“ธาริต เพ็งดิษฐ์” ชื่อนี้ไต่อันดับความนิยมในม็อบนกหวีดขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าหน้าของเขาก็ถูกนำมาทำป้ายประจาน-โพสต์ล้อเลียนมากที่สุดคนหนึ่งเช่นกัน
โดยเฉพาะการเดินขบวนไล่รัฐบาลคนโกงครั้งล่าสุด เห็นได้ชัดว่า นอกจากคำยอดฮิตอย่าง “ปู” และ “เหลี่ยม” แล้ว ยังมีคำฮิตติดลมบนอยู่อีก 2 คำที่ถูกประจานมากที่สุด นั่นก็คือคำว่า “ธาริต” และ “DSI”
โด่งดังเพราะนกหวีด
เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้อีกต่อไป เพราะเขาคือ “อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (อสพ.)” หรือ “อธิบดี DSI (Department Of Special Investigation)” ผู้โด่งดังมาจากประกาศเร่งด่วน “จับคนเป่านกหวีดไล่เจ้าหน้าที่มาขังคุก” อย่างเป็นทางการว่าให้เจ้าหน้าที่ทุกคนถ่ายรูปประชาชนผู้เป่านกหวีดเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อมาใช้ในการดำเนินคดี
อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 370 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อนต้อง ระวางโทษปรับไม่เกิน 100 บาท” และมาตรา 397 ที่ระบุว่า “ผู้ใดในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัลกระทำ ด้วยประการใดๆ อันเป็นการรังแกหรือข่มเหงผู้อื่นหรือกระทำให้ผู้อื่น ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
แต่สุดท้าย คำขู่ของระดับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ทำลายพลังแห่งมวลมหาประชาชนชาวม็อบไม่ได้ การประกาศพร้อมประทับตรา “ด่วนที่สุด” ลงนามโดย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ จึงเป็นได้แค่เรื่องขบขันให้ได้มาล้อเลียนกันจนถึงวันนี้ว่าเขาคือ “อธิบดีผวานกหวีด” ทั้งยังมีพลเมืองเน็ตเคยแก้ไขข้อมูลส่วนตัวของเขาลงใน wikipedia แล้วใส่ประวัติการทำงานให้ว่า “คดีเด่น ผลงานที่สำคัญของธาริตสีดวงคือ เป่านกหวีด”
“ชื่อเสีย” DSI
แม้ชื่อเสียงจะโด่งดังคับประเทศแล้ว แต่เขาก็ยังคงรับหน้าที่จัดการกับผู้ชุมนุมต่อไปตามที่ได้รับมอบหมาย จึงมีนโยบายเด่นๆ คอยโค่นแกนนำออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ ล่าสุด ที่ฮือฮาเป็นอย่างมากจนผู้ชุมนุมต้องเดินขบวนไปปิดล้อมถึงสำนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษคือ คำสั่งดำเนินคดีแกนนำทั้ง 38 คนใน กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) และอายัดบัญชี เพื่อตรวจสอบสืบหาผู้สนับสนุนทุนแก่ผู้ชุมนุมย้อนหลัง 6 เดือน หวังจับกุมตัวเพื่อมาดำเนินคดีฐานสนับสนุนกบฏ
เรียกได้ว่าทุกความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากแกนนำม็อบ อธิบดี DSI คนนี้มีบทลงโทษรองรับเสมอ แม้แต่การนำขบวนของ นิติธร ล้ำเหลือ และแกนนำบางส่วนไปประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา ปราศรัยและยกป้ายขับไล่เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ก็มองว่าเป็นการเหยียดหยามและกล่าวให้ร้าย เข้าข่ายกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 134 คือความผิดฐานหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นผู้แทนรัฐต่างประเทศ
ทุกผลงานที่มาจาก DSI จึงถูกมองว่าไร้ความยุติธรรม ไม่ใช่แค่ “สืบสวนคดีพิเศษ” แต่น่าจะเป็นการ “สืบสวนคดีเพื่อเอาใจเจ้านายเป็นพิเศษ” เสียมากกว่า ประชาชนชาวม็อบจึงรวมใจกันมอบคำนี้ให้ทั้งอธิบดีและกรมว่า DSI คือ “ขี้ข้าทักษิณ” มีการปรินต์หน้าธาริตมาแปะไว้บนพื้นถนน พร้อมระบุถ้อยคำว่า “ขี้ข้า เชิญเหยียบ” และตีความความหมายของตัวย่อ DSI กันใหม่ จากเดิมมาจาก “Department Of Special Investigation” แต่ชาวม็อบเอามาล้อเลียนแล้วตั้งให้ใหม่ว่า “D_ck Small Idiot”
ดูเหมือนว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยจะหมดศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมจากรัฐบาลชุดนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และนี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่มวลมหาประชาชนพร้อมใจกันลุกขึ้นมาขับไล่ เพื่อกวาดล้างระบอบขี้ข้าให้หมดไปจากสังคม
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE