xs
xsm
sm
md
lg

แกะรอยโศกนาฏกรรมน้องแก้ม! บนรถไฟสายมรณะในความหวั่นกลัวที่ยังหลงเหลือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โศกนาฏกรรมที่เกิดกับเด็กหญิงวัย 13 ปีกลายเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของสังคม หน่วยงานหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงคงหนีไม่พ้น “การรถไฟแห่งประเทศไทย”

ทันทีที่ความจริงเริ่มคลี่คลายคนร้ายถูกรวบตัว ทีมงาน ASTV ผู้จัดการ LIVE ลงพื้นที่สำรวจความเปลี่ยนแปลงบนขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ - สุราษฎร์ธานี ก่อนย้อนรอยจุดเกิดเหตุบนรถนอนลมจากสุราษฎร์ธานี - กรุงเทพฯ ท่ามกลางความหวาดหวั่นที่ยังหลงเหลือ! จุดเสี่ยงภัยที่ยังคงอยู่! อันตรายแฝงเร้นที่อาจถูกมองข้าม! ปากคำของผู้คนที่แวดล้อมและยังคงใช้ชีวิตทาบทับไปกับเส้นทางโศกนาฏกรรม...ความหวาดหวั่นยังคงหลงเหลืออยู่ในใจพวกเขา

กรุงเทพฯ - สุราษฎร์ธานี

เวลา 22.23 น.ของวันที่ 8 กรกฎาคม หลังความจริงคลี่คลายคนร้ายถูกจับกุมการค้นหาตัวเด็กสาวเริ่มต้น

หัวลำโพงคือศูนย์กลางแห่งหนึ่งของรถไฟไทย ทุกสิ่งทุกอย่างของรถไฟไทยเริ่มต้นจากที่นี่ หลังข่าวเศร้าทุกชีวิตยังคงต้องออกเดินทาง ผู้คนนั่งรอรถไฟมาถึง หลายคนพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.) 3 - 4 เดินตรวจตราอยู่ภายในชานชาลาดูหนาตากว่าปกติ แบ็กแพกเกอร์ชาวต่างชาติยังคงเดินทางท่องเที่ยว พวกเขาอาจไม่ทราบถึงความเศร้าที่ก่อตัวขึ้น เมื่อดินแดนแห่งรอยยิ้มไม่แย้มยิ้มให้เขาอย่างที่เคย

เบื้องหน้าหัวลำโพงยังคงปรากฏภาพชินตาของผู้คนนอนบนผ้ามันรอคอยรถไฟ หลายคนแต่งตัวมอซออาจไม่มีทางเลือกในการเดินทางนอกจากรถไฟฟรี ที่จุดจำหน่ายตั๋วร้างผู้คน บนรถไฟขบวนมุ่งสู่ภาคใต้นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ชาวมุสลิมสวมฮิญาบดูจะเดินทางกันมากเป็นพิเศษ

เวลา22.58น. รถไฟสปรินเตอร์ที่นั่งแบบเอนนอนแอร์คือตัวเลือกในการเดินทางขาไปของเรา มันเริ่มเคลื่อนออกจากสถานี ตำรวจรถไฟเดินตรวจตราภายในโบกี้ ไม่นานนักนายตรวจก็ปฏิบัติงานตรวจตั๋ว กลิ่นบุหรี่ปนยาสูบอบอวนเป็นกลิ่นเฉพาะตัว เราแอบคิดในใจ “อย่างน้อยก็ไม่ใช่กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์!”

พนักงานรักษาความสะอาดร่างใหญ่เปลี่ยนถุงดำในช่องใส่ที่สลักปิดล็อกชำรุด ระหว่างรถไฟวิ่งฝาปิดส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดสลับล้อกระทบราง สาวแอร์รถไฟเดินแจกผ้าห่ม บนรถยังคงมีหญิงสาวเดินทางกับครอบครัว ท่าทีของเธอดูระแวดระวังเป็นพิเศษ

เวลา 23.08 น. ไฟยังไม่ดับ หลังทำหน้าที่นายตรวจตั๋วยังคงนั่งอยู่ในโบกี้ในที่นั่งที่ยังว่างอยู่ เราสังเกตตามเบาะนั่งมีร่องรอยปริขาดราวผ่านการใช้งานมาอย่างยาวนาน พอนั่งได้แต่ก็ค่อนข้างแข็งหากนั่งนาน 23.24 น.สาวแอร์รถไฟเริ่มบริการเข็นรถเครื่องดื่มที่มีให้เลือกระหว่างน้ำส้มสีฉูดฉาดกับน้ำเปล่าคู่กับขนมปัง 1 ก้อน จากนั้นราว 10 นาที ตำรวจรถไฟถึงเดินตรวจตราอีกครั้ง

เวลา 00.04น. ลูกแมลงสาปตัวหนึ่งเดินผ่านอยู่ใต้เบาะ ผู้โดยสารหลายคนแกะผ้าห่มจากถุงห่อก่อนซุกตัวลงใต้ผืนผ้าเตรียมเข้านอน จนช่วง 02.00น. รถไฟเดินทางมาถึงหัวหินมีผู้โดยสารหญิงท่านหนึ่งนั่งลงที่เบาะห่างออกไป เธอเดินทางคนเดียว หลังยื่นตั๋วให้นายตรวจเธอห่มผ้าหลับใหลในห้วงนิทราแทบจะในทันที ไม่นานแสงไฟก็หรี่ลงเป็นไฟส้ม ผู้โดยสารต่างเอนเบาะนอนพัก มีคนเข้าห้องน้ำนานครั้ง ถัดจากห้องน้ำไม่ไกลคือที่นั่งพร้อมนอนได้ของสาวแอร์รถไฟ

เมื่อประเมินดูจากการเดินทางด้วยรถนั่งแบบเอนนอนแม้จะนอนหลับได้ยากกว่า แต่หากมีเหตุร้ายก็เป็นไปได้ที่จะอยู่ในสายตาของผู้โดยสารคนอื่น ด้วยเบาะนั่งที่ชิดกันพร้อมทั้งการไม่มีม่านกั้น เป็นที่เปิดโล่งพร้อมทั้งไฟที่ยังเปิดหรี่พอให้มองเห็นได้ จุดที่ดูเสี่ยงคงจะเป็นที่ห้องน้ำที่ฝากความปลอดภัยไว้กับสาวแอร์รถไฟที่ในช่วงค่ำคืนอาจนอนหลับพักผ่อนอยู่เท่านั้น และในห้องน้ำมีหน้าต่างที่เปิดกว้างพอจะโยนร่างคนออกไปได้!

เวลา 03.50 น. รถไฟเดินทางถึงประจวบคีรีขันธ์ เรายังไม่ทราบข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุด ช่วงเวลาเดียวกัน นั้นทีมค้นหาพบร่างเด็กหญิงใกล้สถานีวังก์พง อ.ปราณบุรี...

สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี

ใกล้ถึงจุดหมาย เวลา 6.48น. นายตรวจเดินตรวจตราอีกครั้ง ตำรวจรถไฟเหมือนจะหายไปจากขบวนรถเสียแล้ว พนักงานรักษาความสะอาดลงมือกวาดพื้นแบบหยาบๆ ก่อนกลับมาถูพื้นแบบลวกๆ เฉพาะบริเวณทางเดิน แอร์สาวเตรียมต้มน้ำร้อนก่อนเข็นรถเสิร์ฟกาแฟพร้อมของว่างไปตามที่นั่ง เราถามเวลาถึงจุดหมาย เธอบอก ถึง 8 โมงตามเวลาหน้าตั๋วกำหนด

เวลา 8.00 น. ถึงที่หมายตามกำหนด รถไฟสปิลเตอร์ถือว่ายังเชื่อใจได้ ที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี หากย้อนกลับไปวันที่ 6 ก.ค. เที่ยวขบวนรถไฟ 174 ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จิระศักดิ์ ศรศุภราช รักษาการนายสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อีกหน้าที่หนึ่งของเขาคือหัวหน้าหน่วยบริการขายตั๋ว ดวงตาเขาดูหมองคล้ำ ถุงใต้ตาหนาชั้น อาจเพราะหลายวันที่ผ่านมามีเรื่องหลายอย่างต้องจัดการ

“หลังจากได้รับแจ้งก็รีบประสานงานทันที น้องเขาเป็นญาติห่างๆด้วยแต่ถึงไม่ใช่ญาติเราก็ต้องทำหน้าที่อยู่แล้ว เราก็ทำเท่าที่มีความสามารถที่จะทำได้ ยายเขาก็รู้จักกันดีจากที่มาซื้อตั๋วที่นี่บ่อยๆ ผู้โดยสารตอนนี้ก็ลดลงพอสมควรแต่ก็ยังไม่กระทบมาก น้องเขามาขึ้นรถที่นี่อาจจะไม่ใช่จุดเกิดเหตุแต่ที่นี่ก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน”

รปภ.ที่ชานชาลายืนควบ 2 กะนัยน์ตาดูอ่อนล้า เขาเปิดสมุดจดเวรปกแข็งให้เห็นเที่ยวรถขบวน 174 วันนั้นเขาไม่ได้เข้าเวร หลังเกิดเหตุเขาถูกกำชับให้ทำหน้าที่ตามระเบียบ หากแต่ในส่วนของเขาที่ประจำอยู่ในสถานีก็ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไรให้ดีขึ้น

ภายในห้องที่เป็นเสมือนป้อมยามเรานั่งลงพูดคุยกับตำรวจรถไฟคนหนึ่งถึงการทำงาน ตำรวจรถไฟจะแบ่งพื้นที่รับผิดชอบคล้ายตำรวจปกติ มีการขึ้นรถไฟสลับขบวนตามเขตดูแล “เราก็พยายามทำให้เพียงพอที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่จำนวนเจ้าหน้าที่มันน้อยไม่เพียงพอกับจำนวนรถไฟที่วิ่งอยู่จริงๆ”

เวลา 10.21 น. ตำรวจท่องเที่ยว 4 คนมาตรวจที่สถานีรถไฟ พวกเขาพยายามถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ หลังได้รับใบปิดแผ่นขนาดพกพาที่มีรายละเอียดเบอร์ติดต่อตำรวจท่องเที่ยว 1155 เป็นสำคัญ การถ่ายรูปดำเนินไปนานพอควรจนชาวต่างชาติคนนั้นต้องถามไถ่เหตุผล

จากนั้นตำรวจท่องเที่ยวพร้อมตำรวจรถไฟก็เดินตรวจตามขบวน แจกใบปิด ถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว พวกเขายิ้มแย้มทักทายดูเป็นมิตรเต็มที่ รอยยิ้มผุดที่ใบหน้าแทบจะพุ่งทะลุออกมา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งประจำการเป็นช่างภาพถ่ายภาพผ่านมือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้อดัง อัปรูปประชาสัมพันธ์อย่างทันท่วงที

“สวัสดีครับ เดินทางไปไหนหรือครับ? ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ มีอะไรสามารถเรียกรับใช้ได้เบอร์นี้เลยครับ”

เวลา14.30น. รถไฟขบวนหนึ่งจอดทิ้งไว้ เราลองขึ้นไปสำรวจดูห้องที่คล้ายกับโบกี้ที่เกิดเหตุ ประตูล็อกไว้แต่ชายคนหนึ่งนอนอยู่หน้าประตูนั้น เขาคือบอย(นามสมมติ) พนักงานปูนอนหนุ่มที่เพิ่งเข้าทำงานได้เพียง 4 เที่ยวรถเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อชีวิตของเขาพอสมควร

“ถ้ามันอยู่ตรงหน้าผม ผมก็อยากจะบีบคอมันให้ตายตรงหน้าเลย ผมเห็นด้วยกับโทษประหารนะ ไอ้คนนั้นมันทำให้เสื่อมเสียทั้งหมด ปลาเน่าตัวเดียวแท้ๆ คือผมเพิ่งดีใจที่สอบเข้ามาได้ แต่ตอนนี้ความภาคภูมิใจมันหายไปหมด ในเน็ตเห็นเขาด่ากันทั่วเลย”

ตอนนี้เขาเป็นพนักงานอัตราจ้างที่เพิ่งสอบเข้ามาจากที่เปิดรับสมัคร 90 อัตราเมื่อเดือนก่อน ต้องทำงานเซ็นสัญญาจ้างกันแบบปีต่อปี เมื่อมีประสบการณ์การทำงาน 2 ปีจึงจะยื่นสอบบรรจุได้

“ชุดที่เห็นใส่ๆกันส่วนมากยังเป็นลูกจ้างยังไม่ได้บรรจุ สังเกตมีดอกไม้ที่คล้ายๆ ดาวติดที่ไหล่ถึงจะเป็นพนักงาน ผมว่าเหตุที่เกิดขึ้นมันเพราะคนร้ายเป็นคนในด้วยเลยรู้จังหวะว่าช่วงไหนไม่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจ พอเป็นแบบนี้มันเลยแย่ เพราะตำแหน่งงานพวกผมมันต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้โดยสาร”

เวลา 16.20 น. ผู้ช่วยนายสถานีอีกคนเข้ามาทำหน้าที่ ในห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์เก่าแทบจะชำรุด โต๊ะตัวหนึ่งเปราะพังมีรูทะลุจนเห็นภายในลิ้นชัก มีเพียงเครื่องปรับอากาศที่ดูใหม่พร้อมป้ายติด “ช่วยมือประหยัดพลังงาน ปิดเวลา 5.00น. - 10.00น.”

“จริงๆ ก็อยากให้พวกระดับผู้ใหญ่ลองมานั่งดูอาจจะเห็นปัญหาแล้วก็มาช่วยหาทางแก้ไข” ผู้ช่วยนายสถานีเอ่ยบอกเรา “กรณีนี้ผมว่าปัญหาอยู่ที่ขั้นตอนการรับคน ก็น่าจะพอแก้ไขได้อาจจะตั้งเกณฑ์ผ่านการบวชเรียนมาหรือยัง? เหมือนแต่งงานสมัยก่อนก็มีถามกันแบบนี้ หรือถ้ากลัวก็รับผู้หญิงมาเป็นพนักงานปูนอนเพราะตอนนี้เขาก็เริ่มมีใช้กันแล้ว แรงผู้หญิงก็พอทำได้แล้วให้พนักงานปูนอนหญิงพกอุปกรณ์ป้องกันตัวเองจากผู้โดยสารแทน แต่มันจะละเมิดสิทธิการประกอบอาชีพหรือเปล่า?” ข้อเสนอของเขาฟังดูน่าสนใจ

เวลา 17.34 น. รถไฟขบวน 174 เข้าเทียบชานชาลาตรงกลับกรุงเทพฯ เป็นเที่ยวเดียวกับที่เกิดเหตุ เราลองขึ้นไปดูในโบกี้ที่เกิดเหตุ ยังคงมีผู้ใช้บริการแม้ว่าการรถไฟจะประกาศคืนตั๋วได้ในราคาเต็ม เมื่อเห็นเราถ่ายรูปผู้คนถามไถ่ นี่คือขบวนเดียวกับที่เกิดเหตุหรือเปล่า? เราหันถามพนักงานได้คำตอบพร้อมยิ้มแห้งๆว่า “เขาบอกว่าโบกี้เกิดเหตุถูกยึดไว้ตรวจสอบหลักฐานแต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

เมื่อเรากลับมาที่ห้องผู้ช่วยนายสถานี สำนักข่าวแห่งหนึ่งรายงานข่าวนักศึกษารวมตัวประท้วงขับไล่ผู้ว่าฯการรถไฟ ประภัสร์ จงสงวนซึ่งในเวลาต่อมาก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง “การเมืองหันมาเล่นผู้ว่าฯการรถไฟเสียแล้ว เขาเป็นคนทำงานนะ รถไฟเกิดอุบัติเหตุมาเขาก็ไปจัดการเองทุกที” ผู้ช่วยนายสถานีเอ่ยพลางดูทีวีด้วยสายตาเซื่องซึม

“พวกนี้มันต้องเรียกชิงหมาเกิด” พนักงานทำความสะอาดหญิงเอ่ยขึ้นขณะถูพื้น เธอหมายถึงคนร้ายที่ก่อคดี

สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพฯ

เวลา21.25น. คือเวลาในตั๋วขาออกที่เราพอจะหาได้ มีที่นั่งแบบเดียวกับที่เกิดเหตุ แต่รถไฟมาสายกว่ากำหนด พนักงานบอกว่าเป็นเรื่องปกติ ในช่วง 3 เดือนอาจมาตรงเวลาสักครั้งหนึ่งเท่านั้น เพราะรถไฟมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด บางครั้งก็มีเฮลิคอปเตอร์บินนำทาง มีเหตุระเบิดบ่อยบางทีก็หัวจักรเสีย รถไฟมาสาย 1 - 5 ชม.เป็นปกติ และแย่ที่สุดคือ 1 วันเต็ม!

เวลา 23.32 น. รถไฟเทียบชานชาลา เราโดยสารด้วยที่นั่งนอนลมแบบเดียวกับที่เกิดเหตุ หลังจากรถไฟออกวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดส่งเสียงโคลงเคลงดังกึกก้อง ให้ความรู้สึกเหมือนเสียงร้องของเราจะวูบหายไปกับอากาศเบื้องนอก ลมพัดหวีดหวิวจังหวะเร่งเครื่องขับคลอกับเสียงล้อกระแทกราง

เราทดลองเปิดหน้าต่างที่มีร่องรอยชำรุด เปิดกว้างที่สุดเสียงดังจากภายนอกโถมเข้าสู่ภายใน ทว่า หากได้มีโอกาสร้องเรียก คนข้างนอกก็พอจะได้ยินเสียง...หากได้มีโอกาสส่งเสียง และจากที่นอนชั้นล่างเมื่อลองเคาะที่ด้านบนผู้นอนด้านบนก็พอจะสัมผัสได้ถึงแรงกระแทก ทว่า ผู้เสียหายได้มีโอกาสดิ้นรนต่อสู้ขัดขืนหรือเปล่า? ถึงตอนนี้ความจริงก็ปรากฏแล้วว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่าหนึ่งคน

“ผมก็อยากให้ประหาร ไม่รู้มันเข้ามาได้ยังไง ได้ยินว่า คนร้ายเคยเป็นลูกจ้างทำความสะอาด บริษัททำความสะอาดก็บริษัทเดิมมา 20 ปีแล้ว ทำก็ไม่สะอาด พวกนี้ไม่สอบประวัติด้วยส่วนมากก็แรงงานพม่า บัตรประชาชนไม่มียังรับเลย คนร้ายเส้นเข้ามาแน่ๆ” พนักงานปูนอนตู้แอร์เอ่ยหลังจากเราชวนคุยถึงคดี “วัฒนธรรมรถไฟมันขึ้นอยู่กับหัวหน้าทีม ถ้าคนนำดื่มเหล้าลูกน้องก็ต้องดื่มตาม ถ้าไม่ทำลูกน้องจะกล้าเหรอ”

ถึงตอนนี้ผู้โดยสารส่วนใหญ่พักผ่อนอยู่ในที่นอนของตัวเอง ปิดม่านสนิทแยกขาดจากภายนอก หากมองจากบริเวณทางเดินก็ดูราวกับไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงม่านที่โบกไปมาเท่านั้น ไฟบนรถเปิดอยู่ตลอดเวลา พนักงานแจงว่า จะมีหรี่บ้างในช่วงที่รถไฟวิ่งช้าลงจากระบบไฟที่ใช้ไฟจากการขับเคลื่อนของล้อจักร

เมื่อเข้ามานอนในเตียงชั้นล่าง สำรวจดูเราก็พบว่า มีปุ่มสัญญาณฉุกเฉินติดตั้งไว้ หากมีเหตุฉุกเฉินเมื่อกดจะมีสัญญาณไฟพร้อมเสียงดังขึ้น แต่ปุ่มที่ไม่ค่อยได้กดอีกทั้งยังไม่ค่อยได้มีการแจ้งบอกแก่ผู้โดยสาร หากไม่ทันสังเกตก็อาจไม่ทราบว่ามีปุ่มนี้อยู่ และความเก่าคร่ำของมันก็อาจทำให้ปุ่มเหล่านี้ใช้การไม่ได้อีกด้วย

ตกดึกฝนโปรยละออง บรรยากาศเศร้าหม่นยิ่งเข้าปกคลุม หญิงวัยกลางคนเดินทางคนเดียวด้วยรถนอนลม สีหน้าเธอไม่สู้ดีนัก “ก็ถ้าไม่ได้จองล่วงหน้าแล้วต้องเดินทางก็คงจะไม่มา ตอนนี้ก็รู้สึกกลัวๆ อยู่เหมือนกัน”

นายตรวจดูบางตากว่าขบวนขามา ตำรวจรถไฟเดินตรวจสวนทางกับเรา ระหว่างนั้นเราสังเกตเห็นพนักงานรถนอนประจำโบกี้รถนอนลมดูยังหนุ่มอายุประมาณ 25- 30 ปี อยู่ในชุมเสื้อยืดเนื้อบาง กางเกงสแลกกับรองเท้าแตะ ไม่ได้สวมเครื่องแบบ

เวลา 03.25 น. เวลาเดียวกับช่วงเกิดเหตุเราลองเดินสำรวจพบว่า มีการล็อกระหว่างโบกี้ชั้น 2 กับชั้น 3 เพื่อป้องกันขโมย นายตรวจคงหมดหน้าที่แล้ว พนักงานรถนอนพักผ่อนอยู่ที่ช่องระหว่างโบกี้ที่มีอีกชื่อว่า ห้องพนักงาน เราลองไปสำรวจห้องน้ำที่อยู่ติดกัน ยังคงเป็นจุดที่ดูเสี่ยงอันตรายเช่นเคย หน้าต่างเปิดกว้างทิ้งไว้และกว้างพอจะทิ้งร่างคนได้เหมือนขบวนขามา ในห้องน้ำมีรอยขีดข่วนและสนิมขึ้นพอสมควร มีเพียงสายชำระกับฝักบัวที่ดูใหม่ใช้การได้ดี กระดาษทิชชู่ถูกแขวนไว้ที่ราวซึ่งทำจากเชือกฟาง

เช้าวันต่อมาใกล้ถึงกรุงเทพฯ เราตั้งข้อสงสัย...อะไรคือความเสื่อมถอยของรถไฟไทย การถูกแช่แข็งจากการพัฒนามาอย่างยาวนานอย่างนั้นหรือ? ช่องว่างช่องโหว่งบางอย่างเหมือนจะถูกถ่างให้กว้างขึ้น...การคัดเลือกบุคคลที่ขาดการตรวจสอบประวัติ ระบบการทำงานที่ฝากความปลอดภัยของผู้โดยสารไว้กับพนักงานเพียงคนเดียว ตำรวจรถไฟที่มีไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ งบประมาณที่พอเพียงประคองให้อยู่รอดกลายเป็นปัญหาที่หยั่งรากยากเกินกว่าจะแก้ไขได้ง่ายๆ


ระหว่างการลงพื้นที่ครั้งนี้ ปากคำจากพนักงานรถไฟไม่ว่าพวกเขาจะพูดเพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรหรือพูดจากใจจริง ไม่ว่าทางใดพวกเขาก็มีศักดิ์ศรีในวิชาชีพที่ตัวเองยึดถือ

9.15น.คือเวลาถึงจุดหมายที่ระบุไว้ในตั๋ว แต่ถึงเวลา 10.15 น.รถไฟเพิ่งเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างทางมีพ่อค้าหิ้วถังขึ้นมาขายเครื่องดื่มโดยมีเบียร์กระป๋องอยู่ในถังนั้นด้วย! พนักงานรถนอนเข้ามาขออนุญาตเก็บเตียง “ผู้โดยสารหลายคนมักลืมของไว้บนเตียง การเก็บเตียงก่อนถึงที่หมายเป็นการช่วยลดของหายได้” เขาเอ่ยพลางทำหน้าที่เหมือนปกติ



หลังจากโศกนาฏกรรมผ่านพ้น...ผู้คนยังคงโศกเศร้า การป้องกันอาชญากรรมก่อนที่จะเกิดถือเป็นเรื่องในอุดมคติแม้จะเป็นไปได้ยาก แต่มนุษย์เราก็รู้จักเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น การที่สังคมตื่นตัวร่วมกันค้นหาจุดเสี่ยงด้วยจิตใจที่รู้สึกถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับคนรอบข้างแม้จะไม่ใช่คนรู้จัก มองหาแนวทางป้องกันพัฒนาระบบระเบียบที่ดีขึ้น อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดจากการสูญเสียครั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่สังคมเรียกร้องคือ “ขอให้เธอเป็นเหยื่อคนสุดท้าย” แม้จะเป็นอุดมคติที่เป็นไปได้ยากสักเพียงใดก็ตาม

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754


ตำรวจรถไฟและตำรวจท่องเที่ยวออกตรวจตรา
ผู้ช่วยนายสถานีทำหน้าที่ให้สัญญาทุกครั้งที่รถไฟเทียบชานชาลา

พนักงานปูนอนยังอยู่ในวัยหนุ่มแน่น
บันไดชำรุด

ทางเดินยามค่ำคืนร้างผู้คน
ปุ่มสัญญาณฉุกเฉิน
หน้าต่างตัวล็อกชำรุดหากออกแรงเปิดจะเปิดกว้างได้มากกว่านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น