ยังมีความเชื่อกันว่า การเคี้ยวหมากฝรั่ง หรืออมลูกอมรสต่างๆ จะช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่นแบบสั่งได้ ความจริงแล้วนั้นเป็นกลิ่นหอมเพียงชั่วคราวเท่านั้น หารู้ไม่! สารสังเคราะห์ที่เจือปนอยู่ในส่วนประกอบของหมากฝรั่งและลูกอมนั้นก่อเกิดโทษแก่ร่างกาย
ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจ จากการสุ่มสำรวจสถานการณ์การบริโภคอาหารว่างและเครื่องดื่ม การดูแลสุขภาพช่องปาก และสภาวะทันตสุขภาพของเยาวชนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ทั่วประเทศ ปี 2556 ของกรมอนามัย พบว่า 42.3 เปอร์เซ็น อมลูกอมเพื่อระงับกลิ่นปาก และเข้าใจผิดว่าหมากฝรั่งและลูกอมช่วยลดกลิ่นปาก
แต่ความจริงแล้วมีกลิ่นหอมเพื่อกลบกลิ่นปากชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ได้รับอันตรายจากสารเคมี สารสังเคราะห์ที่เป็นส่วนประกอบของหมากฝรั่งและลูกอมมากเกินไป เช่น สารกันเสีย (PBA) และสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลเอสปาร์แตม (aspartame) ซึ่งหากบริโภคในปริมาณมากเกินกว่า 50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
และอาจก่อให้เกิดมะเร็งเป็นอันตรายต่อสมองได้ รวมทั้งสารที่ให้รสชาติเหมือนน้ำตาลจริงและให้พลังงานต่ำ เช่น ซูคลาโลส หากได้รับ มากเกิน 15 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน จะเป็นอันตรายต่อต่อมไทยรอยด์ ตับ และไต ได้เช่นกัน
ด้านข้อมูลจากมูลนิธิโลกสีเขียว เปิดเผยว่าตลาดรวมหมากฝรั่งนั้นมีมูลค่า 3.6 พันล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นหมากฝรั่งประเภทเคี้ยวแล้วลมหายใจสดชื่น 37 เปอร์เซ็น, ให้ความเพลิดเพลิน 35เปอร์เซ็น, เพื่อสุขภาพ 14เปอร์เซ็น, และหมากฝรั่งให้ความเย็นและสดชื่น 14 เปอร์เซ็น
อย่างไรก็ตาม ดร.นพ.พรเทพ ให้คำแนะนำว่า การลดกลิ่นปากที่มีประสิทธิภาพจึงต้องดูแลและทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำตามสูตร 2-2-2 คือ แปรงฟันวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ เช้าและก่อนนอน และแปรงฟันนานอย่างน้อย 2 นาที เพื่อให้สะอาดทั่วทั้งปากทุกซี่ ทุกด้าน และให้ฟลูออไรด์ได้ใช้เวลาทำปฏิกิริยากับฟันเพื่อป้องกันฟันผุอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญควรทำให้ปากสะอาดโดยไม่กินขนมหวาน น้ำอัดลมหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง และหากให้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันวันละครั้ง ก็จะดีต่อสุขภาพช่องปากมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังแนะนำให้แปรงลิ้นด้วยจะช่วยลดกลิ่นปากได้ดี รวมทั้งการจิบน้ำเปล่าบ่อย ๆ ก็จะช่วยรักษาสุขภาพกายและคงความสดชื่นของปากได้ แต่ถ้ามีเหงือกอักเสบ หินปูน หรือฟันผุ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอนามัย, มูลนิธิโลกสีเขียว
////////////////////////////////////
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!