xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ทริปนี้..มาช่วยด้วยรัก ณ ป่าชายเลนชุมชนบ้านแหลมฉบัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




"มากันทุกปีค่ะ ลงจริง ลุยจริง ทั้งแม่ ทั้งลูกเปอะเปื้อนกันไปหมด แต่ถึงเลอะก็ไม่สำคัญเท่ากับการได้ใช้สองมือเล็กๆ ของเราช่วยคืนสมดุลสู่ธรรมชาติ แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ แต่ทั้งหมดนี้เราปลูกกันด้วยใจล้วนๆ ค่ะ"

เสียงบอกเล่าของ เล็ก-อารีย์ เหมือนเพ็ชร อายุ 43 ปี พนักงานโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา เผยให้เห็นรอยยิ้มแห่งความสุขที่ได้มาเป็นจิตอาสาฟื้นฟูธรรมชาติบริเวณป่าชายเลนชุมชนบ้านแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ร่วมกับลูกๆ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมดีๆ ของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นำโดย ดร.อดิศักดิ์ แจ้งกมลกุลชัย กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา พร้อมด้วยพนักงาน และครอบครัว ตลอดจนชมรมจิตอาสารักษ์สิ่งแวดล้อมกว่า 100 ชีวิต เพื่อช่วยกันคืนสมดุลสู่ธรรมชาติก่อนจะสายเกินแก้

อารีย์ บอกต่อไปถึงเหตุผลของการมาร่วมกิจกรรมในทุกๆ ครั้งว่า จากข่าวภัยพิบัติต่างๆ ทำให้รู้สึกได้ว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมทุกวันนี้ นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาที่ต้องร่วมด้วยช่วยกันเพื่อคืนสมดุลสู่ธรรมชาติ

"ตอนปลูกแรกๆ ยังไม่เห็นป่าโกงกางขึ้นเยอะขนาดนี้ วันนี้เห็นป่าเยอะขึ้นก็รู้สึกดีใจค่ะ ลูกๆ ที่มาด้วยอีก 2 คนก็สนุกสนานกันค่ะ ถือเป็นการสอนพวกเขาให้รู้จักช่วยเหลือสังคม และช่วยกันฟื้นฟูธรรมชาติ นับว่าเป็นกิจกรรมที่เราแม่ลูกได้ทำด้วยกัน บางครั้งก็ขับรถกันไปเองค่ะ เอาสิ่งของเครื่องใช้ไปบริจาคเพื่อให้ลูกๆ เห็นว่า เรามี เราก็ต้องแบ่งปัน ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราอีกเยอะ" คุณแม่เล็กเล่า

แน่นอนว่า การออกมาทำกิจกรรมจิตอาสาของหน่วยงานต่างๆ ในทุกวันนี้ มักจะถูกมองว่า เป็นการสร้างภาพ หรือปลูกไปก็ช่วยฟื้นฟูอะไรไม่ได้มาก แต่สำหรับคุณแม่ลูกสองท่านนี้ เธอยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "ครอบครัวเราตั้งใจมาทำ แล้วก็ทำด้วยใจมาโดยตลอด เพราะถือว่าได้ช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นค่ะ ดีกว่าอยู่นิ่งๆ ไม่ลงไม้ลงมือทำอะไรเลย"

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ปลูกป่าชายเลน และทำความสะอาดป่าชายเลนแล้ว ดร.อดิศักดิ์ แจ้งกมลกุลชัย กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา ยังเป็นตัวแทนมอบต้นไม้ และพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่ชุมชนบ้านแหลมฉบัง และตัวแทนชมรมต่างๆ เพื่อนำไปทำกิจกรรมในพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณชุมชนต่อไปด้วย

เจาะลึกลงไปเกี่ยวกับ "ป่าชายเลน" ถือว่าเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เพราะเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศวิทยา ครูจ่า-อภิวิทย์ นวลแก้ว ที่ปรึกษาชุมชนบ้านแหลมฉบัง และเป็นผู้ริเริ่มฟื้นฟูป่าชายเลนตั้งแต่ปี 2546 ให้ความรู้ว่า การปลูกป่าชายเลน เป็นการสร้างเกราะกำบังคลื่นบริเวณชายฝั่งทะเล และคืนสมดุลสู่ธรรมชาติ สำหรับป่าชายเลนชุมชนบ้านแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นั้น เมื่อก่อนมีพื้นที่ป่าชายเลนประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้สมบูรณ์ขึ้นมาแล้ว 95 เปอร์เซ็นต์

"น่าจะเป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์ที่สุดในจ.ชลบุรี เลยก็ว่าได้ ที่สมบูรณ์ขึ้นมาได้นั้น เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชน รวมไปถึงหน่วยงานต่างๆ อย่างโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชาที่เข้ามาช่วยฟื้นฟู โดยส่งพนักงาน และงบประมาณเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานของชุมชนให้ดำเนินกิจกรรมนี้ไปได้ด้วยดี" ครูจ่าเผย ก่อนจะฝากไปถึงบุคคล หรือหน่วยงานที่อยากจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมอนุรักษ์ป่าชายเลน

"ต้องถามใจคุณก่อนว่าพร้อมหรือไม่ เพราะเป็นกิจกรรมที่ต้องลุย ต้องเลอะ ไม่เหมือนป่าบกที่ขุดหลุม เอาต้นไม้มาหย่อนแล้วก็เสร็จ หากใจพร้อมก็ต้องศึกษาพื้นที่ก่อนว่า มีความต้องการต้นไม้อะไร แล้วมีประโยชน์อะไรบ้าง อย่างกิจกรรมในครั้งนี้ เรามาปลูกต้นโกงกางใบเล็ก จากนั้นต้องดูช่วงที่จะมาปลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะเริ่มปลูกในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ต้องดูด้วยว่า น้ำทะเลท่วมถึงไหม ถ้าท่วมไม่ถึงอย่าไปปลูกมันเลย มันจะร้อนและตายได้"

นอกจากนี้ ครูจ่า ยังได้แนะการปลูกป่าชายเลนให้ได้ผลว่า ต้องจับต้นที่จะปลูกให้แน่น หากจับไม่ระวังอาจหักได้ ขณะลงปลูกต้องถอดถุงหุ้มรากออกก่อน จากนั้นบีบให้แน่นก่อนนำลงไปปลูก ใช้เชือกผูกลำต้นยึดติดกับแท่งไม้ให้แน่นหนา กันหลุดลอยตอนน้ำขึ้นสูง

สุดท้ายนี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสการปลูกป่าชายเลนมีเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าทุกคนต้องการช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่จะดีไม่น้อย ถ้าการปลูกป่าเป็นมากกว่าแฟชั่น เพราะสิ่งที่เราต้องการคือผลที่ได้จากการปลูก ไม่ใช่ปลูกเพื่อให้ได้มากที่สุด หรือปลูกเพื่อให้ได้ปลูก

เรื่องและคลิปโดย ASTV ผู้จัดการ Live

ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!







กำลังโหลดความคิดเห็น