อีกหนึ่งนางเอกหน้าใหม่ เด็กปั้นช่อง 3 ที่ขึ้นแท่นนางเอกแถวหน้าของเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย 'คิมมี่ - คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ' ย้อนดูรอบปีไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีผลงานละครต่อเนื่อง ให้แฟนๆ ได้ชมกันตาเปียกตาแฉะ
นาทีนี้ยิ่งการันตีความแรงของเธอเพราะทางช่อง 3 เสิร์ฟร้อนละครเรื่อง แรงปรารถนา ที่มีนางเอกสาวประกบคู่กับพระเอกดัง 'ณเดชน์ คูกิมิยะ' แทนละครเรื่อง เหนือเมฆ ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์ ที่ทางช่อง3 แบนแบบตีมึน!!!
อดสงสัยไม่ได้ว่าช่อง 3 ต้องการกลบประเด็น 'การแบนเหนือเมฆ' โดยแทนที่ด้วยละครรสเด็ดดวงกระชากเรตติ้ง พ่วงความฮอตแบบสุดกู่ของคู่พระนางอย่าง 'คิมเบอร์ลี่-ณเดชน์' ในละครเรื่อง แรงปรารถนา (ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทุกวันศุกร์ - วันอาทิตย์ เวลา 20.30 น)
กระแสแรงแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว ทีมงาน M-lite ขอเชิญท่านผู้อ่านบุก ตึกมาลีนนท์(ที่ทำการช่อง 3) ร่วมเปิดใจนางเอกสาว คิมเบอร์ลี่ หรือ คุณหนูกระแต จากเรื่อง แรงปรารถนา กันเลย ..
เพราะ 'แรงปรารถนา' ของช่อง 3
ถ้าจะบอกว่า 'คิมเบอร์ลี่..มีวันนี้เพราะช่อง 3 ให้' คงเป็นความจริงที่ไม่ผิดเพี้ยน หลายปีก่อนเธอแจ้งเกิดจากโปรเจกต์ยักษ์ฉลอง 40 ปี ช่อง 3 กับ ซีรีส์ 4 หัวใจแห่งขุนเขา ตอน ธาราหิมาลัย ตามติดผลงานต่อเนื่อง จนเรื่องล่าสุด แรงปรารถนา ที่มาเสียบแทนละครเหนือเมฆหลังยุติการฉายเพราะเนื้อหาเสียดสีการเมืองแทงใจดำใครต่อใครจนโดนแบน
นางเอกลูกครึ่งไทย-เยอรมัน กะพริบตากลมโตเผยให้เห็นถึงประกายความสุขในงานละครที่เธอได้รับโอกาสให้แสดง คิมเบอร์ลี่ เล่าถึงบทบาทในละครเรื่องล่าสุด แรงปรารถนา แสดงนำคู่กับพระเอกขวัญใจมหาชน ณเดชน์ คูกิมิยะ
เรื่องแรงปรารถนา คิม รับบทเป็น สุอาภา ชื่อเล่น กระแต บุคคลิกประมาณว่าคุณหนูเอาแต่ใจ ขี้เหวี่ยง ขี้วีน เป็นสาวเปรี้ยว มั่นใจในตัวเองสูง ชอบจิกกัดข่มเหงพระเอก แต่ลึกๆ การแสดงออกตัวละครตัวนี้มันมีปมบางอย่างที่น่าสนใจช่วยให้ติดตาม
เธอ เล่าว่า ในเรื่องรับบทเป็น สุอาภา หรือ กระแต ได้เล่นหลายอย่างมาก ฉากร้องไห้ก็เยอะ มีฉากอารมณ์ต่างๆ หลากหลายเลย จนคิมรู้สึกเหมือนเล่นละครหลายเรื่อง เปรี้ยว แรง ขี้วีน ขี้เหวี่ยง แกล้งพระเอกตลอดเวลา คือในเรื่องรักกันตั้งแต่เด็กนะ แต่แสดงออกมาไม่ได้ ก็ต้องเก็บไว้ในใจ ถือว่าเรื่องนี้พลิกบทบาทที่เคยได้รับเลยละ
ออนแอร์ไปได้ไม่กี่อาทิตย์ ดูเหมือนว่าละครเรื่องนี้จะทำเอาแฟนละครเรื่องลืมเรื่องเก่าที่ทางช่อง 3 ถอดออกแทบสนิท เพราะฟีคแบ็กแรงปรารถนานั้นแรงสมใจช่องเชียวละ
“ได้ผลตอบรับมากมายเลยค่ะ ตอนนี้เจอใครก็เรียก กระแต เขาก็จะบอกว่าแต่งตัวสวยดี แล้วก็บอกว่าเรื่องนี้ร้ายจังนะ หาเรื่องณเดชน์ตลอด แต่ก็ฉะกันสนุกดีค่ะ บางคนก็จะบอกว่าสงสารณเดชน์จัง โดนรังแกตลอดเลย คิมจะบอกว่าให้ดูต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะสงสารนางเอก”
คิม ฝากถึงผลงานละครเรื่องล่าสุดที่เธอทุ่มเทสุดตัวเพื่อให้แฟนๆ ได้ชมผลงานคุณภาพ
เรื่องนี้ท้าทายมาก ดราม่ามาก ร้องไห้เยอะ ร้องไห้จนเหนื่อย ต้องเก็บกดอารมณ์ความรู้สึกต่อพระเอก แสดงออกด้วยการแกล้งประชดประชัด มีหลายอารมณ์ให้ได้ลุ้นทั้งรักกุ๊กกิ๊ก บีบคั้นอารมณ์ เนื้อเรื่องเข้มข้นอยากให้ติดตามชมกันคะ
เป็นแรงปรารถนาที่ ช่อง 3 ต้องการออกอากาศละครเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน แล้วแรงปรารถนาของนางเอกสาวของเราว่าอย่างไรบ้าง
คิมบอกว่า ขอให้ครอบครัวมีความสุขแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว อีกอย่างหนึ่ง ต้องทำงานตลอดจึงไม่ค่อยมีเวลาว่างให้กับครอบครั้วเท่าไหร่ ก็เลยอยากให้เวลากับครอบครัวได้ใกล้ชิดกัน ทานข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกันบ้างก็ดีใจแล้ว เพราะช่วงที่ผ่านมาทำงานแทบจะไม่มีเวลาเลย
จะทำอะไรก็กลัวแฟนว่า
นางเอกลูกครึ่ง เปิดใจถึงการมาประกบคู่กับพระเอกคนดัง ณเดชน์ ทำเอาประหม่าอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นพระนางคู่ขวัญกับ ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์ แต่เรื่องนี้มาเล่นคู่กับคิมก็อดห่วงความรู้สึกแฟนคลับไม่ได้ “กลัวนิดหน่อยค่ะ เขาก็มีแฟนคลับเยอะ ก็อยากให้มาโฟกัสที่งานมากกว่า”
ส่วนเธอเองก็มีแฟนคลับที่เฝ้าติดตามอยู่ไม่น้อย คิมเบอร์ลี่ เปรยความรู้สึกที่มีต่อแฟนๆ ที่ชื่นชอบผลงาน
“น่ารักค่ะ คือไม่ว่าเราจะไปไหนเขาก็สนับสนุนเรา ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ตามเขาก็ให้กำลังใจเราตลอดเวลา คืออยากให้อยู่กับคิมไปนานๆ แบบนี้ และก็มีแฟนๆ คลับของพี่ๆ เพื่อนๆ ของคิม ญาญ่า ณเดชน์ หรือว่า พี่หมาก ปริญ ขาก็จะให้กำลังใจเหมือนกัน คือแชร์ความรักให้กัน”
ยิ้มบางเผยให้เห็นบนใบหน้า นางเอกสาว เผยความนัยต่อแฟนคลับที่คอยซับพอร์ตเธอ อย่างเวลาไปงานแล้วพวกเขามารอ ถ้าเธอมีเวลาไม่เร่งรีบก็จะพูดคุยทักทายอย่างเป็นกันเอง
“เรารู้สึกว่าเขามารอเราตั้งนาน คือเราเองก็อยากเจอเขาด้วย เพราะว่าเขาให้กำลังใจเรามันก็ถือว่ากำลังใจที่สำคัญมาก คือถ้าไม่มีพวกพี่เขาก็คงแย่เหมือนกันนะ(ยิ้ม)”
พอเริ่มทำงานชีวิตก็เปลี่ยน
การได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการแสดง ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ฯลฯ นอกจากเป็นความแปลกใหม่ของชีวิต นางเอกสาวในวัย 20 มองว่ามันเป็นโอกาสที่สร้างพัฒนาการให้ชีวิตของตัวเองโดยเฉพาะในเรื่องความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
พอเรามาอยู่จุดนี้ก็ได้เจอผู้คนมากขึ้น ได้เจอคนหลากหลาย เข้าใจความแตกต่างในเรื่องความคิด ได้รับแง่คิดดีจากหลายคนทำให้เราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย
คิมเบอร์ลี่ เปิดใจว่าก่อนหน้าที่เป็นคนเซนซิทีฟมาก โดยเฉพาะกับคำพูดของคนอื่น พูดอะไรนิดอะไรหน่อยก็เป็นเรื่องแล้ว
“เซนซิทีฟกับคำพูดของคน ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเซนซิทีฟมาก ใครว่าก็จะโอ้ย!ทำไมต้องพูดอย่างนี้ด้วย อย่างพี่สาวว่า คิมก็จะโอ้ย!อย่าพูดอย่างนี้สิมันแรงเกินไป ถึงเขาจะพูดเล่นก็ถอะ(หัวเราะ)”
แต่ตอนนี้เธอแข็งแรงขึ้นแล้ว ถ้าใครพูดอะไรไม่ถูกใจไม่เข้าท่าก็จะรับฟังมากขึ้น คิม เล่าขึ้น “ก็คือว่าแข็งแรงขึ้นนะ น่าจะอายุด้วยนะคะ มองอะไรชัดเจนขึ้น รู้ว่าบางทีเขาไม่ได้ตั้งใจ ทั้งที่เขาก็แบบไม่ได้อะไร เริ่มเข้าใจหัวอกคนอื่น เหมือนตอนเด็กเราจะแคร์แต่ตัวเอง”
เวลาเครียดๆ มีเรื่องราวไม่สบายใจ นางเอกสาวเล่าว่ามีวิธีการเครียจิตใจง่ายๆ เลย
“ฟังเพลงดังๆ เปิดไปกรี๊ดดังๆ ร้องเพลง เต้น (หัวเราะ) คิมจะเป็นคนที่ถ้ามองอย่างนี้จะเห็นว่าเราเรียบร้อย นิ่งๆ พูดไม่ค่อยเก่ง อีกมุมหนึ่งสมมุติถ้าเราเจออะไรหนักๆ เหมือนเราจะหลุดโลกไป คือจะเต็มที่จะฟังเพลงจะเต้นให้หายเครียด แค่นั้น..แล้วก็เหนื่อยต่อ”
หรืออีกวิธีที่ง่ายๆ คิมบอกว่า ก็แค่ลองเปลี่ยนมุมมอง “ถ้าคิดเล็กคิดน้อยกับทุกเรื่อง ทำไมคนนี้พูดอย่างนี้ ทำไมรถถึงขับช้า โอ้ยเครียด! ทุกอย่างเครียดไปหมดเลยมันก็ทำให้เรากดดันไม่มีความสุข แต่ว่าช่างมันเถอะให้ทุกอย่างมันผ่านไปก็จะทำให้เรามีความสุข”
สุขภาพสร้างได้แค่มีวินัยและอดทน
เชื่อหรือไม่.. ครั้งหนึ่งนางเอกสาวไซส์ฝรั่งเคยน้ำหนักถึง 70 กิโลกกรัม แต่ด้วยวินัยในการดูแลตัวแลตัวเองก็ทำให้เธอค่อยๆ ลดน้ำหนักลงมา กระทั่ง สวยสะพรั่งเป็นนางเอกเบอร์ต้นๆ ของช่อง 3 อย่างที่ปรากฎชัดในทุกวันนี้
พื้นฐานรูปร่างของคิมจะออกไปทางฝรั่ง ตัวใหญ่ กระดูกใหญ่ เจ้าเนื้อ คิมเล่าว่าแต่ก่อนจัดอยู่ในเกณฑ์อ้วนเลย แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาเพราะก็ยังใช้ชีวิตวัยรุ่นสนุกสนานตามปกติ ที่สำคัญคือยังไมได้เข้ามาทำงานในวงการด้วย เรื่องรูปร่างจึงไม่เป็นปัญหาหนักอกแต่อย่างใด คิมเบอร์ลี่ ได้แชร์เรื่องราวสุขภาพของตัวเองไว้ในนิตยสารสลิมมิ่ง
คุณพ่อก็ชอบทำอาหารฝรั่ง เน้นหนักพวกชีส นม เนย แป้ง เป็นอะไรที่แคลอรีสูงๆ ทั้งนั้น คิมก็เป็นคนกินเก่งมากๆ อย่างพวกเบเกอรี่ ไอศกรีม ก็ชอบกินมาก คิมกินได้ตลอดทั้งที่รู้นะว่าของเหล่านี้มันทำให้เราอ้วน ถึงเคยออกเดินเล่นกับคุณพ่อหวังให้น้ำหนักลด แต่ก็ไม่เป็นผลอยู่ดีเพราะยังกินเยอะเหมือนเดิม
ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าต้องมากำกับดูแลในเรื่องอาหารการกิน และใช้วิธีออกกำลังกายร่วมด้วย คิม ให้สัมภาษณ์ถึงวิธีลดความอ้วน
“ดูแลเรื่องการกิน และออกกำลังกาย ถึงมันจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็เป็นวิธีธรรมชาติที่ดีที่สุด แรกๆ อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่พอร่างกายเราปรับสภาพได้ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น สุขภาพร่างกายก็แข็งแรงด้วยและเราเป็นคนที่โครงสร้างใหญ่อยู่แล้ว ต่อให้ลดน้ำหนักมากแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยทำให้เราผอมเพรียวมากเหมือนนางแบบ แค่ทำให้รูปร่างเราดูกระชับ สมส่วน แบบมีสุขภาพดี เท่านี้คิมก็ว่าโอเคแล้วค่ะ”
คิม ย้ำว่าการที่จะลดความอ้วนได้ประสบความสำเร็จคุณต้องสร้างเป้าหมายและควบคุมวินัยแก่ตนเองก่อน
“คิมคิดว่าการที่เราจะลดความอ้วนได้ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเราเอง นั่นคือการมีวินัยในตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าเราจะออกกำลังกายมากแค่ไหน แต่ถ้ายังกินเยอะหรือกินแบบไม่เลือกเหมือนเดิม การออกกำลังกายก็ไม่ได้ช่วยทำให้มีรูปร่างที่ดีได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“เราไม่ต้องหักดิบกับตัวเองโดยการลดปริมาณอาหาร หรืองดประเภทอาหาร แบบทันทีทันใดก็ได้ เพียงแต่เรามีเป้าหมายให้กับตัวเองสักหน่อย ว่าสิ่งที่เรากำลังจะทำนั้นทำไปเพื่ออะไร และเราก็จะมีกำลังใจที่จะทำให้มันบรรลุผลได้อย่างง่ายดาย ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป อย่าไปฝืนมัน และทำให้มีความเหมาะสมกับตัวเอง สุดท้ายแล้วเราก็จะภูมิใจค่ะ”
บ้านหลังนี้ของขวัญครอบครัว
“ความสุขเป็นองค์ประกอบรวมของทุกอย่างที่คนอยากได้อยู่แล้ว ความสุขมาพร้อมทุกอย่าง เชื่อว่าทุกคนคงอยากมีความสุข” คิม พูดถึงความสุขที่ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องอยากเป็นเจ้าของห้วงอารมณ์นี้
ถามว่าเข้ามาอยู่ในวงการมาเป็นนางเอกเบอร์ต้นๆ ของช่อง 3 ชีวิตมีความสุขมากขึ้นหรือน้อยลงหรือไม่ เธอตอบขึ้น
“มันก็คงละฟิวค่ะ พอมาที่นี่ก็เหมือนเจออะไรเยอะขึ้น คิมเพิ่งซื้อบ้าน ความสุขตอนนี้คือทุกอย่างเราหาทุกอย่างมาด้วยตัวเอง ซื้อบ้านให้เป็นของขวัญครอบครัวตั้งใจว่าพอตกแต่งเสร็จเข้ามาอยู่ด้วยกันหมดเลย ราคาไม่แพงมาก และก็ไม่ได้ถูก เป็นบ้านที่ไม่ใหญ่ด้วย คืออยู่ได้พอดี อบอุ่น(ยิ้ม)”
ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวใหญ่ นับรวมๆ คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง ก็ราว 6 คน คิม พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส “เค้าก็ดีใจด้วย พี่ๆ น้องๆ ก็เออไม่ได้ไปขอพ่อแม่ก็ดีแล้ว เราอายุแค่นี้ (20 ปี) ก็ซื้อบ้านเองถือว่าสุดยอด(ยิ้ม)
"ความภูมิใจเล็กๆ ก่อตัวขึ้นขณะที่เธอเล่าถึงบ้านหลังนี้ “ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทำบ้านใหม่ค่ะ มี Built-in ตกแต่งอะไรใหม่ ไม่ได้เยอะแยะอะไรมากมาย บ้านหลังนี้ก็ทำให้กับครอบครัวค่ะ จากการทำงานที่ผ่านมาก็เก็บเงินไว้ เราสร้างให้จากน้ำพักน้ำแรงเราเอง ก็ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นใหญ่เพื่อต้อนรับปีใหม่ให้กับคนพิเศษอย่างครอบครัวแล้วก็ตัวเองด้วยค่ะ”
ยิ่งได้พูดคุยก็รู้สึกเลยว่า คิม เป็นคนรักครอบครัวเอาเสียมากๆ อย่างเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ครอบครัวของเธอทำก็ทำสุขใจแล้ว
“ได้กลับบ้านแล้วเห็นรอยยิ้มเล็กน้อยของครอบครัว อยากเห็นกลับมาถึงบ้านทุกคนยิ้มแฮปปี้ มีความสุข (ยิ้ม)”
คนมีความรักมักจะชอบทำแววตาหวานซึ้ง
ชำเลืองมองตากลมคู่นั้น ดูเหมือนจะซ่อนประกายระยิบอิ่มเอมความสุขล้นเอาไว้ไม่อยู่ ดูเหมือนว่าความรู้สึกดีๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวระหว่าง คิมเบอร์ลี่ กับชายหนุ่มดีกรีผู้จัดละคร เจ็ท - ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช (ทายาทนักแสดงรุ่นเก๋าและผู้จัดฯ ชื่อดัง จิ๋ม - มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช) ดูจะเกื้อกูลหน้าที่การงานส่งเธอให้เป็นดังดวงดาวเปล่งแสงสกาวบนฟากฟ้ามายา
คิมเบอร์ลี่ ให้นิยามความรักในแบบของตัวเอง “ความรัก คือการดูแลกันและกันการใส่ใจกันและกัน”
ไม่ง่ายเลยที่ความสัมพันธ์ของคนคู่หนึ่งจะก่อตัวขึ้นเป็นความรัก หญิงสาว พิจารณาถึงองค์ประกอบที่เป็นตัวแปรความรู้สึก
“ก็คงต้องนิสัยสัยเขา องค์ประกอบนอกคิมจะไม่ค่อยมอง คือจะมองที่นิสัยเขามากกว่า คือไม่ใช่วันสองวันที่มอง จะต้องเรื่อยๆ ค่อยๆ รู้จักกัน ก็ต้องอยู่ที่เสน่ห์ของเขาด้วย ความเขาเป็นคนที่ดูแลตัวเองดูแลครอบครัวหรือเปล่า คือเป็นคนที่ชอบผู้ชายที่ไม่ได้ใส่ใจแค่เราคนเดียว สามารถดูแลคนรอบข้างด้วย”
ธรรมดาของเด็กสาวที่ต้องฝันถึงสเปก ประมาณว่า หล่อ เทห์ เธอเปิดใจว่าตัวเองก็เคยคิดแบบนั้น
“เราเป็นคนชอบเล่นบาร์บี้ไง บาร์บี้ก็สวยเคนก็หล่อ คือจะต้องแบบต้องเป็นคู่กัน เจ้าชายขี่ม้าขาวอะไรแบบนี้(หัวเราะ) แต่พอมาถึงจุดนึงมันไม่ได้รู้สึกว่าต้องการคนที่หน้าตาดีมาก หล่อมาก หรือว่าคนที่แบบขี่ม้าขาวมาเลย แค่เป็นคนที่อบอุ่น สุภาพบุรุษให้เกียรติเรา ให้ เกียรติครอบครัวเรา
“คิมชอบผู้ชายที่อบอุ่น เป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนที่แบบไม่ใช่ใส่ใจแต่เรื่องเราอย่างเดียว คือใส่ใจคนรอบข้างของเราทุกคนเท่าเทียมกันและก็เสมอต้นเสมอปลาย(ยิ้ม)”
คิม บอกว่าสเปคผู้ชายในแบบที่เธอต้องการมาเป็นคู่ชีวิตนั้นมีส่วนของเหมือนคุณพ่อของตัวเองด้วย
“คุณพ่อเป็นคนที่อบอุ่น ในครอบครัวคุณพ่อจะเหมือนเป็นซานตาครอสสำหรับเราตั้งแต่เด็กๆ”
สัจธรรมอย่างหนึ่ง ความรักเป็นเรื่องไม่แน่นอน ตรงนี้เองจึงทำให้คิมรักษาระยะในความสัมพันธ์ที่กำลังก่อตัว
“ก็เลยต้องดูๆ กันไปให้ยาวที่สุดเลยคะ คิมว่าถ้าเราชิลๆ ดูกันไปเรื่อยๆ ถ้าถึงวันไหนที่เขาไม่ใช้คนนั้นคนที่จะต้องแต่งงานด้วย หรือเราเลือกคนๆ นั้นที่มาเป็นแฟนเรา อย่างน้อยมันก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกันก็ยังเหมือนเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันได้ ก็ค่อยๆ เป็นค่อยไป”
เธอเปิดใจถึงกระแสข่าวที่ว่า เป็นสาวรู้จใจของผู้จัดฯ ช่อง 3 ก็เลยมีงานละครชุก “จริงๆ มันไม่ใช่ไง ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร”
“จริงๆ ไม่เกี่ยวเลย เพราะตอนเรื่องธาราหิมาลัย ก็ไม่ได้คบ มันเป็นเรื่องที่บังเอิญมากกว่า บังเอิญคลิกกันคุยกันเข้าใจ ซึ่งเรื่องงานคือพี่เขาก็เป็นผู้จัดฯ เขาก็ให้เกียรติงานเรา เราก็ให้เกียรติงานเขา ก็ต่างคนต่างทำงานค่ะ และก็ทางช่อง 3 มากว่าที่จะเสนอ ให้โอกาสเรา
เร็วๆ นี้ก็กำลังจะร่วมงานกันใน ละคร เรื่องต้นรักริมรั้ว คู่พระเอกหนุ่ม หมาก ปริญ (พระเอกจากเรื่องเหนือเมฆ ที่ช่อง 3 แบน) ถามว่ากดดันหรือเปล่าเธอตอบขึ้นทันที
“ก็ไม่ได้กดดันนะคะ เพราะเราทำงานร่วมกับพี่เจ็ท ก็ให้หน้าที่เขาทำเป็นผู้จัดไป แล้วก็ทำงานของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้วคะ”
เรื่องน่าอาย? อายุ 20 เรียนอยู่ ม.5
ต้องเท้าความก่อน คุณพ่อของเธอตัดสินใจให้ลูกสาวเรียน โฮมสคูล มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เดิมทีเดียว ตอนมาย้ายจากประเทศเยอรมันอยู่ประเทศไทยเมื่อตอนอายุ 8 ขวบ เธอก็เข้าเรียนแบบเด็กปกติตามโรงเรียนนี่แหละ
แต่ด้วยหน้าที่การงานคุณพ่อทำให้ต้องเดินทางย้ายโรงเรียนบ่อยๆ คุณพ่อก็เลยให้คิมเบอร์ลี่ โฮมสคูล มีครูมาสอนที่บ้านแล้วสอบวัดผลประเมินความตามหลักสูตร
นับนิ้วคำนวณระดับชั้นในตอนนี้ คิม ก็เพิ่งศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 5 เพราะตลอดเวลาที่เริ่มเข้ามาทำงานในวงการทำให้เวลาเรียนลดน้อยลงไป อีกอย่างเธอเห็นว่างานแสดงเป็นโอกาสเป็นสิ่งที่เธอเคยฝันไว้จึงพักเรื่องเรียนไว้ชั่วคราวก่อน
“อายมาก(หัวเราะ) อยู่ ม.5” คิม พูดขึ้นด้วยท่าทางยิ้มแย้ม ขัดกับความรู้สึกที่เธอเผยออกมา
“แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอายขนาดนั้นนะ เพราะเราก็ทำงานตั้งแต่เด็กด้วย ก็จะมีเพื่อนๆ ที่เขาจบกันแล้วก็อายุเท่าเรา มันก็จะแบบ เห้ย..จบแล้วนะ แต่ก็ไม่ถึงกับซีเรียส ก็ค่อยๆ ไป ไม่ได้รีบ ก็ไม่ทิ้งค่ะ”
คิม เผยว่าในปีนี้มีแพลนจะแบ่งสัดส่วนระหว่างการเรียนและการทำงาน ซึ่งถ้าจบการศึกษาระดับมัธยมก็จะเข้าศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับสาขาวิชาการแสดงที่เธอสนใจ
ภาษาไทย การเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด
ตั้งแต่ย้ายกันมาอยู่ที่ประเทศไทย คิม เล่าว่าทางบ้านสื่อสารกันด้วย ภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมันบ้าง จึงทำให้เธอมีปัญหาเกี่ยวกับภาษาไทยเพราะแทบไม่ได้ใช้สื่อสารหรือศึกษาเพิ่มเลย
นางเอกลูกครึ่ง เปิดเผยว่าเพิ่งจะมาใช้ภาษาไทยสื่อสารแบบจริงจังก็ช่วงก่อนเข้าวงการไม่กี่ปีเท่านั้น ย้อนไปในช่วงเล่นละครเรื่องแรกมีปัญหาเรื่องภาษาอย่างหนัก แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากทีมงานเป็นอย่างดี
ถึงวันนี้จะคล่องขึ้นแล้วเธอก็ยังเอ่ยถึงปัญหาเกี่ยวกับภาษาไทย ด้วยใบหน้ายิ้มๆ “มีปัญหา คือเข้าใจอะไรยาก(หัวเราะ)”
“คืออ่านได้ค่ะ อย่างบท บางฉากเราไม่เข้าใจก็ถามผู้กำกับว่าแปลว่าไรอะคะ เขาพูดอย่างเพราะอะไร ต้องถาม เพราะว่ายังไม่ได้เข้าลึกขนาดนั้น”
ณ วันนี้ ฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้ในระดับหนึ่ง ยังคงต้องเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ คิมเล่าเรื่องการใช้ภาษาที่เป็นปัญหาในช่วงนี้
“การเขียน คือไม่รู้เป็นอะไรเวลาเขียนที่พิมพ์ในโทรศัพท์จะพิมพ์ได้ดีกว่าเขียนมือ พอเขียนแล้วแบบเรายังไม่แน่ใจว่ามันสะกดอย่างนี้จริงหรอ(ยิ้มกว้าง)”
…........................
นาทีนั้น ผู้จัดการส่วนตัวของเธอเบียดร่างลงบนโซฟานุ่มสีแดงระเรื่อ การสนทนาของเราจบลงอย่างเร่งรีบ ด้วยการพูดตัดบทของผู้จัดการสาว เพราะนางเอกลูกครึ่งมีงานที่จะต้องเดินทางไปสะสางอีกเต็มตาราง
โล่งอก! เล่นเอาตั้งตัวแทบไม่ทันเพราะคิดว่า 'ใคร' แบนการสัมภาษณ์ของทีมงาน M-lite อย่างกระทันหัน เหมือนกับที่ละครเรื่อง เหนือเมฆ ถูกสั่งแบนไปเสียดื้อๆ
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Lite
ภาพโดย วารี น้อยใหญ่
ภาพประกอบ Instagram @kimmy_kimberley
..................................
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ (คิมมี่)
วันเกิด : 22 มกราคม 2535
ส่วนสูง : 170 ซม. น้ำหนัก 50 กก.
การศึกษา : Private Education
ความสามารถ : เต้น, ร้องเพลง, เล่นกีตาร์, บาสเกตบอล, ภาษาอังกฤษ
ผลงาน : ละคร - เรื่อง 4 หัวใจแห่งขุนเขา ตอน ธาราหิมาลัย (2553),รักปาฏิหาริย์ ( 2554), สามหนุ่มเนื้อทอง(2554), ปัญญาชนก้นครัว(2555), แรงปรารถนา(2556), ต้นรักริมรั้ว(2556)
มิวสิควีดีโอ - อย่ามองมาได้ไหม, ไว้ใจได้กา (ประกอบละคร ปัญญาชนก้นครัว), นกหาฟ้า ศิลปิน บ่าววี, กอด ศิลปิน NOS
โฆษณา - เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, หมากฝรั่ง Wrigleys Extra Professional, โทรศัพท์มือถือซัมซุง, แบรนด์วีต้า, มินิทเมด พัลพิ, สมูทอี เบบี้เฟส เจล, เฮดแอนด์โชว์เดอร์ ฯลฯ
รางวัลที่ได้รับ : ดาวรุ่งหญิงยอดนิยมจากแฟนคลับอวอร์ด เว็บไซต์ thaitv3.com อันดับ 2 ปี 2553
รางวัลสาวสวยสุดฮอตประจำปี 2555 จาก OK Magazine Awards 2012, รางวัลคู่จิ้นแห่งปี กับ ปริญ สุภารัตน์ จาก สีสันบันเทิงอวอร์ด 2012 ฯลฯ