Instagram หรือ IG เป็นแอพพริเคชั่นถ่ายภาพและแต่งภาพยอดฮิตอันดับต้น ๆ ที่มียอดผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 100 ล้านคน แถมกำลังเป็นกระแสที่เหล่าคนดังทั่วโลกแห่กันโพสต์ต์รูปสวยๆของตัวเอง เพื่อให้แฟนคลับได้ Follow ซึ่งฮอตฮิตมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และยังไม่ถึงครึ่งปี รูปสวยๆ ของเหล่าดาราบน Ig ก็กลายเป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์ที่สร้างรายได้ให้แก่เจ้าของได้อย่างล้นหลาม
เริ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเหล่าซุปตาต่างประเทศเริ่มโพสต์ต์แอดตัวเองลงบนอินตาแกรม ไม่ว่าจะเป็นบิยอร์น เซ่ นักร้องสาวสไตล์อาร์แอนด์บีที่โพสต์ต์รูปตัวเองกำลังดื่มเป๊ปซี่ และรูปป๊อปอาร์ตของตัวเองกับเป๊ปซี่แคน ที่เธอได้เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ ปรากฏว่าเหล่าแฟนๆ ในอินสตาแกรมของเธอกว่า 3 ล้านคนได้เห็นกันถ้วนหน้า
นอกจากนั้น คิม คาร์ดาเชียน สาวเรียลลิตี้จอมดราม่า ก็โพสต์ต์รูปตัวเองคู่กับโพรดักซ์ของตัวเองให้เหล่าแฟนคลับกว่า 7.6 ล้านคน ได้ติดตามเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น น้ำหอม หรือพ็อกเกตบุ๊ก แม้แต่ นิโคล ริชชี่ ก็โพสต์รูปตัวเองกับกระเป๋า Givenchy ซึ่งรับเงินไปเต็มๆ
ส่วนกระแส IGในเมืองไทยนั้น เมื่อก่อนเหล่าดารา เซเลยฯ ก็โพสต์ต์เพียงรูปเก๋ๆ อวดสไตล์ตัวเองให้เหล่าแฟนคลับได้ชื่นชม แต่กระแสการใช้ภาพ IG เป็นแอดโฆษณามาดังเอาเปรี้ยงปร้างก็เมื่อ ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เกต ถ่ายรูปตัวเองพร้อมกับเจ้าเฟอร์บี้โพสต์ต์ลง IG ผลปรากฏว่าเจ้าเฟอร์บี้ ตุ๊กตาหน้าประหลาดกลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
หรือแม้แต่ไอศกรีมชื่อดังที่ชื่อเสียงเงียบหายไปนาน อย่างไอศกรีมแมกนั่ม กลับมาบูมในธุรกิจของหวานอีกครั้งเพียงชั่วพริบตา เพียงเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์อย่างสาวชมพู่ อารยา มาเป็น ญาญ่า อุรัสยา พร้อมลงข้อความบน IG ของเธอเองว่า “ตื่นเต้นๆ!!! พรุ่งนี้นะคะ ที่ Facebook Magnum Thailand 2 ทุ่มตรง เข้าไปดูกันเยอะๆ นะคะ” เพียงเท่านี้ เหล่าผู้ติดตามของเธอเรือนแสนก็รู้จักพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ทันที
วงการแฟชั่น เครื่องสำอางคึกคักจับเซเลยฯถือโพรดักซ์
ช่องทางประชาสัมพันธ์บน IGนั้น ไม่จำเป็นต้องอธิบายสรรพคุณให้ยาวเหยียด แค่รูปสวยๆ กับจำนวนผู้ติดตามของเจ้าของ IG ก็การันตีว่าสินค้าตัวนั้นจะฮือฮาแล้ว โดยเฉพาะกรณีศึกษาที่ชมพู่ อารยา พาเจ้าเฟอร์บี้โด่งดังในเวลาข้ามคืน หลังจากนั้น เหล่าเจ้าของสินค้าก็ปิ๊งไอเดียจับคนดังถ่ายภาพคู่กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เริ่มให้เห็นมากขึ้น
เวนิก หอสกุล เจ้าของพีอาร์เอเยนซี่แห่งสตูดิโอ แมงโก้ เผยว่า ค่าจ้างถ่ายภาพของดาราหรือคนดังที่ถือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ลงในอินสตาแกรมนั้นสนนราคาอยู่ที่หลักหมื่นต่อภาพ โดยในภาพต้องมีรูปของดาราเจ้าของ IGเอง พร้อมตัวสินค้า
“เดี๋ยวนี้ธุรกิจส่วนใหญ่จะเกาะกระแสแฟนๆ ของเหล่าคนดัง โดยให้ดาราหรือเซเลยฯเป็นผู้ถือผลิตภัณฑ์นั้นๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ พร้อมกับถ่ายภาพลงบนอินสตาแกรมของตัวเอง พร้อมกับโพสต์ต์ข้อความที่เป็น Keyword หรือ Account อินสตาแกรมหรือเฟซบุ๊กของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้บรรดา Follower ของดารา ได้ติดตามกันต่อ ซึ่งอย่างที่ทุกคนทราบกันว่า ดาราบางคนมีคนติดตามเป็นหลักแสน บางคนมีถึงหลักล้าน”
ภาพแต่ละภาพมีมูลค่า อาทิ ดาราค่าตัวระดับปานกลางจะเริ่มที่หลักหมื่น สูงสุดก็หลักแสนต่อภาพ ขณะที่คนดังบางคนก็ใช้ระบบบาเตอร์สินค้ากัน
“ส่วนใหญ่เจ้าของแบรนด์จะสนิทกับดาราหรือเซเลยฯอยู่ก่อนแล้ว จึงมีการส่งผลิตภัณฑ์ไปให้ลองใช้ แล้วดาราก็จะโพสต์ต์ขอบคุณกันผ่านอินสตาแกรม ผลที่ได้คือเหล่าบรรดาผู้ติดตามของดาราดังก็ได้เห็นไปด้วย และเกิดเป็นกระแสขึ้นมา แต่หากเจ้าของผลิตภัณฑ์ตัวไหนไม่รู้จักคนดัง ก็ต้องอาศัยผู้ที่เป็นสื่อกลางอย่างเอเยนซี่ เป็นคนจัดการให้”
ผลตอบรับจากวิธีการนี้ เอเยนซี่เล่าว่า ได้ผลมาก เพราะกว่า 70% ของผู้ติดตามดาราเหล่านั้น มาติดตามตัวแบรนด์, ผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้เกิดยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยบางรายยอดสูงกว่า 200-300% กันเลยทีเดียว
IG รุกงานพีอาร์-อีเว้นต์ เพียงแค่ “คลิ๊ก!”
เหล่าคนดังก็ไม่ได้ทำหน้าที่แค่พรีเซ็นเตอร์ แต่พวกเขายังมีธุรกิจที่สร้างขึ้นพร้อมๆ กับมีเดียในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กเช่นเดียวกัน และยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่ฉวยโอกาสยุคอินสตาแกรมบูม เพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ นั่นก็คือ ธุรกิจประชาสัมพันธ์ หรือบริษัทพีอาร์ต่างๆ ซึ่งบางเจ้าเริ่มร่อนการ์ดเชิญทางอินสตาแกรมกันแล้ว
เพียงเพ็ญ พรายแสง เจ้าแม่พีอาร์แห่งบริษัทพับบลิค ฮิต เผยว่า การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออินสตาแกรมที่ได้ผลมากที่สุดเท่าที่ทราบ คือ ไอศกรีมแมกนั่ม ที่ให้เหล่าพรีเซ็นเตอร์และคนดังถือไอศกรีมแท่งนี้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมของตัวเองจนฮือฮาซึ่งทำได้แนบเนียนมาก โดยที่คนดูแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเรากำลังดูภาพโฆษณาอยู่ ถือเป็นกรณีศึกษาที่บริษัทพีอาร์ตอนนี้ต้องนำไปทำการบ้านเพิ่มเพื่อขึ้นเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้า
“บริษัทด้านประชาสัมพันธ์ก็ต้องปรับตัวและคิดวิธีการพีอาร์ผ่านโลกดิจิตอลให้แตกต่างและแนบเนียน อย่างเช่น เวลาลูกค้าจัดงานเปิดตัวสินค้า เดี๋ยวนี้ก็จะให้เหล่าคนดังถือสินค้าตัวนั้นแล้วเขียนโพสต์ท์ลง Ig ตัวเองว่า แล้วพบกันวันนี้.... ซึ่งวิธีการนี้เอง ผู้ติดตามของดาราดังเหล่านั้นก็จะรู้จักสินค้าตัวใหม่ที่กำลังจะมีจำหน่ายในเร็วๆ นี้แน่นอน”
แม้จะต้องมีงานเพิ่ม โดยเฉพาะการติดต่อเซเลยฯให้ลูกค้า แต่พีอาร์เอเยนซี่แห่งนี้ ไม่ได้เรียกค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่เลือกที่จะใช้การประชาสัมพันธ์ผ่าน Ig เป็นอ๊อปชั่นเสริมให้ลูกค้า และเพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์เท่านั้น
“สำหรับเราแล้วรายได้จากการประชาสัมพันธ์ยังคงอยู่ที่ข่าวสารค่ะ ในอินสตาแกรมนั้น เราทำหน้าที่เพียงเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าและเซเลยฯ และเพิ่มงานมาอีกอย่างคือจัดเก็บภาพที่เซเลยฯคนนั้นโพสต์ต์ลง Ig ของตัวเองให้ลูกค้า โดยที่ลูกค้าไม่มีค่าใช้จ่ายด้านประชาสัมพันธ์เพิ่ม แต่จะต้องจ่ายค่าตัวให้เซเลยฯคนนั้นเอง ซึ่งราคาค่าตัวของเซเลยฯเหล่านั้น เกือบจะเท่ากับสื่อโฆษณาอื่นๆ เลย แต่ดาราดังๆ บางคนก็ไม่รับงานแบบนี้นะคะ เขายังคิดว่า Ig เป็นพื้นที่ส่วนตัว และโพสต์ต์รูปเฉพาะสิ่งที่ตัวเองชอบ หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เท่านั้น”
นอกจากเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าและเซเลยฯแล้ว นักประชาสัมพันธ์ยังคงอาศัยช่องทางอินสตาแกรมฝากข่าวต่างๆ ลงอินสตาแกรมของนักข่าวด้วย “เนื่องจากทำงานด้วยกันมานาน เราก็อาศัยลูกอ้อนขอแท็กชื่อนักข่าวลง Ig ของพวกเขาด้วย ซึ่งหลายคนก็น่ารักให้เราทำ ซึ่งวิธีการนี้ก็ช่วยกระจายข่าวสารต่างๆ ได้ง่ายขึ้น” พีอาร์มือฉมังเล่า
ฮอตขนาดนี้ คงต้องยกให้ อินสตาแกรม เป็นเครื่องมือพีอาร์อันดับ 1 ให้เลย
ข่าวโดย : ทีมข่าว Celeb Online