หลังจากมีการแชร์คลิปชายคนหนึ่งให้อาหารปลาที่ท่าน้ำบริเวณเขตอภัยทานที่วัดแห่งหนึ่ง โดยการให้อาหารปลานั้นมีการสาดอาหารปลาแบบเม็ดเป็นจำนวนหลายถังลงไปในน้ำติดต่อกัน ทำให้เกิดภาพปลาแย่งอาหารกันเสียงดัง จนชาวเน็ตหลายคนทักท้วงต่อการกระทำดังกล่าว กลายเป็นคำถามว่า การทำบุญให้อาหารปลาแบบนั้นได้บุญหรือบาปกันแน่
กิจกรรมการทำบุญให้อาหารปลานั้น ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ชาวพุทธนิยมทำกันเมื่อได้เข้าวัดซึ่งมักจะมีเขตอภัยทานบริเวณท่าน้ำพร้อมทั้งขายอาหารปลาแบบเม็ด หรือขนมปังให้กับผู้ที่สนใจได้ทำบุญให้อาหารปลา ทั้งนี้คลิปดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ CK Trakulwilai โดยมีการตั้งชื่อคลิปว่า “ให้อาหารปลา...เขาให้กันแบบนี้นะครับนะ” และข้อความบรรยายเป็นภาษาอังกฤษว่า wanna feed fish, gotta feed like this !! ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับชื่อคลิป
ในคลิปดังกล่าวความยาว 1.20 นาที มีชายคนหนึ่งอยู่ที่ท่าน้ำพร้อมถังอาหารปลาจำนวน 25 ถัง เขาชูนิ้วโป้งแสดงความมั่นใจก่อนลงมือสาดอาหารปลาลงไปในน้ำอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาคลิปดังกล่าวได้มีการอัพโหลดและแชล์ต่อไปในเพจ “รวมเด็ด” เกิดเป็นกระแสวิพากษ์ไปในทิศทางต่างๆ โดยมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่อยู่ในคลิป โดยมองว่า การให้อาหารปลาทีละมากๆแบบนั้นจะทำให้ปลาแย่งกันกินอาหารและเบียดกันจนได้รับบาดเจ็บและตายได้
อย่างไรก็ตาม ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว พร้อมชี้แจงว่า เป็นเรื่องปกติของการให้อาหารปลาที่ปลาจะต้องแย่งกัน เพราะอาหารที่ให้นั้นมีจำกัด และปลาก็ต้องเอาชีวิตรอดด้วยการแย่งกันอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามไปทาง ดร.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความรู้ในเรื่องการให้อาหารปลา อย่างแรกเลยต้องพิจารณาถึงสถานที่ที่จะให้อาหารปลา การให้อาหารปลาบ่อเลี้ยง หากให้อาหารในปริมาณมากเกินจำนวนปลา อาหารที่เหลือก็จะเกิดการสะสมบริเวณก้นบ่อบวกกับน้ำฝนบ่อไม่ถ่ายเทก็จะส่งผลให้น้ำเน่าเสียและปลาถึงตายในที่สุด อย่างที่สอง การให้อาหารปลาในแม่น้ำลำคลอง แม้จะให้อาหารปริมาณมากแต่ก็อาจไม่เพียงพอต่อสัดส่วนของปลา โดยเฉพาะบริเวณใกล้วัดที่ประชาชนนิยมทำบุญให้อาหารปลา
ดร.ธรณ์ อธิบายว่าการให้อาหารปลาลักษณะนี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน้อยมาก แม้อาหารจะมีปริมาณมากแต่ความที่เป็นแม่น้ำลำคลองจะไหลอยู่ตลอด มีการถ่ายเทเป็นอย่างมากจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องน้ำเน่าเสีย อย่างที่สาม การให้อาหารปลาในทะเล ต้องบอกว่าห้ามเป็นอันขาด เพราะในทะเลมีแนวปะการังอาหารที่ให้ปลาอาจตกหล่นไปยังแนวปะการังซึ่งจะส่งผลต่อระบบนิเวศมาก
“ปลาในบ่อตามวัด มันต้องขึ้นอยู่กับบ่อและปริมาณปลาในบ่อ ถามว่าต้องให้มั้ย..ถ้าหากเป็นปลาเลี้ยงก็ต้องให้อาหาร แต่ถ้าให้เยอะเกินไปแน่นอนมันต้องมีผลกระทบ ปลามีน้อย อาหารกินแล้วเหลือ อาหารมันก็จะเน่า น้ำเน่าปลาก็ตาย แต่ถ้าเป็นแม่น้ำหน้าวัด ถ้าเกิดให้ปกติขนมปัง อย่างนั้นไม่ค่อยมีปัญหา”
พฤติกรรมการให้อาหารปลา อย่างเช่น อาหารเม็ด ที่มักโยนกับเป็นกำมือ หรือบางคนก็โยนทีเป็นถัง มีปลาจำนวนมากมารุมแย่งอาหาร หลากคนถึงกับตั้งคำถามว่าสิ่งที่ทำอยู่ได้บุญจริงหรือ เพราะการที่พวกมันรุมแย้งอาหารกันจะเป็นการทำร้ายพวกมันทางอ้อมหรือไม่ ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ดร.ธรณ์ บอกว่าถึงแม้ปลาจะมีลักษณะรุมแย้งกินอาหาร แต่โอกาสที่ปลาจะได้รับบาดเจ็บจากการยื้อแย้งลักษณะดังกล่าวนั้นน้อยมาก ซึ่งปลาตามแหล่งน้ำธรรมชาตินั้นไม่จำเป็นต้องให้อาหารพวกมันก็ดำรงชีวิตอยู่ได้