ประเด็นร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัยยังมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง นโยบายหรือการรณรงค์ก็ยังคงออกมาเป็นประจำ แต่ทำไมจำนวนผู้ดื่มไม่ลดลง นับวันมีแต่เพิ่มขึ้น เกิดอะไรกับสังคมไทย กฎหมายที่ออกมาเป็นเพียงแค่ตัวอักษรหรือศิลาจารึกที่บันทึกไว้ให้เห็นผ่านตาแค่นั้น
การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ เด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ นักเรียน นิสิต นักศึกษา นั้นมีมานานแล้ว ไม่ใช่เฉพาะบริเวณรอบสถานศึกษาในกรุงเทพฯ สังคมไทย การบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยยังอ่อนแอเกินไป ผู้ใช้ก็ไม่ได้ปฏิบัติกันอย่างแท้จริง และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตรวจจับอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่ก็จับกุมหรือตรวจตรา เป็นช่วงๆ ไป
ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณมหาวิทยาลัย อาจเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทำให้เยาวชนหาซื้อเหล้าได้ง่าย ผู้ประกอบการขายเหล้าออกสินค้าเหล้าใหม่เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อดึงความสนใจเช่น เหล้าปั่นที่ดื่มง่าย มีรสหวาน จึงทำให้นักดื่มอายุลดลง เด็กเข้าสู่วงจรน้ำเมามากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กอาจก่อเกิดปัญหาทางสังคม เช่น การมีเพศสัมพันธ์ ตั้งครรภ์ ทำแท้ง เรียนไม่จบ ทะเลาะวิวาท เป็นต้น
น้ำเมารอบมหา’ลัย ซื้อง่าย ขายคล่อง
จากการสำรวจของทีมข่าว Live ผู้จัดการรายวันได้สุ่มลงพื้นที่สำรวจ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย” และ “มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์” พบว่าบริเวณทางเข้าออกของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ทั้งด้านหน้าและหลังเต็มไปด้วยร้านเหล้า เมื่อใครสัญจรมาเป็นต้องเห็น ร้านเหล่านี้ตั้งไม่ไกลจากสถาบันการศึกษาซึ่งมีระยะทางประมาณ100เมตร
ในส่วนของร้านสะดวกซื้อระยะทางที่ใกล้ที่สุดประมาณ 50 เมตรและร้านเหล้าส่วนมากจะเปิดให้บริการ ในช่วงเวลาที่นักศึกษาเริ่มทยอยกลับบ้าน ด้านมหาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ร้านใหญ่ๆจะอยู่ฝั่งตรงข้ามของมหาวิทยาลัย ในขณะที่ร้านเล็กๆจะเปิดตามใต้หอพักเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นลักษณะร้านเหล้าริมทาง
จากการพูดคุยกับนักศึกษาทั้ง 2 มหาวิทยาลัยแล้วได้ข้อมูลว่า ตามร้านสะดวกซื้อใต้หอขายตลอดทั้งวัน ไม่มีการตรวจบัตรประชาชน ใครก็สามารถซื้อได้ ขายเด็กที่อยู่ในชุดศึกษาอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งๆที่รู้ว่ามีกฎหมายห้ามขาย บางทีซื้อใส่แก้วกัฟในเซเว่นแล้วไปก็ไม่มีใครทราบ หากถามถึงเหตุผลที่เลือกร้านแถวมหา’ลัยตอบเป็นเสียงเดียวว่า “เพราะอยู่ใกล้ที่เรียน โปรโมชั่นน่าสนใจ ยังไม่อยากกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่ารถไปที่ไกลๆ สุดท้ายก็หน้ามหา’ลัยง่ายที่สุด”
ส่วนร้านเหล้าเองก็ไม่มีการตรวจบัตรเช่นกัน เดินไปนั่งได้เลย ถ้าตำรวจลงพนักงานจะมาถามอายุว่าเกิน 20 ปีหรือยัง ส่วนใหญ่ร้านบริเวณนี้จะเป็นร้านนั่งเรื่อยๆ เวลาการปิดร้านก็เที่ยงคืน แต่มีบางร้านที่แอบเปิดเกินเวลา บางร้านแอบเปิดถึงตี 4 ดึงเอาบานเหล็กลงมาเกือบสุดเสมือนปิดร้านแล้ว และเรื่องชุดนักศึกษาจริงๆมันก็ห้ามใส่เข้าร้าน แต่เหมือนกับว่าร้านก็อยากรักษาลูกค้า อยากได้ตังก็ปล่อยให้เข้ามานั่งได้จนเป็นเรื่องธรรมดา พอตำรวจลงตรวจก็มีเสื้อให้เปลี่ยน ใส่ทับเลยง่ายๆสบายๆ บางร้านก็ไล่ไปที่อื่นก่อน ตำรวจกลับไปค่อยเข้ามานั่งต่อ
นักดื่ม(หน้าใหม่) ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด
จากการสํารวจพฤติกรรมการดื่มสุราของประชากรใน ปี 2554 พบว่าประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปจํานวน 53.9 ล้านคนโดยผู้ชายมีอัตราการดื่มสูงกว่าผู้หญิงประมาณ 5 เท่า (ข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ) การละเลยของผู้ใหญ่กลายทำให้เป็นช่องโหว่ของสังคมที่มีแต่รูรั่วเต็มไปหมด การครองอันดับหนึ่งสำหรับเรื่องนี้คงหนีพ้นนักดื่มหน้าใหม่อย่างบรรดาเด็กนักเรียนและนักศึกษา คาดการณ์ว่าในปี2555น่าจะมีจำนวนนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผู้หญิง
เมื่อก้าวเข้าสู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วสิ่งที่ตามคงไม่พ้น “เพื่อน” “รุ่นพี่” สองกลุ่มนี้นับว่าได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญของการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ประเพณีของมหาลัยวิทยาลัยมีการต้อนรับรุ่นน้องหรือที่เรียกกันว่า “รับน้อง” เป็นประเพณีที่สืบเนื่องต่อๆกันมา ในแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีการรับน้องแตกต่างกันไป แต่สุดท้ายส่วนมากจบลงเหมือนกันนั้นคือการ “สังสรรค์” กิจกรรมที่เชื่อมความสัมพันธ์พี่น้องเพื่อน
ตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้พูดถึงประเพณีการรับน้องว่าการรับน้องมีทุกๆปี เป็นการทำกิจกรรมร่วมกัน กิจกรรมของแต่ละมหาลัยก็จะต่างกันไป ไม่มีรูปแบบตายตัว ถ้าพูดถึงร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย ถ้าพี่ไม่ชวนน้องมา น้องก็ไม่รู้ แต่เมื่อพามาแล้วถ้าน้องไม่ติดใจไม่เป็นอะไร หากติดใจกับแสงสีเสียงและได้ลิ้มรสของเหล้าแล้ว เขาก็คิดว่าในเมื่อรุ่นพี่ทำแบบนี้ เมื่อมีรุ่นน้องก็ต้องทำแบบนี้ สิ่งเหล่านั้นกลายเป็นรุ่นสู่รุ่น
“สถานศึกษาพ่อแม่ส่งมาให้เราเรียนหาความรู้ หาประสบการณ์ แต่พอมีร้านพวกนี้อยู่รอบมหาวิทยาลัย ถึงวุฒิภาวะจะโตขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งล่อตาล่อใจ ถ้าบอกว่าครั้งคราว คำว่า “ครั้งคราว” มันจะทำให้เขาเปลี่ยนเป็น “อาจิณ” มันเป็นเรื่องที่ยากถ้าจะยกเลิกร้านพวกนี้ แต่เราจะทำอย่างไรไม่ให้ร้านพวกนี้เกิดมาอีก เพื่อนเป็นตัวหลักก็ว่าได้ เพื่อนดื่มเราไม่ดื่มมันก็แปลก ถ้าเป็นในกลุ่มผู้ชายก็เรื่องความแมน” ตัวแทนนักศึกษากล่าว
ทำเพื่อเด็ก... เป็นแค่หน้าที่?
เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจรอบมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ร้านเหล้าและร้านสะดวกซื้อใต้หอพักรอบสถานศึกษาได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เพื่อป้องกันนักดื่มหน้าใหม่และเป็นต้นแบบของสถานศึกษาอื่น พร้อมกับเจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องดื่มแอลกกอฮอล์ได้ตักเตือนและให้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตั้งเป้าว่าจะดำเนินการขยายผลครอบคลุมทั้ง 6 กลุ่มเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
รองปลัดกทม.กล่าวถึงพื้นที่โซนนิ่งรอบมหาวิทยาลัยว่าถ้าเป็นร้านเหล้า มีดนตรี ต้องอยู่นอกเขต 300เมตร ส่วนระยะทาง500เมตรยังไม่เป็นรูปธรรม ยังอยู่ในชั้นกระบวนการของสาธารณสุข และร้านที่จำหน่ายยังขาดความรู้ในเรื่องกฎหมายอยู่มาก เราจะบูรณาการในเชิงของกฎหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันได้ เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดทางกฎหมาย
ส่วนเรื่องการจัดการกับร้านที่เปิดให้บริการอยู่ในตอนนี้คือดำเนินคดีทุกร้าน บางร้านที่เสียงดังเกินทางกทม.เป็นผู้รับผิดชอบ ในครั้งต่อไปหากมีการตรวจสอบแล้วยังพบว่ากระทำผิดอีกโทษจะหนักขึ้นอาจเป็นทั้งจำทั้งปรับ ปัญหาหลักๆ ของประเทศไทยคือคนไทยไม่ทราบกฎหมาย ไม่เคารพกฎหมาย จึงทำให้ยากในการแก้ไข และจะให้เจ้าหน้าที่ไล่จับตลอดเวลาก็คงเป็นไปไม่ได้
มาจับตาดูกันต่อไปว่าจำนวนผู้ดื่มจะลดลงหรือไม่ และมาตราการโซนนิ่งจะนิ่งเป็นรูปธรรมอีกนานแค่ไหน มันน่าแปลกใจที่ผู้ใหญ่ก็มีการรณรงค์บ่อยครั้ง แต่ทำไมปัญหาเหล่านี้ยังไม่จางหายไปเสียที ในทางกลับกันมันขยายขึ้นเป็นวงกว้าง หากจริงใจและจริงจังจำนวนผู้ดื่มคงจะลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือการลงพื้นที่ในครั้งนี้จะเหมือนเป็นการทำผักชีโรยหน้า ที่ทำไปเป็นเพียงหน้าที่ที่ต้องทำหรือไม่
ผ่านมาหลายปี 10 ปีก็ยังมีเรื่องของแอลกอฮอล์ให้ได้เห็นกันทุกวันไม่เบื่อกันหรือไร? ช่วงไหนที่มีการรณรงค์ควบคุมแอลกอฮอล์ก็จะคึกคักเป็นพิเศษ แต่เมื่อภารกิจทุกอย่างเสร็จสิ้นก็เงียบเบาเป็นเป่าสาก จำนวนผู้ดื่มอย่างวัยรุ่นก็ยังไม่ลดลง สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นการสะท้อนให้เห็นของการรับผิดชอบอย่างได้ชัดเจน...
กฎหมายห้ามจำหน่ายใกล้สถานศึกษาแต่ไม่ได้ห้ามดื่มใกล้สถานศึกษา แล้วอย่างนี้ จะจำนวนจะลดลงได้อย่างไร... น่าตลกดี
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE