xs
xsm
sm
md
lg

'สวนสัตว์พาต้า' ควรค่าแก่กาลอวสาน..หรือไม่?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า.. บนห้างเก่าคร่ำครึ ย่านปิ่นเกล้า เป็นที่ตั้งของ 'สวนสัตว์พาต้า' สวนสัตว์ขึ้นห้างอายุราว 30 ปี แหล่งรวมสัตว์นานาชนิดไว้บนตึกสูงในอาณาบริเวณที่ไม่กว้างขวางเท่าใดนัก จะว่าไปสวนสัตว์พาต้ามีชนักติดหลังอยู่หลายเรื่องทั้งในเรื่องคุณภาพชีวิตของสัตว์ ยกตัวอย่างภาพคุ้นตาที่ถูกแชร์ว่อนเน็ต ใบหน้าเศร้าสภาพอิดโรยของไฮไลต์ประจำสวนสัตว์ 'กอริลลา' ชีวิตในกรงขังอันคับแคบของสัตว์หลายชนิด สภาพทรุดโทรมของสถานที่พักอาศัย ฯลฯ

กรณีสวนสัตว์พาต้า เป็นประเด็นที่พูดกันหนาหู ซึ่งไม่นานก็เงียบหาย วนเวียนซ้ำซากอยู่อย่างนี้เป็นเวลานับ 10 ปี ถึงแม้โซเชียลมีเดียจะมีการตีแผ่เรื่องราวของสัตว์ป่าผู้น่าสงสารในสวนสัตว์แห่งนี้ หรือองค์กรเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์จะพยายามมีส่วนช่วยเหลือในเรื่องคุณภาพชีวิตของพวกมัน แต่ตลอดมาก็ยังเข้าอีหรอบเดิม

ย้อนกลับไปช่วง 10 ปีให้หลังมานี้ สวนสัตว์พาต้าถูกจับตาอย่างหนักโดยเฉพาะจากสื่อต่างประเทศ และองค์กรเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์ทั่วโลก ล่าสุด นักข่าวเมืองผู้ดีได้ตีแผ่เรื่องจริงที่ค่อนข้างน่าเศร้าใจของสวนสัตว์แห่งนี้อีกครั้ง

ขอไว้อาลัยแด่ 'สัตว์' บนห้างพาต้า
ข้อมูลจากบทความเรื่อง นรกชัดๆ สวนสัตว์พาต้า ตีแผ่เรื่องจริงเมื่อปี 53 ความว่า สวนสัตว์แห่งนี้มีชนักติดหลังตั้งแต่ปี 45 เพราะมีผู้โพสต์ภาพในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งถึงชีวิตความเป็นอยู่ของลิงกอริลลาพร้อมแสงความสงสารอย่างสุดกู่ โดยเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาจัดการช่วยเหลือเพื่อให้ชีวิตสัตว์ป่าในสวนสัตว์เอกชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

หลังจากนั้นกระแสข่าวด้านลบของสวนสัตว์แห่งนี้ถูกแพร่ภาพและบทความตีแผ่จากทั้งสื่อไทยสื่อเทศ และนักท่องเที่ยวผู้มีโอกาสไปเยือนเป็นระยะๆ ซึ่งทุกครั้งใจความสำคัญยังคงเป็นประเด็นเดิมคือคุณภาพชีวิตของสัตว์ในบ้านคอนกรีตระฟ้าช่างดูน่าเวทนาต่อผู้พบเห็น

ล่าสุดเมื่อต้นปี 56 เรื่องฉาวของสวนสัตว์ขึ้นห้างแห่งนี้ถูกตีแผ่ไปทั่วโลกอีกครั้ง โบรเนค คามินสกี ช่างภาพชาวอังกฤษ เปิดเผยผ่านสำนักข่าวเดลีเมล์ ประเทศอังกฤษ ว่าเขาใช้เวลาเกือบ 2 ปี ในการเก็บข้อมูลและศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ภายในสวนสัตว์พาต้า ยืนยันว่าภาพที่เห็นสร้างความสลดใจต่อนักท่องเที่ยว เขาได้เข้าไปชมนกเพนกวินที่เดินเตาะแตะอยู่ในสระน้ำในห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองไทย รวมทั้งไฮไลต์อย่าง กอริลลา ที่ได้แต่นั่งเกาะรั้วกรงเหล็กอยู่อย่างนั้น

โบรเนค อธิบายว่า สวนสัตว์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ไม่น่าอภิรมย์ใจนับตั้งแต่เคยเห็นมา บรรดาสัตว์อยู่ในกรงคับแคบ เท่าที่เห็นส่วนมากอยู่ในอาการโกรธเกรี้ยว ไม่เป็นสุข ผิดคาดกับภาพที่คิดเอาไว้

นอกจากนี้ยังมีการแสดงโชว์ของ ลิงอุรังอุตัง ที่ถูกจับแต่งตัวขึ้นโชว์ขี่จักรยาน และยกน้ำหนัก เป็นการแสดงที่ไม่น่าตื่นตาตื่นใจมีผู้ชมบางตา

เขาบอกดูแลดี แต่กระแสวิจารณ์ขรม
ทุกครั้งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสวนสัตว์พาต้า ตัวแทนจากห้างดังก็ยืนยันว่าทางเรามีการดูแลสัตว์เป็นอย่างดี มีสัตวแพทย์ดูแลใกล้ชิด และอยากให้สังคมเข้าใจว่าภาพที่ปรากฎสู่สาธารณะเป็นความเข้าใจผิดของนักท่องเที่ยวที่ไม่เข้าใจพฤติกรรมของสัตว์เหล่านี้

ถามถึงมาตรฐานของสวนสัตว์ในไทยกับต่างประเทศ เอ็ดวิน วีค ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าในประเทศไทย ยกตัวอย่าง ซาฟารีเวิลด์, สวนสัตว์ดุสิต ฯลฯ ว่ามาตรฐานไม่ได้ต่างกันเท่าใดนัก แต่ถ้าถามถึงสวนสัตว์ขึ้นห้างแห่งนี้

“สวนสัตว์พาต้าคนละประเด็นกันเลย เพราะว่าสวนสัตว์พาต้าเลี้ยงแบบอึดอัดมา สกปรก สถานที่ไม่ปลอดภัย อันตราย”

เขาเข้าสังเกตการณ์ชีวิตสัตว์ที่พำนักในสถานที่แห่งนี้ นับสิบๆ ครั้ง “แค่ดูพฤติกรรมของสัตว์เราจะเห็นว่าสัตว์มันเครียดนะครับ มันอยู่ในที่มืด แออัด สกปรก อากาศมันไม่ถ่ายเท ข้างในมันเหม็น สัตว์ไม่มีความสุขเลยครับ”

ไม่พูดถึงคงไม่ได้สำหรับไฮไลต์ประจำสวนสัตว์พาต้า กอริลลา เพียงตัวเดียวที่หลงเหลืออยู่ในประเทศไทย เอ็ดวิน พูดถึงชีวิตความเป็นอยู่ของกอริลลาว่าอยากให้ได้อยู่ในสถานที่ที่กว้างกว่านี้ มีมาตรฐานมากกว่านี้

“ในความคิดของผมคุณภาพชีวิตของสัตว์ อย่างเช่น กอริลลา มันอยู่แบบไม่เหมาะสม กอริลลาต้องมีพื้นที่กว้างกว่านี้ มีของเล่นเยอะ และน่าจะมีเพื่อนเล่นด้วย ปกติกอริลลาอยู่เป็นฝูงนะครับ ไม่ใช่อยู่ตัวเดียว ไม่เหมือนเสือโคร่ง หรือหมีที่อยู่ตัวเดียว เค้าเป็นสัตว์ฝูงต้องอยู่กับฝูงครับ”

เพชร มโนปวิตร ผู้จัดการฝ่ายอนุรักษ์ WWF Thailand ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน Greennews Tv กล่าวถึงกรณีการนำสัตว์ไฮไลต์มาปลุกกระแสให้ผู้คนเดินทางเข้ามาชม ความว่า

“คนตื่นตัวมากขึ้นเพราะการเอาสัตว์มาจากสภาพที่มันไม่ค่อยคุ้นเคยจัดแสดง ไม่มีพื้นที่ในการปรับปรุงลักษณะของกรงเลี้ยงให้เหมาะสมมันก็จะทำให้สัตว์เกิดความเครียด 20 ปีที่แล้วอาจจะทำเป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้แต่สมัยนี้ไม่ควรที่จะส่งเสริม แต่ก็ยังมีกระแสอยู่เรื่อยนะ คล้ายๆ กับน่าจะเอาตัวนั้นมาตัวนี้มา เพื่อที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้สวนสัตว์ ผมว่าก็น่าจะเป็นสิ่งที่จะต้องคิด เพราะเป็นการสร้างค่านิยมที่อาจจะไม่ถูกต้อง

“อย่างเยาวชนเข้าไปศึกษาอาจจะชอบ แต่เค้าก็ไม่ได้เรียนรู้ว่าสัตว์พวกนี้อยู่อย่างไรในธรรมชาติ ก็ไม่น่าจะเป็นการให้การศึกษาเท่าไหร่กับประชาชนถึงแม้จะเห็นตัวก็ตาม ปัจจุบันเราก็มีทางเลือกอื่น สารคดีธรรมชาติ การจัดแสดงสัตว์จริงๆ มันน่าจะเน้นสัตว์ที่ดูแลได้อย่างยั่งยืน และไม่ไปเน้นความต้องการอีกที่หนึ่ง ยิ่งเป็นสัตว์ป่าพอถูกจับมาอยู่ในกรงเลี้ยง ความเครียดสูง พวกนี้ก็จะอายุไม่ยืนเท่าไหร่”

“กรณีสวนสัตว์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท สวนสัตว์เอกชน กับสวนสัตว์ของรัฐ ของรัฐหน้าที่หลักเป็นเรื่องของการให้การศึกษา แต่สำหรับเอกชนจะมุ่งในเชิงพาณิชย์ค้ากำไร ผมว่าก็ไม่เหมาะเท่าไหร่ในการนำสัตว์เหล่านี้เข้ามา เพราะเป็นเหมือนกับแค่ดาราแสดง มุ่งในการค้ากำไรกับสัตว์เหล่านั้น แล้วสวนสัตว์เอกชนหลายแห่งพื้นที่ค่อนข้างจำกัด สัตว์ที่นำเข้ามาหลายชนิด ต้องอาศัยอยู่ในที่อากาศหนาวมากๆ อย่างกอริลลาเองก็เป็นสัตว์ที่ใช้พื้นที่หากินบริเวณกว้างมาก การที่จับเขามาอยู่ในวงแคบๆ แล้วไม่มีการปรับปรุงถิ่นที่อยู่ให้มีความเหมาะสม ผมว่าก็นึกถึงเราๆ ก็คงไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่

เอ็ดวิน แสดงความกังวลต่อกรณีสวนสัตว์บนห้างดัง ย่านปิ่นเกล้า เรื่องแรกคือคุณภาพชีวิตของสัตว์ที่ย่ำแย่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น และเรื่องที่สองคือคุณภาพชีวิตของประชาชนในบริเวณนั้น อย่างน้ำเสียที่ชะล้างปัสสาวะและอุจจาระของสัตว์เหล่านี้ก็ถูกทิ้งลงมาตามท่อน้ำทิ้งของกรุงเทพฯ สัตว์ป่ามันมีโรคที่สามารถติดต่อสู่คนได้ อย่างเช่น วัณโรค ไวรัสตับอักเสบเอ,บี หรือแม้กระทั่งกรณีสัตว์หลุดไปอีก เหตุผลทั้งหมดนี้ เอ็ดวิน เห็นควรว่าควรขยับขยายสถาน และใส่ใจในเรื่องคุณภาพชีวิตของสัตว์ นักท่องเที่ยว และชุมชน ให้มากยิ่งขึ้น

คู่กรณีองค์กรป้องกันการทารุณสัตว์ทั่วโลก
“สวนสัตว์พาต้าเป็นสวนสัตว์ที่เป็นประเด็นกับองค์กรที่ป้องกันการทารุณสัตว์ทั่วโลกเลยนะครับ มันเป็นประเด็นมาตั้ง 10 ปีแล้ว เป็นระยะๆ เดี๋ยวออกที่อังกฤษ ที่สหรัฐฯ ข่าวออกว่าสวนสัตว์พาต้าเป็นที่ทารุณสัตว์ ซักพักก็หายเงียบประมาณปีกว่าแล้วก็ออกมาใหม่ ทุกครั้งเจ้าหน้าที่บอกว่าจะปรับปรุงให้มันดีขึ้น จะสั่งให้เค้าทำกว้างขึ้น สะอาดขึ้น สุดท้ายไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแล้วก็ออกข่าวอีกแล้ว” ข้อเท็จจริงจากปาก ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าท่านเดิม

เอ็ดวิน ตั้งข้อสังเกตอนุญาตกรณีสวนสัตว์พาต้าว่าก่อนหน้ามีการระงับใบอนุญาตในสมัย อธิบดีกรมอุทยานฯ คนเก่า ดำรง พิเดช แต่พอเปลี่ยนทีมใหม่พาต้าก็ได้รับการต่อใบอนุญาตด้วยเหตุผลบางประการ

“ กรมอุทยานฯ เพิ่งต่อใบอนุญาตเมื่อไม่กี่อาทิตย์นี้เอง ผมก็งงทำไมเพิ่งมาต่อใบอนุญาต หลังจากไปตรวจสอบเพราะคนร้องเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตผ่านเฟซบุ๊กเยอะ สื่อทั้งประเทศออกข่าวว่ามันไม่เหมาะสม เหมือน 2 ปีที่แล้ว บุกตรวจก็ไม่ได้ทำปิดอะไร ก็ดำเนินการตามปกติ ผมก็อยากให้เค้าเปลี่ยนอย่างจริงจัง อยากให้เค้าเปลี่ยน อาจจะให้จำนวนสัตว์มันลดลงสัตว์ที่ยังอยู่มันจะได้อยู่ที่กว้างกว่าเดิม หรืออาจจะย้ายทั้งสวนสัตว์ไปอยู่ที่กว้างกว่าเดิม การเลี้ยงสวนสัตว์บนอาคารอย่างนั้นมันไม่เหมาะสม”

อย่างไรก็ตาม กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าในประเทศไทยเรียกว่ายังไม่คลอด “ปัญหาของประเทศไทยตอนนี้เราไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของสัตว์ การทรมานสัตว์ เราไม่มีกฎหมายเลยนะครับ กฎหมายที่กำลังจะร่างอยู่ มันเป็น กฎหมายที่ยกเว้นสัตว์ป่า เอาเป็นว่าคุณไม่ทำร้ายสัตว์ หมา แมว วัว คุณมีความผิด แต่ถ้ามันเป็นสัตว์ป่าคุณไม่มีความผิด เพราะว่ากรมอุทยานฯ ขอยกเว้นสัตว์ป่าให้ออกจาก กฎหมาย พ.ร.บ. ที่กำลังจะร่างฯ”

เอ็ดวิน ทวงถามถึงคุณสมบัติของสวนสัตว์พาต้าที่จำต้องมี “สวนสัตว์มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ เรื่องแรก-คืออนุรักษ์สัตว์ป่า เพาะพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อคืนสู่ป่า เรื่องที่สอง-เป็นการท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้เรื่องการศึกษา สวนสัตว์พาต้าโชว์ลิง ผมคิดว่าเด็กไม่มีความรู้อะไรหรอกครับแค่เห็นว่าสัตว์เป็นตัวตลก สรุปแล้ววัตถุประสงค์ของสวนสัตว์พาต้าไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของสวนสัตว์โดยทั่วไป”

…....................................
ทีมข่าว Astv ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


กำลังโหลดความคิดเห็น