เพราะชีวิตคือการเดินทาง นั่นอาจเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ว่าทำไมหญิงสาวคนหนึ่ง ถึงตัดสินใจออกเดินทางเพียงลำพัง 'ต้นอ้อ - อุไรริสา บุญศิลป์' กราฟิกดีไซน์เนอร์ แห่งค่ายเพลงอินดี้ small room วัย 25 ปี เธอตัดสินใจออกเดินทางแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในเมืองขนาดเล็ก 'สังขละบุรี' อำเภออันทรงเสน่ห์ของ จังหวัดกาญจนบุรี ซุกซ่อนตัวอยู่บริเวณริมแม่น้ำซองกาเลีย ติดชายแดนประเทศพม่า
กับการเดินทางโดย 'รถไฟ' เส้นทางที่คลาสสิกที่สุด โดยแชร์ประสบการณ์เดินทางครั้งนี้ผ่านเว็บบอร์ดดังอย่างพันทิป แน่นอน ทริปฉุกละหุกนี้ได้รับความนิยมล้นหลาม!
เธอเก็บกระเป๋าออกเดินทาง พร้อมๆ กับเสียงตะโกนไล่หลังในเชิงตั้งคำถาม
"ผู้หญิงไปเที่ยวคนเดียว มันจะดีเหรอ?”
"อันตรายนะ..”
"หน้าตาโก๊ะๆ แบบนี้ เดี๋ยวก็ถูกหลอก..”
แต่ดูเหมือนเสียงสั่งการที่ดังมาจากหัวใจ ทำให้หญิงสาวขาลุยก้าวข้ามความกลัวอะไรเทือกนั้นไปได้
เสียงหวูดรถไฟดังขึ้นเป็นสัญญาณว่า ถึงเวลาแล้วที่ 'เจ้าม้าเหล็ก' จะควบพาผู้โดยสารเดินทางสู่กาญจนบุรี M-Lite ขอเชิญชวนท่านผู้อ่าน ควบม้าเหล็กสำรวจเมืองสังขละฯ โดยมีไกด์สาวมือสมัครเล่น 'ต้นอ้อ' รับอาสาพาเที่ยวตลอดทริป
Let's go!
เฮ้! น้องสาวไปเที่ยวคนเดียวไม่กลัวเหรอ?
“คือเป็นคนตัดสินใจแบบฉุกละหุกค่ะ อยากไปเมื่อไหร่ ก็..อยากไปให้ได้ตอนนั้นเลย” หลังสิ้นเสียงจบประโยค ยิ้มตาหยีของต้นอ้อปรากฎขึ้นแทนที่ความเงียบทันที
เธอ เล่าถึงการตัดสินใจออกเดินทางโดยรถไฟไปยังเมืองสังขละฯ เพียงลำพังว่า จริงๆ แล้วทริปนี้มีการเตรียมตัวเป็นปีเลยทีเดียว ย้อนกลับไปช่วงฤดูหนาว ราวๆ 1 ปีก่อน ต้นอ้อ เป็นตัวตั้งตัวตีจัดทริปในกลุ่มเพื่อนโดยมี 'สังขละบุรี' เป็นจุดหมายปลายทางโดยใช้ รถไฟ เป็นพาหนะในเดินทาง ทว่า ทริปในครั้งนั้นดันล่มไปเสียก่อนเพราะสาวๆ ดันตกรถไฟ ประจวบเหมาะกับรถไปขบวนถัดไป ปลายทางคือ หัวหิน จังหวัดประจวบฯ พวกเธอจึงเปลี่ยนแพลนกันเสียดื้อๆ
นั่นเท่ากับว่า เธอมีข้อมูลในการเดินทางไปสังขละฯ อยู่ในมือแล้ว การตัดสินใจออกเดินทางเพียงลำพังครั้งนี้จึงไม่ต้องคิดให้มากความ เช้ามืดของวันหยุดสุดสัปดาห์หญิงสาวเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทาง (ตัดสินใจปุ๊บออกเดินทางทันที) พกแต่สิ่งของจำเป็น เสื้อผ้า เครื่องใช้ส่วนตัว และที่ขาดไม่ได้เลยคือแผนที่และข้อมูลในการเดินทาง และทรปนี้คือการท่องเที่ยวคนเดียวครั้งแรกของเธอ
“เก็บกระเป๋า พรินต์ลายแทง แผนที่ เบอร์รีสอร์ท เบอร์ศูนย์ท่องเที่ยวกาญจน์ฯ เบอร์เพื่อน ตารางเวลารถหมด
เอาทุกอย่างใส่กระดาษพับเข้ากระเป๋า เผื่อโทรศัพท์แบตหมด หรือหาย จะได้ติดต่อคนอื่นได้”
เตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยก็โบกแท๊กซี่ไปยังสถานีรถไฟธนบุรี เพื่อเดินทางโดยรถไฟมุ่งหน้าสู่ อำเภอสังขละฯ ถามว่าทำไมไม่ชวนเพื่อนไปด้วยกันในครั้งนี้ ก็อธิบายได้ไม่ยากเพราะเวลาที่ไม่ตรงกัน อีกทั้งทริปนี้ค่อนข้างฉุกละหุก การออกเดินทางโดยลำพังน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลวนัก
ในส่วนประเด็นที่หลายคนทวงถาม.. ผู้หญิงเดินทางคนเดียวมันจะดีหรอ? น่ากลัวไปหรือเปล่า? ต้นอ้อ ให้คำตอบเสียงดังฟังชัด
“เป็นคนตัดสินใจฉุกละหุก ตอนตัดสินใจไม่กลัว แต่พอเดินทางไปแล้วรู้สึกกลัวนะ (หัวเราะ)”
ต้นอ้อ อธิบายถึงความรู้สึกเป็นกังวลที่เกิดขึ้นนระหว่างทาง ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปคงเป็นเรื่องไม่แปลกนัก อย่างเช่น ถึงจุดเสี่ยงที่ต้องลงจากรถไฟจากสถานนีน้ำตก สถานนีปลายทางที่ต้องไปต่อรถเข้าอำเภอสังขละฯ ความที่รถไฟเสียเวลาร่วม 2 ชั่วโมง “เราก็เริ่มกลัว ตอนโบกรถไปต่อไม่รู้ว่ารถมันจะมาหรือเปล่า ไม่รู้ว่ามันหมดหรือยัง มันไม่ใช่ถิ่นเรา ถ้าสมมุติว่ารถมันหมดแล้ว จะพักที่ไหนอะไรยังไงก็กังวล”
อธิบายง่ายๆ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับทริปนี้ก็คือเหตุสุดวิสัยในเรื่องการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องที่พัก วิธีการเดินทาง เบอร์โทรศัพท์สำคัญ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ ต้นอ้อ จดบันทึกเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางอยู่แล้ว
Backpacker รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
รุ่งเช้า เธอเดินทางถึงสถานนีรถไฟธนบุรี เตรียมออกเดินทางด้วยรถไฟขบบวน ธนบุรี - น้ำตก เวลา 7.50 น.
ต้นอ้อ บอกเหตุผลที่เลือกเดินทางไปเมืองกาญจน์ฯ โดยรถไฟ “ทางรถไฟนี่เป็นทางที่สวยที่สุด ของเมืองกาญจน์ฯ ถูกปลูกฝังมาอย่างนั้นว่ามันสวยที่สุดในประเทศไทย ต้องลองสักครั้ง (ยิ้มร่า)”
โดยไกด์มือสมัคร เล่าประสบการณ์เดินทางผ่านตัวหนังสือ ผ่านกระทู้รีวิวท่องเที่ยว [CR] สะพายเป้ นั่งรถไฟฟรี ลุยสังขละบุรี แบบชิกๆ คูลๆ ในเว็บบอร์ดยอดนิยม ความว่า
“ปกติเราเป็นคนนอนดึก และชอบเล่นเน็ต ดูรูป อ่านเว็บบอร์ด นั่งดูรีวิวไปเรื่อย ไปเจอกับรีวิวนั่งรถไฟข้ามประเทศ ความคิดอยากขึ้นรถไฟก็เลยผุดเข้ามาในหัว อยากไปบ้าง แต่ให้ไปแบบนั้นก็ไม่มีตังค์ ทำไงได้ เอาใกล้ๆ ก่อนแล้วกัน แต่นี่มันวันหยุดแล้วนี่ อยากไปแล้วๆ งั้นไปเช้านี้เลย!
“ตัดสินใจอย่างฉุกละหุก ว่าจะต้องไปสักที่ให้ได้ในช่วงวันหยุด weekend นี้ เลยนั่งเก็บข้อมูล ดูรีวิวรถไฟในประเทศไทย สรุปได้ว่า เราจะไปสังขละบุรี ด้วยรถไฟฟรี ขึ้นที่สถานีบางกอกน้อย (ธนบุรี) เวลา 7.50 น. ลงสุดสถานีที่สถานีน้ำตก นั่งยาวๆ ไปเลย เพราะได้ยินมาว่า ทางรถไฟสายนี้ เป็นสายที่สวยที่สุดในประเทศไทย”
หญิงสาวพูดขึ้นด้วยท่าทางอารมณ์ดีว่า ตลอดการเดินทางเราก็ต้องระมัดระวังตัวเอง เบื้องต้นก็ในเรื่องของมีค่า ต้องเก็บไว้อย่าหยิบขึ้นมาล่อตาล่อใจโจร หรือเวลาคนแปลกหน้าชวนคุย ถามว่าไปไหนไปอย่างไร หรือมาคนเดียวหรอ ก็ควรต้องตอบแบบหลบเลี่ยง เช่น เขาเห็นเรามาคนเดียวก็จริง แต่เราสามารถตอบเขาว่าเพื่อนรออยู่ที่ปลายทาง ตรงนี้ก็เป็นการโพรเทกต์ตัวเองไม่ให้ใครมายุ่มย่ามกับเราได้เหมือนกัน
ม้าเหล็กควบผ่านหลายต่อหลายสถานี เวลา กระทั่งเวลา 14.00 น. ก็มาถึงปลายทางสถานีน้ำตก ต้นอ้อ เล่าต่อ
“ลงสถานีปุ๊ป ต่อสองแถวไปน้ำตกไทรโยค และต่อรถบัสไปสังขละบุรี ถึง 5 โมง และเดิน walk-in หาที่พัก 2 คืน ที่สังขละมีอะไร? เราอยากไปเจอหมู่บ้านมอญ เยือนถิ่นชายแดนไทย-พม่า อยากนั่งรถเล่นเรื่อยเปื่อยดูบรรยากาศระหว่างทาง วิถีชีวิตริมน้ำและภูเขา และ สัมผัสอากาศดีๆ ยามเช้า ได้ใช้ชีวิตอยู่แบบช้าๆ ชิลๆ แผนคร่าวๆ ของเราเป็นแบบนี้แหละ
“เรากำลังเดินทางบนทางรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย ท่องไว้ๆ และรถไฟก็เคลื่อนที่ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆ เรากลัวการข้ามถนน กลัวการข้ามทางรถไฟมาก เคยมาครั้งที่นี่ครั้งหนึ่ง ต้องวิ่งข้ามสะพานแบบสุดชีวิต กลัวรถไฟชน ทั้งๆ ที่รถไฟยังไม่มา คราวนี้ได้เป็นฝ่ายอยู่บนรถไฟบ้าง (ยิ้ม)”
ต้นอ้อ เล่าต่อ “ทางรถไฟสายนี้เรียกว่า ทางรถไฟสายมรณะ เรานั่งฝั่งขวา มีแต่ผนังหิน เลยต้องเดินข้ามมาส่องอีกฝั่งตรงข้อต่อรถไฟ หวาดเสียวสุดๆ แต่ก็ประทับใจกับภาพที่เห็น รางรถไฟเส้นนี้สร้างด้วยไม้ ด้านหนึ่งเป็นหน้าผาหิน อีกด้านเป็นแม่น้ำ ระยะทางไม่กี่ร้อยเมตร แต่รถไฟขับผ่านตรงนี้อย่างช้าๆ ไม่รู้ว่าให้ชมวิว หรือกลัวสะพานไม้จะพังลงมากันแน่ ระหว่างผ่านทางนี้ มีเสียงเอียดๆ ออดๆ มาก รู้สึกเหมือนมันไม้จะหักไม่หัก แต่มันสวยนะ คลาสสิกแบบอธิบายไม่ถูก ชอบๆ นี่ใช่ไหม ทางรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศไทย เรามาแล้วนะ”
3 วัน 2 คืน ซุกกายซุกใจ สังขละบุรี
ลงสถานีปลายทางสถานีน้ำตก ต้นอ้อ เล่าถึงการเดินทางในลำดับต่อไปว่า ใช้วิธีถามทางชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งก็ได้คำตอบว่าให้เดินไปรอรถไปสังขละฯ ตรงใต้ต้นหูกวางที่ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกล
“จังหวะนี้เริ่มหวั่นๆ แล้ว ว่ารถเข้าสังขละฯ จะหมดหรือยัง เพราะรถไฟเลทไปเกือบ 2 ชั่วโมง ตั๋วบอกว่าถึง 12.35 แต่ตอนนั้นมันบ่าย 2 แล้วค่ะ ในแพลนวางไว้ว่า ต้องหารถไปสังขละให้ได้ก่อน บ่าย 2 ถ้าไม่ได้ให้นั่งรถกลับไปนอนกาญเลย
“ถามคนแถวนั้นอีกรอบเพื่อความแน่ใจ เจอชายหญิงคู่หนึ่ง เขาจะไปทองผาภูมิ ซึ่งเป็นทางผ่านก่อนถึงสังขละฯ เขาบอกไปด้วยกันได้ บ่าย 3 รถบัสมาแล้ว เป็นรถแอร์ กาญจน์ฯ - สังขละบุรี แต่เจอปัญหาต่อไปคือ คนแน่นมาก แต่กลัวไม่ได้ไป เลยตัดสินใจเบียดๆ ไป ยืนเบียดๆ กัน 3 คน ตรงทางเดิน คือตอนนั้นคิดในใจเลยว่า ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้วะเนี่ย อยู่สบายๆ ไม่ชอบ ชอบออกมาลำบาก แต่ก็ครั้งหนึ่งในชีวิต..มาถึงขนาดนี้แล้ว จะว่าสนุกก็สนนุก จะว่าเหนื่อยก็เหนื่อย เอาวะ! (หัวเราะร่า)”
ประมาณ 3 ชั่วโมงถัดมา ก็เดินทางถึงสังขละฯ โดยสวัสดิภาพ ใกล้เวลาพลบค่ำแล้วจึงต้องเร่งฝีเท้าหาที่พัก เพราะที่พักส่วนใหญ่ที่ลิสรายชื่อมาไม่รับจองทางโทรศัพท์ ต้อง walk-in อย่างเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น ไกด์มือสมัครเล่นปักหมุดพิกัดแรกไว้ที่ สะพานมอญ โดยใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ชาวพม่า (คาดว่าข้ามมาทำงานที่ฝั่งไทย)
ต้นอ้อ เล่าว่า ไปถึงสะพานมอญตอนเช้าแดดอ่อนๆ เดี๋ยวนี้วิถีชาวบ้าน จากเรือที่ไว้ใช้ออกหาปลา ก็เป็นเรือสำหรับออกหานักท่องเที่ยว ตกเบ็ดกันด้วยคำพูดเชื้อเชิญ โดยมีเหยื่อเป็นสถานที่ ชีวิตคนเรามันเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดได้ตลอดแหละ แล้วก็โบกรถไปเที่ยวจุดแลนด์มาร์ก วัดหลวงพ่ออุตมะ และเจดีย์พุธคยา พอสายๆ ก็ข้ามสะพานมอญกลับมาฝั่งไทย
จบทริปช่วงเช้ากลับมาพักที่รีสอร์ต ก่อนเตรียมตัวเดินทางกับทริปภาพบ่ายที่แพลนเอาไว้แล้ว คือไปด่านเจดีย์สามองค์ และข้ามไปดูวิถีชีวิตฝั่งพม่า
แต่กว่าจะข้ามพ้นชายแดนไทยก็ต้องผ่านตรวจอยู่หลายขั้น จนมาถึงด่านสุดท้าย ที่ต้องจดจำมิรู้ลืม
“ช่วงที่ระทึกคือตอนนั่งรถสองแถวเข้าพม่า สองแถวจอดก่อนถึงด่านประมาณ 500 เมตร เราก็ขี้เกียจเดิน ก็เลยไปเรียกมอเตอร์ไซค์ บอกเขาไปด่านข้างหน้าตรงไปนิดหนึ่งก็ถึงแล้ว แต่เขาก็เข้าใจอีกอย่างจะพาเราไปข้างล่างๆ เถียงๆ กัน คือด่านตรงไปก็ถึงแล้ว แต่พี่เค้าเข้าถนนใหญ่แล้วเลี้ยวออกเลย เป็นอีกทางหนึ่ง เราก็ เห้ย! พามาทางไหนเนี่ย เปลี่ยวเลย น่ากลัวนะแต่ก่อนหน้ามีมอเตอร์ไซค์อีกคันหนึ่งมาฝากเด็กไปฝั่งพม่าด้วย ก็มีเด็กข้างหน้าคนหนึ่ง มีคนขับ แล้วก็เรา นั่งไปด้วยกัน พอเขาเข้าไปในซอยออกมาอีกทีแบบ เหมือนวาร์ปเราอยู่ที่หนึ่งแล้วไปโผล่ในหมู่บ้านที่มีแต่ภาษาอะไรก็ไม่รู้ อ่านไม่ออก เห้ย! นี่เราข้ามมาพม่าแล้วไม่ต้องผ่านด่านด้วย”
ส่วนกิจกรรมในฝั่งพม่า ก็เดินเล่นรอบๆ ใรรัศมี 1 ก.ม. แล้วก็ชิมอาหารพื้นเมืองของเขา เช่น หมูพะโล้เสียบไม้ที่รสชาติอร่อยทีเดียว
“มันอร่อยมาก มีหม้อพะโล้ใหญ่ๆ อยู่ตรงกลาง หมูสามชั้น หนังหมู เนื้อหมู ตับ ใส้ เครื่องใน แต่ละชิ้นถูกหันเสียบไม้ให้เรียบร้อย มีน้ำซุปร้อนๆ มาเสิร์ฟ มีน้ำจิ้มเลือก 2 ชนิด อันหนึ่งเหมือนน้ำจิ้มสุกี้ อีกอันเหมือนน้ำจิ้มซีฟู๊ด
กินอย่างสบายใจ เหมือนอยู่ในซูชิบาร์ (ยิ้ม)” ไกด์มือสมัครเล่นบรรยายความประทับใจ
แล้วก็โบกมอเตอร์ไซค์กลับเข้ามายังประเทศไทย แน่นอน ต้องใช้ช่องทางเลี่ยงด่านตรวจคนเข้าเมืองเช่นเดิม ซึ่งเป็นผลพวงจากมอเตอร์ไซค์คันก่อนที่พามาทางลัดแบบที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ยินดีเสียเท่าไหร่
ส่วนภาพถ่ายประทับความทรงจำสวยงามตลอดทริป ซึ่งแชร์เรื่องราวการเดินทางไปสังขละบุรีโดยรถไฟ ไว้ทางเว็บบอร์ดดังอย่างพันทิป โดยมีผู้ที่สนใจติตามทริปเล็กๆ ของเธอเป็นจำนวนมาก ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ได้รับคำชมคือ มุมมองเรื่องการถ่ายภาพ ต้นอ้อ บอกว่าใช้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพตลอดทริป ไม่ได้พกกล้องใหญ่ไปเลย และการตั้งกระทู้รีวิวท่องเที่ยวในครั้งนี้ก็เพื่อแชร์เป็นประสบการณ์สำหรับผู้ที่สนใจจะออกเดินทาง
ตลอดการพูดคุย ยิ้มบางเจืออยู่บนใบหน้าของหญิงสาวอย่างไม่ขาดหาย แน่นอน! ทริปใหม่ของเธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในเร็วๆ นี้
…................................
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LITE
เรื่อง/ภาพ : นฤมล ประพฤติดี
ขอบคุณภาพและข้อมูลประกอบ : www.facebook.com/highondreams
ขอบคุณร้าน Coffee Model ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำ
//////////////////////////////////////////////////////
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!