ทิ้งท้ายปีมังกรทองด้วยสัตว์เลี้ยงเสริมดวงชะตา ‘ปลาอะโรวาน่า(Arowana)’ หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ ‘ปลามังกร’ ด้วยลักษณะท่วงทาอันสง่างามผนวกความเชื่อของศาสตร์จีนที่กล่าวขานถึงความอภิมหามงคลแก่ผู้เป็นเจ้าของ นำพาความสุข เสริมสุขภาพดี ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย สร้างความเจริญรุ่งเรือง ทั้งยังถูกยกย่องว่าเป็น 'ราชาแห่งปลาสวยงาม' จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ราคาค่างวดของอะโรวาน่าตัวเลขจะพุ่งสูงถึง 5-7 หลัก!
ไม่แน่ใจนักว่าความเชื่อเกี่ยวกับปลาประเภทนี้เท็จจริงเพียงใด แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้หลงใหลปลาสวยงามทุกชนิด ที่วันหนึ่งได้ตกลงปลงใจเลี้ยงปลาอะโร่วาน่าก็เริ่มนำสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต แน่นอนเสน่ห์ของเจ้าปลาชนิดนี้ทำเขาตกหลงรักได้ไม่ยาก
ขณะเดียวกันจากการเลี้ยงปลาเป็นงานอดิเรกเขาก็ต่อยอดจนกลายมาเป็นธุรกิจขนาดย่อม ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในแวดวงปลาสวยงาม 'คุณเติ้ง - กลย์กร จันลอย' หรือ 'เติ้ง โชว่า' นักธุรกิจหนุ่มวัย 33 ปี เจ้าของร้าน โชว่า อะโรวาน่า(Showa Arowana) จัดจำหน่ายปลาอะโรวาน่าด้วยบริการระดับไฮเอนด์
ริเลี้ยงปลา จนได้เรื่อง!
เริ่มแรกคงต้องเท้าความไปเมื่อ10 ปีก่อน สมัยยังเรียนปี 1 สาขาประชาสัมพันธุ์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ด้วยความสนใจในเรื่องปลาสวยงามทำให้ คุณเติ้ง เริ่มทดลองเลี้ยงปลาหลายๆ ชนิด บวกกับช่วงนั้นอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องแปลกใหม่ พอเขาทดลองโพสต์แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับปลาสวยงามก็ทำให้เป็นที่สนใจขึ้นมา ตัวตนบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็นรากฐานของธุรกิจร้าน Showa Arowana ในวันนี้
“10 กว่าปีก่อนShowaเริ่มมีตัวตนในโลกอินเทอร์เน็ต สมัยนั้นอินเทอร์เน็ตกับปลาถือว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่มาก คนเลี้ยงปลาแล้วมารวมตัวกันที่เว็บไซต์ Pantip ห้องปลาสวยงาม ผมใช้ล๊อกอินShowa ก็เป็นที่รู้จักกันในโลกไซเบอร์ ด้วยความที่รู้จักกันว่าผมเป็นนักเล่นปลา เลี้ยงเยอะ เลี้ยงปลาสวย เลี้ยงบ้าคลั่งเลย มีปลาสวยมาโพสต์เยอะ มีความรู้ให้เพื่อนๆ ในเว็บฯ ผมเติบโตจากอินเทอร์เน็ตจากเป็นผู้เลี้ยง สู่ผู้ขาย
“เริ่มตั้งแต่ช่วงเรียนที่ ม.รังสิต ตอนปี 1 พอมีเงินเก็บนิดหน่อยก็เริ่มซื้อปลา ซื้อตู้ตั้งแต่ตอนเรียนเลย ก็เริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ตอนรียน คือสื่ออนไลน์มันเป็นอะไรที่ใหม่มาก ช่วงเวลานั้นเวลาเรามีปลาดีๆ ถ่ายลงไปในเว็บไซค์ ผู้คนก็ชื่นชอบ เป็นการทำการตลาดที่เร็วมาก ณ เวลานั้น และมันก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่เราสามารถหาเงินได้”
ชายหนุ่ม เปิดใจว่า การที่ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางบริหารธุรกิจ การเกษตร หรือการประมง แต่กลับจบทางด้านนิเทศฯ การประชาสัมพันธุ์ นั้นเป็นข้อดีในธุรกิจเล็กๆ ของเขาเสียด้วยซ้ำ เพราะองค์ความรู้ที่ได้มา อาทิ การตลาด, การทำประชาสัมพันธุ์, การถ่ายภาพ ฯลฯ การสร้างภาพลักษณ์ที่ต่างจากผู้ค้าอะโรวาน่ารายอื่น เหล่านี้เป็นข้อดีที่นำมาใช้ในจุดเริ่มต้นเล็กๆ
งานอดิเรกที่สร้างเงินก้อนโต
ช่วงแรกนั้นยังไม่ได้เปิดร้านเป็นเรื่องเป็นราว คือเลี้ยงไปด้วยแล้วก็ขายด้วย คุณเติ้ง เล่าว่าทำแบบนี้อยู่ประมาณ 6 ปี ควบคู่กับงานประจำ จนในที่สุดก็ตัดสินใจลาออกมาเปิดร้าน โชว่า อะโรวาน่า จำหน่ายปลาอะโรวาน่าอย่างเต็มรูปแบบ จวบจนวันนี้ก็เดินทางเข้าสู่ปีที่ 6แล้ว
“ผมถูกปลูกฝังและเรียนรู้มาว่างานอดิเรกที่เหมาะสำหรับผมคือทำแล้วได้เงินด้วย ไม่ว่าจะเป็นตู้ผมก็เริ่มจากตู้มือสอง คนอื่นอาจจะซื้อมา10,000 บาท ผมซื้อ3,000 บาท ปลาก็เริ่มซื้อต่อจากที่คนเบื่อๆ บางทีเขาซื้อมา 30,000 บาท เขาเบื่อขายเรา15,000 บาท พอเลี้ยงไปผ่านไป 3-4 เดือน ปีนึง เราเบื่อบ้างเราก็ขาย มันก็ทำกำไรนิดๆ หน่อยๆ ดังนั้นเราก็เริ่มสนุกเพราะยิ่งงานอดิเรกมากก็ยิ่งทำกำไรให้เรามากขึ้นๆ จนผมเห็นว่าอดิเรกของผมมันมากกว่าเงินเดือนไปหลายเท่าแล้วนะ ผมก็เลยลาออกมาทำ”
ถามว่าตอนแรกๆ ที่ยังเลี้ยงปลาเป็นงานอดิเรกมีความคิดที่จะขายด้วยหรือไม่ ชายหนุ่ม ตอบขึ้นอย่างไม่รีรอ
“เบื้องต้นเลยก็คิดอยู่แล้วว่าต้องขายแน่นอน เพราะว่าผมคงไม่เลี้ยงปลาตัวนึงไป 10-20 ปี วางแผนไว้แล้วล่ะถ้าเลี้ยงตัวนี้เบื่อจะไปซื้อตัวใหม่ ผมชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างปลาตัวนี้เรารู้จักมันแล้วนะ ปลาพันธุ์นี้เป็นอย่างนี้นะ ผมก็จะเปลี่ยนซื้อพันธุ์อื่นบาง ซื้อเกรดคุณภาพอื่นบ้าง
“นอกจากสร้างเงินด้วย งานอดิเรกของผมคือได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะถ้าผมเลี้ยงปลาแค่ 1-2 ตัวผมก็อยู่แค่ตรงนั้น ความรู้ค่อนข้างแคบ แต่ผมเลี้ยงปลาหลายๆ ตัว เลี้ยงเป็น 1,000ตัว ผมก็จะมีองค์ความรู้เยอะมาก ที่จะไปแชร์ให้เพื่อนๆ ในอินเทอร์เน็ต”
เหตุผลที่ต้องเป็น อะโรวาน่า
“งานอดิแรกมันทำให้เรามีรายได้ด้วย พอทำมันก็ยิ่งกระโดดไปเร็วขึ้น ยิ่งได้ๆ” คุณเติ้ง เอ่ยขึ้นพร้อมร้อยยิ้ม
จะว่าไปปลาสวยงามนั้นมีอยู่หลากหลายพันธุ์ น่าสงสัยใช่ไหมว่าทำไมเขาถึงเลือก ปลาอะโรว่น่า “ชอบครับ ชอบมาก” เขากล่าวขึ้นสั้น และค่อยๆ อธิบายต่อ
“ปลาเราลองมาเยอะนะ แต่ทำไมถึงเป็นอะโรวาน่า เหตุผล..ปลาอะโรวาน่าไม่เหมือนปลาอื่นเลย ในเรื่องของสีสัน พูดถึง ปลาสีทอง ผมเชื่อว่าคงคิดไม่ออกแล้วนอกจาก อะโรวาน่า สีทองจริงๆ นะครับ
เหมือนมีปลาที่เป็นทองคำว่ายอยู่ในตู้เลย สีแดงก็แดงสดเลย อีกอย่างรูปทรง ท่วงท่า ของเค้าตามชื่อเลยเป็นปลามังกร เพราะว่ายแบบสง่างาม”
อิริยาบถแหวกว่ายกลางมวลน้ำเสริมความสง่างาม เกล็ดใหญ่วาบวับสีสด ดุจมังกรกำลังผงาดบนอากาศ ถ้าได้จ้องมองปลาอะโรวาน่าใกล้ๆ แล้วบางทีคุณอาจจะหลงเสน่ห์เอาเสียง่ายๆ เซียนปลาสวยงามที่รู้จักกันในนาม เติ้ง โชว่า พูดถึงเสน่ห์ของอะโรวาน่า
“เขาฉลาด แล้วเค้าก็จดจำเราได้ จดจำหลายๆ อย่างได้ สมมุติเราจะให้อาหาร เขาก็รู้ เขาจำเจ้าของได้ เดินผ่านเขาก็ว่ายมาเล่นกับเรา แต่ถ้าไม่เป็นเจ้าของเขาก็จะไม่ออกท่าทาง เหมือนสุนัขเดินเข้ามาก็จะกระดิกหาง นั่นคือเสน่ห์ของปลาเขาจำเจ้าของได้
“และมันเป็นเรื่องของความเชื่อด้วย อะโรวาน่าเขาเชื่อมานานแล้วว่าเป็นปลาที่เสริมดวง เป็นปลาที่เจ้าของหรือคนที่ครอบครองมีพลังมีบารมี มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนหลายๆ คนหลงรักอะโรวาน่า”
ส่วนพันธุ์ที่คนไทยนิยมเลี้ยง กันมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ 1.อะโรวาน่าทองมาเลย์ 2.อะโรวาน่าทองอินโดนีเซีย 3.อะโรวาน่าแดง
“มีอยู่ 3 พันธุ์ที่คนใฝ่ฝันอยากเลี้ยง ที่นิยมมากๆ เลยก็จะมีสามสายพันธุ์สีทอง หนึ่ง-เรียกทองอินโดฯลักษณะทองครึ่งตัว อีกครึ่งนึงจะเป็นสีดำ และก็สีทอง สอง-ทองมาเลย์ ต่างกับพันธุ์แรกตรงที่จะทองหมดทั้งตัวข้ามหลังขึ้นหัวเลย และสุดท้ายคือปลาแดง”
ค่านิยมเกี่ยวกับอะโรวาน่าที่ผิดเพี้ยน
“อะโรวาน่ามันมีความเชื่อที่ผิดๆ เยอะมาก ลบภาพออกไปเลยว่าอะโรวาน่าต้องกินของเป็นๆ แมลงสาป ตะขาบ จิ้งจก จิ้งหรีด หนอน กินสัตว์มีชีวิตบาป มันหมดยุคตรงนั้นไปแล้ว ยุคนี้มันไม่ใช่ เขาให้กุ้งแชร์แข็งแทน” คุณเติ้ง ค่อยๆ เล่าถึงความเชื่อผิดๆ ในเรื่องอาหารการกินของปลาชนิดนี้ คือว่าถ้าอยู่ตามธรรมชาติอะโรวาน่าก็จะล่าปลาเล็กตามกฎของห่วงโซ่อาหาร
“ทุกวันนี้ปลาสวยงามถามว่าดุมั้ย ก็อาจจะมีก้าวร้าวทะเลากัดปลาอื่นบ้าง แต่เขาไม่ใช่นักฆ่า อาจจะมีการทำร้ายกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ถ้าเกิดเราเลี้ยงๆ รวมกับสายพันธุ์อื่น แต่..ปลาอะโรว่าน่าไม่กัดคน”
ความเชื่ออีกอย่างคือ คนไทยนิยมเลี้ยงอะโรวาน่าแบบ 1ตัว : 1 ตู้ คือเป็นผลพวงมาจากค่านิยมเดิมๆ แต่จริงๆ นั้นไม่ใช่ อย่างเมืองนอกจะนิยมกันเป็นฝูง นิยมเลี้ยงตามตัวเลขมงคล แต่นัยหนึ่งที่การเลี้ยงเป็นฝูงไม่เป็นที่นิยมอาจเป็นเพราะเกรงว่าปลาจะกัดกันทำร้ายกันนั้นเอง
อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ถึงค่าตัวของอะโรวาน่าจะแสนแพงเสียเหลือเกินแต่เจ้าปลาชนิดกลับไม่ต้องดูแลเอาใส่ใจพิถีพิถันกว่าปลาอื่นๆ เลย
“ปลาตัวนี้ไม่ได้ต้องการความเอาใจใส่สูงแบบปลาอื่น ไม่ว่าเรื่องการดูแลถ่ายน้ำ การให้อาหาร ปลาอื่นกินเยอะกินบ่อยของเสียเยอะ ต้องการดูแลเรื่องน้ำตลอดแต่ อะโรวาน่า อาจจะอาทิตย์ละครั้งหรือเดือนละครั้งได้ เพราะอาหารก็ให้กินแค่อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งเอง ไม่จำเป็นต้องให้ เช้า-สาย-บ่าย-เย็น แต่ถ้าปลาเล็กอาจจะให้วันละ 2 มื้อ หรืออย่างลูกค้าไปต่างจังหวัด 3-7 วัน ก็ปล่อยได้เลย ไม่ต้องกินอะไร อะโรวาน่าอดได้เป็นเดือนเลย เขาอยู่ตามธรรมชาติก็ไม่ได้กินทุกวันอยู่แล้ว กินทีเขาก็อยู่ยาว ไม่จำเป็นต้องให้ทุกวันเป็นภาระ ปลาใหญ่อดได้ 3 เดือน ปลาเล็กอดได้เป็นอาทิตย์”
แพงเวอร์ สัตว์เลี้ยงคนรวย?
“ปัจจัยสำคัญเลยก็คือมันเพาะพันธุ์ยาก ในธรรมชาติเรียกว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้ว ปลาตัวนี้เป็นสัตว์ป่าสงวน ติดไซเตส(CITES - อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์) ซึ่งไม่ง่ายในกาซื้อขาย ผมต้องขอขึ้นทะเบียนกับทางประมงค่อนข้างจะวุ่นวาย เป็นสัตว์สงวน ผู้เลี้ยงเองซื้อปุ๊บผู้ขายต้องทำใบเคลื่อนย้ายให้จากกรมประมง มีการออกเอกสารใบครอบครอวจากรัฐบาลให้ ฉะนั้น มันเป็นปลาที่หายาก มันเป็นปลาที่เกิดขึ้นอย่างมีที่มาที่ไป ขึ้นกับไซเตรส มีการฝั่งไมโครชิปทุกตัว”
คุณเติ้ง เล่าถึงค่าตัวของอะโรวาน่าที่แพงลิบ พร้อมอธิบายถึงเกณฑ์การตั้งราคาว่า หนึ่ง-อาศัยอ้างอิงกับราคาในตลาดเมืองนอก ซึ่งตลาดปลาใหญ่ก็อยู่ใน 3 ประเทศหลักๆ ได้แก่ มาเลเซีย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย สอง-ขึ้นอยู่กับความสวยงามของอะโรวาน่าตัวนั้นๆ
“หลักแสนผมขายบ่อยนะ แต่หลักล้านถามว่าในตลาดมีมั้ย..มีครับ แต่ว่านั้นเป็นปลาแปลก เหมือนคนก็จำพวกคนเผือกพิการหาไม่ได้ แต่ผมไม่ได้ทำอย่างงั้น ผมเน้นปลาสวย อยู่หลักแสน จริงๆ 2-3 แสนนี่ถือว่าไฮเอนด์มากๆ”
พูดได้เต็มว่า อะโรวาน่า เป็นสัตว์เลี้ยงเสริมบารมีคนรวย คุณเติ้งเล่าถึงกลุ่มลูกค้าของร้าน
“ลูกค้าผมส่วนใหญ่ 90 เปรอ์เซ็นต์ เรียกว่าจะต้องเป็นคนที่มีเงินเหลือ คืออยากจะตั้งตู้สวยๆ ในบ้าน มีปลาเลี้ยง เสริมดวง ประดับบารมี เอาสวยๆ ขอตัวละ 1-2แสน หาให้หน่อย คือร้านผมจะต่างจากจากร้านอื่นเน้นตลาดไฮเอนด์เลย มีบริการจัดหาให้เป็นนีชมาร์เก็ต เน้นปลาสวยจริงๆ ผมจะบินไปเลือกให้ลูกค้าที่เมืองนอกเลย หาให้เลย”
อะโรวาน่าจัดหนัก! ประมูล-ฝากขาย-รับเทิร์น-ผ่อน 0%
แวดวงคนรักปลาอะโรวาน่าไม่ธรรมดาจริง จากการสำรวจแล้วพบว่าหลายร้อนจัดโปรโมชั่นจำหน่ายอะโรวาน่าเอาใจลูกค้ากระเป๋าหนักรวมทั้งกระเป๋าแบนแต่ใจรักกันเต็มที่ มีทั้งผ่อนปลา 0 เปอร์เซ็นต์ 3-6 เดือน, รับเทิร์น,ฝากขาย ฯลฯ
แต่ทางร้าน โชว่า อะโรวาน่า นั้นไม่ได้จัดทำโครงการผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ดั่งร้านอื่นๆ เพราะคุณเติ้งนั้นรู้สึกไม่ชอบการสงเสริมให้คนเป็นหนี้เท่าไหร่ ผู้ที่เป็นเจ้าของอะโรวาน่าควรได้รับความสุขจากการเลี้ยงปลาไม่ใช่แบกรับค่าใช่จ่ายจนเป็นทุกข์
“ผ่อนปลา ก็เห็นมีมา 2-3 ปีนะ ถามว่ามันเกินไปมั้ยผมว่ามันโอเคนะ แต่ก่อนหน้านี้ผมคิดว่ามันไม่ดี แต่มาปีนีผมเพิ่งจะเห็นว่ามันโอเค อย่างแรกเลยราคามันลงมามันไม่ได้แพงเวอร์แล้ว แล้วบางคนมนุษย์เงินเดือน10,000กว่าบาทแทนที่จะเอาเงินเดือนทั้งเดือนมาซื้ออปลาตัวละ 10,000 บาท แต่เขาผ่อนได้นะผมว่ามันก็ช่วยให้วงการมันเติบโตไปข้างหน้าพอจะมีประโยชน์บ้าง
“แต่! โชว่า ไม่ทำ เพราะผมไม่ชอบ ผมเจอคนมาเยอะ บางคนไม่มีเงินมากนักแต่ใจรัก อยากเลี้ยง เขาจะต้องลำบากชีวิตมากๆ เพื่อจะให้ปลาตัวนี้ ซึ่งผมไม่ค่อยสนับสนุนผมอยากให้ได้ปลาตัววนี้สำหรับคนที่เลี้ยงแล้วมีความสุขจริงๆ ปลาตัวนี้มันดเป็นปลาที่ให้ความสุขไม่ใช่ให้ความทุกข์”
กลับกันคุณเติ้งเลือกคืนกำไรให้ลุกค้าด้วยการจัดกิจกรรม ประมูลปลาอะโรวาน่า เปิดราคาที่ 500 บาท เสนอราคาเพิ่มขึ้นทีละ 500 จบการประมูลกำไรหรือขาดทุนก็เคาะราคาไปเลย ในชื่อโครงการ จันทร์ทะลุราคา
“การประมูลปลา ก็ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ผมเป็นคนแรกเลย ซึ่งตอนที่เริ่มทำก็ไม่คิดด้วยว่าจะประสบความสำเร็จเพราะว่าดูแนวโน้มแล้ว มันไม่น่าประสบความสำเร็จได้เลย
“เอามาตัวละ 15,000 มาเริ่มประมูลที่ 500ขยับราคาที่ละ 500 แต่สุดท้ายมันก็ปิดประมูลในราคาที่คู่ควรกับมัน แต่ส่วนใหญ่ที่ผมทำได้ผมหาปลาที่ต้นทุนค่อนข้างถูก เช่นปลาที่ลูกค้าเบื่อเลี้ยง จาก 20,000 บาท เหลือ 7000 บาท ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้กำไร บางครั้งเท่าทุน บางครั้งขาดทุน ถามว่าทำไมหาเรื่องหรือเปล่า หนึ่งมันเป็นการตลาดมันเป็นการใช้งบเพื่อสื่อสารกับลูกค้า”
และที่โดดเด่นของ โชว่า อะโรวาน่า ก็คือการพรีออเดอร์ปลาที่เจ้าของร้านจะบินไปคัดเลือกอะโรวาน่าพันธุ์ดีจากต่างประเทศเพื่อส่งตรงถึงลูกค้าระดับเฟิร์สคลาสของเขา
“เราพยายามทำสิ่งใหม่ๆ ตลอด อย่างเรื่องของการพรีออเดอร์ปลาเราก็เป็นเจ้าแรกของประเทศไทย ร้านอื่นเอาปลามาตั้งขาย ของผมคุณเขียนฝันลงกระดาษมาเลยผมเนรมิตรให้”
ส่งท้ายปีมังกร ยุคทองอะโรวาน่า
เซียนปลาอะโรวาน่า เปิดเผยกับทีมงานว่าปีนี้จัดว่าเป็นปีทองของผู้ที่สนใจจะเลี้ยงปลาอะโรวาน่า เพราะราคาต่ำลงอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะผลพวงจากอุทกภัยในประเทศจีนเมื่อช่วงต้นปี 2555 ซึ่งจีนนั้นถือเป็นตลาดหลักของอะโรวาน่า หลังประสบภัยจำต้องหยุดรับอะโรวาน่าเป็นเหตุทะลักเข้าไทยจนฉุดราคาต่ำลง
“พอราคามันลง มันเป็นโอกาสของผู้ซื้อแล้ว จะได้ซื้อปลาดีและถูกมาก ซึ่งเป็นปีแรกในวงการไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย เป็นสิบกว่าที่ผมเพิ่งเห็นปลาอะโรว่าน่าถูกก็คือปีนี้ ฉะนั้น มันก็เลยเป็นที่นิยมมาก จากตัวละ30,000-40,000 บาท เราซื้อได้ 10,000กว่าบาท เรียกว่าคนแห่กันซื้อบ้าคลั่งเลย”
อะโรวาน่า นั้นเป็นปลาที่แข็งแรง งามสง่าสมราคา คุณเติ้ง ฝากถึงผู้ที่สนใจจะเลี้ยง
“คนเข้าใจผิดว่าอะโรวาน่าดูแลยาก จะต้องพิถีพิถิน เอาใจใส่สูง จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยอโรวาน่าถ้าเทียบกับปลาสวยงามอื่นๆ เลี้ยงง่ายที่สุดแล้ว ไม่เจ็บ ไม่ป่วย(ถ้าเกิดขึ้นก็น้อยมาก) แข็งแรง ทนทาน เลี้ยงง่าย โตง่าย คือซื้อไปเนี่ยเงินหมื่นเงินแสนมันอยู่กับคุณแน่ มันไม่ใช่เลี้ยง 3-4 วันตาย ไม่ใช่ครับ”
ณ ตอนนี้ อะโรวาน่า ไม่ได้เป็นสัตวเลี้ยงคนรวยที่ราคาแพงหูฉี่แล้ว ไม่ใช่เรื่องยากที่จับจองเป็นเจ้าของ เพราะอะโรวาน่านั้นมีหลายสายพันธุ์ หลายราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อย ไล่ไปจนถึงหลักหมื่น หลัก แสน และหลักล้าน ให้ท่านได้เลือกสรรกันตามปรารถนา..
สนใจเรื่องราวของปลาอะโรวาน่า สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 'Showa Arowana' โทร. 089- 815-8788, 087-361-7733, หรือทางเว็บไซต์ www.showaarowana.com หรือเฟสบุ๊ค Show arowana
