xs
xsm
sm
md
lg

'เบลล่า - ราณี' นางเอกอลวนพรพรหมอลเวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เล่นเอาโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะราวถูกสะกดด้วยยิ้มหวานๆ ขยี้หัวใจของ 'เบลล่า - ราณี แคมเปน' นางเอกสาวที่น่ารักน่าหยิกที่สุด ณ เวลานี้ จากละครชวนฝันเรื่อง พรพรหมอลเวง (ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3)

ในละครฯ 'เบลล่า' รับบทเป็น 'ตันหยง' สาวสวยทันสมัย วัย 25 ปี ผู้ถูกโชคชะตาแผลงฤทธิ์ลิขิตให้มาอยู่ในร่างเด็กหญิงตัวน้อย 'น้องเมย์' ทว่า! เรื่องราวสุดป่วนกลับไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในม่านมายา เพราะทุกก้าวย่างของสาวลูกครึ่ง ไทย-อังกฤษ ผู้นี้กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวอลวนอลเวงที่ยากจะคาดเดา

เป็นต้นว่า.. จากอดีต นางร้ายกลับตัว ดันจับพลัดจับผลูเป็น นางเอกเนื้อหอม เสียอย่างนั้น!?

ดูท่าดอกไม้แรกแย้มจะหมองไปถนัดตา เมื่อเจ้าของใบหน้าพริ้มเพราค่อยๆ เผยยิ้มกว้าง..

น้องเมย์-ตันหยง จาก พรพรหมอลเวง
เรียกว่าบท ตันหยง แห่งละครเรื่อง พรพรหมอลเวง แจ้งเกิดนางเอกสาว เบลล่า แบบดังเป็นพลุแตก! เรื่องราวความอลวนของสาวสวยที่จำต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในร่าง น้องเมย์ (อันดา - กุณฑีรา ยอดช่าง) เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ โดยมี หมอวี(บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) หมอศัลยกรรมประสาทน้าชายเป็นผู้ดูแล

เบลล่า ขึ้นแท่นนางเอกเรื่องแรก เพราะก่อนหน้าก็เคยชิมลางงานละครหลังข่าวในเรื่อง รอยมาร เป็นบทนางร้ายกลับใจกลายๆ หลังจากนั้นก็มีละครเย็นเรื่อง ตะวันยอดรัก ตามมาติดๆ ซึ่งก็ยังเป็นคู่รองอีกตามเคย

ประกอบกับที่ช่วงนั้นยังเรียนอยู่ ปี 4 คณะวารสารศาสตร์ฯ ม.ธรรมศาสตร์ ปีสุดท้ายที่เรียนค่อนข้างหนัก ก็เลยทำให้เว้นวรรคงานละครไว้ระยะหนึ่ง

หลังเป็นบัณฑิตใหม่ป้ายแดง จากรั้ว มธ. ดูท่าโชคชะตาจะเล่นตลกเข้าแล้ว เบลล่า จับพลัดจับผลูถูกเลือกให้เป็นนางเอกในละครหลังข่าว ประเดิมด้วย เรื่อง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร ตามติดๆ ด้วยเรื่อง พรพรหมอลเวง

“ตื่นเต้นมากค่ะ จริงๆ เรื่องแรกที่เล่นเป็นนางเอกคือ คุณชายพุฒิภัทร (ออนแอร์ กลางปี 56) จากนั้นก็มีละคร พรพรหมอลเวง ติดต่อมา ได้เป็นนางเอกนะ ดีใจมาก ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสขนาดนี้”

แต่เรื่องนี้ใช่ว่าจะมีนางเอกเพียงคนเดียว เพราะสาวน้อย อย่าง น้องอันดา หรือ น้องเมย์ ที่เข้ามาร่วมชะตากรรมใน พรพรหมอลเวง ครั้งนี้ก็มาแรงไม่แพ้กัน

เบลล่า เล่าขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า ไม่รู้สึกเป็นกังวลแม้แต่น้อยว่านางเอกรุ่นเล็กจะมาแย่งซีน น้องอันดาเป็นเด็กน่ารัก ฉลาด ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลย

น้องอันดาเป็นเด็กฉลาดมาก พูดนิดเดียวทำได้เลย ทำเอาผู้ใหญ่ในกองกดดันไปด้วยเลย(หัวเราะ)"

ถ้าวันหนึ่งผู้ใหญ่จะหยิบยื่นบทรอง หรือบทนางร้าย มาให้เล่น เบลล่า เปิดใจว่ายินดีกับทุกบทบาท เพราะทางผู้ใหญ่ก็พิจารณาถึงความเหมาะสมแล้ว

เจ้าของตากลมโต เผยความนัยขึ้นว่า การเล่นละครยิ่งได้รับบทแสดงนำ นั้นหมายถึงเราต้องพัฒนาทักษะตัวเองมากขึ้น ต้องเปิดรับฟังคำแนะนำติชม อะไรที่ยังไม่ดีก็ปรับแก้กันต่อไป

อย่างไรก็ตาม พรพรหมอลเวง ก็เป็นละครรีเมกที่ถูกนำมาดัดแปลงอีกครั้ง แต่เวอร์ชันนี้จะต่างออกไป มีการปรับรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัย

"เรื่องการเปรียบเทียบคงมีอยู่แล้ว ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะเป็นเรื่องราวของยุคนี้ มีการเพิ่มตัวละคร ปรับบทให้ทันสมัย ตันหยงจะเป็นผู้หญิงสดใสร่าเริง เชื่อมั่นในความรัก การที่วิญญาณตัวเองไปอยู่ในร่างเด็กมันก็จะมีอารมณ์อึดอัด ตรงนี้ต้องแสดงออกมาให้ได้"

วัดใจ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ย้อนกลับไปช่วงมัธยมปลาย ความน่ารักสะดุดตาของ เบลล่า เป็นเหตุให้โมเดอลิ่งเข้ามาทาบทามไปถ่ายแบบถ่ายโฆษณา แต่ในตอนนั้นเธอปฏิเสธไป เพราะคุณพ่อคุณแม่รู้สึกเป็นห่วงยังไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียวเข้ามาทำงานในสายบันเทิง อยากให้ตั้งใจเรียนอย่างเดียวมากกว่า

เบลล่า เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่เข้ามาเริ่มงานในวงการบันเทิงว่า หลังจากสอบติด วารสารฯ มธ. ช่วงปี 1 ก็ทำกิจกรรมเยอะมาก แต่เรื่องการเรียนก็ไม่ได้ทิ้ง ทำควบคู่กันไปอย่างไม่เสีย “เค้าเห็นว่าเราจัดการตัวเองได้แล้ว ทำกิจกรรมไปด้วยซึ่งค่อนข้างหนักเหมือนกัน เค้าก็เลยไว้ใจได้ ก็ลองดู”

เริ่มต้นจากงานโฆษณา ประมาณ 10 ตัว หลังจากนั้นโชคชะตาก็ทำให้พานพบกับ ผู้ช่วยของ เอ - ศุภชัย ศรีวิจิตร แน่นอนออร่าของเบลล่าเข้าตาแมวมองมือฉมังอย่างจัง สเต็ปต่อมาก็เข้ามาแคสต์กับทางช่อง 3 และได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด

ยิ้มมุมปากที่ปรากฏชัด ค่อยๆ ปรับอิริยาบถ “ได้เงินมาครั้งแรกก็เป็นเงินก้อนนึง แล้วมันอยู่ในช่วงที่กำลังจะต้องจ่ายค่าเทอมพอดี ก็บอกคุณแม่เดี๋ยวจ่ายค่าเทอมเอง”

เบลล่า เล่าต่อว่า เงินที่ได้จากงานในครั้งนั้นตั้งใจจะให้คุณแม่อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าท่านสอนให้รู้จักเก็บออมเอง “คือตอนแรกตั้งใจจะให้เงินก้อนนี้ให้คุณแม่ แต่ท่านบอกไม่เอาเราหามาได้เองเราก็ต้องเก็บเอง เราก็เลยแบบจ่ายค่าเทอมเองแล้วกัน เป็นของขวัญให้คุณพ่อคุณแม่(ยิ้ม)”

ทีมงานหยอกถามว่า เบลล่า คิดว่าตัวเองสวยหรือเปล่า เจ้าตัวตอบแบบเขินๆ “ไม่ได้มองว่าหน้าตาดี ก็พอได้ อย่างน้อยก็ไปแคสต์โฆษณาก็ยังมีงานค่ะ (หัวเราะ) ไม่ได้คิดถึงขั้นว่าจะมาเป็นนักแสดงหรือว่าทำอาชีพนี้เต็มตัว”

ทางสายมายาของเบลล่ายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แน่นอน มันเป็นอาชีพที่ทำแล้วรู้สึกมีความสุข มีความท้าทายอยู่ในเนื้องาน เธอกระซิบว่า ตอนนี้โอกาสหยิบยื่นเข้ามาก็รับไว้แล้วทำอย่างดีที่สุด

เบลล่า เล่าว่า พอได้มาสัมผัสงานละครแล้วรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยากกว่าที่คิดไว้ การเล่นละครเหมือนงานศิลปะ เราไม่ต้องไปเอาชนะใคร แค่ต้องชนะใจตัวเอง แสดงความรู้สึกของตัวละครออกมาให้ได้

ว่าที่คุณหญิง ของคุณชายพุฒิภัทร
ปี 2556 ถือเป็นปีทองของสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ก็คงจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากความจริงนัก เพราะเร็วๆ นี้ แฟนละครก็จะได้รับชมละครพีเรียดโปรเจกต์ยักษ์ของ ช่อง 3 ซีรี่ส์เรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร ที่นางเอกคนสวย เบลล่า ประกบคู่กับพระเอกใหม่ เจมส์ - จิรายุ ตั้งศรีสุข

ในเรื่องนี้รับบทเป็น กรองแก้ว หญิงสามัญครอบครัวยากจนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาพ่อจากโรคร้าย และการตัดสินใจเข้าประกวดนางงามศรีสยาม ก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ

เบลล่า เล่าว่าเรื่องนี้ใช้เวลานานมากว่าจะได้รับเลือกเป็นนางเอก “นานเกือบปีเลยค่ะ กว่าจะสรุปว่าเป็นใครเล่น ไม่ได้คิดว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่ว่าทำเต็มที่เพราะว่าเค้าเรียกนักแสดงมาแคสต์เยอะมาก แต่เราอ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกถูกชะตายังไงก็ไม่รู้(หัวเราะ) ทำให้เล่นแล้วรู้สึกโอเค”

เรียกว่าเป็นโปรเจกต์ที่แฟนละครนับวันรอกันเลยทีเดียว เบลล่า เผยความรู้สึก “ความคาดหวังไม่ได้คาดหวัง กดดันมั้ย..มีนิดนึง เพราะว่าเหมือนมันเป็น 5 เรื่อง ต้องเล่นให้ดี จะประคองไปด้วยกันหรือว่าจะลงเหวไปด้วยกัน(หัวเราะ) เพราะว่า 5 เรื่องมันก็ลิงก์กันไปหมดไงคะ ไปโผล่ในเรื่องอื่นด้วย ด้วยความที่คนเยอะขนาดนี้เราต้องจับคาแร็กเตอร์ตัวเองให้อยู่”

ในส่วนของการเตรียมตัวก็พิถีพิถันแน่นอน “เตรียมเยอะกว่า ไปเวิร์คชอป กิริยามารยาท ท่าทาง การพูด คนยุคนั้นบุคคลิกประมาณไหน”

ก็ไม่รู้บุคลิกของตัวละครจะติดมาใช้ในชีวิตจริงบ้างหรือเปล่า เบลล่า พูดขึ้น “ไม่ค่อยนะ แต่ในตัวหนูเองจะมีสเต็ปของความช้าอยู่แล้วด้วย(หัวเราะ)”

อย่างไรก็ตาม ภายใต้การกำกับของ ป้าแจ๋ว - ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์ ผู้กำกับฝีมือดี ละครเรื่อง คุณชายพุฒิภัทร คงเป็นอีกเรื่องที่ห้ามพลาด

“ป้าแจ๋ว ละเอียดมากทั้งเรื่องภาพเรื่องอะไร และยิ่งเป็นพีเรียดด้วย ก็จะมีความละมุนละไมของยุคนั้น ทั้งเรื่องแอกติ้ง เรื่องพร็อป เรื่องภาพ”

สมมุติคุณชายท่านนี้หลุดมาจากจอแก้วจะรับไว้พิจารณาหรือเปล่า เบลล่า ยิ้มๆ ก่อนตอบขึ้น “คุณชายนี่เป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์มาก อย่าง กรองแก้ว เตอนแรกหมือนต่อต้านคุณชาย เพราะต่างชนชั้นกันสูงเกิน เพราะคุณชายเพอร์เฟกต์ทุกอย่าง เป็นชีวิตจริงก็คงพิจารณาคะ(หัวเราะ)"

บ้านหลังน้อยในรั้วแม่โดม
เบลล่า เคยมีความฝันเล็กๆ ถึงอาชีพแอร์โฮสเตรส แต่ในเส้นทางแห่งความเป็นจริงเธอกลับเลือกเริ่มต้นด้วยสาขาวิชาด้านสื่อสารมวลชน

หญิงสาว เล่าถึงเหตุที่ทำให้เลือกศึกษาใน คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน สาขาวิทยุโทรทัศน์ ม.ธรรมศาสตร์

“มองว่าเป็นคณะที่เหมือนไม่ได้เรียนผ่านตัวหนังสืออย่างเดียว มีแบบภาคปฏิบัติค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราไม่ชอบนั่งเรียนในห้องเรียนอย่างเดียวไงคะ อันนี้จะมีทั้งแบบเรียนโปรดักส์ชัน จัดรายการ สตูดิโอ เรียนห้องอัด มันหลากหลาย มันทำให้เราสนใจ รู้สึกว่าสนใจเรียนแล้วได้ความรู้ประสบการณ์เยอะดี” บวกกับเป็นเด็กกิจกรรมด้วยก็ยิ่งรู้สึกสนุกเข้าไปใหญ่

อย่างตอนเด็กๆ เบลล่า มีส่วนร่วมกับกิจกรรมโรงเรียนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะรำไทย ร่วมประกวดการคัดลายมือ การแข่งขันความรู้ภาษาอังกฤษ,วิทยาศาสตร์ เชียร์ลีดเดอร์ ดรัมเมเยอร์ ไล่มาจนถึงมหาลัยฯ ก็เป็น เชียร์ลีดเดอร์ คณะฯ เป็นทูตกิจกรรม

แต่การที่เข้าร่วมกิจกรรมเยอะๆ ทางบ้านก็รู้สึกเป็นห่วงว่าจะเสียการเรียนอยู่เหมือนกัน เพราะครอบครัว แคมเปน ให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาเป็นพิเศษ เบลล่า กล่าวถึงคำแนะนำของทางบ้าน “คือเค้าก็ไม่ได้ห้าม แต่ว่าอย่าโดดเรียนไปทำแล้วกัน”

รั้วแม่โดมไม่เพียงให้วิชาความรู้ เบลล่า บอกว่าที่นี่ได้มอบประสบการณ์ มิตรภาพ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง

เบลล่า เผยว่า อนาคตหากจัดการเรื่องตารางเวลาได้ลงตัวก็จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ด้านบริหารสื่อสารมวลชน ในสถาบันเดิม “เรียนเก็บความรู้เอาไว้ เผื่อว่าโตไปเราจะได้ต่อยอดความรู้ที่เรามีในปริญญาตรี เพื่อไปทำอย่างอื่นได้ อย่างเช่น เบื้องหลังในวงการ หรือว่าไปเป็นอ.พิเศษในมหาลัยฯ ตอนอายุมากๆ (ยิ้ม)”

แม้ในการทำงานจริงจะไม่เหมือนการเรียนเสียทีเดียว แต่พื้นฐานความรู้ประสบการณ์จากการเรียนรูก็สามารถนำมาปรับใช้ในสายงานได้จริง

ลูกคนเดียวที่ไม่มีใครตามใจ
คุณพ่อเป็นชาวอังกฤษ ส่วนคุณแม่เป็นหญิงไทย เบลล่า เล่าว่า คุณพ่อจะสื่อสารภาษาอังกฤษกับเธอและคุณแม่ตลอด แน่นอนทักษะภาษาอังกฤษของลูกครึ่งเมืองผู้เมืองดีไม่ธรรมดาจริงๆ

อย่าสมัยเรียนในวิชาภาษาอังกฤษ เบลล่า ก็คว้า เกรด 4 มาครอบครองตลอด “ภาษาอังกฤษต้องได้ 4 แล้วละคะ เป็นลูกครึ่งอังกฤษ(หัวเราะ) ก็เป็นหน้าที่เลยคะเพราะว่าไม่ได้นี่อายเค้า คือไม่ใช่ว่าต้องได้ 4 อย่างเดียว แต่คะแนนต้องดีด้วย”

ทางบ้านให้ความสำคัญเรื่องเรียน “ให้ความสำคัญแต่ไม่ได้เคี่ยวเข็ญว่าจะต้องอ่านหนังสือหรืออะไร เหมือนว่าต้องดูแลตัวเองค่ะ”

คะแนนภาษาอังกฤษนำโด่งขนาดนี้ แน่นอนว่าเธอคงเป็นที่พึ่งของเพื่อนๆ ไม่น้อยเลยละ ทีมงานถามว่ามีการลอกการบ้านเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า อุ๊ย!(หัวเราะ) ก็มีบ้างแต่ไม่ได้ให้ลอกเปล่าแต่ก็อธิบายให้เพื่อนฟังว่ามันเป็นอย่างนี้นะ ถึงเวลามีงานก็ช่วยกันไป เหมือนเราได้ทบทวนอีกรอบนึง”

เบลล่า เป็นลูกสาวคนเดียวของ ครอบครัวแคมเปน สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พร่ำสอนอยู่ตลอดก็หลีกไม่พ้นเรื่องการดูแลตัวเอง ท่านจะเน้นเรื่องการเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตัวเอง “เราเป็นลูกคนเดียว เราต้องดูแลตัวเองให้ได้ ถ้าพ่อแม่เกิดเป็นอะไรไปขึ้นมาเราต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง”

เป็นลูกคนเดียวแต่ใช่ว่าจะถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ ทางบ้านจะสอนด้วยเหตุผล หรืออยากได้อะไรถ้าไม่ใช่ของจำเป็นท่านจะสอนให้รู้จักออมเงินซื้อเอง

ถึงคุณพ่อจะเป็นคนอังกฤษแต่ในเรื่องทัศนคติ คล้ายๆ คนไทยออกจะหัวโบราณด้วย โดยเฉพาะในเรื่องระเบียบวินัยจะเข้มงวดมาก แน่นอนลูกสาวสวยขนาดนี้คุณพ่อก็ย่อมหวงเป็นธรรมดา

ถามว่าทำไมคุณพ่อไม่สื่อสารภาษาไทย เบลล่า ตอบขึ้น “เขามองว่าหนูอยู่เมืองไทย ยังไงก็ต้องได้ภาษาไทยแน่ๆ เลยอัดภาษาอังกฤษเข้ามาก่อน"

คุณพ่อเป็นผู้ชายใจดี เด็ดเดี่ยว ลุยถึงไหนถึงกัน เบลล่า เล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เปรยว่า ตัวเองรับนิสัยนี้มาจากคุณพ่อเต็มๆ

ส่วนคุณแม่กับเบลล่านั้นสนิทกันมาก คุณแม่เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งพี่ คอยให้คำปรึกษาพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ท่านให้อิสระกับทุกเรื่อง สอนให้เราเป็นคนที่ไม่ยึดติดกับอะไร ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ

รักสัตว์จนเป็นเรื่อง
เบลล่า รับเลี้ยงเจ้าเหมียวอยู่หนึ่งตัว เมื่อทราบที่มาที่ไปไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเป็นแมวที่ถูกเก็บมาเลี้ยงเมื่อครั้งเธออยู่ ป.4

อดีตลูกแมวไร้เจ้าของที่เธอและเพื่อนๆ อุ้มกลับมาเลี้ยงดูที่บ้านคนละตัว เบลล่า เล่าว่า เจ้าเหมียวตัวนี้เก็บมาจากหลังห้องเรียน แล้วเย็นวันนั้นก็เอากลับมาที่บ้านเลย ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ปล่อยเลยตามเลย ไหนๆ ก็เอามาแล้วก็เลยเลี้ยงดูมาจวบจนปัจจุบัน เจ้าเหมียวตัวนี้ก็ยังคลอเคลียเจ้าของไม่ห่างกาย

นอกจากแมว เบลล่า ยังมีสัตว์เลี้ยงอีกหลายอย่างเลยละ “กระต่าย หนูแฮมเตอร์ หนูแกสปี้ ปลา นก ที่บ้านมีเยอะมาก มีช่วงนึงที่บ้าสัตว์เลี้ยงกัน(ยิ้ม)”

คุณพ่อกับเบลล่าจะชอบสัตว์มาก ส่วนคุณแม่มีหน้าที่ช่วยเลี้ยงไปโดยปริยาย “ปกติคือมีโซนให้พวกเขา แต่ว่าแมวตัวเนี้ยนอนด้วยกัน นอนกับหนูบ้าง นอนกับแม่บ้าง แต่ไม่ได้นอนทั้งคืน เดี๋ยวก็ออกไปข้างนอกแล้ว”

เลี้ยงมาเยอะ การสูญเสียก็เยอะ เบลล่า ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจกับการตายของพวกมัน แต่ก็ยังมีความสุขที่ได้เลี้ยงและพยายามจะเลี้ยงมันให้ดี

“ยังพยายามไปเรื่อยๆ เคยเลี้ยงกระต่ายแล้วคลอดลูกมา 5-6 ตัว คือที่จริงกระต่ายคลอดลูกปุ๊บเราต้องจับแยกทันทีไงคะ แต่ทีนี้มันคลอดกลางคืน ตื่นเช้ามาแม่กระต่ายเหยียบลูกตายหมดเลย ตอนแรกก็แบบช๊อกมาก สงสารมัน แต่ก็ไม่เป็นไร ก็เลี้ยงต่อไป”

ก็ไม่รู้เพราะความที่เป็นลุกคนเดียวหรือเปล่า เลยทำให้เธอผู้นี้มีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน เบลล่า เล่าถึงบรรดาสัตว์เลี้ยงของเธอ “ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะ เหมือนทำให้เราอ่อนโยนขึ้น เหมือนเราต้องทะนุถนอนสัตว์ตัวนี้ เหมือนสร้างหน้าที่ความรับผิดชอบของเราด้วย เราเก็บมันมาเลี้ยง ก็ต้องดูแลมันให้ดีด้วย”

พื้นที่ส่วนตัวที่ไม่หวงห้าม
ครอบครัวของ เบลล่า ปลูกฝังค่านิยมในเรื่องรักการอ่านมาตั้งแต่เด็กๆ อย่างตอนเป็นเด็กเล็กเลย คุณพ่อคุณแม่ก็คอยอ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน จนโตประมาณหนึ่งก็เริ่มอ่านเอง “หลังๆ มาอ่านเอง ชอบอ่าน”

นัยน์ตาเปล่งประกายกำลังย้อนกลับไปในโลกวัยเด็ก สาวหน้าหวาน เล่าถึงบรรยากาศในโลกหนังสือเมื่อครั้งก่อน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่มักซื้อหาเอามาให้ลูกสาวอยู่เป็นประจำ

“ชอบอ่านเรื่อยๆ อ่านในห้องนอน เหมือนสร้างบรรยากาศเพื่อการอ่าน ห้องสีฟ้าๆ สบายตา ชอบอ่านหนังสือก่อนนอน อยู่ในแอร์ อยู่ในผ้าห่ม อ่านหนังสือ เล่มเล็กๆ เล่มนึง”

เบลล่า บอกว่าตั้งแต่เด็กๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่มักจะให้หนังสือเป็นของขวัญมากกว่า ส่วนถ้าเป็นของเล่นก็จะเป็นแนวแนวเสริมสร้างพัฒนาการ

“ถ้าเป็นตอนเด็กๆ จะเป็นหนังสือภาษาอังกฤษน่าจะล้วนเลยนะคะ เพราะว่าเหมือนเค้าทำหนังสือประเภทสำหรับเด็กค่อนข้างดี มีภาพ มีเรื่อง เรื่องมันจะสอนอะไรในตัว มีหนังสือเซ็ตนึงคะ ชื่อ Little Miss.. มีหลายๆ ตัว หลายๆ Little Miss ซึ่งนิสัยแตกต่างกัน แล้วก็คือจะสอนว่านิสัยส่วนตัวของเค้าอย่างนี้สรุปแล้วจะทำให้เกิดอะไรในตอนท้าย”

แนวสืบสวนสอบสวนเป็นแนวโปรด “มันตื่นเต้นดี มันเดาไม่ค่อยออก” เบลล่า อธิบายขึ้นสั้นๆ

ทีมงานถามถึงเล่มที่ชอบ เบลล่า ถึงกลับคิดหนักเพราะว่าหนังสือที่ชอบนั้นเยอะเสียเหลือเกิน

“ฮืม..ชอบเยอะเลย(ทำท่าคิด) เป็นเรื่องคุณแม่สืบสะเด็ดแล้วกันค่ะ เป็นหนังสือแปลเหมือนกันเป็นนักสืบประเภทที่เป็นแม่คน ท้อง เค้าเคยทำงานเป็นนักสืบมาก่อนแล้วเลิกมามีครอบครัว มีลูก เหมือนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เค้ากลับมาสืบคดีอีกครั้ง แล้วเรื่องมันน่าตื่นเต้นตรงที่เดาไม่ออกเลยว่าใครเป็นคนทำ จะเกิดเหตุการณ์อะไร มันลุ้นตลอดเลยค่ะ เป็นหนังสือน่าสนุกพอ่านแล้วสนุกวาเดิมอีก เหมือนเป็นเรื่องจริงมาเขียนกลายๆ”

นอกจากการอ่านหนังสือ เบลล่า บอกว่า ยังชอบดูซีรี่ส์เป็นชีวิตจิตใจ นอกจากได้ความบันเทิงยังได้เรียนรู้ในเรื่องงานแสดงด้วย

“เป็นคนชอบดูซีรี่ส์อยู่แล้ว ยิ่งช่วงซีรี่ส์เกาหลีฮิตๆ ก็จะเหมือนดูค่อยยข้างเยอะ ทีนี้เหมือนเรามาเริ่มงานแสดงแล้ว ก็เลยคิดว่าถ้ามานั่งดูเจาะจงดูแอกติ้งมันก็น่าจะช่วยในเรื่องงานของเรา ชอบดู desperate housewives เป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่บ้านในหมู่บ้านนึงที่ประสบเหตุการณ์เค้าจะช่วยแก้ปัญหา เนี่ยก็จะเห็นคาแรกเตอร์ของผู้หญิงค่อนข้างเยอะ

“แล้วก็ซีรีย์เกาหลี เรื่อง ทงอี จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงสู้ชีวิต เค้าจะแสดงยังไงถึงเม้ว่าชีวิตจะรันทดสู้ชีวิตแต่เค้ายังมีความน่ารักอยู่ในตัว และก็มีมรดกรักฉบับพันธ์ล้าน นางเอกจากบ้านเคยรวยล้มละลายมาขายของข้างทาง อันนี้ก็มีความรัดทดแต่เค้าเล่นออกมาได้น่ารักมาก นางเอกคนเดียวกับทงอี ชอบการแสดงของเค้าเป็นพิเศษ ชอบดูด้วยก็เลยแอบศึกษาแอกติ้งไปด้วย”

มันทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจ เป็นแรงผลักในการทำงาน ดูซีรี่ส์ของต่างประเทศแล้วรู้สึกสนุกก็อยากให้ทุกคนมาสนุกกับละครไทยเหมือนกัน

พิราทีส ฟิตแอนด์เฟิร์ม
ผู้หญิงสมัยนี้จะมั่วแต่สวยอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะเรื่องสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ซึ่งศาสตร์ของ พิราทีส ก็เป็นการออกกำลังที่ เบลล่า เลือกมาดูแลสุขภาพของตัวเอง

เธอเล่าว่าเป็นการแนะนำจาก ผู้จัดละครชื่อดัง จ๋า-ยศสินี นับถึงวันนี้ก็เป็นเวลาประมาณ 1 ปี แล้วที่เล่น พิราทีส ส่วนประโยชน์ของมันแน่นอนว่าช่วยในเรื่องรูปร่างให้เฟิร์มขึ้น จากไขมันส่วนเกินที่ยวยย้อยก็กระชับขึ้น ช่วยในเรื่องกล้ามเนื้อมัดใน ส่วนความถี่ในการเล่นพิราทีสของเธอก็ประมาณอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

พิราทีส นั้นจะมีเป็นคอร์ส คอร์สเริ่มตั้งแต่เดือนเดียว ถึงประมาณ 1-2 ปีก็มี ตามคำแนะนำของเทรนเนอร์จะให้เล่นประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

นอกจากหุ่นเฟิร์มพิราทีสยังช่วยในเรื่องของสุขภาพจิต สร้างสมาธิด้วย “พิราทีส คล้ายๆ โยคะ ตรงที่ต้องฝึกการหายใจ เวลาหายใจต้องค่อนข้างนิ่งนิดนึง เหมือนอยู่กับลมหายใจของตัวเอง ทำให้เล่นแล้วเราเหมือนโฟกัสไปที่จุดใดจุดนึง”

แต่ก่อนหน้านี้ เบลล่า ก็เป็นนักวิ่งแข้งทองเหมือนกัน ยิ่งในช่วงที่เป็นลีดเดอร์ ต้องฝึกเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายอยู่ตลอด แต่ตอนนี้งานรัดตัวทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสออกไปจ็อกกิ้งเท่าไหร่ก็อาจวิ่งในฟิตเนสแทนบ้าง

เบลล่า เผยความลับว่าครั้งหนึ่งเธอก็เข้าข่ายน้ำหนักเกินมาตรฐาน “ก่อนเข้าวงการก็ยังอ้วนอยู่คะ น้ำหนักตอนนั้น 53 ก.ก. ค่ะ”

ส่วนเคล็บลับลดน้ำหนัก เบลล่า บอกว่าง่ายๆ เลยแค่มีวินัย “ควบคุมอาหาร กินแป้งให้น้อยลง แต่ว่าไม่งดเดี๋ยวโยโย่ แล้วก็พยายามทำอะไรที่ใช้พลังงาน”

แมงมุมขยุมหลังคา เบลล่าขยุ่มหัวใจ
ในละครเจอแต่ขายหนุ่มแสนดี ก็เลยอดถามถึงหนุ่มในฝันของเธอเสียไม่ได้ เบลล่า เจือยิ้มบางๆ ก่อนพูดขึ้น “ถ้าเป็นลักษณะผู้ชายเนี้ยบๆ อย่างเราไม่ใช่คนเนี้ยบ เราไม่ได้แสวงหาความเฟอร์เฟกต์ เพราะว่าเราก็ไม่ได้เฟอร์เฟกต์ ก็ไม่ได้ใฝ่ฝันถึงผู้ชายแบบนั้น”

ในเรื่องหน้าตาเป็นเรื่องรองลงมาอยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือเรื่องนิสัยมากกว่า “อันดับแรกต้องอยู่ด้วยแล้วรู้สึกมีความสุข สบายใจ เขาก็ต้องเข้าใจเรา เข้าใจงานเรา ใจกว้าง ค่อนข้างมีอิสระให้กันและกัน เข้ากับครอบครัวกับเพื่อนๆ เราได้”

“ความรักคือความสุข” เบลล่า จำกัดนิยามความรักสั้นๆ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่หาคำมาอธิบายได้ไม่หมด

ถามว่าความรักเคยทำร้ายจิตใจหรือเปล่า เบลล่า ตอบขึ้น “ก็มีนะคะ แต่ว่าไม่ได้หนักหน่วงเท่าไหร่ ก็มีที่เราเสียใจแต่มันไม่ได้มากระทบชีวิตประจำวันหรืออะไรเรามากมาย”

เบลล่า ให้ความสำคัญกับความรักประมาณหนึ่ง เพราะการมีครอบครัวที่ดีต้องเกิดจากการมีความรักที่ลงตัว เธอเองก็อยากมีครอบครัวที่ดี เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้นเอง

ณ วันนี้นางเอกสาว เปิดใจว่าให้ความสำคัญกับเรื่องงานเป็นหลัก “เป็นเรื่องงาน เพราะว่าเรียนจบแล้วและก็มาทำงานเต็มตัว(ยิ้ม)”
…...............................................

ภาพโดย : วชิร สายจำปา
ขอบคุณภาพประกอบ : instagram @bellacampen 
Facebook fanpage : bellaraneecampen
ข่าวโดย : ASTV ผู้จัดการ LITE

ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล : ราณี แคมเปน ชื่อเล่น : เบลล่า
วันเดือนปีเกิด : 24 ธันวาคม 2532
น้ำหนัก-ส่วนสูง : 47 ก.ก. / 166 ซม.
การศึกษา : มัธยม - โรงเรียนสารวิทยา, ปริญญาตรี - คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน สาขาวิชาวิทยุและโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงาน : โฆษณา - โอวัลติน, เปปทีน, เชฟโรเลต, แอคทีเวีย, บางกอกแอร์เวย์, คิวท์เพรส ฯลฯ
ภาพยนตร์ - เรื่องมึงกูเพื่อนกันจนวันตาย, Fatherland พรมแดนแห่งรัก
ละคร - เรื่องรอยมาร, ตะวันยอดรัก, พรพรหมอลเวง, ละครซีรีส์ชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร













น้องอันดา กับ พี่เบลล่า
นางสาวศรีสยาม จากคุณชายพุฒิภัทร



ด.ญ. เบลล่า
ลูกสาวคนเดียว ของครอบครัวแคมเปน







กำลังโหลดความคิดเห็น