ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ใช่ว่าผู้ทรงเกียรติทุกท่านจะเป็นที่รู้จักของสาธารณะ ส่วนการสร้างตัวตนก็ไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ว่าจะเลือกสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ หรือขโมยซีนด้วยความหยาบโลนจุดกระแสตัวเอง
ดังวิธีการของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่แสร้งโต้แย้งระหว่างการอภิปรายฯ กลางรัฐสภา ของ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยวลีเผยเบื้องลึกในกมลสันดาน 'ผมฝันว่า..ผมได้นอนกับคุณรังสิมา'
เป็นข่าวดังที่สื่อมวลชนทุกสำนักนำเสนออย่างครึกโครม ถึงกรณีฉาว(อีกครั้ง) ของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ หรือ จ่าประสิทธิ์ ส.ส. สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ที่พูดจาแทะโลม น.ส.รังสิมา ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ย้อนไปเมื่อช่วงต้นปีระหว่างหารือว่ากระทู้สดนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เรื่องเหตุการณ์ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เขาก็พูดดูแคลนด้วยประโยค.. คุณรังสิมาฉี่ฉุน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสาระของการอภิปรายแม้แต่น้อย
ครั้งนี้ จ่าประสิทธิ์ ก็แสดงพฤติกรรมที่สมควรโดนประณามเช่นเดิม ขณะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี เมื่อ 27 พ.ย. ส.ส.รังสิมา กำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เกี่ยวกับการละเลยปล่อยให้มี การทุจริต-คอร์รัปชั่น ในการใช้งบซ่อมแซมน้ำท่วม จ่าประสิทธิ์ ขอใช้สิทธิ์ประท้วงในทันที พร้อมโต้เย้งด้วยประเด็นที่ทำให้ตนเองเป็นข่าว.. ผมฝันว่า..ผมได้นอนกับคุณรังสิมา
หลังที่ข่าวดังเผยแพร่ออกไป โซเซียลมีเดียรวมทั้งประชาชนจำนวนมากต่างวิจารณ์กันอย่างหนัก ทางตัวแทนจากหลายองค์กรก็เคลื่อนไหว เรียกร้องความรับผิดชอบ ต่อพฤติกรรมหยาบคาบ หมิ่นเกียรติ ไร้วัฒธรรมของ ส.ส. พรรคเพื่อไทยรายนี้
ข้อเท็จจริงจากน้ำคำ 'ส.ส.รังสิมา'
ด้าน รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.หญิง แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดใจถึงเบื้องลึกพฤติกรรมไร้วัฒนธรรมของ จ่าประสิทธิ์ ว่า ส.ส.เพื่อไทยรายนี้เคยเขามาพูดคุยกับเธอทำนองว่า อยากมีเรื่องกับตนเพราะอยากออกสื่ออยากเป็นข่าวเพื่อจะได้เป็นที่รู้จัก
“คืออยากออกสื่อ เขาเคยมาคุยกับเราว่า คุณรังสิมา..ผมขอบคุณคุณมากนะ ผมมีเรื่องกับคุณผมได้ลงหนังสือพิมพ์หน้า 1 ผมได้ออกทีวี เพราะผมเป็น สส.ใหม่ ฉะนั้น คุณอย่าโกรธผมนะ คุณเป็นดาวสภาคนรู้จักคุณทั่วประเทศ ฉะนั้น ผมจะได้มีคนรู้จักทั่วประเทศ เวลาคุณขึ้นพูดผมก็จะมีเรื่องกับคุณ เพื่อที่จะโปรโมทตัวเอง” ส.ส. รังสิมา เล่าถึงข้อเท็จจริงกรณีที่กำลังเป็นข่าวดัง
ก็ดูเหมือนจะเป็นการสร้างตัวตนที่บิดเบือนจริยธรรมจนหลายฝ่ายรับไม่ได้ อย่างล่าสุด ก็มีตัวแทนนักศึกษา4 สถาบัน จากจังหวัดสุรินทร์ ออกมาต่อต้านพฤติกรรมของ ส.ส.สุรินทร์ รายนี้ เพราะทั้งไม่ให้เกียรติสตรี และเสื่อมเสียคนในจังหวัดสุรินทร์ด้วย
“ทุกคนจะมีพฤติกรรมอย่างไร ไม่ใส่ใจหรอก แต่การถ่ายทอดสู่สาธารณะ อย่างครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดสด สังเกตมั้ย.. ถ่ายทอดสดทุกครั้งเขาจะมีพฤติกรรมแบบนี้ทุกครั้งเลย ยิ่งจากการพูดกับเขาก็รู้เลยว่าเขาไม่ปกติ”
ส.ส.-ส.ว. ไม่ได้มีหน้าที่ 'เห่าไปวันๆ'
ส.ส. รังสิมา เผยอย่างหมดเปลือกว่าไม่ได้ถือโทษอะไรกับคำพูดคำจาดังกล่าว แน่นอนละว่าผู้ที่มีสติสัมปชัญญสมบูรณ์ย่อมแบ่งแยกความผิดชอบชั่วดี ควบคุมพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ที่ซ่อนเร้นในจิตใจได้
“เราก็ไม่ได้ถือสาเขามากหรอก เพราะว่าคนประเภทนี้เขาต้องมีปัญหาทางจิต.. ถูกมั้ย? จากการที่เราได้พูดคุยกับเขาถ้าคนดีๆ เขาไม่ทำอย่างนี้หรอก คนดีมันต้องละอาย มันต้องมีความเกรงกลัว และพฤติกรรมอย่างนี้คนปกติเขาไม่ทำกันหรอก แล้วยิ่งเป็นผู้แทนราษฎร ถ้ามีจิตปกติเขาคงไม่เป็นแบบนี้
“เราไม่เถียงกับเขา ยิ่งทำให้เขาได้ใจมากขึ้น เรายิ่งจะเป็นฝ่ายเสียถ้าไปทะเลาะกับคนบ้า คนบ้ามันทำอะไรมันไม่ผิดไง ฉะนั้น เราอยู่เฉยแล้วฟัง สังคมจะประณามเขาเอง”
ส.ส.หญิง ยืนยันว่าส่วนตัวไม่มีการดำเนินการใดต่อ ส.ส. เพื่อไทย คู่กรณีรายนี้ เพราะเข้าใจในพฤติกรรม อีกอย่างกระบวนทางยุติธรรม สังคมจะลงโทษเขาเอง
“ทุกคนมีทีพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดี แต่ที่ไม่ดีก็ไม่ควรจะให้สังคมรับรู้รับทราบ และส่งผลกระทบกับคนอื่นเขา มันไม่ได้เสียเขาคนเดียวนะ มันเสียทั้งพรรค มันเสียถึงผู้นำของเขา มันต้องมีมาตรการลงโทษ สังคมลงโทษ โดยไม่เอาเขาไปออกสื่อ เขาจะได้เลิกสักที แล้วฝากด้วยว่าอย่าเอาแบบนี้เป็นตัวอย่าง ให้ทำงาน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่ดังบนความทุกข์ของคนอื่น บนความเดือดร้อน บนความเสื่อมเสียของสถาบันนิติบัญญัติ”
เลือกตั้งคราวหน้า คนแบบไหนที่คุณจะเลือก?
ในฐานะประชาชนคงไม่มีใครอยากเห็นนักการเมืองผู้ทรงเกียรติ ผู้ทำหน้าที่บริหารงานบ้านเมืองประพฤติไม่เหมาะ คุณได้ยศ ได้ตำแหน่ง ได้เครื่องราช แล้วประชาชนได้อะไร
ผศ.ดร.อรทัย ก๊กผล ผู้อำนวยการวิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ถ้อยคำหรือการกระทำที่มันเกิดผลกระทบคนก็ไม่ควรอยู่แล้ว โดยเฉพาะการพูดจาส่อเสียด ไร้จริยธรรม ในที่ประชุมสภาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง “เราไม่อยากเห็นนักการเมืองระดับชาติมาพูดอย่างนี้ ในเรื่องที่มันไม่สมควร”
พิจารณาอีกมุมหนึ่งในการประชุมสภาฯ นั้นมีข้อยกเว้นในเรื่องการเอาผิดทางกฎหมาย ในเรื่องการพูดโต้แย้งระหว่างการประชุม ซึ่งตรงนี้เองก็เป็นช่องว่างให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโชว์ความกร่างได้ ผศ.ดร.อรทัย อธิบายว่า ถึงแม้จะมีคณะกรรมการจริยธรรมของสภาฯ ที่ดูแลพฤติกรรม ส.ส.-ส.ว. ระหว่างการประชุมโดยตรง ก็ไม่ได้กำราบให้ท่านสมาชิกทั้งหลายเกรงกลัว
“ คณะกรรมการจริยธรรมของสภา เขาทำหน้าที่ตรวจสอบดูแลโดยตรง มอนิเตอร์พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่มันไม่ผิดกฏหมาย หลับก็ไม่ผิด หรือดูรูปโป๊ในสภาฯ ถามว่ามะนผิดมั้ย..มันไม่ผิด แต่มันควรทำมั้ย? มันเป็นเรื่องสำนึก ทีนี้สำนึกบุคคลมันไม่พอ มันก็จะเรื่องของจริยธรรมเข้ามากำหนด”
แต่ดูเหมือนจริยธรรมไม่สามารถกำหนดขอบเขตความประพฤติของนักการเมืองหลายๆ ท่านได้เลย “เราอยากเห็น ส.ส. ทำงานเป็นตัวตนของตัวเองมากขึ้น อยากเห็น ส.ส.มองประโยชน์ประชาชน มองประโยชน์ประเทศจริงๆ จังๆ เพราะคุณเป็นคนสำคัญมาก อย่าหวังแค่เพียงชนะเลือกตั้งวันนี้”
ภาคสังคมต้องมีกระตุ้นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ตระหนักถึงคุณธรรมจริยธรรมมากกว่านี้ ด้านนักการเมืองเองได้รับเลือกกรุณาปฏิบัติงานอย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรี อย่าให้ประชาชนต้องมาก่นด่าหรือสาปแช่งต่อพฤติกรรมทรามๆ ของท่านเลย
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE
------------------------