อาจยังไม่คุ้นหน้าคุ้นตากันเท่าไหร่...แต่หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มของ 'มีน - อภิษฐา คล้ายอุดม' ก็เล่นเอาสะกิดตาอยู่ไม่น้อย ประเดิมภาพยนตร์ชิ้นแรกแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นนางเอก แต่ขณะเดียวกันก็เข้าข่ายเป็นมือที่สามสร้างความหวั่นไหวให้หัวใจพระเอกทอมต้องลังเลเลือกระหว่างหญิงสาวคนรักหรือปล่อยใจไปกับความใกล้ชิดกับเธอคนนี้ ในภาพยนตร์หญิงรักหญิงฟีตแบ็กแรงจนต้องสร้างภาคต่อ 'Yes or No 2 รักไม่รักอย่ากั๊กเลย'
เข้าวงการเหมือนเด็กวัยรุ่นหน้าตาดีทั่วไป
“เหมือนที่เข้าพูดกันมาเลย(ยิ้ม) ไปเดินห้างแล้วมีโมเดอริ่งมาเจอเขาก็เรียกไปแคสโฆษณา”
มีน เล่าถึงจุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง หลังจากที่ไปแคสงานก็ได้รับเลือกให้เป็นเอ็กซ์ตร้าเมนต์ในโฆษณาชิ้นแรก จะว่าไปความเป็นตัวเองของเธอก็เข้าตาผู้ใหญ่หลายๆ ท่านจนต้องคว้าเธอมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นงานโฆษณา งานถ่ายแบบ หรืองานมิวสิกวีดีโอ
“ตอนนั้นไปแคสครั้งแรกก็ได้งานเลยก็ดีใจแล้วอะ เป็นเอ็กซ์ตร้าเมนต์ ก็ออกแนวยืนยิ้มๆ เชียร์ๆ ตลกดี สนุกดีเหมือนกัน เหมือนเราได้เห็นเบื้องหลังโฆษณากว่าจะได้แต่ละฉาก ทุกคนบอกแคสครั้งแรกได้คือเก่งแล้วนะ คือปกติอย่างน้อยก็ต้องหลายๆครั้งหน่อยกว่าจะได้งาน ตอนแรกก็เกือบได้ตัวเมนต์แล้วเหมือนกัน แต่แค่นี้ก็ดีใจแล้ว แคสครั้งแรกก็ได้แล้ว”
ตอนนั้นยังเรียนอยู่ชั้น ม.6 โฆษณาถือเป็นงานแรกที่ได้เงินมาด้วยน้ำพักน้ำแรกของตัวเอง ส่วนเงินที่ได้มาเธอก็ไม่ได้เอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแต่นำไปให้คุณแม่ด้วยความภูมิใจเล็กๆ
“งานแรกหนึ่งหมื่นคะ โห..เยอะสำหรับเด็กมากเลยนะ ตื่นเต้น ได้เท่านั้นก็ดีใจแล้ว(ยิ้ม) แล้วก็ให้คุณแม่”
ตอนรับงานโฆษณาแรก คุณแม่จะห่วงมากกลัวลูกสาวโดนหลอก เพราะพอดิบพอดีช่วงนั้นมีข่าวคราวเช่นนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องเลย
“คุณแม่บอกบางทีวงการมันก็น่ากลัวนะ เขาห่วง เรายังไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร คุณแม่ก็คอยเป็นห่วงคอยระวังตัว แต่พอมาตอนหลังช่วงนี้แม่ก็โอเคแล้ว ทำงานกันจนชินแล้ว คุณพ่อคุณแม่โอเคหมดทุกอย่างแล้ว”
รับงานมีลิมิต ลุยเรียนอันลิมิเตด
หลังจากได้งานโฆษณาชิ้นแรกก็มีงานติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ แต่ในช่วงนั้นถืออเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านชีวิตในโรงเรียนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยฯ ตอนนี้เธอกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด อยู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
“มีนเพิ่งมาทำจริงๆ จังๆ เมื่อประมาณปีที่แล้ว ที่เริ่มรับงานเยอะๆ เพราะช่วงตอนม.6 เราก็เว้นว่างไปจนเข้ามหาลัยฯ อีกอย่างคุณพ่อก็ไม่อยากให้ทำด้วยเพราะกำลังจะสอบเข้ามหาลัยฯ เขากลัวจะเสียการเรียน แต่โอเคพอสอบได้แล้วเขาก็โอเค มีถ่ายแบบตามนิตยสารวัยรุ่นนิดหน่อย ทำเรื่อยๆ เหมือนมีโอกาสมากขึ้นมากกว่ามีงานมาเสนอ ทางผู้ใหญ่ให้โอกาสเราได้ทำมากขึ้น งานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ถ่ายเอ็มวีที่ทำให้คนรู้จักหน่อยก็เพลงสียงที่เปลี่ยน ของ เบลล์ นันทิตา บางทีเขาเรียกงานจากตัวนี้เยอะเลย เออ..ชอบคาแร็กเตอร์ เล่นหนังสั้นหนังดังสุดสัปดาห์ของช่อง 3”
มีน เปิดใจว่าชอบงานในวงการบันเทิงมาก รู้สึกอยากเป็นนักแสดงถ้ามีโอกาสเข้ามาแน่นอนว่าจะไม่ปฏิเสธเลย “ชอบ รู้สึกมันอารมณ์สนุกดี ยิ่งพอได้ทำมีโอกาสมากขึ้นเหมือนกับว่าหนูเล่นอะไรแบบนี้”
เธอผ่านงานโฆษณามาเสียส่วนใหญ่ เมื่อเข้ามาแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก Yes Or No 2 รักไม่รักอย่ากั๊กเลย ก็รู้สึกว่างานหนังเป็นงานที่ซับซ้อนมากกว่า แถมรู้สึกติดใจกับงานแสดงไปแล้ว
“หนังยากกว่า เพราะมันต้องอินกับตัวละครนั้น เราต้องเป็นคนอีกคนต้องเล่นเป็นตัวนี้ เพราะเราได้รับบทนี้มา โฆษณามันก็แค่เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ”
แยม ดี้สาวมือที่ 3 ในหนัง Yes Or No 2
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนคัดตัวแสดงทุกคนต่างลงความเห็นตรงกันว่าต้องเป็น มีน เท่านั้นที่จะมารับบทเป็น แยม สาวสวยรวยเสน่ห์ที่เข้ามาสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่าง คิมและพาย ตัวละครเอกในภาพยนตร์เรื่องYes or No ที่ทำเอาแฟนๆ หลงรักไปตามๆ กัน
“หนังเรื่อง Yes Or No 2 ไปแคสกับ พี่นาย-สรัสวดี ผู้กำกับเองเลย ตอนแรกเดินเข้าไปพี่นายก็แบบนี้เด็กกะโปโลที่ไหน แล้วให้ลองเล่นสักพัก ตอนหลังพี่นายมาเล่าให้หนูฟังตอนหลังว่าพอแคสเสร็จทุกคนก็บอกพร้อมกัน..เอาคนเนี๊ย ชอบเห็นแล้วต้องให้เล่นอะ(หัวเราะ) เวลาหนูเล่นอะไรหนูจะใส่ความเป็นตัวเองเหมือนแบบให้ธรรมชาติมากกว่า พี่นายอาจจะถูกใจหนูโกะๆ ด้วยมั้ง(หัวเราะ)”
ขณะเดียวกันตอนที่มีนไปแคสบทเด่นในหนังเรื่องนี้ก็ถอดใจอยู่เหมือนกัน เพราะทราบว่าคนที่เข้ามาแคสมีทั้งดาราหญิงสาวหน้าตาสวยน่ารักที่โดดเด่นกว่าเธอเยอะ “ตอนแรกหนูคิดว่าไม่ได้แล้วเพราะคนที่ไปแคสเหมือนแบบเด็กดาราอยู่แล้ว ก็คิดว่าไม่ได้แล่วมั้งเหมือนเราไปแคสก็ทำให้ดีที่สุดก็พอ ยังไงก็ได้ฝึกประสบการณ์ไปตัวพอได้ก็แบบเห้ยจริงหรอ!”
มีน เปิดเผยว่าแต่ก่อนเป็นเด็กขี้อาย แต่พอได้เข้ามาทำงานในจุดนี้กลับไม่รู้สึกอายแล้วเพราะว่ามันคืองานเป็นหน้าที่ที่เราต้องแสดง
“ขอบคุณที่เขาให้โอกาส หนังเรื่องนี้เราก็พอรู้มาบ้างมามันประสบความสำเร็จยิ่งในต่างประเทศเนอะ ตอนแรกเรายังไม่ได้เล่นยังรู้สึกภูมิใจแทนเลย ดีจังมีหนังไทยได้ไปมีชื่อเสียงที่ต่างประเทศ พอได้รับเลือกเราต้องเป็นตัวละครที่เล่นกับหนังที่เราชื่นชม คนสวยๆ คนมีความสามรถก็เยอะแต่เราเป็นคนได้โอกาสนั้นมา..เห้ยดีจัง(ยิ้ม)”
รัก..ไม่จำกัดรูปแบบ
ภาพยนตร์เรื่องYes Or No 2 รักไม่รักอย่ากั๊กเลย เป็นที่รู้กันว่าเป็นหนังเฉพาะกลุ่มแนวหญิงรักหญิง อีกอย่างไม่ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับกับความรักอีกรูปแบบได้ ไม่แน่บางคนอาจถึงขั้นแอนตี้เลยก็ได้
“ตอนแรกหนูก็รู้สึกเหมือนกันว่ามันเฉพาะกลุ่มภาคแรกก็เหมือนกับเพิ่งสร้างมา แต่พอได้ดูหนังภาคแรกจบคือมันเป็นหนังที่น่ารัก สร้างรอยยิ้มไม่ยากเลย ดูไปยิ้มไปจริงๆ ตอนแรกยอมรับเลยหนูไม่ค่อยจะสนใจเหมือนกันหนังทอมหนังผู้หญิง หนูก็เป็นผู้หญิงปกติค่ะ พอรับเล่นเรื่องนี้จริงๆ ด้วยเนื้อหาของภาคนี้ที่มันเข้มข้นมากขึ้นมันมีอะไรมากขึ้น เลยทำให้รู้สึกว่าไม่ได้สนใจว่ามันเป็นหนังผู้หญิงทอมดี้ ด้วยเนื้อหาจริงๆ แล้วมันคือความรักทั่วไปนี้แหละ แต่เพียงว่าเรื่องนี้เราเอาตัวละครที่เป็นผู้หญิงมาสื่อแทนเท่านั้นเอง อาจจะยิ่งเหมือนกับว่าโดนใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น แต่คนทั่วไปก็ดูได้..หนูคอนเฟิร์ม มันก็คือมุมมองความรักที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเลย”
หนึ่งในนางเอกของเรื่องยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังในเรื่องรายได้หรือเรตติ้งของภาพยนตร์เรื่องแรกเท่าใดนัก
“ไม่ถึงกับคาดหวังว่าฉันต้องดัง ไม่รู้ว่ามันจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหนมันก็อยู่ที่คนดูก็ไม่รู้จะโดนใจเขามากแค่ไหน แต่เหมือนกับเรา ทีมงาน ได้ทำงานที่ดีออกมาก็ดีใจแล้ว อย่างน้อยทุกคนตั้งใจ ถ้าใครได้มาชมเขาจะได้รับความสุขความประทับใจกลับไป..ก็โอเคแล้ว ถ้าความตั้งใจหนูเต็มเปี่ยมนะ(หัวเราะ)”
ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ในภาคแรกก็ทำให้แฟนๆ หลงรักตัวละครเอก คิมและพายเอาเสียมากๆ เพราะทั้งเชียร์ทั้งลุ้นให้ทั้งคู่ฝ่าฟันอุปสรรคทางสังคมจนกลายมาเป็นคนรักกันในที่สุด ส่วนในภาคนี้สาวมีน(รับบท แยม)เหมือนเข้ามาเป็นมือที่สามระหว่างความรักของคนทั้งคู่ แน่นอนเลยว่าแฟนหนังย่อมมองเธอเป็นนังมารมาทำลายความรักในภาคแรก
“กดดันมากค่ะ(ลากเสียงยาว...) บางคนเขาแบบเกลียดแยมๆ ด้วยความที่ว่าเขารักตัวละคร คิมกับพายมาก ภาคที่แล้วมันน่ารักจนคนดีอินเขาเชื่อว่าสองคนนี้รักกันจริงๆ แล้วมีตัวละครใหม่เข้ามาแล้วปล่อยไปว่าเหมือนเราเป็นมือที่สามเข้าไปแทรกคนก็แบบ ไม่เอาอะ! ทำไมต้องมาแทรก คิมต้องอยู่กับพายเท่านั้น โดนเยอะมากค่ะ(หัวเราะ)
“แต่หนูเข้าใจมากกว่าว่าเขายังไม่รู้ด้วยว่าจริงๆ บทแยมเขาเป็นอย่างไร ทุกคนเข้าใจแค่นี้คนนี้เป็นมือที่สาม เรื่องราวในหนังทุกคนมีเหตุผลมีมุมของตัวละคร ทุกคนมีบทบาทเท่ากัน มันเป็นจุดสำคัญในแต่ละพาร์ตตัวเอง แต่ก็มีคนที่ไม่ชอบแยมเลยแต่ชอบมีน(หัวเราะ)”
หัวใจ รสนิยม ความรู้สึก
“ไม่ต้องพูดถึงความรักก็ได้ความชอบทั่วไปคนเราก็ชอบไม่เหมือนกันแล้ว ต่างคนต่างคิดแต่ละอย่าง ต่างมุมมอง ความรักก็เหมือนกันบางคนชอบแบบนี้ ก็แล้วแต่คน”
หญิงสาว เริ่มเผยความนัยถึงรูปแบบความรักในมุมมองของตัวเอง ถามว่าแปลกไหมหากความรักไม่ได่เกิดขึ้นกับคู่หญิงชาย
“หนูไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะเขาก็คนปกติเหมือนเราเนี้ยแหละ ความรักมันเกิดได้ทุกเพศทุกวัยอยู่แล้วไม่ว่าจะชายหญิง ชายชาย หรือว่าหญิงหญิง มันก็สวยงามหมด สวยตัวหนูไม่ได้จำกัดไม่เคยคิดว่าต้องชายกับหญิงเท่านั้น”
มันเป็นเรื่องการตั้งกฎเกณฑ์ทางสังคมมากกว่า โบราณสอนให้เราได้สัมผัสความรักระหว่างหญิงชายมากกว่า
“แต่ก่อนจะสังเกตว่าบางคนที่เขาเป็นเขาจะไม่กล้าเปิดเผย แต่เดี๋ยวนี้สังคมมันเปิดกว้างมากขึ้นคนกล้าที่จะทำ กล้าที่จะทำกล้าที่จะให้โอกาส กล้าที่จะเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น หนูว่าสังคมมีส่วนเยอะเลยพอสังคมเปิดกว้างมากขึ้น คนก็จะแสดงออกถึงความเป็นตัวเองมากขึ้น”
มีน เองก็เคยมีเพศเดียวกันเข้ามาพูดคุย ซึ่งก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับเพราะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึกถ้าคนสองคนรู้สึกตรงกันความสัมพันธ์มันถึงจะพัฒนาได้
“ก็มีคะ แต่เขาก็ไม่ได้อะไรแค่มาปลื้มๆ มากกว่า โอเครู้ว่าพี่คนนี้เขาเป็นทอมคุยได้แต่ไม่ได้ชอบ คือไม่ได้ไม่ชอบที่เขาเป็นทอมแต่เหมือนเราไม่ได้คิดอะไรมากกว่า บางทีก็ไม่แน่นะถ้ารู้สึกดีกับคนนี้หนูอาจจะชอบก็ได้ แต่ไม่ได้แอนตี้อยู่แล้ว แต่เอาตรงๆ ก็ชอบผู้ชายค่ะ(ยิ้ม)”
…........................
ความรักเป็นเรื่องของความรู้สึกเป็นเรื่องของรสนิยมไม่มีความถูกต้องหรือความผิดแผก ความรักขึ้นอยู่คำตอบของหัวใจของคุณเอง..
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์