xs
xsm
sm
md
lg

'น้ำขิง-สุธิดา' เธอเกิดมาเพื่อฆ่า 'ตุ๊กกี้'

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เรื่องราวของกลุ่มเด็กอีสานที่สะท้อนวิถีพื้นถิ่นได้น่ารักไม่หยอก หวนคืนจอเงินชวนตามติดภารกิจม่วนๆ อีกครั้งใน ภาพยนตร์เรื่อง ปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี (เข้าฉาย 7 มีนาคม) นำทีมโดยสาวน้อยแก่นแก้วที่ทุกคนคุ้นกันดี 'น้ำขิง - สุธิดา หงษา' รับบท เรณู
คราวนี้เธอนำทีมผองเพื่อนบินลัดฟ้าสู่ประเทศอินเดีย เผชิญสถานการณ์สุดป่วน แซบ! ครบรส ไม่ว่าจะ สุข เศร้า เคล้าน้ำตา และที่สำคัญคุณต้องอมยิ้มไปกับมิตรภาพแสนบริสุทธิ์ของพวกเขาอย่างแน่นอน

ภาพยนตร์เรื่องปัญญาเรณู ทั้ง 3 ภาโฮ้ค นั้นกำกับการแสดงโดยผู้กำกับคนเก่ง บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งภาคนี้กลับมาถ่ายทอดด้วยความกลมกล่อม สะท้อนความเป็นลูกอีสานในต่างแดนแบบไม่มีเม้ม เป็นภาพยนตร์ฟอร์มเล็กที่จะมามอบความอิ่มเอมใจให้ทุกท่าน

เรณู เด็กบ้านนอกผู้น่ารัก
หากจะบอกว่า น้ำขิง - สุธิดา หงษา เกิดมาเพื่อเป็น เรณู แห่งภาพยนตร์เรื่อง ปัญญาเรณู ก็คงไม่ผิด เพราะที่ได้รับบทบาทแสดงนำในเรื่องนี้ต่อเนื่องมาทั้ง 3 ภาค ก็เป็นเพราะบุคลิกลักษณะ อาจรวมไปถึงนิสัยใจคอบางส่วนเสียด้วยซ้ำ เรียกว่าเข้าตาผู้กำกับ บิณฑ์ เต็มเปาถึงกับตรงปรี่ทาบทามเด็กสาวอีสานเข้ามาร่วมแสดงทันที

น้ำขิง เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเข้ามารับบท เรเรนูณู ให้ฟังว่าไม่เข้ามาด้วยความไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย

“ช่วงนั้นยังไม่รู้จัก ลุงท็อป (บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) หนูไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร ไม่เคยดูหนังเขา ไม่ทราบเลย แต่มีวันหนึ่งครูที่โรงเรียนที่อุบลฯ เข้าไปชักชวนหนูให้มาร้องเพลงในงานวันเด็ก หนูก็คิดว่าให้มาประกวด ครูก็บอกว่าให้ใส่ชุดจัดเต็มมาเลยนะ วันนั้นหนูเลยแต่งหน้าสวย สวยงามมาก พอไปถึงงานทุกคนใส่ชุดนักเรียนหมดเลย โอ้โห!เราจัดเต็มอยู่คนเดียวมากเกินไปเปล่า”

แต่แรกเจอในครั้งนั้นเด็กสาวก็กลายเป็นเป้าสนใจของผู้กำกับฯ “จากนั้น ลุงท็อป ก็ติดต่อหนูมา พอหลังจากหนูลงจากเวทีเขาก็เดินเข้ามาถามว่าไปเล่นหนังกับลุงมั้ย หนูก็ยังไม่กล้าก็เลยบอกขอคิดดูก่อน ถามแม่ดูก่อน(หัวเราะ) แม่ก็เลยลองเล่นดูหาประสบการณ์ดู ก็เลยได้เข้ามาเล่นหนัง”

ถือว่าเป็นก้าวแรกที่มอบโอกาสในสายงานบันเทิงให้แก่เด็กหญิงแดนอีสานผู้นี้ แน่นอนเสน่ห์แรกพบของเธอก็เข้าตาผู้ใหญ่ในวงการป้อนงานให้เรื่อยมา

น้ำขิงเล่าขึ้น “ปัญญาเรณู เขาต้องการเด็กอีสานที่พูดอีสานได้ หนูก็เป็นคนอย่างนั้นอยู่แล้ว เป็นคนอีสานที่พูดได้ เขาต้องการเรณูที่อ้วนดำร้องเพลงเก่ง ทำอะไรเก่งแก่นแก้วอย่างนั้นอย่างนี้ ตรงกับหนูมาก”

รูปูรูปี.. ปัญญาเรณู 3
ภาพยนตร์เรื่องปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี ยังคงสะท้อนกลิ่นอายถ่ายทอดวัฒนธรรมผ่านมุมมองใสๆ ของกลุ่มเด็กบ้านนอก จากการขุด 'รูปู' เล่นสนุกตามท้องไร่ท้องนา กลับตะลอนสู่ทริป "รูปี" ตะลุยอินเดีย เพื่อทอดผ้าป่ารวมทั้งแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวอีสานให้ต่างชาติได้รับชม แต่เรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะมีอุปสรรคเข้ามาขว้างทำเอาแก๊งค์เด็กอีสานถอดใจแต่ก็ยังไม่ทิ้งลาย

เรื่องนี้เดินทางไปถ่ายทำกันถึงประเทศอินเดีย นำแสดงโดยนักแสดงเด็กทั้งหมด 7 คน เริ่มตั้งแต่นางเอกสุดแก่น น้ำขิง- สุธิดา หงษา, เปเล่ - บุญฤทธิ์ จันทร์แก้ว, ชิต-วิชิต สมดี, โบ๊ต-ปกรณ์ ผ่องศรี, เซฟ-ศศิธร อัปมานะ, พลอย-พิมพ์รพี ดีเมืองปัก และ ภีม-ธงรบ ดีเมืองปัก

จุดเริ่มต้นความป่วนในต่างแดนครั้งนี้เริ่มต้นจาก กลุ่มเด็กๆ ได้พลัดหลงจากคณะเดินทางอย่างไม่คาดคิด อีกอย่างจะสื่อสารกับใครก็ไม่เข้าใจเพราะอยู่ต่างเมืองต่างภาษา แต่โชคชะตาก็พาให้พวกเขาพบกับ เด็กชายชายอินเดียที่ชื่อ 'รูปี' (กุ๊ดดู กุมาร) แม้จะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องแต่มิตรภาพก็ชักใยพวกเขาเข้าด้วยกัน ส่วนบทสรุปเป็นอย่างไร น้ำขิง ฝากไว้ว่าคงไปชมกันต่อที่โรงภาพยนตร์

เด็กหญิงเล่าถึงบทบาทในเรื่อง “ไปอินเดีย ตามบทเป็นเด็กอีสาน หลวงพ่อมีแนวคิดว่าจะไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่อินเดีย ในระหว่างการเดินทาง หนูและกลุ่มเพื่อนๆ ของหนู ปวดฉี่แล้วก็ลงไปฉี่ข้างทางทีนี้ก็มีโจรมาปล้นรถ รถก็เลยออกแล้วทิ้งพวกหนูไว้ที่ข้างทาง พวกหนูก็เลยออกแล้วเดินทางกันแบบสุดจะเหนื่อย สุดจะร้อน”

ทุกห้วงอารมณ์ผสานอย่างกลมกล่อมใน ปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี ไสุขเศร้าเหงาทุกข์แบบฉบับเด็กๆ ครบเครื่องครบรส น้ำขิง บอกว่ารู้สึกดีใจมากที่มาเลือกมาแสดงนำในเรื่องภาพยนตร์เรื่องนี้

เด็กหญิงอีสานในม่านมายา
ว่ากันว่าการทำงานร่วมกับเด็กนั้นเป็นเรื่องยากเลยทีเดียว แต่ดูจะไม่ใช่ความจริงไปเสียทั้งหมด เพราะถ้าเขามีใจรักมีความสามารถก็กลับกลายเป็นว่าการร่วมงานกับเด็กคนหนึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ เลย

น้ำขิง เด็กสาวแดนอีสาน จังหวัดอุบลราชธานี เรียกว่ามีคุณสมบัติเพรียบพร้อมที่จะเข้ามาเป็นดาวดวงน้อยในวงการบันเทิง

เติบโตขึ้นในครอบครัวดนตรี ท่วงทำนองเพลงหมอรำจากรุ่นสืบรุ่นเป็นสิ่งที่คุ้นเคยมาตั้งแต่แบเบาะ น้ำขิง
เป็นหลานสาวของนักร้องหมอลำชาวอีสาน หงษ์ทอง หงษา

“ครอบครัวหนูเป็นหมอรำที่จังหวัดอุบลราชธานี” การันตีเลยว่าเด็กหญิงผู้นี้มีดนตรีอยู่ในหัวใจมาตั้งแต่จำความได้

หรืออย่างถ้าวงมีงานคุณแม่ก็จะพาเธอไปด้วยตลอด น้ำขิง บอกว่าการคลุกคลี่กับวงหมอรำของครอบครัวเป็นพื้นฐานที่ทำให้ร้องเพลงได้เร็วขึ้น

“หนูร้องเพลงได้ตั้งแต่ยังไม่รู้จัก ก ข ค ร้องเพลงได้ก่อนที่จะอ่านหนังสือ เพราะว่ามันจะมีช่วงนึงที่หนูไปกับพี่บ่อยๆ แม่บอกว่าจะได้เคยๆ ดูไว้ เผื่อจะได้เป็นแบบพี่บ้าง พี่หนูเป็นแดนเซอร์ในวง คือดูมาตั้งแต่อ่านยังไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่เราใช้ความจำ”

ถามถึงผู้กำกับที่ชักชวนเข้ามาแสดงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเหมือนใบเบิกทางในสายงานบันเทิง น้ำขิง บอกความในใจว่า ลุงท็อปดุเป็นบางครั้งเวลาดุก็ดุมาก แต่จริงๆ เขาเป็นคนใจดีมากเหมือนกัน เขาเป็นคนใส่ใจรายละเอียด


ขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ต
น้ำขิง ยอมรับด้วยใบหน้ายิ้มๆ ว่าเธอสนิทกับแม่ที่สุดในบ้าน ไปไหนมาไหนก็มีท่านดูแลไม่ห่าง บทสนทนาระหว่างเด็กสาวและทีมงานฯ ทำให้รู้สึกว่าเธอเป็นเด็กที่พูดเก่ง แต่เอาเข้าจริงๆ เจ้าตัวกลับปฏิเสธตัวเองพูดไม่เก่งเลย

“ไม่ๆๆ (หัวเราะ)”

ยิ่งเวลาอยู่บ้านคุณแม่แอบกระซิบว่าออกจะเงียบๆ เสียด้วยซ้ำ แต่ก็คงต้องยอมรับว่าโอกาสที่ทำให้ได้เข้ามาทำงานในจุดนี้ช่วยเพิ่มทักษะการสื่อสารให้เธอได้เป็นอย่างดี

เดิมทีเรียนประถามอยู่ในจังหวัดอุบลฯ แต่พอได้โอกาสเข้ามาทำงานแสดง และเซ็นสัญญากับค่ายโพลีพลัส คุณแม่ก็พาเธอเข้ามาเรียนต่อในแถบกรุงเทพฯ ประมาณช่วง ป.4

ทำงานด้วยเรียนไปด้วยแต่เด็กขนาดนี้ ผลกระทบเรื่องการเรียนมีแน่นอน น้ำขิง เล่าว่าเป็นเพราะได้รับโอกาสจากทางครูอาจารย์ ทางผู้ใหญ่ในวงการ รวมทั้งเพื่อนๆ ที่คอยให้การช่วยเหลือ จึงทำให้เรื่องการเรียนนั้นผ่านมาได้ตลอดรอดฝั่ง

“ครูเขาเข้าใจว่าหนูทำงานด้านนี้ ครูก็บอกไปเลยหาประสบการณ์”

แต่เรื่องงานการบ้านสาวน้อยก็มีความรับผิดชอบ พยายามตามงามส่งอารบ้านอย่างครบถ้วนโดยมีเพื่อนๆ เป็นตัวช่วย

เด็กสาวพูดขึ้นด้วยความมุ่งมั่น “เรื่องเรียนหนูไม่ทิ้ง”

แต่ถึงจะมีงานแสดงให้รับผิดชอบ เธอก็ไม่ทิ้งกิจกรรมโรงเรียนเพราะว่างเมื่อไหร่ก็เข้าร่วมเมื่อนั้น

“ที่นี่ก็เน้นกิจกรรมเหมือนกัน รำบ้าง ร้องเพลงบ้าง ประกวดนู้นนี่ ทำถ้าว่างแต่ถ้าไม่ว่างก็จบ”

อย่างไรก็ตาม น้ำขิง เล่าว่าช่วงถ่ายทำปัญญาเรณูเคยลากิจไปร่วม 3 เดือน ตรงนี้รู้สึกขอบคุณทางโรงเรียนเป็นอย่างมากที่ให้โอกาสให้

พี่ตุ๊กกี้ ไอดอลของหนู
น้ำขิง เปิดใจว่าชื่นชอบ ตุ๊กกี้ - สุดารัตน์ บุตรพรม เป็นอย่างมาก ถึงขนาดยกให้ตลกหญิงผู้นี้เป็นไอดอลเลยทีเดียว

“ชอบพี่ตุ๊กกี้ หนูว่าพี่เค้าตลกดี รูปร่างหน้าตาเขาก็เหมือนหนูคล้ายหนู (ยิ้ม)”

อย่างในเรื่องปัญญาเรณู ภาค 2 ทั้งคู่ก็มีโอกาสร่วมงานกัน น้ำขิง พูดถึงนิสัยของตลกคนดัง “ความจริงพี่เขาไม่ค่อยพูด แต่พี่เขาเป็นคนตลก ชอบพี่เขาในการแสดงพี่เขากล้าแสดงออก เคยแสดงด้วยกันในปัญญาเรณู 2 พี่เขาเก่ง บางวันนอนไม่ถึงชั่วโมงพี่เขาก็ไปทำงาน ภูไปไมได้มิใจพี่เขามาก”

ทีมงานฯ ย้อนถามทันทีแล้วหนูเป็นคนตลกหรือเปล่า น้ำขิง ตอบขึ้นทันควัน “ไม่ตลก เล่นมุกก็แป๊กตลอด”

น้ำขิง บอกว่าถ้าโตขึ้นก็อยากเป็นอย่าง ตุ๊กกี้ ถึงเขาไม่ใช่คนสวยแต่เป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนเก่ง

ถึงจะยังเป็นเด็ก แต่น้ำขิงก็มีเป้าหมายในชีวิต เธอเล่าขึ้นด้วยความไร้เดียวสา “หนูเคยคิดว่าหนูอยากสวย แต่มันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าหนูสวยแล้วหนูจะมีงานมั้ย ถ้าหนูไม่สวยก็มีคนจำหนูได้เพราะมันเป็นคาแร็กเตอร์”

แล้วอย่างนี้จะตัดสินอนาคตอย่างไร เปลี่ยนตัวเองเป็นสาวสวยดั่งที่ฝันไว้เลยดีไหม น้ำขิง ตอบตามประสาเด็กแก่นๆ “เป็นอย่างนี้แหละ ขี้เหร่(ยิ้ม)”
…..................................
 


 ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : สุธิดา หงษา ชื่อเล่น : น้ำขิง
วันเกิด : 25 พฤษภาคม 2544 อายุ : 12 ปี
น้ำหนัก : 50 กก. ส่วนสูง  : 142 ซม.
การศึกษา : กำลังศึกษาที่ โรงเรียนนครนนท์วิทยา 5 ทานสัมฤทธิ์
ผลงาน : ละคร - เรื่องชิงนาง, รักออกอากาศ ภาพยนตร์ - เรื่องปัญญา เรณู 1, ปัญญา เรณู 2, ปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี, หนังสั้น เรื่อง Q-Man ฮีโร่ไทยหัวใจเกษตร

 
















กำลังโหลดความคิดเห็น