xs
xsm
sm
md
lg

ลูกทุ่งเงินล้าน.. 'ลาดา - อาภาภัทร' ทายาทเจ้าพ่อ..เพลงแหล่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทายาทลูกทุ่งเงินล้านวัยแรกแย้ม 'ลาดา - อาภาภัทร สุขสวัสดิ์ชล' ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนสายเลือดคนเพลงลูกทุ่ง 'สมชาย สุขสวัสดิ์ชล' หรือคุ้นกันในชื่อ 'บุญโทน คนหนุ่ม' ตอนนี้เธอกำลังจรัสแสงบนม่านฟ้ามายาใน ภาพยนตร์เรื่อง 'รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน' ที่จะมากระแชะเสียงหัวเราะให้ดังก้องออกมาไม่ขาด

เรื่องงานแสดงอาจยังใหม่ แต่ในเรื่องร้องเพลงต้องยกนิ้วให้เด็กสาววัย 16 ผู้นี้ไปโดยปริยาย พรสรรค์ที่ส่งผ่านสายเลือดนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่พรแสวงที่ ลาดา เพาะบ่มมาตั้งแต่เริ่มร้องเพลงเมื่อตอน 6 ขวบ ต่างหากเล่าที่ทำให้เธอเป็น 'ลูกทุ่งเลือดใหม่' ที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่งในวงการ

ควันหลงวันพ่อยังคงคุกรุ่นตลอดเดือนธันวาคม กิจกรรมหนึ่งที่ลูกๆ สามารถพารถคุณพ่อและครอบครัวทำร่วมกันได้ง่ายๆ ในวันหยุด เพียงมองหาภาพยนตร์สักเรื่องที่ผู้ใหญ่ดูได้เด็กดูดี สาวน้อยยิ้มกว้าง..เอ่ยเชื้อเชิญให้ทุกท่านเปิดใจกว้างๆ แก่เหล่าซุปตาร์ลูกทุ่ง ไม่แน่ว่าคุณอาจเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องหัวเราะจนกรามค้าง! รับชมภาพยนตร์รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้านได้ทุกโรงภาพยนตร์ในเวลานี้

เตร็ดเตร่บนแผ่นฟิล์ม
ภาพยนตร์เรื่อง รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน ถือเป็นใบเบิกทางบนเส้นทางการแสดงของสาวน้อยเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้ม ลาดา เล่าว่า โอกาสที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ของชาวลูกทุ่ง เริ่มจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งชักชวนผ่านทางคุณพ่อ บุญโทน คนหนุ่ม

ส่วนบทบาทในเรื่อง ลาดา บอกว่า แสดงเป็นลูกศิษย์ของนักร้องชื่อดังลูกทุ่งแถวหน้า แคท - คัฑลียา มารศรี แน่นอนว่าด้วยความที่เด็กที่สุดย่อมรู้สึกประหม่าที่ต้องร่วมงานกับ พี่ๆ รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการ

“เรื่องแรกค่ะ ซึ่งรู้สึกโชคดีมาก ตอนแรกเราก็เกร็งว่ามีแต่ผู้ใหญ่ ลาดา เด็กสุดในเรื่องเลยค่ะ อายุ 16 ทุกคนรู้จักกันอยู่แล้ว สนิทกับปะป๋าอยู่แล้วเราก็จะเจอกันบ่อย”

ลาดา เปิดใจถึงความกังวลที่เกิดขึ้น “มาเล่นด้วยกันก็รู้สึกว่า อุ๊ย! เราจะไปทำให้เค้าเสียงานหรือเปล่า? เราไม่เคยเรียนร้อง ไม่เคยเรียนเต้น ไม่เคยเรียนการแสดงมาก่อนเลย คือจับเล่นแล้วเล่นเลย ก็กลัวว่าจะไปทำงานเค้าเสียหรือเปล่า แต่ไม่เลยค่ะ ทุกคนสบายๆ ยิงมุกสดตลอด(ยิ้ม)”

ก็เลยทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ เต็มไปด้วยความสนุกสนานของชาวลูกทุ่งเงินล้าน ที่ยกขบวนมาเรียกความฮาน้ำตาเล็ด ซึ่งก็ดูเหมือนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นการหลุดขำเพราะการสาดมุกของรุ่นใหญ่

“ความลำบากของหนังเรื่องนี้คือมุกสดค่ะ (ยิ้ม) กั้นขำมากกกกก อย่าว่าแต่ ลาดา เลย พี่ไผ่ พงศธร กับพี่เปา(เปาวลี พรพิมล) ขำไม่ไหวจริงๆ (หัวเราะ) แต่ละเทกทุกคนจะปล่อยมุกสดกันแล้วก็มุกไม่ซ้ำกัน ที่แหย่บ่อยสุดก็เป็นคุณลุงปีเตอร์ โฟดิฟาย แกจะเป็นคนที่จะชอบแหย่ตลอด ยิ่งเราเป็นเด็กสุดทุกคนก็จะรุมแกล้ง มาแซว มาหยิกบ้าง ตอนแรกรู้สึกกังวลเพราะว่าเราเด็กสุด แล้วเค้าก็สนิทกันอยู่แล้ว แต่พอเข้าไปจริงๆ ทุกคนน่ารักมาก ไม่มีดุมีแต่แกล้งแซว แกล้งแหย่ ยุให้เต้นก็มี บ้ายุ.. เต้นด้วยค่ะ (หัวเราะ)”

รอยยิ้มยังไม่จางไปจากใบหน้า สาวน้อย เปิดใจถึงความรู้สึกที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องแรกขึ้นในเวลาถัดมา “ภูมิใจค่ะ เพราะหนังเรื่องนี้เป็นประวัติศาสตร์อย่างนึง เป็นการรวมตัวของนักร้องลูกทุ่งอย่างเดียว ไม่มีตลก ไม่มีนักแสดง มีนักร้องลูกทุ่งอย่างเดียว เป็นหนังประวัติศาสตร์ที่เรารู้สึกภูมิใจได้เป็นหนึ่งในนั้น”

ลูกไม้ใต้ต้น เต็มไปด้วย 'พรแสวง'
“พรสวรรค์ก็น่าจะมีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเราก็ต้องสานต่อก็แค่ลูกนักร้องอะคะ ต้องทำให้ดีอย่างเดียว เค้าเรียกว่า..ทำดีเสมอตัว ถ้าทำชั่วก็โดนซ้ำแน่นอนลาดา เปิดใจถึงหัวโขนที่เธอสวมอยู่ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกสาวของ บุญโทน คนหนุ่ม นักร้องลูกทุ่งเจ้าพ่อเพลงแหล่แถวหน้าของประเทศไทย ไม่แปลกเลยที่ใครต่างพากันไมได้คาดหวังในตัวเด็กสาวผู้นี้ แต่จะว่าไปดีเอ็นลูกทุ่งก็สูบฉีดอยู่ในร่างกายของเธออยู่ไม่น้อย

ถามว่าคุณพ่อสอนเรื่องการร้องเพลงบ้างหรือเปล่า ลาดา ตอบว่า ท่านไม่ได้โดยตรงว่าต้องทำอย่างนั้นต้องทำอย่างนี้ แต่จะให้ลูกเรียนรู้เองเสียมากกว่า

“คุณพ่อจะไม่ได้สอนโดยตรงว่าต้องทำอย่างนั้นๆ แต่ว่าจะเป็นการซึมซับ เห็นมาตั้งแต่เด็กมากกว่า เป็นการซึมซับค่ะ จะมองคุณพ่อตลอด การวางตัว การร้องเพลงอยู่บนเวที การเอนเตอร์เทนคนดูจะได้รับมาจากคุณพ่อเต็มๆ”

เริ่มร้องเพลงจริงจังตั้งแต่ 6 ขวบ เพราะว่าจะได้ใกล้ชิดครอบครัวเพลงของตน “ตอนแรกไม่ได้เชิงว่าจะชอบร้องเพลง จุดเริ่มต้นของลาดา คือคุณพ่อคุณแม่ทำงานนอกบ้าน ไปร้องเพลง แล้วอยากให้ลูกไปไหนมาไหนด้วย เหมือนลูกอยู่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงานนอกบ้านก็ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน ก็เลยจับลูกร้องเพลงด้วยกัน ตั้งแต่ 6 ขวบ”

จากเด็ก 6 ขวบ แตกเนื้อสาวเข้าสู่วัย 16 ปี ช่วงรอยต่อของเวลาเธอเติบโตมาท่ามกลางเสียงเพลงลูกทุ่ง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีซิงเกิ้ลร่วมกับคุณพ่อด้วย

“ซิงเกิ้ลแรกเลยเราไม่ได้ร้องกับคุณพ่อ ร้องคู่กับ พี่แคท - คัฑลียา มารศรี ชื่อเพลงตั้งใจมาฝาก (อายุ 7ขวบ)เด็กมาก.. ขึ้นเวทีแล้วทุกคนก็จะงงว่าเด็กคนนี้เป็นใคร ร้องคู่กับ คัฑลียา มารศรี หลังจากนั้น 2-3 ปี ก็ได้มาร้องเพลงคู่กับคุณพ่อเป็นเพลงแหล่ ชื่อเพลง ปัญหาโลกแตก กับเพลงแหล่อวยพร”

เด็กหัดโตในวันวานอาศัยการเรียนรู้หลักสูตรลัด ลาดา เล่าถึงซิงเกิ้ลแรกที่เธอร่วมร้องกับนักร้องสาวรุ่นพี่ “พี่แคทสอน สอนในห้องอัดเลย คือลาดาจะไม่ได้เป็นคนที่ร้องลูกทุ่งเป๊ะแบบพี่แคท เราจะมีกลิ่นอายของเด็กรุ่นใหม่อยู่ค่ะ คือเป็นนักร้องที่ไม่ได้ร้องลูกทุ่งเป๊ะ ยังไม่ไพเราะเพราะพริ้ง แล้วพี่แคทจะสอนติวเข้มให้”

มาถึงวันนี้ได้ทดลองทั้งการร้องเพลงทั้งการแสดง รู้สึกมีความทั้ง 2 อย่าง “สนุกกันคนละแบบ คือลาดาร้องเพลงมาตั้งแต่ 6 ขวบ เราก็รู้สึกสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ เก็บเกี่ยวความรู้หน้าเวที จนเราโต มีความกล้าแสดงออกเต็มที่ ชินกับการอยู่หน้าเวที พอมาลองการแสดงมันก็สนุกไปอีกแบบนึง แล้วพอได้ประกวดมีสทีนไทยแลนด์ก็เป็นความสนุกอีกอย่างนึง คือทุกอย่างต่างไปหมด คือเรารู้สึกสนุกทุกอย่าง อยากลองทำทุกอย่าง”

อนาคตถ้ามีโอกาสในเรื่องงานแสดงเข้ามา สาวน้อยยิ้มกริ่มก่อนตอบขึ้นอย่างไม่ลังเลจะคว้าโอกาสนั้นๆ ไว้อย่างไม่รีรอ แม้ยังเรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย แต่เชื่อมั่นในความรับผิดชอบของตัวว่าจะจัดการเรื่องเรียน และงานที่รักได้ไม่ขาดตกพกพร่อง

ชีวิตวัยรุ่นไม่ออกนอกลู่นอกทาง
ขึ้นเวทีร้องเพลงตอนเด็กๆ อาจไม่รู้สึกกดดันเพราะไม่เข้าใจความรู้สึกนี้สักเท่าไหร่ แต่พอโตลาดาได้เข้าใจคำนี้มากขึ้นและระลึกถึงสิ่งที่เธอต้องแสดงเมื่อถึงเวลามือถือไมค์ไฟส่องหน้า

ยอมรับตอนนี้รู้สึกกดดันในการขึ้นเวที เพราะนั่นเท่ากับว่าทุกคนจะพากันนึกถึง บุญโทน คนหนุ่ม คุณพ่อของเธอ แน่นอนว่าลูกสาววัยกระเตาะก็ตอบแทนโอกาสที่ได้เกิดเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวสุขสวัสดิ์ชล

“ปะป๋าก็เป็นผู้ใหญ่ที่คนเรียกอาจารย์แล้ว เราก็ต้องทำตัวให้ดีวางตัวให้ดี ไม่ให้เสียหน้า ไม่ให้เสียสกุล”

ที่ผ่านมาก็ทำได้ดีมาโดยตลอด “ก็ไม่เคยพลาดค่ะ เป็นคนจริงจังกับการทำงานก็ว่าได้เลยค่ะ เพราะปะป๋าจะสอนตลอดทำงานเราห้ามพลาด ไปเที่ยวพลาดได้ แต่งานเราพลาดไม่ได้”

อย่างไรก็ตาม ลูกสาวของบ้านนี้ถูกพร่ำสอนในเรื่องการวางตัวมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคุณแม่จะดูแลภาพลักษณ์ของคุณลูกไม่ให้ขาดตกพกพร่อง “สอนเรื่องการวางตัว การแต่งตัว คุณแม่จะดูแลจัดการให้ทั้งหมด คุณแม่เป็นผู้จัดการส่วนตัวเลยก็ว่าได้”

ลาดา เล่าว่า สนิทกับคุณแม่มาก เลี้ยงดูมาเป็นเหมือนเพื่อนพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง และที่สำคัญคุณแม่หวงลูกสาวมากเชียวแหละ

ไม่ได้เติบโตมาอย่างตามอกตามใจ แต่คุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีเลี้ยงลูกในแบบของพวกเขา อย่างเวลาทำผิด การลงโทษของบ้านนี้ไม่มีลงไม้ลงมือตี แต่จะเป็นการพูดจาปรับทัศนะให้ตรงกัน

“ตั้งแต่โตมาไม่เคยโดนคนในบ้านตี แต่ถ้าเราทำผิดจริงๆ จะสอนกันตลอด สอนด้วยคำพูด ปะป๋าจะนั่งคุยกัน2 คนพ่อลูก จะอบรม ไม่ใช่อบรมธรรมดา 2-3 ชั่วโมง ไม่ตีแต่พูด พูดให้ฟัง พูดอยู่อย่างนั้น.. ย้ำ จนเราพูดว่า ขอโทษค่ะ ลูกจะไม่ทำผิดอีกแล้ว โอเค..ลูกไปล้างหน้า แล้วมาให้ปะป๋าหอม”

เป็นลูกคนเดียวน่าจะถูกตามใจ ทีมงานฯ ถามย้ำอีกครั้ง แต่เจ้าตัวปฏิเสธ “ไม่ค่ะ ตามใจเท่าที่ตามใจได้ แต่ลาดา จะทำงานเก็บตังค์ ปะป๋าจะแยกเป็นค่าตัวเลยนะคะ ลูกทำงานให้ตังค์ ดีกว่าให้ตังค์ลูกเฉยๆ ให้เรารู้ว่ากว่าจะได้เงินมามันยากนะ มันเหนื่อยนะ (ทีมงานฯ แซวว่า ลาดา เป็นเศรษฐีเงินล้านแล้วแน่ๆ) โหย.. ยังไม่ถึงๆ (หัวเราะ)”

เป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้องคอยหยอกล้อเล่นด้วยถามว่าเหงาบ้างหรือเปล่า ลาดา ยิ้มก่อนเผยความนัย

“ปะป๋ากับคุณแม่ก็จะสนิทอยู่แล้ว ในบ้านมีลูกพี่ลูกน้องเป็นผู้ชาย ลาดาจะเป็นคนเฮลล์ๆ ลุยๆ ก็ได้จากพี่ชายกับปะป๋า”

มิสทีน(ลูกทุ่ง)ไทยแลนด์
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า วัยรุ่นสมัยนี้หันหลังให้เพลงลูกทุ่ง แต่นั่นไม่ใช้วิถีของสาวน้อยผู้นี้ “ก็ลูกทุ่งแล้วไงอ่ะ..ลูกทุ่งก็ของไทย ทำไมอะ? (ตอบด้วยน้ำเสียงยียวน เจือยิ้มบาง) เราก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ฟังไปด้วยไม่อะไร เรารู้สึกว่าเพื่อนบางคนไม่ฟังเพลงลูกทุ่ง ทำไมไม่ฟังเพลงลูกทุ่งละ ลูกทุ่งนี่แบบรุ่นพ่อรุ่นแม่ฟังเลยนะ ความเป็นไทยยังไงมันก็ลืมไม่ได้ อย่างลาดาให้โคฟเวอร์เพลงเกาหลีให้ตายแต่สุดท้ายก็กลับมาร้องเพลงลูกทุ่ง เพราะลูกทุ่งมันคือ เรา”

ลาดา บอกว่าเธอฟังเพลงทุกแนวเปิดรับทุกแนวเพลง อย่างเพลงเกาหลีก็ฟังเช่นกัน แถมมีไอดอลที่ปลื้มเป็นพิเศษนั้นก็คือ ฮยอนอา แห่งวง 4minute นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกับเพื่อนเต้นโคฟเวอร์แดนซ์วงโปรดจนได้รับรางวัลมาด้วย

“ชอบเพลงทุกแนวเลย เป็นคนที่หฟังทุกแนว มันแล้วแต่อารมณ์ บางวันตื่นขึ้นมาฟังเพลงเกาหลีแล้ว เปิดลั่นบ้าน อีกวันตื่นขึ้นมา เสรี รุ่งสว่าง คุณพ่อก็จะแบบใครเปิดเพลงคุณอาเสรี บางวันเปิดไทยเดิม ฮิปฮอป สลับกันไป อารมณ์มันไม่เหมือนกัน(ยิ้ม)”

ถามถึงนักร้องลูกที่ทุ่งที่ชื่นชอบ “ลูกทุ่ง ยกให้พี่หญิงลีค่ะ อย่างแรก พอเจอตัวจริง พี่หญิงลีเป็นคนน่ารักมาก พอยิ่งไปดูพี่หญิงลีที่น่าเวที รู้สึกว่าพี่เค้าแนวเดียวกับเรา ไม่ใช่ผู้หญิงที่ร้องเพลงหวานๆ ยืนยิ้มเฉยๆ ดูการแสดงบนหน้าเวทีแล้วเอาไปใช้ต่อไป ส่วนสตริงค์ก็จะชอบ พี่ดา เอนโดฟินสึกว่าเค้าเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่มีพลังเยอะมาก เยอะที่สุดในโลก ชอบสไตล์การร้องเพลงของพี่เค้า

“เกาหลี ชอบ ฮยอนอา แห่งวง 4minute ดูรูป ฮยอนอาก่อนเดบิว ฮยอนอาอ้วนมาก พอเต้นก็น้ำหนักลง ชอบมาตั้งแต่ ม. ต้น แล้ว นักร้องเกาหลีเค้าฝึกกันหนัก ฝึกกันแบบ 10 ปี กว่าจะได้ออกอัลบั้ม เป็นเด็กฝึกหัด มีความพยายาม เอาเป็นแรงผลักดันว่ากว่าเค้าจะถึงจุดนั้นได้มันยากลำบาก”

สวยสะพรั่งเต็มวัย สาวน้อยก็เข้าประกวดเวทีมิสทีนไทยแลนด์ครั้งที่ผ่านมาด้วย เรื่องของเรื่องคือ เธอและคุณพ่อไปขึ้นเวที 7 สี คอนเสิร์ตเมื่อ 2 ปี ก่อน แล้วไปเจอรุ่นพี่มิสทีนฯ เชียร์ ฑิฆัมพร ก็เลยแนะนำคุณพ่อสาวน้อยให้ลองมาสมัครประกวดดู แม้เวทีนี้ไม่ได้คว้าตำแหน่งชนะเลิศแต่ได้เปิดประสบการณ์ที่คุ้มค่า

“ถือว่าคุ้มมากค่ะ เพราะว่าเข้าไปอย่างแรกคือได้เพื่อน อีก 49 คน 4 วันเป็นอะไรที่สนิท รักกันจริงๆ เลยค่ะ เราเข้าใจเลย จากที่เราดูพี่ Af หรือ The Stars พอเข้าไปอยู่บ้านเดียวกัน ทำไมพี่เค้าต้องร้องไห้ขนาดนั้น จนเราไปอยู่ด้วยกัน จนเรารู้สึกว่ามันผูกพันจริงๆ อย่างที่สอง คือประสบการณ์ในการทำงาน ว่าเค้าทำงานกันอย่างไร ถ่ายแบบ เก็บตัว ไปเก็บตัวที่สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้ขึ้นเฮรคอร์ปเตอร์ด้วย(ยิ้ม)”

เด็ก ตจว. เรียนดีกิจกรรมเด่น
“ตั้งแต่ทำงานมาการเรียนก็ไมได้เสีย ไม่ได้ตกแบบแย่ เกรดก็อยู่ เกรด 3 เกรด 4 ตลอด” ลาดา เปรยขึ้นพร้อมเล่าให้ฟังว่า ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่ชั้น ม.4สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนนารีวิทยา จังหวัดราชบุรี

เรื่องเรียนก็บริหารเกรดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เช่นเดียวกัน เรื่องกิจกรรมก็โดดเด่นเสียจนต้องอุทานออกมาเพราะสาวน้อยผู้นี้ใช้ชีวิตได้คุ้มจริงๆ

“เรื่องเรื่อยๆ มากกว่าค่ะ ไม่เก่งหรอก แต่ไม่เคยเกรดต่ำกว่า 3.00 แต่เป็นเด็กกิจกรรม ตั้งแต่เป็นพิธีกรของโรงเรียน โต้วาที ร้องเพลง เต้น นำสวดมนต์ตอนเช้า อะไรที่แล้วแต่ไม่เกี่ยวกับการกีฬาทำมาหมดแล้ว (หัวเราะ)”

ลาดา พูดถึงอนาคตในเรื่องการเรียนต่อมหาวิทยาลัยว่า ตั้งใจจะเรียนด้านนิเทศศาสตร์เพราะรู้สึกสนใจเป็นพิเศษ “ใจลาดาอยากเรียนนิเทศฯ เรารู้สึกชอบ ส่วนทางบ้านอย่างให้เรียนนิติฯ อยากให้เป็นผู้พิพากษา ซึ่งตอนนี้ก็มีแพลนบ้าง อยากเรียนนิติฯ รามฯ ไปก่อน แล้วไปสอบ นิเทศฯ จุฬาฯ ค่ะ”

แน่นอนสาวน้อยติดใจงานสายบันเทิงเข้าเต็มๆ “อยากลองทำทุกอย่าง แล้วถ้าเกิดไม่เป็นนักแสดงนักร้อง อยากเป็นผู้ประกาศข่าว ลาดา ได้รางวัลการอ่านฟังเสียง ขอประเทศไทย 2 สมัย รับรางวัลจากสมเด็จพระเทพฯ (ยิ้ม)”

พูดถึงเรื่องรางวัลเจ้าตัวก็เอ่ยรายชื่อรางวัลที่คว้ามาได้ให้ฟังยาวเป็นหางว่าว “รำไทย มารยาทไทย สวดสรภัญญะ เต้นโคฟเวอร์ โต้วาที ทอร์คโชว์ แต่ไม่เคยประกวดร้องเพลงนี่คือเรื่องแปลก (ยิ้ม) ไม่เคยประกวดร้องเพลงในชีวิตเลยค่ะ”

ก่อนจะมาหลงรักงานในวงการบันเทิง สาวน้อย ยิ้มตาหยีเล่าถึงความฝันในวัยเด็กว่าอยากเป็น แอร์โฮสเตรส
“ตอนเด็กๆ คิดเป็นแอร์โฮสเตรส แต่คุณแม่บอกว่าถ้าลูกเป็นแอร์โฮสเตรส คุณแม่ต้องบินด้วยทุกเที่ยวแน่นอนค่ะ เป็นลูกคนเดียว(ยิ้ม) คุณแม่จะห่วงมากห่วงลูกที่สุดในโลกกก ตอนนี้ก็ยังไงก็ต้องอยู่ในวงการนี้แล้วค่ะ ก็คงไม่ไปไหน”
….............................

เรื่องโดย ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Lite
ภาพโดย วชิร สายจำปา
ขอบคุณภาพประกอบ : IG@ ladaapapat_



ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : อาภาภัทร สุขสวัสดิ์ชล ชื่อเล่น : ลาดา
วันเดือนปีเกิด : 2 พฤศจิกายน 2540   อายุ : 16 ปี
น้ำหนัก/ส่วนสูง : 49 ก.ก. / 167 ซ.ม.
การศึกษา : กำลังศึกษา ชั้น ม.4สายศิลป์-คำนวณ โรงเรียนนารีวิทยา จังหวัดราชบุรี
ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง, รำไทย, เต้นได้ทุกประเภท, แหล่, ทักษะด้านการพูด เช่น โต้วาที ฯลฯ
รางวัลที่ได้รับ : Miss teen Thailand 2013 ตำแหน่ง Miss Smart Teen
ผลงานปัจจุบัน : ภาพยนตร์เรื่อง รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน (2556)









คู่แม่ลูกสวยใส


สาวน้อยนักล่ารางวัล
ลาดากับปะป๋า


กำลังโหลดความคิดเห็น