติการเรียนของศิลปิน ดาราที่จบออกมาด้วยเกียรตินิยม ซึ่งมีอยู่หลายท่าน แม้พวกเขา และเธอจะทำงานหนักกว่าคนทั่วไปหลายเท่า แถมบางคนยังเจอมรสุมข่าวรอบด้าน แต่ก็ยังอุตส่าห์เจียดเวลาที่สุดแสนจะยุ่งเหยิง วุ่นวาย มาเรียน และอ่านหนังสือจนสามารถจบออกมาด้วยผลการเรียนที่ดีเยี่ยม แถมบางคนยังพ่วงด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 และ 2 อีกต่างหาก
เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา คือหนึ่งตัวอย่างดาราเรียนดีที่น่าชื่นชม เมื่อพูดถึงเรื่องเรียนของเธอ ต้องบอกว่า เก่งขั้นเทพมาก เพราะเบเบ้ จบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง เกรด 3.91 แถมยังมีเกียรติบัตรเรียนดีในระดับปริญาโทอีก 1 ใบ จากคณะบริหารธุรกิจ (MBA) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยเธอบอกว่า แม้จะมีงานบันเทิงเข้ามามากในช่วงเรียน แต่ก็ต้องขยันเป็น 2 เท่าด้วย
"เบเบ้จะอ่านหนังสือมากกว่าคนอื่น อย่างช่วงสอบจะตื่นตี 5 แล้วก็อ่านหนังสือในห้องจนถึงดึก" เธอเผยเคล็ดลับ
ด้วยความขยัน และมุ่งมั่นกับการเรียน ไม่แปลกที่เธอจะสามารถทำเกรดในเทอมแรกได้สูงสุดถึง 4.00 ปัจจุบันเป็นอาจารย์พิเศษ สอนด้านการตลาด ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ส่วนในกรณีที่เป็นดาราแล้วได้รับอภิสิทธิ์เหนือเพื่อนนักศึกษาคนอื่นนั้น เบเบ้ ให้ความเห็นว่า ส่วนตัวไม่เคยได้รับอภิสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังต้องเรียนหนักกว่าเพื่อนเป็นหลายเท่า
"ตอนเรียนก็ไม่เห็นมีเลยนะคะ (หัวเราะ) ไม่มีจริงๆ ส่วนมากจะทำงานหนักกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ อาจจะด้วยเราเป็นนักเรียนทุนด้วย ถ้าไปทำงานอะไรก็อยู่ที่การบริหารจัดการตัวเองล้วนๆ ไม่เคยได้รับอภิสิทธิ์ว่า ไม่ต้องทำงานนี้นะหรือทำงานนั้นนะ ไม่เคยมีค่ะ อย่างครั้งหนึ่งเคยติดถ่ายละครต่างจังหวัด ซึ่งตรงกับวันที่จะต้องสอบพอดี สรุปวันนั้นไปสอบไม่ได้ก็ต้องสอบซ่อมเอา ไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์ความเป็นดาราแต่อย่างใด" เบเบ้เผย ก่อนจะให้ความเห็นต่อไปว่า
"ความจริงแล้วขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบัน แล้วก็คณะด้วยค่ะ อย่างของเบเบ้ เป็นภาควิชาธุรกิจซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับการแสดง เพราะฉะนั้นมันก็ไม่มีเหตุผลที่อาจารย์สอนวิชาธุรกิจจะต้องให้สิทธิพิเศษเพื่อให้เราไปทำงานการแสดง แต่สำหรับคณะอื่น ซึ่งอาจจะเป็นนิเทศศาสตร์ อาจจะพอให้ได้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่า มันเป็นการเอาเปรียบคนอื่นหรือเปล่า"
ถามต่อไปว่าคิดอย่างไรกับดาราหลายคนที่แทบจะไม่ได้เข้าเรียนเลย แต่สำเร็จการศึกษาด้วยเกียรตินิยม เรื่องนี้เธอไม่ขอออกความเห็น แต่ขอชื่นชมศิลปิน ดาราที่จบออกมาด้วยเกียรตินิยม เพราะหลายคนเก่ง และมีความตั้งใจจริงๆ แถมยังต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่นๆ เป็นหลายเท่า
ด้าน มาร์กี้-ราศรี บาเล็นซิเอก้า นางเอกดังจากช่อง 3 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ เอกการโรงแรมและการท่องเที่ยว ม.อัสสัมชัญ ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.00 แม้จะไม่ได้เกียรตินิยม แต่บทสัมภาษณ์ในวันสำเร็จการศึกษาของเธอ แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทกับการเรียนโดยไม่ใช้อภิสิทธิ์ความเป็นดาราในการโดดเรียนเลย
"ตอนนั้นเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เหนื่อยมากเหมือนกันค่ะ ตอนนี้เรียนจบแล้วก็ทำงานได้เต็มที่ ก็เรียนจบภายใน 4 ปี ได้เกรด 3.00 ภูมิใจมากค่ะ เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เกียรตินิยมก็ไม่เป็นไร แล้วก็เต็มที่กับการเรียน ไม่เคยโดดเรียนเลย ซึ่งหนูก็ตั้งใจจะเรียนต่อ แต่ว่าตอนนี้ขอพักนิดนึงก่อน คงกลับไปติวก่อน จะได้คะแนนดีๆ ไม่ต้องสอบหลายรอบ ส่วนจะเรียนต่อสาขาอะไรก็ยังดูอยู่ ซึ่งก็ตั้งใจจะเรียนต่อในประเทศค่ะ"
นอกจากนี้ยังมีศิลปิน ดาราอีกหลายท่านที่เรียนเก่งจนสามารถคว้าเกียรตินิยมมาครองด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเทของตัวเองล้วนๆ
เห็นได้จาก นักแสดงหน้าหวาน รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ ไม่เพียงแต่ความเก่งในจอแล้ว นอกจอ เธอยังมีดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยเกรดเฉลี่ยสะสม 3.61 จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกออกแบบเครื่องประดับ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โดยเธอบอกว่า การทำงานในวงการบันเทิงควบคู่ไปกับการเรียนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ก็ต้องใช้ความพยายามมากกว่าเพื่อนๆ เพื่อให้ทำงานทั้ง 2 อย่างออกมาได้ดีโดยไม่ทิ้งทั้งหน้าที่การงานและการเรียน
ตามมาด้วย นางเอกหน้าใหม่ จ๊ะ-จิตตาภา แจ่มปฐม ก็เรียนเก่งจนน่าชื่นชม สามารถเรียน และทำงานไปด้วยจนคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาครองได้อย่างภาคภูมิ
ส่วน แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกตัวเล็กน่ารักจากช่องวิก 3 แม้จะไม่ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 แต่ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ เธอจบปริญญาตรีออกมาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เช่นเดียวกับดาราน้องใหม่ที่น่าจับตามอง มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน นางเอกหน้าสวยที่มีความโดดเด่นทางด้านการเรียนไม่น้อยหน้ารุ่นพี่ โดยเธอจบออกมาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.46 ได้เกียรตินิยมอันดับ 2 สาขาแฟชั่นดีไซน์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
ฟากนักแสดงชายที่เก่งขั้นเทพจริงๆ คงจะหนีไม่พ้น หมอก้อง-ร.อ.นพ.สรวิชญ์ สุบุญ พระเอกหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ จากวิก 3 พระเอกหน้าใหม่ที่หัวดีมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งพอมาเรียนที่เตรียมอุดมศึกษากรุงเทพมหานคร เขาทำเกรดเฉลี่ยได้สูงถึง 3.90 และสามารถเรียนจบแพทยศาสตรบัณฑิตจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าออกมาด้วยคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.51 เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง
นอกจากนี้ ยังมีศิลปิน ดาราไทยที่เรียนเก่ง เรียนดี แต่ไม่ได้เอ่ยชื่ออีกหลายท่าน
ส่งผจก.ส่วนตัวเข้าเรียนแทน แบบนี้ก็มีด้วย
กรณีนี้ ต้องบอกว่า สะท้อนคุณภาพในรั้วมหาวิทยาลัยบางแห่งได้เป็นอย่างดี เพราะศิลปิน ดาราบางท่านสำเร็จการศึกษาแบบง่ายดาย ไม่เข้าเรียนก็มีสิทธิ์สอบ และสำเร็จการศึกษาได้ เรื่องนี้แหล่งข่าววงในที่เคยเรียนด้วยกันกับดารารวมตัวกันบอกว่า ดาราไม่มาเรียน แต่ให้ผู้จัดการส่วนตัวเข้าเรียน เข้าสอบแทน แบบนี้ก็เคยมี คำถามคือ มหาวิทยาลัยปล่อยขนาดนี้เลยหรือ
ทั้งนี้ คนที่เรียนกับดารา คนดัง มีทั้งนักกีฬา และคนดังในหลายๆ วงการ บางมหาวิทยาลัยมีการประชาสัมพันธ์ มีทุนการศึกษาให้ดารา คนดังเรียนฟรีแต่ไม่ได้เข้มงวด กลายเป็นการตั้งคำถามตามมาว่า ถ้ากำหนดเวลาขาดเรียนได้ไม่กี่ครั้งก็หมดสิทธิ์สอบ แต่กับความเป็นดารา คนดังที่ขาดเรียนบ่อยๆ บางมหาวิทยาลัยใช้เกณฑ์อะไรมาวัด นี่คือสิ่งที่ต้องกลับไปทบทวน ไม่เช่นนั้นอาจไม่เป็นผลดีทั้งตัวผู้เรียน และความน่าเชื่อถือในตัวมหาวิทยาลัยเอง
ข่าว ASTVผู้จัดการ Live
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754