พูดถึง 'อาจารย์ใหญ่' เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยิน แต่หนึ่งในใครหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า แมวก็สามารถเป็นอาจารย์ใหญ่ได้เหมือนกรณีอาจารย์ใหญ่ที่เป็นคน
เรื่องนี้ได้รับความสนใจขึ้นมา หลังจากเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง อย่าง 'ทูนหัวของบ่าว' โพสต์ภาพพร้อมข้อความเรื่องการทำบุญครั้งสุดท้ายให้น้องเหมียวสุดที่รักด้วยการบริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาฯ และนี่คือข้อความที่ระบุไว้ในแฟนเพจดังกล่าว
รู้หรือไม่ : ทาสแมวสามารถทำบุญครั้งสุดท้ายให้ทูนหัวได้ด้วยการ "บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ที่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาฯ" ได้ หลังจากนิสิตสัตวแพทย์ได้ทำการเรียนและศึกษาร่างอาจารย์ใหญ่จบแล้ว ก็จะมีการทำบุญให้เพื่อเป็นเกียรติครั้งสุดท้าย
หากคุณมีแมวที่เสียชีวิต โดยมีข้อแม้ดังนี้
1. แมวเลี้ยงในบ้าน มีเจ้าของชัดเจน ระบุที่มาที่ไปได้
2. เมื่อแมวเสียชีวิตสามารถนำส่งได้ภายใน 4 ชั่วโมงต้องแช่เย็นห่อพลาสติกเอาไว้ โดยแมวต้องไม่สัมผัสน้ำแข็งโดยตรง
สอบถามรายละเอียดก่อนนำส่งที่ 0-2218-9752
หมายเหตุ : รับอาจารย์ใหญ่เฉพาะช่วงเปิดการเรียนการสอน
เรื่องนี้ มนิษิณ วานิชวัฒนรำลึก แพทย์ประจำแผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ว่า ตอนนี้ยังเปิดรับบริจาคร่างน้องแมวไปจนถึงต้นปีหน้า โดยหลักเกณฑ์ที่จะนำมาบริจาคเป็น 'อาจารย์ใหญ่แมว' ได้ ต้องมีข้อกำหนดอยู่หลายข้อด้วยกัน
1. แมวต้องไม่เสียชีวิตจากโรคติดต่อร้ายแรง เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคเลปโตสไปโรซีส หรือมีเนื้องอกที่ทำลายอวัยวะต่างๆ
2. ไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่ทำให้อวัยวะภายในฉีกขาด กระดูกแตก ผ่าตัดอวัยวะภายในออก หรือได้รับการผ่าซาก เนื่องจากไม่สามารถฉีดน้ำยารักษาซากได้
3. แมวที่จะบริจาคได้ต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 3 กิโลกรัม หรือไม่อ้วนจนเกินไป
นอกจากน้องแมวแล้ว โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาฯ ยังรับบริจาคร่าง 'น้องหมา' ด้วย โดยหลักเกณฑ์ที่จะนำมาบริจาคเป็นอาจารย์ใหญ่สุนัขได้ คล้ายกันกับน้องเหมียว ต่างกันตรงที่น้ำหนักต้องไม่น้อยกว่า 15 กิโลกกรัม หรือไม่ควรหนักเกินกว่า 20 กิโลกรัม
"เมื่อน้องแมว น้องหมาเสียชีวิตแล้ว ควรรีบนำส่งให้เร็วที่สุด หรือภายใน 2-4 ชั่วโมง เพราะถ้านำส่งเร็วก็จะสามารถนำไปใช้เป็นอาจารย์ใหญ่เพื่อการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ" แพทย์ประจำแผนกฉุกเฉินคนเดียวกันเสริม
สำหรับเจ้าของที่อยากให้น้องแมว น้องหมาได้เป็น 'อาจารย์ใหญ่' สามารถติดต่อสอบถามได้ที่แผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทร. 0-2218-9752
ไม่เพียงแต่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก จุฬาฯ แล้ว ทางภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีโครงการรับบริจาคสุนัขเสียชีวิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 โดยมี รศ.สพ.ญ.พ.อ.หญิง มาลีวรรณ เหลี่ยมศิริเจริญ อาจารย์ประจำภาควิชากายวิภาคศาสตร์ เป็นผู้ริเริ่มโครงการฯ ดังกล่าว
สำหรับการเรียนกับอาจารย์ใหญ่สุนัข รศ.สพ.ญ.พ.อ.หญิง มาลีวรรณ ได้เคยเล่าให้ฟังผ่านสกู๊ปข่าว "มะหมา" อาจารย์ใหญ่ ว่า นิสิตสัตวแพทย์ที่จะได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่สุนัขจะเป็นนิสิตสัตวแพทย์ชั้นปีที่ 1 ซึ่งจะได้เรียนในเทอมที่ 2 และพอขึ้นชั้นปีที่ 2 ก็จะได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่สุนัข ทั้งเทอม 1 และเทอม 2 เรียกว่านิสิตสัตวแพทย์จะได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่สุนัขทั้งหมด 3 เทอมด้วยกัน ซึ่งจะเป็นการเรียนทางกายวิภาคศาสตร์ เรียนรู้ทุกระบบต่างๆ จากร่างกายสุนัขอย่างเต็มที่ และเรียนอย่างคุ้มค่ามากที่สุดจากอาจารย์ใหญ่สุนัขนี้
ทั้งนี้ นิสิตสัตวแพทย์ที่ได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่สุนัข ทุกคนจะให้ความเคารพ และให้เกียรติว่าเป็นอาจารย์ที่มาให้ความรู้ ไม่แตกต่างไปจากนิสิตแพทย์ที่เรียนกับอาจารย์ใหญ่ที่เป็นคน หลังเรียนเสร็จแล้วจะส่งซากสุนัขไปเผาตามระเบียบการปฏิบัติของโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไป อย่างไรก็ตาม นิสิตสัตวแพทย์ทุกคนต่างยกให้สุนัขเป็นอาจารย์ และมักจะนำพวงมาลัยมาไหว้โครงกระดูกสุนัขอยู่เสมอ
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการบริจาคสุนัขเสียชีวิต ทางคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขอรับบริจาคเฉพาะสุนัขที่เสียชีวิตในโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่สัตวแพทย์ตรวจแล้วว่าไม่ได้เสียชีวิตด้วยโรคติดต่อร้ายแรงเท่านั้น สามารถติดต่อได้ที่หน่วยประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลสัตว์ฯ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 0-2579-7539, 0-2579-058-9 ต่อ 6201
หลายครั้งที่เราต้องฝังเพื่อนรักสี่ขาด้วยน้ำตา ได้รู้แบบนี้ ลองเปลี่ยนความโศกเศร้ามาเป็นบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ เพราะร่างของเจ้าเหมียว และมะหมามีคุณูปการต่อวงการแพทย์ไม่ต่างจากร่างอันไร้วิญญาณของมนุษย์ โดยเฉพาะโลกแห่งการศึกษาของเหล่านิสิตสัตวแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้เป็นพื้นฐานสําหรับการเรียน และนําไปประยุกต์ใช้รักษาต่อไป
เรื่องโดย ASTVผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพประกอบจากเพจ "ทูนหัวของบ่าว"
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754