เงินกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว บางคนเก็บเงินไม่อยู่ ใช้เงินมือเติบ ได้มาเท่าไหร่ใช้หมดเท่านั้น ฯลฯ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณฉลาดในการบริหารเงิน 4 ขั้นตอนดังนี้ ช่วยคุณออมเงินได้
1. รายได้ > รายจ่าย จัดสรรคงบในแต่ละเดือน ฝึกวินัยในการใช้จ่าย
2. เงินสะสมห้ามยุ่ง พยายามรักษาเงินออมอย่าให้มูลค่าสูญหาย
3. ตั้งเป้าหมาย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเก็บออม
4. เพิ่มพูนความรู้ทางการเงิน ติดตามข้อมูลข่าวสารด้านการเงินฯ บริหารเงินออมอย่างปลอดภัย
ความรู้ในการบริหารการเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรวยแล้ว อยากรวย หรือขอแค่มีชีวิตที่พอเพียง เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินทำให้เราอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข เราต้องการเงินเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและเพื่อให้มีเงินทุนในการทำความฝันต่างๆ ให้สำเร็จ คนที่มีเงินมากๆ หากบริหารเงินไม่เป็น ไม่นานเงินทองก็หายไปหมดอย่างไม่รู้ตัว คนทั่วๆ ไปมักมีปัญหาเรื่องบริหารเงินไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ มีเงินไม่พอใช้ หรือไม่สามารถลงทุนให้เงินงอกเงยได้เท่าที่ควร
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ความฉลาดทางการเงินประกอบด้วยความฉลาดสามด้าน นั่นคือความรู้ทางวิชาการจากสมองด้านซ้าย เช่น การเรียนรู้และเข้าใจหลักการเกี่ยวกับค่าของเงิน การบริหารรายได้ ค่าใช้จ่าย สินทรัพย์ และหนี้สิน ขณะเดียวกันก็ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์และการจินตนาการ เพื่อให้สามารถวางแผนการดำเนินการต่างๆ นั่นคือสมองด้านขวา แต่ที่สำคัญที่สุดคือการควบคุมตนเองให้ลงมือทำด้วยความมุ่งมั่น ความกล้าหาญ ความไม่กลัว ซึ่งเป็นแรงขับจากส่วนของจิตใต้สำนึก คนที่หมั่นคุมสติ ฝึกสมาธิ และมีทัศนคติในทางบวก จะสามารถกำกับให้จิตใต้สำนึกช่วยสนับสนุนให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง มีอารมณ์ที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวไปกับสภาพแวดล้อมต่างๆ จนเกินไป
การบริหารเงินเบื้องต้น
1. พยายามทำให้มีรายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย มีการจัดสรรงบประมาณให้มีรายได้มากกว่ารายจ่ายให้ได้ คนรวยมักจะแนะนำว่าให้กันเงินออมส่วนหนึ่งไว้ก่อนเสมอ เหมือนจ่ายตัวเองก่อนจ่ายอย่างอื่น การกดดันตัวเองเช่นนี้จะทำให้มีวินัยทางการเงินมากขึ้น หรือรู้จักหาวิธีสร้างรายได้ให้ได้มากขึ้น
2. ปกป้องเงินสะสม เมื่อมีเงินเหลือเก็บแล้วก็ต้องปกป้องเงินที่สะสมไว้ให้ดี ไม่ให้มูลค่าสูญหายไป ภายใต้เศรษฐกิจปัจจุบัน เงินเฟ้อคือศัตรูตัวร้ายของเรา ฉะนั้นการเก็บเงินไว้ด้วยการฝากธนาคารหรือลงทุนในกองทุนต่างๆ คงเอาชนะเงินเฟ้อไม่ได้ เงินของเราจะมีค่าลดลงเรื่อยๆ การรู้จักนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น ทองคำหรืออสังหาริมทรัพย์ จึงเป็นการบริหารเงินในลำดับที่ยากขึ้นไป ในบางครั้งก็ควรซื้อสินทรัพย์ด้วยการก่อหนี้สินบ้าง หากสินทรัพย์นั้นมีมูลค่าเพิ่มในอนาคตที่คุ้มค่าต่อการลงทุน เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าด้วยเงินกู้บางส่วน และค่าเช่าซึ่งเป็นรายรับสามารถรับภาระในการผ่อนชำระหนี้ระยะยาวได้ หรือการซื้อบ้านเงินผ่อนโดยมีเงินเดือนเพียงพอที่จะผ่อนหนี้เงินกู้ได้ก็เป็นการออมที่ดี นอกจากได้อยู่อาศัยแล้วยังเป็นการลงทุนด้วย
3. ตั้งปณิธานว่าเราจะบริหารเงินให้ดีขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอะไรบ้าง ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจและแรงขับว่าเราทำเพื่ออะไร เราต้องการมีชีวิตแบบไหน ซึ่งความพยายามในการเรียนรู้จะตามมาเอง
4. พยายามแบ่งเวลาหาความรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ วันละเล็กละน้อย และติดตามข่าวสารข้อมูลเพื่อบริหารเงินของเราให้อยู่รอดปลอดภัย และให้คุณค่าแก่เราตามความประสงค์ในทุกช่วงเวลาของชีวิต
ขอบคุณข้อมูล : พรสรัญ รุ่งเจริญกิจกุล คอลัมน์ Last But Not Least นิตยสาร Gourmet & Cuisine
