xs
xsm
sm
md
lg

โปสเตอร์อื้อฉาว! เซ็กซ์ในเครื่องแบบ เมื่อเสรีภาพย้อนทิ่มแทงวิถีโดม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


midterm ที่ผ่านมา คุณยังต้องใส่ชุดนักศึกษาอยู่หรือเปล่า?
ปลดแอกความเป็นมนุษย์ของคุณออกมา
เมื่อชุดนักศึกษากำลังถูกท้าทาย
ชุดนักศึกษามีเซ็กซ์มันส์กว่าป่ะ?

เหล่านี้ เป็นข้อความประกอบโปสเตอร์ต่อต้านการแต่งเครื่องแบบนักศึกษาของเด็กธรรมศาสตร์กลุ่มหนึ่ง โดยทำเป็นภาพนักศึกษาชายหญิงในชุดนักศึกษาแสดงท่าทางการมีเพศสัมพันธ์ ออกแนวอนาจาร และถูกนำไปติดตามมุมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย เพื่อต่อต้านกฎให้สวมชุดนักศึกษาเข้าเรียน

เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม ซึ่งมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยส่วนใหญ่เห็นว่าล่อแหลม และใช้เสรีภาพเกินพอดี และเรื่องนี้ดูเหมือนจะมีกระแสการ 'ถกเถียง' เรื่องเครื่องแบบนักศึกษากันอีกครั้งว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องใส่ชุดนักศึกษา

สุดอื้อฉาว! โปสเตอร์ต่อต้านชุด นศ.

กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาในสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก ภายหลังมีการเผยแพร่ภาพโปสเตอร์นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งต่อต้านกฎการแต่งชุดนักศึกษาเข้าห้องเรียนของอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง โดยนำโปสเตอร์บุคคลที่สวมชุดนักศึกษาแสดงท่าทางอนาจารไปติดตามมุมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อต่อต้านกฎการสวมชุดนักศึกษา นำไปสู่เรื่องดราม่าจนลุกลามบานปลายเป็นความรู้สึกไม่พอใจ และไม่เห็นด้วยจากสังคมเพียบ

โดยเจ้าของไอเดียภาพโปสเตอร์ 4 แบบ ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นนักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 นามว่า อั้ม เนโกะ หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันดีกับ สาวโหนรูปปั้นปรีดี พนมยงค์ ที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะในประชาคมธรรมศาสตร์ ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันและคณาจารย์ และเธอคนนี้อีก ที่เป็นคนปูดไอเดีย ไม่เอาเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์

สำหรับการต่อต้านการแต่งชุดนักศึกษาครั้งนี้ มีที่มาที่ไปจากอาจารย์ผู้สอนรายวิชา TU130 หรือวิชาสหวิทยาการวิทยาสตร์และเทคโนโลยี ของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำหนดให้นักศึกษาปี 1 แต่งชุดนักศึกษาเข้าเรียน หากไม่แต่งชุดนักศึกษาก็จะไม่สามารถทำข้อสอบเก็บคะแนนได้ ทำให้เธอและกลุ่มเพื่อนต้องลุกขึ้นมาทำโปสเตอร์ต่อต้านตามที่เป็นข่าว

"เมื่อวาทกรรมของเซ็กซ์มาปะทะกับชุดนักศึกษา อย่างแรก คือ ความคิดของชุดนักศึกษาที่เป็นเหมือนภาพแทนของคนดี ที่ได้รับการยอมรับ กับมุมมองของเซ็กซ์ที่สังคมรับไม่ได้ แต่มันมีอยู่จริง ดังนั้น เมื่อ 2 สิ่งนี้มาปะทะกัน การมีเซ็กส์ในชุดนักศึกษาจึงได้ออกมาจากที่ที่มันมีจริงอยู่คือ คลิปแอบถ่ายชุดนักศึกษา มาอยู่ในพื้นที่สื่อกระแสหลักของสังคมเพื่อบ่งบอกว่า ชุดนักศึกษากำลังถูกท้าทายด้วยอำนาจ ทำให้สังคมตื่นตกใจ ซึ่งประเด็นที่นำชุดนักศึกษาขึ้นมาเหมือนกับว่าเรากำลังเป็นขบถต่อการลิดรอนชุดนักศึกษาแบบเดิม ๆ กลายเป็นขบถต่อการที่ร่างกายของเรากำลังถูกควบคุมโดยสิ่งที่เรียกว่า เครื่องแบบ โดยแสดงออกมาผ่านสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ ท่ามกลางอำนาจที่ควบคุมร่างกายเราอยู่" เสียงของ อั้ม เนโกะ เปิดเผยไอเดียของภาพโปสเตอร์ล่อแหลมผ่านไทยรัฐออนไลน์ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ขณะนี้

ด้วยไอเดียที่ล่อแหลมนี้เอง ภายหลังที่ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เห็นภาพโปสเตอร์ดังกล่าวแล้ว ก็ได้ออกมาชี้แจงทันทีว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่มีกฎข้อบังคับให้นักศึกษาแต่งชุดนักศึกษาเข้าเรียน เพียงแต่ขอให้เป็นชุดที่สุภาพเท่านั้น และการแต่งชุดนักศึกษาก็ถือเป็นเรื่องปกติของผู้ที่เรียนในระดับอุดมศึกษา แต่หากนักศึกษามีอะไรที่ไม่พอใจ หรือคิดว่าถูกบังคับ หรือถูกละเมิดสิทธิ ก็สามารถร้องเรียนที่รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา หรือเข้ามาพูดคุยกับอธิการบดีได้

ทั้งนี้ วิธีการแสดงความไม่พอใจต่อกฎระเบียบต่างๆ สามารถทำได้โดยการยื่นหนังสือคัดค้านต่ออธิการบดีโดยตรง หรือออกแถลงการณ์ แต่การที่นักศึกษาแสดงความเห็นคัดค้านด้วยภาพโปสเตอร์ลักษณะดังกล่าว ทำให้คนส่วนใหญ่ที่เห็นภาพทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือเห็นภาพโปสเตอร์ที่ติดตามสถานที่ต่างๆ ในมหาวิทยาลัย เกิดความรู้สึกไม่พอใจและไม่เห็นด้วย

ด้าน ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นจะเรียกนักศึกษาผู้ที่ทำโปสเตอร์เข้ามาชี้แจง แต่จะมีบทลงโทษอะไร จะเป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญที่ว่า มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์แสดงออกทางความคิด แต่ภาพที่แสดงออกมานั้น เป็นบุคคลร่วมเพศกันในที่สาธารณะ ซึ่งผิดตามข้อกฎหมาย ทั้งของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ด้วย

ดังนั้น หากมองในมุมของ ผศ.ดร.ปริญญาแล้ว กรณีนี้ ถือว่า เกินขอบเขตคำว่า "พอดี" ถ้านักศึกษารู้สึกว่า โดนจำกัดเสรีภาพ สามารถร้องเรียน มายังรองอธิการบดีได้เลย ไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยภาพสื่อความหมายในทางลบขนาดนี้ ซึ่งขณะนี้ ทางมหาวิทยาลัย ได้ระงับกฎบังคับใส่ชุดนักศึกษาในรายวิชาดังกล่าวแล้ว

ชาวเน็ตจวกยับ! ใช้เสรีภาพเกินพอดี

ทันทีที่โปสเตอร์อื้อฉาวแพร่กระจายออกไปในโลกออนไลน์ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างล้นหลาม เห็นได้จากข่าว อธิการฯ มธ.ติง นศ.โพสต์รูปไม่เหมาะสม หากถูกละเมิดสิทธิร้องเรียนได้ ที่ทีมข่าว ASTVผู้จัดการออนไลน์ได้นำเสนอออกไป ซึ่งมีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยส่วนใหญ่เห็นว่า โปสเตอร์ดังกล่าวหวือหวาเกินกว่าที่สังคมไทยจะรับได้ และนี่คือตัวอย่างความเห็นที่ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ขออนุญาตหยิบยกมานำเสนอต่อ

"เรื่องภาพประท้วงเห็นด้วยว่าไม่สมควร เเต่เรื่องบังคับเเต่งชุดนักศึกษาไม่เห็นด้วย เเต่ไหนเเต่ไรมาก็ปล่อยให้นักศึกษาคิดเองอยู่เเล้วว่าควรเเต่งกายอย่างไร ส่วนคนนอกที่มาวิจารณ์ที่ไม่เเต่งชุดกันก็ก้าวล่วงเกินไปอย่าเผด็จการความคิดตามความคิดตนเสมอ เรื่องเเบบนี้คนเราคิดกันเองได้ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาคิดเเทน ทีเรื่องในสภาดันบอกประชาธิปไตยต้องรับฟังความเห็นผู้อื่นเเละเคารพเสียงส่วนน้อย กับเรื่องชุดนักศึกษานี้ธรรมศาสตร์ก็ปล่อยให้นักศึกษาคิดเองมาเเต่ไหนเเต่ไรเเล้ว อย่าเอาเเต่ความเห็นตนเองถูกเสมอไป"

"การแต่งกายสุภาพ เป็นการให้เกียรติสถาบันเครื่องแบบนักศึกษา เป็นเครื่องแต่งกายราคาถูก แต่งได้ทุกวัน และสุภาพการแต่งชุดธรรมดา จะเพิ่มการแข่งขันแต่งกาย และเพิ่มค่าใช้จ่ายพวกนี้ยังรับจ้างเรียนหนังสืออยู่เลย เรื่องความปลอดภัยในสถาบัน การแต่งเครื่องแบบจะทำให้แยกแยะ ใครเป็นใครได้ มิใช่คนภายนอก และคนภายใน ดูเหมือนกันหมด"

"ถ้าคุณอยู่ในสังคมคุณต้องยอมรับในระเบียบวินัยชุดนักศึกษาก็เป็นเครื่องเตือนใจให้เรารู้หน้าที่ของการเป็นนักศึกษา และเป็นความภูมิใจต่อสถาบัน คิดได้อย่างไรเอาเรื่องชุดนักศึกษากับเรื่องเซ็กซ์มาเกี่ยวข้องกันมันเป็นเรื่องของคนสมัยนี้ที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจและไม่มีความละอายใจ ทำไมพวกนักศึกษาสมัยนี้ไม่รู้จักคิดทำในสิ่งที่จะช่วยให้สังคมของพวกตนกระทำสิ่งดีๆบ้าง ไม่ใช่มัวแต่เรียกร้องอิสระเสรีภาพตามใจตัวเอง เรียนหนังสือสนุกสนาน ใช้เงินพ่อแม่ เที่ยวเตร่ไปวันๆ แล้วคิดว่าโก้ที่ไม่อยากแต่นักศึกษาก็เพราะทำให้มีอิสระมากขึ้นหรือเปล่า ทำอะไรจะได้ไม่มีกรอบของเครื่องแบบมาค้ำอยู่"

เมื่อเสรีภาพย้อนทำร้ายวิถีแม่โดม

เรื่องนี้ ไม่เพียงแต่จะดุเดือดเผ็ดมันจนกลายเป็นเรื่องดราม่าในโลกออนไลน์แล้ว ยังกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะในประชาคมธรรมศาสตร์ ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และคณาจารย์อีกด้วย เห็นได้จากความเห็นของ นายกองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฌาลิศา ธรรมวงค์ หรือ ฌาน แม้จะออกตัวผ่านสื่อฉบับหนึ่งว่า ไม่ขอออกความเห็นต่อกรณีภาพโปสเตอร์อื้อฉาว แต่เมื่อมีกระแสข่าวออกมาหนักขึ้น นี่คือทัศนะที่เธออยากจะแสดงออกมา

"เราต้องตีความคำว่า เสรีภาพทุกตารางนิ้วให้ชัดเจน มันค่อนข้างเป็นดาบสองคม ถ้าจะใช้ให้ทรงพลัง และใช้ในทางบวก มันคือเสรีภาพที่จะแสดงออกในด้านความคิดเห็น ซึ่งธรรมศาสตร์เอง เรายอมรับความแตกต่างของกันและกัน แต่ในอีกด้าน ซึ่งเป็นด้านที่เรียกร้องเสรีภาพมากเกินไป บางคนเคยชินกับการเรียกร้องว่า นี่คือสิ่งที่ฉันควรจะได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้ ในทางกลับกัน การออกไปอยู่ในสังคม เราต้องยอมรับว่า สังคมไทยนอกรั้วธรรมศาสตร์ โดยองค์รวมเองก็ไม่ได้เหมือนธรรมศาสตร์ที่มีเสรีภาพในการแสดงออกด้านความคิดเห็นขนาดนั้น ดังนั้นเราก็ต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสังคมด้วย ถ้าเกิดเราคุ้นเคยกับการเรียกร้องอะไรที่มันมากจนเกินขอบเขต คุณอาจจะเป็นคนที่ก้าวร้าวในสังคม เอะอะอะไรก็ไปขวางโน่น ขวางนี่ตลอด ทางที่ดี คุณไม่ควรออกไปสร้างปัญหาให้สังคม แต่ควรแสดงให้สังคมเห็นว่ามันมีปัญหาหรือไม่"

"อย่างกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ยอมรับว่า ไม่ผิดค่ะที่จะแสดงให้สังคมเห็นว่า มันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น อย่างเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องความไม่ยุติธรรมที่เกิดจากการบังคับ แต่ประเด็นมันอยู่ที่วิธีการในการนำเสนอให้สังคมได้เห็น ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายวิธีมากกว่าจะเป็นเรื่องทางเพศที่สังคมไทยยังรับไม่ได้ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นการเบี่ยงประเด็นมากเกินไปค่ะ กลายเป็นเรื่องเซ็กซ์ไปแทน"

นอกจากนี้ เธอยังชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดจากทางมหาวิทยาลัยเองด้วยที่เลือกนำเสนอความเป็นมหาวิทยาลัยแห่งความมีเสรีภาพ แต่ในทางปฏิบัติยังมีบางจุดที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ทำให้เกิดความชัดเจน เช่น บางวิชา อย่าง TU130 หรือวิชาสหวิทยาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของคณะวิทยาศาสตร์ ที่มีการบังคับให้ใส่ชุดนักศึกษามา ถ้าไม่ใส่มาก็ไม่สามารถเข้าเรียน และสอบได้

แต่หากเปิดดู ระเบียบของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยข้อกำหนดเรื่องเครื่องแบบ ได้มีการระบุไว้ชัดเจนในข้อ 13 ของระเบียบมหาวิทยาลัย ที่ระบุตอนหนึ่งว่า ให้นักศึกษาธรรมศาสตร์แต่งกายให้สุภาพ เหมาะสม "หรือ" แต่งเครื่องแบบ นั่นแสดงให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับให้แต่งเครื่องแบบ เพียงแต่ขอให้แต่งกายสุภาพ ยกเว้นวันสำคัญหรือมีพิธีการต่างๆ ทำให้เกิดเป็นช่องโหว่จนกลายเป็นปัญหาอย่างที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้

"ตั้งแต่เข้ามามหาวิทยาลัย เราธรรมศาสตร์ทำความเข้าใจร่วมกันว่า ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ยกเว้นเวลาเข้าสอบที่ต้องใส่ชุดนักศึกษาเข้าสอบ แต่พอเข้ามากลับมีบางวิชาที่ยังบังคับให้ใส่เข้าเรียนอยู่ มันก็เลยเกิดคำถามขึ้นว่า อ้าว แล้วทำไมไม่เป็นอย่างที่เราตกลงกันไว้" นายกองค์การนักศึกษา มธ.ชี้ให้เห็นถึงปัญหา

แม้กฎระเบียบของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะแตกต่างจากสถาบันอื่น การเคารพกติกาและความเหมาะสมตามสังคมคือสิ่งที่ นายกองค์การนักศึกษาคนนี้อยากเห็น ส่วนประเด็นเรื่องการใส่ชุดนักศึกษานั้น เธอมองว่า ชุดนักศึกษาเปรียบเสมือนเป็นชุดนักเรียนของสถาบัน ถ้าอยากให้ผู้เรียนรู้สึกอยากที่จะสวมใส่ ควรปลูกฝังให้เห็นคุณค่าของชุดนักศึกษาไม่ใช่บังคับเพราะจะตัดคะแนน

สอดรับกับ วีรยุทธ สุขกูล หนึ่งในองค์การนักศึกษา ผู้ดูแลทูตกิจกรรมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง ได้ให้ความเห็นต่อกรณีนี้ไว้อย่างมีหลักการเช่นกัน

"ด้วยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีคำกล่าวที่กินใจตั้งสมัยการเมืองกับธรรมศาสตร์ที่ว่า เสรีทุกตารางนิ้ว เราจึงมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่อย่างว่าครับ ด้วยเสรีภาพของเรา ทำร้ายวิถีของเราเองเลยทำให้กลุ่มที่ออกมาเรียกร้อง ลืมความภูมิใจในชุดนักศึกษา ส่วนตัวเลยไม่เห็นด้วยว่าควรยกเลิกชุดนักศึกษาหรือไม่ต้องใส่ชุดนักศึกษาเข้าสอบ หรือประการอื่นๆ อันนี่ผมรู้คร่าวๆ น่ะ รู้ไม่มากว่าข้อเรียกร้องของนักศึกษากลุ่มนี้นี่เรียกร้องต่อใคร" หนึ่งในศิษย์แม่โดมเผยทัศนะ

สารจากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้องหัวขบถ

ไม่เพียงแต่ศิษย์ปัจจุบันเท่านั้น ยังมีศิษย์เก่าอย่าง เอมอร คชเสนี คอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ศิษย์เก่าในยุคบุกเบิกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ออกมาตั้งคำถามบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ป้าอร เอมอร คชเสนี ผ่านข้อเขียน "เครื่องแบบธรรมศาสตร์..ก็ไม่รู้สินะ?" โดยมีข้อความตอนหนึ่งที่ชี้ให้เห็นในประเด็นเรื่องเครื่องแบบนักศึกษาไว้อย่างน่าขบคิด

"..เหตุผลที่พี่ยอมใส่เครื่องแบบแต่โดยดีมาตั้งแต่ประถมยันมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพราะพี่ยอมจำนนต่อการตีกรอบ หงอต่อกฎเกณฑ์ที่เขาวางไว้ แต่เป็นเพราะพี่ไม่เห็นว่าเสื้อผ้าคือปัญหา ไม่ว่าจะใส่เครื่องแบบหรือไม่ใส่เครื่องแบบ ก็ไม่เห็นจะใช่ประเด็นปัญหาซักนิด เพราะที่จริงแล้วหน้าที่ของพี่ก็คือมาเรียน พี่ก้าวข้ามเรื่องเครื่องแต่งกายที่ถือเป็นเปลือก ไม่เกี่ยวอะไรกับการเรียนซักนิด เหมือนที่น้องๆ ชอบยกมาพูดนั่นแหละว่า "จะใส่เครื่องแบบหรือใส่ไปรเวตก็ไม่ได้มีผลต่อการเรียน" ใช่เลย ไม่ว่าจะแต่งตัวแบบไหนก็ไม่ได้มีผลต่อการเรียน แล้วจะเรียกร้องเพื่ออะไร

เพื่อปลดแอกตัวเองจากการกดขี่เหรอ พี่ไม่เคยรู้สึกสักครั้งในชีวิตว่าถ้าต้องอยู่ในกรอบ แปลว่าพี่ต้องแบกแอก พี่เริ่มต่อต้านกฎเล็กๆ น้อยๆ เป็นครั้งแรกสมัยที่เรียนมัธยม ครูผู้ปกครองไม่อนุญาตให้ไว้ผมยาวเลยหูมากนัก และไม่ยอมให้พับถุงเท้าสูงเกินเหตุ แต่พี่ก็พับถุงเท้าสูงอยู่เสมอ และไว้ผมยาวกว่ากฎ เพราะคิดว่ามันสวยดี แต่เมื่อครูจับได้และลงโทษ พี่ก็ยอมรับแต่โดยดี เพราะกฎกติกาในโรงเรียน ทำให้คุณครูดูแลเด็กร้อยพ่อพันแม่อย่างพวกเราได้ง่ายขึ้น และเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นจริงๆ

พี่เห็นน้องๆ มีปฏิกิริยากับคำว่า เป็นระเบียบเรียบร้อย พี่อาจจะไดโนเสาร์เต่าล้านปีอย่างที่น้องๆ ว่าก็ได้ เพราะพี่ไม่เห็นโทษภัยของความเป็นระเบียบเรียบร้อยแต่อย่างใด น้องๆ บอกว่าพวกที่ก้มหน้ายอมรับกฎเกณฑ์แต่โดยดีคือพวกโง่ ยอมให้เขาจูงจมูกไปทางไหนก็ได้ พี่คิดว่าก็อาจจะมีคนที่ว่าง่ายแบบนั้นจริงๆ แต่ก็คิดว่าคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยอมทำตามกฎ ไม่ใช่เพราะเขายอมจำนน แต่เพราะเขาเห็นว่าเขาสามารถกระทำตามกฎได้โดยที่มันไม่ใช่ปัญหาต่างหาก"

นอกจากนั้น ศิษย์เก่าคนเดียวกัน ยังให้ความเห็นต่อกรณีภาพโปสเตอร์ล่อแหลมเพื่อต่อต้านการแต่งเครื่องแบบนักศึกษาด้วยว่า

"การคิดนอกกรอบเป็นสิ่งดี แต่ควรเป็นเรื่องสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์และไม่กระทบกระเทือนต่อส่วนรวม จึงจะเรียกว่าเจ๋งโดยแท้ โปสเตอร์ที่โยงเรื่องเซ็กส์เข้ากับชุดนักศึกษา ถ้าน้องกะว่าทำให้แรง คนจะได้สนใจ ก็โอเคนะ ได้ผลในแง่นี้ อย่างน้อยพี่ก็หันมามองหน่อยนึง แต่อยากจะบอกว่าน้องไม่ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องให้เลิกใส่ชุดนักศึกษาแล้วมาใส่ไปรเวท พี่เรียนการสื่อสารมา สำหรับพี่ งานชิ้นนี้ถือว่าไม่ผ่าน ไม่โดน ไม่เก็ท ที่จริงน่าจะดัดแปลงไปใช้สำหรับการรณรงค์ใส่ชุดนักศึกษาให้งดงามมากกว่า" เอมอร หนึ่งในศิษย์เก่ามธ.เผยทัศนะส่วนตัว

ตัวตน อั้ม เนโกะ เขาว่าเธอคือขบถตัวแม่?

ปิดท้ายกันที่ตัวตนของสาวนะยะคนนี้ อั้ม เนโกะ นักศึกษาสาวข้ามเพศ ชั้นปีที่ 2 อย่างที่กล่าวไปแล้วในตอนต้นว่าเธอเป็นคนเดียวกับที่เคยตกเป็นประเด็นสังคม กรณีโพสท่าถ่ายรูปคู่กับรูปปั้น "ปรีดี พนมยงค์" เมื่อปี 2555 สำหรับกรณีสุดอื้อฉาวครั้งที่ 2 แม้จะออกมายอมรับว่า โปสเตอร์ดังกล่าวเป็นแนวคิดและไอเดียที่มาจากตนเองทั้งสิ้น อีกทั้งภาพนางแบบที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในโปสเตอร์ดังกล่าวคือตัวเองทุกภาพ

โดยเธอให้เหตุผลว่า ทนไม่ได้กับความไม่ถูกต้อง ทำให้ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้กับอำนาจที่กดหัวให้ต้องยอมอย่างที่เป็นข่าว ไม่แปลกที่ใครหลายคนจะมองว่าเธอคือขบถต่อสังคมตัวแม่ที่ถูกกระแสโจมตีมากกว่าการชื่นชม

บอกเล่าได้จาก แหล่งข่าววงใน ผู้ซึ่งเคยเรียน และรู้จักตัวตนของเธอเป็นอย่างดี สำหรับแหล่งข่าวลับคนนี้ เธอบอกว่า

"ตัวหนูเองเคยเรียนวิชาเดียวกับอั้ม เนโกะ เวลาที่เห็นอะไรไม่โอเค หรือไม่ถูกต้อง เธอจะทำให้เป็นประเด็นขึ้นมา เหมือนตั้งคำถามกับสังคมว่า ถ้าฉันทำแบบนี้ มันจะมีการเรียกร้องหรือมีอะไรเกิดขึ้นมาหรือไม่ เหมือนท้าทายสังคมอะค่ะว่าท้ายที่สุดแล้วคุณบอกว่าคุณให้เสรีภาพ มันทำได้จริงๆ หรือเปล่า อีกอย่างคือเขาเคยใส่ชุดบิกินี่ถ่ายภาพกลางโรงอาหาร แต่มีชุดคลุมเหมือนพ่อมด แม่มดคลุมทับอีกที"

"หรือเวลาเข้าเรียน เขาจะแต่งชุดสั้น ๆ ไม่ค่อยถูกกาลเทศะเท่าไร ทีนี้กฎมหา'ลัยที่อนุญาตให้ใส่ชุดธรรมดามาได้ มันมีที่มาที่ไปจากอดีตที่ว่า มียุคหนึ่งที่ธรรมศาสตร์ถูกเพ่งเล็งเรื่องการเมือง การที่ใส่ชุดนักศึกษามา มันบ่งบอกถึงการเป็นเด็กธรรมศาสตร์ และอาจถูกทำร้ายได้ ดังนั้นจึงมีระเบียบให้ใส่ชุดนอกมาได้ ก็เลยเป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ เพียงแต่ว่า สิ่งที่มหา'ลัยให้เสรีภาพเรามา ตัวเราก็ต้องคิดเองด้วยว่า กาลเทศะคืออะไร ซึ่งก็ต้องดูความเหมาะสมด้วย แต่สิ่งที่อั้ม เนโกะแสดงออกมา เขานุ่งสั้นมาแบบ อื้อหือ เสมอ...เลยค่ะ ผ่าหน้า ผ่าหลังอะไรแบบนี้ ซึ่งบางทีก็ดูไม่เหมาะสม"

สุดท้ายนี้ แหล่งข่าววงใน ได้เอ่ยปากชม อั้ม เนโกะ ด้วยใจจริงก่อนจะจบบทสนทนาด้วยว่า "เขาเป็นคนฉลาดและมีความรู้มากคนหนึ่ง เพียงแต่การนำเสนอความคิดออกมา มันไม่ถูกวิธีก็เท่านั้นเอง อย่างกรณีนี้ เขาน่าจะใช้วิธีที่สร้างสรรค์กว่านี้"

ถึงบรรทัดนี้ คงต้องยอมรับว่า เสรีภาพมันมีเขี้ยวเล็บ หากไม่ระวังก็จะไปบาดผู้อื่น และตัวเองได้ จริงหรือไม่ดูจากกรณีนี้เป็นบทเรียน..

///////////////////////////

อั้ม เนโกะ ผู้ที่จัดทำโปสเตอร์สุดอื้อฉาว ที่รณรงค์ให้นักศึกษาธรรมศาสตร์ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนักศึกษาเข้าเรียน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แนวความคิดของตัวเอง


*** ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะวิทย์ มธ.ย้ำ “ใส่ชุด นศ.เข้าเรียน” ด้าน ปธ.สภา นศ.เตรียมประชาพิจารณ์การแต่งเครื่องแบบ

เผยตัว “อั้ม เนโกะ” ต้นคิดโปสเตอร์ฉาว ต้านบังคับใส่ชุดนักศึกษา

ข่าวโดย ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live


 อั้ม เนโกะ



กำลังโหลดความคิดเห็น