xs
xsm
sm
md
lg

'กุ๊บกิ๊บ – สุมณทิพย์' ถึงไม่ใช่นางเอก! แต่ก็เป็นเจ้าหญิงของ 'มาริโอ้'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ถูกจับผิด.. เห้ย!ถูกจับตามองจากบรรดาแฟนคลับ(จำนวนหนึ่ง)ของพระเอกซุปตาร์ดังข้ามประเทศ 'มาริโอ้ เมาเร่อ' งานนี้คงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ 'กุ๊บกิ๊บ - สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย' คือหญิงสาวผู้กุมหัวใจดวงน้อยของซุปตาร์คนดังเอาไว้เสียอยู่หมัด ล่าสุดกรณีภาพคู่ชู้ชื่นในแดนปลาดิบ แม้ไม่ได้แนบชิดในอิริยาบทหวือหวา แต่กลับสร้างความไม่ชอบใจแก่แฟนคลับแดนมังกรของแฟนหนุ่ม ถึงขั้นสั่นคลอนเรตติ้งในวงการบันเทิงต่างแดนของมาริโอ้เลยทีเดียว!!!

เรื่องของเรื่อง เกิดจากภาพถ่ายคู่ธรรมดาๆ ของเขาและเธอในประเทศญี่ปุ่น หลังถูกโพสลง instagram @gggubgib เมื่อกลางเดือนกันยายน เป็นตัวจุดชนวนให้แฟนคลับชาวจีนลุกฮือขึ้นมาโจมตีเธอ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่อาจส่งผลลบต่อแฟนหนุ่มในต่างแดน

เพราะอะไร ก็เพราะว่าทั้งสองประเทศกำลังมีกรณีพิพาทเรื่องกาะเตี้ยวอี๋ว์ในการอ้างสิทธิเป็นเจ้าของเกาะ ตรงนี้เองแฟนคลับแดนมังกรถือว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมหักหาญน้ำใจกันมาก กระแสวิพากษ์โจมตีไปถึงความไม่รู้กาลเทศะฯลฯ ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ลบภาพออกและแสดงความเสียใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น

กุ๊บกิ๊บ อาจไม่สวยมีออร่าขึ้นแท่นนางเอกแต่ก็มีงานแสดงในบทเด่นๆ ออกมาให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง แล้วอะไรกันที่ทำให้พระเอกสุดฮอตเลือกหญิงสาวผู้นี้มาดูแลหัวใจ แถมเปิดเผยว่าคบหากันอยู่แบบไม่หมกเม็ด M-lite จะเมินเฉยได้อย่างไร ขอตามกระแสร้อนเชิญเจ้าตัวมาพูดคุยกันเสียหน่อย..

รับฟังทุกเสียงด่าทอจากแฟนคลับ
ถ้าใครเสพสื่อในวงการบังเทิงบ้างก็คงทราบกันดีว่าพระเอกคนดัง มาริโอ้ เมาเร่อ มีหวานใจสาวกุ๊บกิ๊บค่อยดูแลอยู่แล้ว และทั้งคู่เปิดเผยเรื่องราวความรักต่อสาธารณะชนตลอดมา ออกปากชัดเจนว่าเป็นแฟนกัน คอยดูแลเป็นเพื่อนรู้ใจให้คำปรึกษากันในทุกๆ เรื่อง จะว่าไปก็ไม่รู้ว่าการเปิดตัวแฟนสาวของพระเอกคนดังนั้นส่งผลกระทบต่อเรตติ้งบ้างหรือเปล่า

เราเคยคุยกันแล้วเห็นตรงกันว่า ความรักครอบครัว เพื่อน มาก่อนงาน เพราะฉะนั้นเราไม่กลัวเพราะเราก็ไปทำอย่างอื่นได้ แต่ความรู้สึกของคนในครอบครัว ความรู้สึกของคนรัก ความรู้สึกของเพื่อนเราสำคัญกว่า..สำคัญกว่าถ้าต้องเทียบจริงๆ คนเราอย่าพูดว่า..ผมรักแฟนคลับมากครับ ผมรักแฟนๆ มาก เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะรักแฟนคลับมากกว่าครอบครัวของคุณ มากกว่าคนรักของคุณ

“เพราะว่าจริงๆ ต้องบอกว่าความรักของคุณมันเลื่อนลอย คือรักมั้ย..รักที่เขาซัปพอร์ตเรา รักที่เขาให้กำลังใจเรา แต่จริงๆ แล้วเขาก็ยังไม่รู้จักตัวตนของเราจริงๆ หรอก แต่ว่าครอบครัวหรือว่าเพื่อนฝูง คนรัก เขารู้จักตัวตนเราจริงๆ ยังไงเราก็ต้องคนที่อยู่ใกล้ตัวก่อนอยู่แล้ว”

ถึงอย่างไรเธอก็รู้สึกขอบคุณแฟนคลับทั้งของตนและแฟนหนุ่มที่มาชื่นชอบและติดตามผลงานของทั้งคู่ กุ๊บกิ๊บเปิดใจว่าในบางครั้งก็ผิดพลาดไปโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างกรณีโพสภาพเที่ยวแดนปลาดิบที่ทำเอาแฟนคลับบางกลุ่มเคืองโกรธเพราะมีนัยบางอย่างเรื่องข้อพิพาทระหว่างประเทศ

“หนูคิดว่าคนไม่รู้ย่อมไม่ผิด คนเราบนโลกนี้มีอีกหลายเรื่องที่เราไม่รู้ เยอะมาก มันไม่ใช่ว่าเราจะไม่รู้ไปเสียทุกคน คนไม่รู้คือคนไม่ผิด แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้แล้วว่าทำผิดขอโทษก็คือจบกัน เพราะว่าถ้าคุณรู้แล้วยังทำผิดต่ออันนั้นไม่น่าให้อภัย แต่ถ้าคุณรู้แล้วคุณยังทำผิดต่ออันนั้นมันไม่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณไม่รู้แล้วทำผิดพลาดไปขอโทษอันนั้นคือจบ”

กุ๊บกิ๊บ เปิดเผยว่ายินดีรับรู้ในทุกๆ เรื่องไม่ว่าทั้งคำติก็ดีหรือคำชมก็ดี แต่จะเลือกที่จะไม่เก็บสิ่งที่เป็นปัญหาบั่นทอนใจเอาไว้

ใครๆ ก็รู้จัก กุ๊บกิ๊บในฐานะแฟนมาริโอ้?
กุ๊บกิ๊บ เล่าอย่างไม่ปิดบังว่า ถ้านับเวลาที่รู้จักและคบหากันมาก็ราวๆ 9 ปี เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมา สนิทกันตั้งแต่ทั้งคู่ยังไม่เข้าวงการบันเทิง จนในวันนี้แฟนหนุ่มกลายเป็นพระเอกดังข้ามประเทศ ส่วนเธอเองก็เป็นนักแสดงไฟแรงที่มีผลงานให้ได้ชมทางจอทีวีอย่างต่อเนื่อง

ถามว่าการที่เป็นคนดังทั้งคู่ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้นหรือเปล่า หญิงสาว กล่าวขึ้น

ไม่คะ เราใช่ชีวิตกันปกติ ไม่โลดโผดอยู่แล้ว ไม่ได้ทำอะไรผิดหรือไม่ถูกต้อง แต่ต้องวางตัวให้เหมาะสม หมายถึงว่าเราต้องรู้ว่าอะไรที่ทำได้อะไรที่ทำไม่ได้ เราจะรู้ว่าเราไม่เหมือนคู่รักคนอื่นๆ ที่อยู่ดีๆ จะมากอดมาหอมกัน ทำไม่ได้อยู่แล้ว เราต้องรู้จักวางตัวให้เหมาะสม ต่อให้พวกหนูไม่ได้เป็นดาราเราต้องรู้จักวางตัวให้เหมาะสมอยู่ดี ใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิมแค่ต้องรู้จักกาละเทศะมากขึ้น

ความที่เริ่มรู้จักกันในสถานะเพื่อน ความผูกพันก็เชื่อมโยงคนสองคนจนเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ถึงสถานะความสันพันธ์จะเปลี่ยนแปลง แต่ความเป็นตัวเองของทั้งคู่นั้นยังเหมือนเดิม

ตอนแรกต้องบอกว่าเขาขี้เหร่มาก..เมื่อก่อนนี้ ไม่ใช่แบบทุกวันนี้เลย หัวโล้น ใส่แว่น มีสิวเต็มหน้า เต็มหัวเลย แล้วก็แต่งตัวไม่ใช่สไตล์เรามาก แต่เหมือนแบบมาเจอกันตอน ม.ปลาย แล้วเพื่อนก็แนะนำนี่เพื่อนเรา ก็อ้าว..คนนี้เอง ไล่ลำดับไปมา โอเค..ก็รู้จักกันมานานแล้ว แต่ว่าก็ห่างหายกันไป

“และก็เขาก็เหมือนเข้ามาคุยกับเราก่อน ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเพื่อน คบกันแบบเพื่อนๆ เพื่อนหนูก็คือเพื่อนเขา เพื่อนเราคือเพื่อนกลุ่มเดียวกัน มันก็เลยกลายเป็นแบบเฮไหนเฮนั้น ตอนนั้นมันก็ไม่เชิงจีบเป็นแฟนเป็นเพื่อนๆ กันมากกว่า มันก็เลยเหมือนซึมซับความรู้สึกดีๆ และเราก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่น่ารัก และก็ตลกไม่เหมือนคนอื่น แปลกดี ก็เลยรู้ว่าโอเคนะ ก็เลยคบดูกันมาเรื่อยๆ ไม่เคยรู้เลยมาขอเป็นแฟนกันตอนไหน รู้อีกทีก็คือผูกพันกันไปแล้ว”

ประกายแห่งความสุขในแววตาของเธอปรากฏขึ้นเมื่อพูดถึงชายหนุ่มคนรู้ใจ กุ๊บกิ๊บพูดถึงความประทับใจในตัวผู้ชายที่หญิงสาวหมายปองมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ

“โอ้ เป็นผู้ชายที่หาได้ยากในสมัยนี้ คือไม่ใช่คนที่เฟอร์เฟกต์ เขาก็มีข้อเสียของเขา แต่ข้อดีของเขามันเป็นข้อดีที่ผู้หญิงหลายคนอยากได้ผู้ชายแบบนี้ เขาเป็นคนรักครอบครัว เขาเป็นครอบครัวที่อบอุ่น และก็เลี้ยงเขามาดีมาก เขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยน รักครอบครัวมาก รักแม่ ให้เกียรติผู้หญิง เขาไม่ใช่เป็นคนดี 100 เปอร์เซ็นต์นะ แต่เป็นคนที่ไม่มีเหลี่ยม หนูว่ามันหาได้ยาก สมัยนี้ผู้ชายแพรวพราวมากและก็ไม่ค่อยให้เกียรติผู้หญิง”

เบื้องหลัง.. ซุปตาร์
ความที่ทั้งคู่เป็นนักแสดงเป็นบุคคลสาธารณะ จึงมีคนสนใจไถ่ถามเรื่องราวความรักเข้ามามากมาย อย่างพระเอกลูกครึ่งเองก็ให้สัมภาษณ์อยู่บ่อยครั้งว่าหญิงสาวอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเขาในวันนี้

“ส่วนใหญ่เราดูแลด้านจิตใจมากกว่า หนูกับโอ้จะเป็นคนที่คุยกันทุกวันแล้วก็เขาจะอยากเล่าอะไรให้เราฟัง ในชีวิตเขาที่เขาเจอในทุกๆ วันโดยที่เราไม่จำเป็นต้องถาม เหมือนเพื่อนคะ เราคุยปรึกษาได้ทุกเรื่อง สมมุติเขามีความคิดของเขาในแบบผู้ชายแบบหนึ่งแล้วเราก็จะบอกว่าในความคิดของเรามันประมาณนี้นะ และลองไปคิดดู หนูคอยซัปพอร์ตเขาตรงนี้มากกว่า”

แน่นอนมีหญิงสาวจำนวนไม่น้อยที่หมายปองแฟนหนุ่มของเธอ แต่เธอก็ออกตัวในทันทีว่าไม่ใช่ผู้หญิงงี่เง่าคอยตามหึงตามหวง “หนูเป็นคนไม่ขี้หึง ไม่หวงเลย แต่ต้องให้เกียรติฉันนะ”

กุ๊บกิ๊บ เชื่อว่าการที่ใครสักคนผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอนั้นเป็นพรหมลิขิต มันต้องมีบางอย่างที่ทำให้คนเป็นพันๆ ล้านคนได้มาเจอกัน มันไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนสัมพันธ์รักในครั้งนี้จะดำเนินหน้าต่อไปอย่างไรเธอเปิดใจว่าไม่ได้คาดหวังเพียงแต่ทำทุกวันให้ดีที่สุดก็พอ

“วันนี้ดีแล้ว ถ้าไม่ใช่วันหน้ามันจะจบ เขามีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า จะไปก็โอเค รู้สึกดีใจที่ได้รู้จักได้สนิทกัน เขาก็ยังคงเป็นครอบครัว เป็นเพื่อนหนูต่อไป เพราะว่ารู้จักกันมาแทบจะครึ่งชีวิตแล้ว”

หลายเสียงต่างพูดไปทำนองเดียวว่า เธอเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาแบบสุดๆ เพราะกุมหัวใจหนุ่มหล่ออย่างมาริโอ้เอาไว้ได้ แต่กุ๊บกิ๊บกลับรีบปฏิเสธทันที

ไม่น่าอิจฉา เพราะว่าสำหรับหนู เขาเดินออกมาจากที่ทำงานก็ไม่ใช่หนุ่มฮอตอะไร เขาก็คือผู้ชายปกติธรรมดา อย่างที่หนูบอกโอ้เป็นคนดีแต่ไม่ใช่ผู้ชายเฟอร์เฟกต์ เขามีข้อดีและก็ข้อเสียในตัวเอง แต่ว่าอย่างหนึ่งหนูรู้สึกว่าหนูไม่ใช่คนน่าอิจฉา เรียกว่าโชคดีดีว่า โชคดีที่ได้เจอผู้ชายแบบน่ารักแบบเขา ด้วยนิสัย ด้วยความคิดของเขา หรือการปฏิบัติตัวของเขา

ในจอตลกโปกฮา นอกจอก็ไม่เบา
เธอเองก็เป็นนักแสดงที่มีผลงานให้ผู้ชมได้อมยิ้มอย่างต่อเนื่อง กุ๊บกิ๊บ เล่าว่าเมื่อก่อนความคิดเรื่องเป็นดาราไม่เคยอยู่ในหัวเลย แค่ถ่ายโฆษณาเล็กๆ น้อยๆ มีค่าขนมมาเท่านั้นเอง ส่วนบทบาทที่เธอได้รับในช่วงหลังๆ จะดูตลกๆ ทำเอาผู้ชมติดใจกับความน่ารักกรุ้มกริ่มที่เธอแสดงออกมายิ่งนัก

“จริงๆ แล้วไม่เหมือนเลย ละครที่หนูได้รับบทส่วนใหญ่มันจะแจ๋นๆ และก็ตลกๆ แรดตลก นึกออกมั้ย ซึ่งในชีวิตจริงหนูจะไม่เป็นแบบนั้น ออกจากห้าวๆ แบบขำๆ ฮาๆ อีกแบบหนึ่ง ห่ามๆ แบบผู้ชายหน่อย”

เชื่อว่า..แฟนละครจำนวนไม่น้อยก็คงติดภาพจากบทบาทของเธอในหลายๆ ถึงไม่ใช่นางเอกแต่ก็เป็นตัวละครหลักที่เพิ่มอรรถรสดีเยี่ยม

“รู้สึกดี เขาเชื่อในการแสดงของเรา เล่นแล้วแบบคนดูเชื่อ เคยรู้สึกเหมือนกันว่าจะดีหรอที่คนเขามองเราเป็นแบบนั้น แต่เขาเชื่อว่าเราเป็นแบบนั้นจริงๆ แสดงว่าเราเล่นดี เราทำให้เขารู้สึกได้ว่า เป็นแบบนั้นจริงๆ”

เคยรียนการแสดงด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่กับ หม่อมน้อย - ม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล

“ตอนแรกที่เรียนก็ไม่คิดว่าจะมาใช้ได้จริงในงานละคร คิดว่าเรียนเฉยๆ ฝึกจิตใจ สมาธิ แต่ว่ามาใช้จริงรู้สึกว่ามันดีมาก เรียนการแสดงหนูว่ามันไม่ใช่เพื่อว่าเราจะมาแสดงยังไง เรียนเพื่อที่ศึกษาพฤติกรรมของคน เรียนแบบพฤติกรรมของคนจริงๆ หนูชอบดูคน ชอบศึกษาพฤติกรรมคนเพราะว่ามันเอามาใช้กับการแสดงของเราได้”

จะว่าไปเธอเป็นนักแสดงไฟแรงที่ทำการบ้านหนักพอสมควรเลยทีเดียว “หนูเป็นคนที่ต้องอ่านบททำการบ้านก่อนเสมอ จะไม่อยู่ดีๆ ไปนั่งหน้าเซตแล้วถ่ายเลย จะไม่ใช่แบบนั้น ทำการบ้านก่อน ทำความเข้าใจกับบทมาก่อน ก่อนจะเล่นเรื่องนึงอ่านบทมาไม่ต่ำว่า 10 รอบ เพื่อให้แบบเราซึมซับกับบทนั้น”

“กับวงการบันเทิง..ไม่คาดหวังเลยคะ คิดว่ามีโอกาสมาก็ทำวันนึงไม่มีก็ทำอย่างอื่นได้ หนูคิดว่าหนูมีสองมือ มีสองเท้า หนึ่งหัวสมองเหมือนเดิม ก่อนหน้านี้หนูไม่เข้ามาในวงการนี้หนูก็มีทางเดินชีวิตของหนู วันนึงหนูได้เข้ามาถ้าไม่ใช่ ถ้าวันหนึ่งมันหมดไป ก็ไปทำอย่างอื่นได้มีความสุขได้เหมือนกัน”

งานสมดุลกับความรัก
เรียกว่าชีวิตของกุ๊บกิ๊บในช่วงนี้อยู่ในช่วง lucky in love lucky in game ก็ว่าได้ เพราะทั้งเรื่องงานหรือเรื่องความรักก็ดูจะแฮปปี้ไปเสียหมด

“ทุกอย่างในชีวิตตอนนี้มันโอเคมาก มันลงตัวมาก ถ้าวันนึงต่อไปจากนนี้การงานจะลดลง แต่ความรักยังเหมือนเดิม ก็ยังมีความสุขอยู่ดี(ยิ้ม) หรือว่าวันนึงความรักจะลดลงการงานจะดีขึ้นกว่าเดิม มันก็คือความสุขอยู่ดี เพราะหนูไม่เคยตั้งเป้าไว้ว่าแค่ไหนฉันจะมีความสุข เท่าที่มีให้มานั้นก็พอแล้ว”

งานละครตอนนี้ที่ทำก็ทำเพราะมีความสุข เลือกทำงานที่เราใช่ไม่ได้ทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว คือเงินก็เป็นส่วนหนึ่งแต่ว่าสุขของเราต้องมาก่อน เพราะรู้สึกว่าต้องเคารพตัวเองเสมอ

“สำหรับหนูมันไม่ใช่เรื่องงานอย่างเดียว เรื่องงานเป็นเรื่องรอง หนูจะให้ความสำคัญกับความรัก ครอบครัว เพื่อนฝูงมาก่อนงานเสมอ คือแต่ละคนมีความคิดที่ต่างกัน สำหรับหนูคิดว่างานมันมีมาแล้วมีไป โอเค..งานทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้มีเงิน

“แต่สิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจเราให้มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันไม่ใช่งาน มันคือความสุขใจต่างหาก มันคือกำลังใจ มันคือรอบข้างที่อยู่ข้างเรา ต้องบอกก่อนว่าวันหนึ่งถ้าเราทำงาน ณ ตรงนี้ไม่ได้ เราไม่สวย เราแก่ หรือเป็นอะไรไป งานก็จะไป แต่คนที่จะอยู่กับเราคือครอบครัว เพื่อนฝูง คนรักหนูก็เลยรู้สึกว่าทุกอย่างตอนนี้มันลงตัวมาก งานทำเพราะรู้สึกดี แฮปปี้”

ให้ความสำคัญกับครอบครัวและความรักมาก่อนแบบนี้ ทีมงานเลยแกล้งหยอกถามว่าทำไมหนุ่มฮอตอย่างมาริโอ้เลือกที่จะรักกุ๊บกิ๊บ เธอก็เล่าให้ฟังอย่างเปิดใจ

“เขาบอกว่าเป็นเพราะเราเป็นคนไปไหนด้วยกันได้ตลอด หมายถึงว่าจะไปกับเพื่อน ไปทำงาน คือทุกที่เขาสามารถมีเราอยู่ได้โดยที่เขาไม่อึดอัดเลย อาจจะด้วยเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แล้วเขาก็บอกว่าชอบที่เราคิดบวก และก็เราเป็นคนที่ไม่เออ..ออตามเขา ผู้หญิงส่วนใหญ่เจอมาริโอ้ก็จะ มาริโอ้คะ..มาริโอ้หล่อน่ารัก.. เขาได้ยินอย่างนี้ทุกวัน

หนูไม่เคยทำตัวว่าเขาเป็นพระเจ้า ไม่ทำแบบว่าเธอคือซูเปอร์สตาร์ สำหรับฉันเธออยู่กับฉันเธอก็คือ ไอ้โอ้ คนเดิมที่รู้จัก หนูไม่มีทางที่จะเย้ยยอ..คิดออกมั้ยคะ คนส่วนใหญ่จะคิดว่าเธอคบกับซุปตาร์เธอจะต้องเอาใจ หนูไม่ใช่หนูคือคนที่ขัดใจ ไม่ดีก็บอกไม่ดี ไม่ใช่ก็บอกไม่ใช่ หนูจะพูด หนูจะมีคนที่มีจุดยืนของตัวเองค่อนข้างชัดเจนมาก

กุ๊บกิ๊บ บอกว่านิยามความรักของเธอเป็นเหมือนครอบครัวไม่ใช่รักกันแบบแฟน เพราะว่าความรักแบบครอบครัวเราจะเข้าใจกัน ให้อภัยกัน และประคองความรู้สึกดีๆ ให้อยู่ได้นาน

เลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
“ความสุข เป็นอะไรที่เราทำแล้วสบายใจ เป็นอะไรที่ทำแล้วไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หนูรู้สึกว่าความสุขมันไม่ใช่แค่ตัวหนูคนเดียว เป็นอะไรที่เราอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องคนอื่นมีความสุขด้วย เพราะว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก” กุ๊บกิ๊บ อธิบายถึงความสุขในรูปแบบของตัวเอง ที่ไม่ใช่เฉพาะตัวเองเท่านั้นแต่คนใกล้ชิดยังมีความหมายในความรู้สึกเป็นสุขของเธอด้วย

หนูเป็นคนร่าเริงมาก เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงก็จริง เป็นคนที่มีจุดยืนของตัวเองก็จริง แต่หนูเป็นคนที่อยู่กับใครก็จะพยายามไม่ทำให้เขาอึกอัด พยายามให้รู้สึกว่าเขาอยู่กับเราแล้วสบายใจ เพราะว่าหนูเชื่อว่าคนเราเวลาที่อยู่ใกล้ใครแล้วสบายใจมันก็จะมีความสุข" 

ในทุกๆ วัน เธอจะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องดีๆ หลายๆ อย่าง

“เป็นคนไม่ใช้ชีวิตแบบซีเรียส แต่ไม่ใช่ใช้ชีวิตไม่จริงจังนะคะ เพราะว่าพยายามใช้ชีวิตทุกวันให้มีความสุข เราคิดแค่ว่าอยากมีความสุขในทุกๆ วัน ชีวิตเราก็จะสดใส ร่าเริง เปล่งปลั่งไปหมดทุกอย่าง ด้วยตัวหนูเองเป็นคนตลกนะ แต่เป็นคนตลกแบบมุกกระเทยนิดนึง คือเป็นคนมีเพื่อนเป็นกระเทยเยอะ เขาเรียกตลกโปกฮา เป็นคนที่ตลกไม่ได้ห่วงสวยหรือพยายามทำให้ตลกแต่เป็นธรรมชาติของตัวเอง”

เธอเปรียบความสุขเป็นท้องฟ้า เป็นสิ่งที่มองเห็นด้วยตารับรู้ด้วยใจ ในหนึ่งวันท้องฟ้าจะคงเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ มีครื้มบ้าง มีสว่างบ้าง เช่นกันชีวิตของคนๆ หนึ่ง ใช่ว่าในแต่ละวันจะมีแต่ความสุขหรือจะพบเจอแต่ความทุกข์ มันต้องมีเสี้ยวนึงที่มีความสุขอยู่ในนั้น

ให้ความสำคัญกับคำว่า 'ครอบครัว' เป็นพิเศษ
ความที่คุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน กุ๊บกิ๊บ เติบโตมาโดยมีคุณแม่เป็นคนดูแลคนเดียวมาตลอด จนทำให้เธอมีความรู้สึกว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ จึงใส่ใจกับความรักและการดูแลเอาใจใส่คนรอบข้างเป็นพิเศษ

ครอบครัวหนูไม่ใช่ครอบครัวที่อบอุ่นเลย แตกแยก ด้วยความที่หนูเห็นว่าครอบครัวเป็นแบบนี้เลยรู้สึกว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ แล้วก็รู้สึกว่าความสุขเราจะไปรอไม่ได้มันต้องเริ่มสร้างจากตัวเราเอง อย่างแม่ก็จะสอนว่าคนเราต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะ อย่าฝืนทำอะไรที่ไม่มีความสุขแล้วสุดท้ายมันจะมานั่งเสียดายเวลาว่า..ไม่น่าเลย หนูก็เลยจะพิถีพิถันกับชีวิตตัวเองสักนิดนึง”

ถึงแม่จะเป็นลูกคนเล็กในบรรดาพี่น้องทั้ง 6 คน แต่เธอก็เติบโตมาแบบไม่ได้รับการโอ๋ โตมาด้วยตัวเอลโดยมีคุณแม่ค่อยอบรมเลี้ยงดู

“ด้วยความที่เรามีแม่เลี้ยงมาคนเดียวก็จะห้าวๆ หน่อย เพราะเรารู้สึกว่าเราต้องปกป้องแม่ ลูกคนเล็กไงก็เลยจะติดแม่มาก ไปไหนมาไหนต้องอยู่กับแม่ตลอด บ้านหนูไม่มีใครโอ๋ใคร คือบ้านหนูเป็นครอบครัวปกติมาก คือต้องบอกว่าครอบครัวไม่ได้สอนเป็นคำพูดแต่การกระทำทุกอย่าง มันทำให้เราคิดด้วยตัวของเราเอง เรารู้จะทำอย่างไรให้ชีวิตเดินไปข้างหน้า เราจะเอาอะไรที่เห็นเราจะเอากลับมาปรับปรุงใช้กับชีวิตเรายังไง”

กุ๊บกิ๊บ พูดถึงความใฝ่ฝันสูงสุดของเธอ “อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ที่มีความสุข คือสิ่งที่หนูคิดว่านี้คือความสำเร็จแล้ว เพราะหนูเป็นคนที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับความรักและครอบครัวมาก อาจเพราะเราเคยขาด เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าเราโตครอบครัวต้องมาก่อน”

อยู่กับปัจจุบันมากกว่าวาดฝันอนาคต
“หนูไม่ใช่คนที่คาดหวังว่าต่อไปชีวิตฉันจะต้องพุ่งสุดๆ ดีสุดๆ แค่วันนี้ทำทุกอย่างเต็มที่ ทุกอย่างที่มีมันพอดีเท่าที่เรารู้สึกพอใจแล้วมันก็โอเค ตอนนี้ทุกอย่างมันพอมันพอเพียงแค่นี้ก็พอ..ถ้าวันนึงมันจะมากกว่านี้ก็โอเค แต่ลดลงก็ไม่เป็นไรเพราะหนูคิดว่าคาดหวังคือสิ่งที่ทำให้เราทุกข์(ยิ้ม)”

เธอ กล่าวว่าการตั้งความหวังเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราเป็นทุกข์ และก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเลือกที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุดมากกว่าคาดหวังกับเรื่องราวในอนาคต

“คนเราไม่สามารถรู้ได้ว่าวันข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้นไม่มีทางรู้แน่นอน หนูเคารพแง่คิดของคนที่บอกให้คิดอนาคตไว้ 5 ปีนะ หรือคิดไว้ล่วงหน้า 5 ปี 10 ปี แต่สำหรับหนูไม่ใช่เพราะหนูคิดว่าการคิดอนาคต 5 ปี 10 ปี นี่แหละ มันทำให้คนเราทุกข์ จนลืมมองวันนี้

“ถ้าวันหนึ่งเราไม่ถึงเป้าหมายละ.. ชีวิตมนุษย์เราส่วนใหญ่ทำใจไม่ได้อยู่แล้ว เราควรจะทำใจให้ได้เสียตั้งแต่วันนี้ว่าถ้าวันนี้เราทำทุกอย่างดี พรุ่งนี้มันก็ต้องดี ถ้าวันนี้คุณยังมั่วแต่ทำไม่ดีแต่คุณยังมองเป้าว่าอีก 5 ปีฉันจะทำอย่างนั้น มันไม่เวิร์ก หรือถ้าคุณทำทุกอย่างดีหมด พอใกล้จะ 5 ปีแล้วเกิดมีอะไรมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา คุณรับไหวหรอ.. มันก็คือความผิดหวัง”

ถามว่ากลัวผิดหวังหรือเปล่า กุ๊บกิ๊บ ตอบว่าไม่กลัวแต่เลือกที่จะคิดในแบบที่เธอเชื่อ “หนูคิดว่าผิดก็เรียนรู้เอา เรียนรู้สิ่งที่เราพลาด เรียนรู้จากสิ่งที่เราผิด แล้วก็เริ่มใหม่ หนูไม่เคยกลัวล้มเลย ล้มแล้วทำไม ล้มแล้วก็ลุกสิ.. ล้มแล้วก็ทำใหม่ บางคนเขายังพลาดมาตั้งเยอะเขายังมีชีวิตอยู่ได้ แต่ว่าไม่ใช่พลาดแล้วพลาดอีกคือเราต้องหัดเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมจากสิ่งที่เราพลาดด้วย เพราะฉะนั้นไม่กลัวเลย ผิดหวัง ผิดพลาดเสียใจ เป็นเรื่องธรรมดามาก”

…...............................
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LITE
ขอบคุณภาพ : instagram@gggubgib



 ประวัติส่วนตัว 

ชื่อ-สกุล : กุ๊บกิ๊บ - สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย
อายุ : 24
วัน เดือน ปีเกิด : 16 กันยายน 2531
การศึกษา : กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ผลงานที่ผ่านมา : งานโฆษณา อาทิ โครงการ to be number 1, พิซซ่า ฯลฯ งานถ่ายแบบ อาทิ นิตยสาร The Boy, Hair, Cheez, Ice ฯลฯ เป็นศิลปินฮิปฮอป แด๊นซ์ วง Baby Booty งานละคร : เงารักลวงใจ, ดวงใจอัคนี, สะใภ้ไม่ไร้ศักดินา, นายสุดซ่า, ข้าสุดแสบ, ลิขิตเสน่หา, แม่ยายที่รัก, ธรณีนี่นี้ใครครอง, มณีแดนสรวง, ปัญญาชนก้นครัว, สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ฯลฯ








กุ๊บกิ๊บ-มาริโอ้ โตมาด้วยกัน
ว่างจากงาน ก็เดินทางท่องเที่ยว
คู่(รัก) โหด มันส์ ฮา
ก๊วนนักแสดงร่วมช่อง

ถ่ายภาพร่วมกับคุณแม่

ผู้หญิงข้า..ใครอย่าแตะ!
เซ็กซ์ซี่นิดนึง
แชะข้ามช่องกับ มิน พีชญา นางเอกวิกหมอชิต




กำลังโหลดความคิดเห็น