xs
xsm
sm
md
lg

เปลือยใจ 'ดิว – อริสรา' ผู้หญิงของ 'ไผ่-วันพ้อยท์' ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดนประโคมข่าวฉาวชนิดที่ว่าหัวกระไดไม่แห้งกันทีเดียว สำหรับนางร้ายดาวรุ่ง 'ดิว - อริสรา ทองบริสุทธิ์' ไล่บี้สดๆ ร้อนๆ ตั้งแต่ประเด็น ปล่อยจุกโผล่สร้างกระแส ดังแล้วหยิ่ง ขี้เหวี่ยงขี้วีน ฯลฯ ยิ่งย้อนดูชนักเก่าติดหลังยิ่งทำให้ข่าวลือมีเค้าความจริงเข้าไปอีก ไหนจะข้อครหาเรื่องคบหนุ่มไซส์บิ๊กดีกรีนักการเมืองและทายาทนักการเมืองดังอย่าง 'ไผ่-วันพ้อยท์' ส.ส. กำแพงเพชร ความจริงเป็นเช่นไร? อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ.. ขอจงฟังความจากปากบอกเธอผู้นี้เสียก่อน

ลิปติกสีแดงเลือดนกอาบริมผีปากบางของดิวแต่ดูยังไงๆ ก็ร้อนแรงสู้กระแสวิจารณ์แง่ลบที่ถาโถมใส่เธอเสียไม่ได้ ทีมข่าว M-Lite ติดต่อผ่านผู้จัดการส่วนตัวของสาวเจ้าอย่างเร่งด่วน เมื่อทุกอย่างลงล็อกนักแสดงสาว เคลียร์คิวทองมาพูดคุยเปลือยใจอย่างหมดเปลือก

เขาว่าหนูเหวี่ยงเขาว่าหนูวีน
“กับที่มีข่าวว่าพอเรามีงานเยอะแล้วเริ่มเหวี่ยงวีน อันนี้บอกเลยว่าไม่ใช่ ไม่มีแน่นอน แต่ถ้าจะเป็นอย่างนั้นคงโดนตั้งแต่ขายังไม่ขึ้นแล้วมั้งคะ นี่ขาขึ้นแล้วไม่ทำอย่างนั้นค่ะ ดิวก็โดนแบบนี้ประจำอยู่” ดิว อธิบายถึงกระแสวิจารณ์ก่อนพูดเสริม

“ถ้าดิวนั่งอยู่เฉยๆ ดิวเป็นคนหน้าคว่ำ หน้าเหวี่ยง ด้วยความที่เราไม่คุย ด้วยหน้าตา ด้วยสายตา แววตาทุกอย่าง (พร้อมทำหน้านิ่งให้ดู..ทีมงานฯ ลงมติว่าเหวี่ยงจริงๆ) ก็จะโดนว่าอย่างนี้ตลอดเวลาอยู่แล้ว โอเค..เราขี้เหวี่ยง แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรนะ พอคุยแล้วมันก็เหมือนปลดล็อกไปล็อกนึง ดิวหัวเราะหรือยิ้มมันก็จะปลดไปอีกล็อกนึง เป็นอย่างนั้นมากกว่า”

เมื่อโดนคอมเม้นต์เรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เวลาอยู่ในที่สาธารณะเจ้าตัวก็พยายามปรับลุคตัวเองเสียใหม่ ด้วยการแต่งแต้มรอยยิ้มบนใบหน้ามากขึ้น เพราะด้วยความที่เข้ามาเป็นนักแสดงมาเป็นบุคคลที่ถูกจับตามอง

“ดิวก็ยิ้มมากขึ้น คือบางครั้งไม่มีเหตุผลให้ยิ้มก็ต้องยิ้ม เนี่ย! หน้าเฉยๆ ก็อย่างเนี้ย (ทำหน้านิ่งให้ดู บึ้งมาก) คือใครไม่รู้ใช่มั้ย..ก็จะจับเซนส์ได้เลย มันไม่ค่อยเฟรนลี่ แต่พอเราคุยเรายิ้ม เราหัวเราะ แววตาเราก็จะเปลี่ยน ยิ้มมากขึ้น อะไรมากขึ้น ก็ต้องรู้หน้าตัวเองว่าเป็นยังไง”

ยิ่งในเรื่องการวางตัวปรับเปลี่ยนไปจากเดิมแทบทุกอย่าง “ปรับเปลี่ยนใหม่หมดเลย ทุกๆ อย่าง ตั้งมาแต่มาเริ่มเล่นละคร ตารางชีวิตก็เปลี่ยนหมดเลย มีเรียนแอคติ้งบ้าง ดูแลตัวเองเยอะขึ้น และด้วยความที่เราค่อนข้างทำงานจริงจังแล้ว เราก็แบบเลยค่อนข้างไปเที่ยวไปเล่น ไปอะไรอย่างนี้ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นชีวิตก็คือตามตารางงาน มีเวลาว่างก็คือพักผ่อน”

ฉันนี่แหละ...ผู้หญิงของ ไผ่-วันพ้อยท์?
ถามถึงความสัมพันธ์กับหนุ่มที่กำลังเป็นข่าวด้วย คิ้วของดิวขมวดส่งสัญญาณเป็นเชิงคำถาม ทีมงานฯ จึงเฉลยขึ้นว่า ‘ไผ่-วันพ้อยท์’

เราก็ยังดูกันไปเรื่อยๆ เรายังไม่ได้แพลนถึงอนาคตหรืออะไรก็ตามเลยนะ คือก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของเวลา ดิวไม่ปิดอยู่แล้วนะถ้าวันนึงมันจะเป็นยังไงก็ตาม แต่ตอนนี้เรื่องงานมันเป็นอะไรที่สำคัญมาก สำคัญที่สุด ทีละเรื่องๆ ดีกว่า แล้วดิวเพิ่งอายุ 23 เองคะ ก็เลยค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า”

แน่นอนว่าเรื่องราวของนักแสดงสาวสวยกับนักการเมือง ถูกจับตาอย่างมาก ไม่ว่าจะกระดิกตัวทำอะไรก็เป็นข่าวไปเสียหมด อย่าง การโพสต์ภาพของดิวในอินสตาแกรมคู่ดอกไม้ช่อใหญ่พร้อมแท็กขอบคุณนักการเมืองไซส์บิ๊ก ก็ทำให้เธอต้องตอบคำถามในประเด็นนี้ไม่จบไม่สิ้น

“ตอนนี้ทำงาน 7 วันไม่ค่อยได้สวีตอะไรหรอกนะคะ ดิวไม่เคยลงรูปคู่พี่ไผ่แต่ตัวพี่เขาก็มีลงค่ะ ไม่มีอะไรก็เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่สนิทก็ค่อยๆ ดูๆ กันไปไม่รีบอยู่แล้ว เพราะช่วงนี้เราไม่ได้มีเวลาทุ่มเทไปเรื่องความรักเต็มที่ขนาดนั้น แต่ไม่ปฏิเสธว่าไม่รู้จัก เขาเป็นรุ่นพี่ในกลุ่มเดียวกันก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่ที่สนิทที่สุดแหละ แต่ยังไม่อยากเรียกแฟนขนาดนั้นค่อยๆ ดูไปเรื่อยๆ เขาก็ดูแลดีดูแลน้องๆ ทุกคนดีอยู่แล้วไม่ใช่แค่เราคนเดียว เราไม่ใจอ่อนเลยเพราะถ่ายละคร 7 วันจริงๆ อยากพักผ่อนไม่เน้นเรื่องนั้นมาก ดูแลตัวเองทำงานก่อน ถามว่าเขาจะน้อยใจไหมเราพูดแบบนี้ เขารู้ค่ะ เขาต้องเข้าใจเลยแหละ”

ยอมรับว่าเป็นคนขาดความรักไม่ได้ นั้นคือนิยามรักสั้นๆ ที่เธอพูดขึ้น “นิยามความรักของดิวต้องอยู่ด้วยแรงกระชุ่มกระชวยจากอะไรแบบนี้แหละ แต่เป็นคนไม่ได้คาดหวังอะไรขนาดนั้น เป็นคนเรื่อยๆ แต่ต้องมี

“วัยเด็กเราคิดว่าเราต้องชอบคนหล่อ ยังไงก็ต้อง แต่วันนี้ไม่ต้องหล่อมาที่หนึ่งหรอก วันนี้รู้สึกว่าเรื่องความเข้าใจ เรื่องความรู้สึกต่างๆ การดูแลเอาใจใส่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก วันนี้ก็คือความคิด ทัศนคติ เรื่องนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง”

ส่วนสิ่งที่ทำให้มุมมองความรักเปลี่ยนไป “ด้วยความที่เราโตขึ้นด้วย และเราค่อนข้างผ่านอะไรมาเยอะกับเรื่องพวกนี้เนอะ เรารู้ว่าอะไรที่มันเข้าใจกัน และอะไรที่มันผ่านไปได้ ทุกอย่างมันจะง่าย ไม่ติด ไม่เกร็งกับอะไร ใครที่ปฏิบัติกับดิวดีๆ ดิวก็จะรู้สึกแฮปปี้ กับสิ่งนั้น มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว”

ดิว บอกถึงสเปคของคนที่เธอจะยอมเปิดใจให้เข้ามาดูแล “ต้องเป็นคนอบอุ่น ต้องมีความคล้ายดิว ใจใหญ่ อบอุ่นๆ ไม่ขี้เก๊ก ไม่เนี๊ยบเกินไป ประมาณนั้น”

มีความสุขกับงาน ทำทุกวันเพื่อครอบครัว
“แฮปปี้มาก (แววตาแสดงออกถึงรอยยิ้ม) อย่างหนึ่ง ที่ทำให้แฮปปี้ที่สุดในชีวิตคือเรื่องงานนะ เพราะไม่เคยรู้สึกว่าการทำงานมันจะทำให้เรามีความสุข แต่วันนี้เข้าใจแล้วคำพูดว่าการทำงานทำให้คนมีความสุข อาจจะเหนื่อยมาก ป่วยบ้าง อะไรก็ตาม แต่กระแสตอบรับออกมาดี ออกมาได้ดี เราดูตัวเอง แล้วเราได้ชื่นชมตัวเอง มันเป็นพาร์ทที่เราทำทำแล้วแฮปปี้อะคะ” นักแสดงดาวรุ่ง เผยความในใจต่อโอกาสที่ได้รับในวงการบันเทิง

สำหรับตอนนี้ดิวกำลังมีผลงานละคร เรื่อง อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ ออกอากาศทาง ช่อง 3 ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ที่ต้องขอพูดถึง เพราะเรียกว่า บทบาทนางร้ายหน้าเป๊ะ! แตงกวา ในละครเรื่อง ต้นรักริมรั้ว แจ้งเกิดสาวหน้าเหวี่ยงเข้าอย่างจัง

“ก่อนหน้านี้ดิวก็ยังเรียนด้วย คืออันนี้ต้องยกให้ผู้จัดการเลย คือความที่ว่าเพิ่งเปลี่ยนผู้จัดการให้พี่ เกล้า แล้วพี่หวานเจี๊ยบ มาดูแลอย่างเต็มตัว เหมือนที่ผ่านมาเราไม่มีคนดูแล ไม่มีบ้านอยู่ แต่วันนี้เรามีบ้านอยู่เค้าก็จะดูแลเราอย่างดีอะคะ มันก็เลยค่อนข้างชีวิตเปลี่ยน”

เหลือเวลาอีก 1 เทอม ดิว ก็จะสำเร็จการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ความคาบเกี่ยวระหว่างเรื่องเรียนกับเรื่องงาน ไม่รู้ว่าเธอมีการวางแผนชีวิตไว้บ้างหรือเปล่า

“แพลนเยอะมาก แต่ทีละอย่างดีกว่า ตอนนี้เรากำลังมีโอกาสตรงนี้ก็ต้องทำตรงนี้ให้ดีก่อนไม่อยากทำให้ไขว้เขว ดิวมีเป้าหมายในชีวิตนะ คือเป้าหมายในชีวิตกับตัวเองค่อนข้างไม่มี ทุกอย่างค่อนข้างแฮปปี้ดีอยู่แล้ว ก็อยากให้ครอบครัวสบายๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำทุกอย่าง อย่าเรียกว่าทำให้ตัวเองเลย ก็คืออยากทำให้ครอบครัวรู้สึกว่าแฮปปี้แล้ว

น้องสาวคนเล็กเติบโตมากับบรรดาพี่ชาย จึงทำให้นิสัยค่อยไปทางผู้ชายเสียหน่อย ยิ่งตอนเด็กๆ เจ้าตัวยอมรับว่าแสบมาก “เด็กๆ ไม่โดนแกล้งเลย เพราะจะเป็นคนที่ร้าย จะแกล้งพี่ๆ จะแสบมาก เลยทำให้นิสัยเหมือนเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง”

แม้หญิงสาวจะเติบโตขึ้น ดูแลตัวเองได้แล้ว แต่ในสายตาของครอบครัวก็ยังอดห่วงไม่ได้ โดยเฉพาะคุณแม่

“ครอบครัวดิวเป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ แต่คือด้วยความที่ว่ามีพี่ก็โตกันหมดแล้ว คุณแม่ก็จะห่วงเรามาก ด้วยความที่เป็นคนเล็ก

“ทุกวันนี้พยายามทำทุกอย่างให้ดี ให้คุณพ่อคุณแม่ดิวรู้สึกสบายใจขึ้น คือที่ผ่านมาด้วยความที่ดิวเป็นเด็กซ่าส์เค้าค่อนข้างห่วง ห่วงทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเรา ไม่ไว้ใจด้วยความที่เราแสบมาก แต่วันนี้เราได้พิสูจน์ตัวเองด้วยความที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น หลายๆ อย่าง ค่อยๆ ปรู๊ฟตัวเองให้เค้าเห็นว่าเราโตขึ้นแล้วจริงๆ แล้วเราทำให้เราหมดห่วงได้ เพราะฉะนั้นมันก็น่าจะเป็นอะไรที่ดี”

อดีตสอนให้เรามีปัจจุบันที่เข้มแข็ง
“จริงๆ ถ้าเราย้อนกลับไปแก้ไข้ได้ เราก็คง.. ถ้าเรารู้ว่าวันนึงเราจะมาเป็นอย่างนี้เราก็คงจะแก้ไขในหลายๆ อย่าง อย่างเช่น คลิปที่มีข่าว เราก็คงจะมีสติใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น ให้สติอยู่เหนืออารมณ์ เพราะเราพูดจริงๆ วันนั้นเราทำไปก็ทำไปไปด้วยอารมณ์ แล้วเราก็ไม่คิดหรอกว่าวันนึงเราจะมาเป็นแบบนี้มีชื่อเสียงขึ้น เป็นที่รู้จัก ถ้าเกิดย้อนกลับไปแก้ไข้ได้เราก็คงย้อนกลับไปแก้ไขเรื่องนั้น” ดิว พิจารณาถึงสิ่งที่พลาดพลั่งไปเมื่อครั้งช่วงวัยเด็ก

“แต่ถ้าย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้อย่างเช่นวันนี้ ก็โอเคถือเป็นบทเรียนแล้วกัน คือดิวเชื่อว่าบางสิ่งบางอย่างที่ทำลงไปแล้วถึงมันอาจจะไม่ดี แต่มันก็เป็นแบ็กกราวนด์ให้ดิวมีวันนี้อดทนเข้มแข็งขึ้น”

ตั้งแต่เริ่มมีชื่อเสียงในวงการ ดิว ถูกโจมตีด้วยกระแสข่าวลบเป็นระยะๆ เธอยอมรับหลายๆ เรื่องที่ทำผิดไปเพราะด้วยความเป็นเด็กที่ขาดความยั้งคิด แต่เหล่านี้ไม่ได้มองเป็นตราบาปแต่เป็นบทเรียนที่สอนให้มีวันนี้
 

“ดิวเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ อยู่แล้ว ดิวยอมรับว่าดิวทำผิด และดิวไม่โกหกกับสิ่งที่ตัวเองทำไป ถ้าผิดแล้วยอมรับผิดเราต้องให้โอกาสตัวเองเสมออยู่แล้ว”

หญิงสาว เปิดเผยถึงทัศนคติในการมองโลกว่าเป็นคนกลางๆ ไม่ตัดสินใจอะไรเพียงแค่การมองหรือได้ยินคนเขาพูดมา เธอเลือกจะเรียนรู้ด้วยการเอาใจเข้าแลกก่อนตัดสินอะไรๆ

“ดิวเป็นคนมองโลกในแง่.. ดิวเป็นคนไม่ตัดสินอะไรเลย ดิวเป็นคนไม่มองโลกในเง่ดี หรือมองโลกในแง่ไม่ดี ดิวจะเป็นคนเฉยๆ กับทุกสิ่งทุกอย่างให้ไว้กลางๆ ให้ไว้ที่ศูนย์ แต่อะไรก็ตาม ถามดิวรู้สึกมันติดลบ ดิวก็จะค่อนข้างมองแบบนั้นไปเลย ดิวก็จะแบบค่อนข้างมีความคิด เป็นของตัวเองเลย แล้วค่อนข้างมีกำแพงสูงกับหลายๆ อย่าง ไม่ได้เป็นคนโอเพ่นให้ใครเข้ามาง่ายๆ”

ภายนอกเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่ความรู้สึกภายในก็ย่อมมีสับสนบ้างเมื่อเกิดปัญหาที่คิดไม่ตก ดิว มีการจัดปัญหาที่เข้ามาอย่างค่อนข้างเป็นระบบ

“ต้องตั้งสติกับทุกสิ่งที่อย่างที่เข้ามาในชีวิต แต่ด้วยความที่ตัวเป็นคนลน เครียด เป็นคนคิดเยอะ เพราะฉะนั้นคิดเยอะ มันจะขึ้นมาเต็มไปหมดเลย เราต้องหาที่ไว้ใจได้ เชื่อใจได้ ระบาย พอระบายปุ๊บเราก็จะรู้สึกปล่อยมีว่าง ซึ่งเราก็ต้องมานั่งคิดว่าจูนอย่างไร แก้ไขอย่างไร แต่ด้วยความที่ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่แบบเชื่อว่าทุกอย่างมีทางออกอยู่แล้ว เป็นคนแบบไม่สิ้นหวัง เชื่อว่าทุกอย่างทางออกอยู่แล้ว ส่วนตัวเป็นคนใจถึง คือทำๆ เลย ถ้ามันไม่ดีค่อยแก้ไม่เป็นไร เป็นคนแบบ ชอบเจ็บ ชอบล้ม เพราะฉะนั้นก็จะแก้ไข้ปัญหาในชีวิตตัวเองตลอดเวลา”

ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือ ‘สติ’ ต้องคิดให้มากก่อนทำอะไรลงไป จะได้ไม่ต้องกลับมาเสียใจทีหลัง แต่ความที่นิสัยคล้ายผู้ชายก็เป็นเหตุก่อปัญหาบ้าง

“เป็นคนนิสัยเหมือยผู้ชายเลย และความเป็นคนไม่ซีเรียสนี่แหละ พอเราใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงเยอะๆ คนนู้นคนนี้ก็จะซีเรียส นึกออกมั้ย? ด้วยที่ดิวเป็นคนแมนๆ ทำอะไรไม่คิด ชิลๆ หน้าดิวเฉยๆ บางคนคิดเยอะก็จะดราม่า แต่ดิวไม่ดราม่า โอเค..อย่าเยอะนะ เพราะดิวเป็นคนไม่เยอะ”

เรื่อง 'หมา' น้อยนิดมหาศาล
เป็นความชอบที่เริ่มต้นจากความกลัว สมัยเด็กๆ ดิวเล่าว่าเป็นคนกลัวหมามาก ถึงขั้นที่ว่าที่ไหนมีหมาที่นั้นต้องไม่มีฉัน!ทางด้านคุณพ่อจึงตัดสินใจซื้อสุนัข พันธุ์ดัลเมเชียน 1 ตัว เพื่อให้ลูกสาวเรียนรู้ที่จะรักในสิ่งที่เธอกลัวมาตลอด

“ดิวเชื่อว่าหมาตัวนั้นทำให้ดิวมีความกล้า เพราะว่าเมื่อก่อน คือดิวแบบว่าที่ไหนมีหมาที่นั้นไม่มีดิว”

เธอ เล่าย้อนถึงสัตว์เลี้ยงตัวแรกที่อยู่ในความทรงจำ “คือกลัวมาตลอด ดิวเชื่อว่าเค้าให้ความกล้ากับดิว ในการดำเนินชีวิต เพราะว่าเปรียบเทียบแล้วเรายังมีอะไรอีกหลายที่ต้องกลัว อันนั้นมันเป็นด่านนึงของเด็กอายุ 13 ปี ซึ่งเค้าก็ทำให้ดิวผ่านมาได้”

ที่พิเศษคือเจ้าหมาตัวนี้ยิ้มได้ แต่ที่แย่คือบางทีให้ถูกเข้าใจผิดว่าแยกเขี้ยวจะกัด “ตัวแรกดัลเมเชียน ซึ่งหมาตัวนั้นยิ้มได้ ยิ้มแบบเห็นฟันได้เราก็เลยไม่กลัว ด้วยความที่มันยิ้มได้คนบางคนไม่รู้จักไงว่าหมามันยิ้มได้ คิดว่ามันแยกเขี้ยวก็โดนตี คือเป็นเรื่องราวดราม่ามากเกี่ยวกับน้องหมาตัวนั้น คือด้วยความเวลาผ่านไปก็เปลี่ยนๆ มาเลี้ยงพันธุ์ที่ตัวเองชอบ”

ซึ่งตอนนี้เป็นเจ้าของ ชิวาวาอยู่ 7 ตัว เรียกดูแลอย่างดี จนใครอาจรู้สึกอิจฉาสัตว์เลี้ยงในความดูแลของดิวเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่าถ้ามีเวลาว่างดิวก็จะหมดไปกับเจ้าตัวเล็กทั้งหลาย

“พาไปตลอด มีรถเข็น เป็นคนเต็มที่มากเกี่ยวกับเรื่องนี้ พาไป โอโซโน่ เป็นสวนสาธารณะเกี่ยวกับน้องหมา มีร้านกาแฟของน้องหมา ให้น้องหมาวิ่งเล่นก่อน วันไหนที่ดิวว่างก็จะแพลนให้เค้าเสร็จปุ๊บ ก็นั่งกินอะไร แล้วให้เค้าไปสปา เราก็จะเป็นเหมือนแม่ของเค้า พาไปยกแก๊งค์”

เลี้ยงมาเยอะขนาดนี้ แน่นอนว่าในเรื่องการสูญเสียย่อมเคยประสบมาแล้ว ดิว ยอมรับว่ากลัวมาก กลับที่จะต้องสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่เธอรักไป

“ด้วยความที่ว่าทุกตัวเราเลี้ยงเองตั้งแต่เด็กๆ เลี้ยงเองจริงๆ เราก็จะค่อนข้างผูกพันแหละ ยิ่งตัวที่เอามานอนที่ห้อง กลัวมาก..แต่สู้สุดชีวิต มีชิวาวาประมาณ 3 เดือน เป็นลูคิเมีย คือมันต้องถ่ายเลือด ตัวเล็กนิดเดียวเอง แล้วดิวต้องรับบริจาคเลือดจาก โกลเด้น รีซีฟเวอร์ ฯลฯ ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือดทุก 3 วัน แต่ท้ายที่สุดก็คือไม่รอด ดิวซื้อมาจากสวนจตุจักร เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เลี้ยง ชิวาว่า หลังๆ ก็ซื้อที่ ทีคัพสวีทโฮม ซื้อพันธ์ที่ดีๆ ไปแล้ว มีประกันชีวิตให้ มีบัตรประชาชนให้ เช่นถ้าเสียชีวิตเครมเงินคืนให้ คือหนึ่งอย่างที่เราต้องการคือเราไม่ต้องการเงินนะ แต่ต้องการความชัวร์นะ หนึ่งอย่างคือเราไม่ต้องการให้เค้าไปจากเรา ดิวเฮิร์ทเป็นอาทิตย์เสียใจมาก จนคุณพ่อต้องไปหาดีๆ มาให้ หนึ่งอย่างเราจะอุ่นใจว่า ประกันคงไม่อยากจ่ายเพราะหมาตัวเป็นแสน มีบัตรประจำตัวประชาชนเวลาไปต่างประเทศก็ไม่ต้องกัก ขึ้นเครื่องไปได้เลย”

ดิว เล่าว่า ล่าสุดก็เพิ่งซื้อ แต่น้องหมาก็จะป่วยๆ ซึ่งไม่ได้ป่วยด้วยโรค “แต่คนที่บ้านทำตก ปอดเลือดไหลซึ่งมันไม่น่าจะเกิดขึ้น เราก็ต้องสู้สุดๆ อ่ะ จนหาย”

หญิงสาวเลิกคิ้ว..ก่อนพูดขึ้น “ลุคไม่เข้านะ..ไม่เข้า (เจือยิ้ม)” ก่อนเผยเรื่องราวต่อไปว่าตัวเองเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนนอนก็สวดมนต์ทุกคืน และท่องคาถาชินบัญชรได้

“เป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว ทำบุญทุกอย่างเลย ชอบทำบุญกับเด็ก คนแก่ ยิ่งสุนัขยิ่งชอบมาก ความที่เลี้ยงหลายตัวเวลาทำบุญก็จะให้น้องหมาตัวเอง ดิวไปวัดจะไปกับคุณแม่บ่อย เพราะเป็นคนเชื่อกับอะไรแบบนี้ ก็มีโอกาสจะหมั่นทำอยู่เสมอ”

.......................................
เรื่องโดย ASTV ผู้จัดการ LITE
ขอบคุณภาพประกอบ instagram @duearisara และอื่นๆ
รับชมคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำฯ


              ประวัติส่วนตัว              
ชื่อ-สกุล : อริสรา ทองบริสุทธิ์ ชื่อเล่น : ดิว
วันเดือนปีเกิด : 15 มิถุนายน พ.ศ. 2533 อายุ : 23 ปี
การศึกษา : ระดับปริญญาตรี - คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์
ระดับมัธยม - โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์
ผลงานที่ผ่านมา : ละคร - อุบัติรักข้ามขอบฟ้า 2, พรพรหมอลเวง, ต้นรักริมรั้ว, อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่ ฯลฯ
ภาพยนต์ - After School วิ่งสู้ฝัน, ตายโหง, Yes or No อยากรัก ก็รักเลย, ศพเด็ก 2002 ศพ
โฆษณา - เครื่องสำอาง Cute Press, Glico Potato Spicky









ไผ่ วันพ้อยท์ - ดิว อริสรา
ดอกไม้ช่อใหญ่จาก ไผ่-วันพ้อยท์
นางเอก พระเอก นางร้าย จากเรื่องต้นรักริมรั้ว

ภาพจากเรื่อง อันโกะ กลรักสตรอว์เบอร์รี่





กำลังโหลดความคิดเห็น