ไม่จำเป็นว่าจะต้องอยู่ในช่วงฟุตบอลยูโร หรือ ช่วงพักฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ การพนันฟุตบอลก็เกิดขึ้นอยู่เสมอ แทบจะทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที และเพราะเดี๋ยวนี้บอลทุกชาติ ทุกประเทศ รายการเล็ก รายการใหญ่ ให้เล่นทุกวัน บอลลัตเวีย คาซัคสถาน แม้แต่บอลหญิงอุ่นเครื่อง ใครจะเชื่อว่าเขาก็เล่นพนันกันจริงจังได้!
พนันฟุตบอลเกิดขึ้นทุกวันจนเป็นเรื่องปกติในสังคมไทยไปแล้ว ยิ่งมาถึงทุกวันนี้การพนันบอล ไม่ใช่แค่การเล่นด้วยการโทรศัพท์หา หรือเขาไปกาบอลที่โต๊ะพนันเพียงอย่างเดียว แต่ยังขยายวิธีการเล่นแบบออนไลน์ เล่นง่ายเพียงแค่คลิก มีเวปไทยและต่างประเทศต่างๆ มากมาย
แม้จะมีการปราบปรามจับกุมแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด สถานการณ์ปัญหาพนันฟุตบอลตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤตเกินเยียวยา แล้วทางออกของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นควรจะเป็นเช่นใดกัน
ประวัติศาสตร์ย่นย่อของนักพนันรายหนึ่ง
การพนันฟุตบอลมีอยู่ในสังคมไทยมาช้านานแล้ว เท่าที่ปรากฏในหลักฐานก็มีเขียนไว้ในบันทึกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัฐกาลที่ 6 โดยมีใจความว่า การชมกีฬาฟุตบอลนั้น ให้ชมเป็นกีฬา อย่าชมเป็นการพนัน กาลเวลาที่ผันผ่านยุคสมัย อุทาหรณ์ของนักพนันมากมายถูกเล่าขานในสังคม มันอาจเป็นเรื่องที่นักพนันหลายคนรู้กันอยู่แล้ว แต่ก็หลงลืมแล้วก้าวเดินไปบนเส้นทางเดียวกัน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนนักพนันหน้าใหม่เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยจุดเริ่มต้นเล็กๆ อย่าง เดิมพันพอเป็นน้ำจิ้ม
นายบอล(ขอสงวนชื่อและนามกุล) นักพนันรายหนึ่ง เริ่มต้นเส้นทางชีวิตการพนันของตัวเองด้วยการเดิมพันกับเพื่อนๆ สมัยเรียนอยู่ปวช. โดยเริ่มในช่วงฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน จากเริ่มแรกเดิมพันทีมที่ชอบในวงเงินเพียง 10 - 50 บาทเท่านั้น
“ช่วงนั้นเป็นกระแสด้วย เหมือนถ่ายทอดบอลโลกมันก็ทำให้สนใจมากขึ้น พอทัวร์นาเม้นต์จบ การพนันก็จบลง แต่ต่อจากนั้นก็มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักโต๊ะพนัน บอลชุด บอลสเต็ป แรกๆ ก็หุ้นกับเพื่อน กา 3 ตัวขึ้นไป ขั้นต่ำ50 บาท หุ้นกันคนละ10-20บาทเท่านั้น”
แต่หลังจากนั้นการเดิมพันก็เริ่มมากขึ้น จากใบเดียว 50 บาท เป็น2 - 4ใบ เขาเริ่มเรียนรู้เทคนิคการกาไขว้ เริ่มเพิ่มจำนวนเงินเป็นใบละ 100 - 200บาท เมื่อเขาเล่นพนันจนสามารถซื้อเครื่องเกมให้กับตัวเองได้ก็ยิ่งทำให้เขาติดการพนันมากขึ้น
“ตอนนั้นรู้จักแค่โต๊ะแถวดอนเมือง ต้องขับรถจากบ้านแถวนนทบุรีไปกา” เขาเผยถึงความยากลำบากในการเล่น
พอถึงช่วงฟุตบอลโลกปี 2002 เขาเริ่มหันมาเล่นบอลเต็งที่ใช้เงินขั้นต่ำสูงถึง 500 บาท สำหรับช่วงวัยนั้นก็ถือว่าเป็นเงินที่มาก แม้พ่อแม่จะจับได้ว่าเขาเล่นพนันฟุตบอล แต่เขาก็โกหกว่าเดิมพันไปแค่ 50 บาทเท่านั้น
“ช่วงนั้นมีได้มีเสีย เล่นไปเรื่อย พอมีเงินเยอะ 1000 บาทเอามากาไป 7 คู่เลยก็มี ช่วงนั้นรู้จักโต๊ะใกล้ๆ บ้านแล้วด้วย ก็แวะเข้าไปกาบ่อยๆ กาแบบไม่คิดอะไร ขอให้ได้เล่น ซึ่งตอนนั้นผมเล่นได้มากกว่าเสียแต่เงินที่ได้มา เหมือนเป็นเงินร้อน ใช้จ่าย กิน เที่ยว หมดเร็วมาก”
เขาติดการพนันถึงขนาดที่ว่า สามารถรู้ได้โดยสัญชาติญาณนักพนันว่า ที่ไหนมีโต๊ะพนันฟุตบอลอยู่บ้าง
“สิ่งผิดสังเกตง่ายๆ เลยนะ ที่ไหนก็ตาม ถ้าช่วงเวลาเย็นๆ มอเตอร์ไซค์มาจอดเยอะผิดปกติในทุกวันที่มีบอล แล้วคนที่เดินเข้า - ออกสถานที่นั้นพร้อมถือหนังสือพิมพ์ เหน็บปากกา มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีโต๊ะพนัน ซึ่งบางที่ก็จะมีป้ายติดประกาศชื่อ ไปในทางฟุตบอล อาจมีสัญลักษณ์รูปฟุตบอลอยู่”
แล้วหลังจากกาบอลมาพักใหญ่ทำให้เขาสนิทกับโต๊ะพนันจนสามารถแทงแบบมีเครดิตได้ หรือโทรศัพน์แทงบอลกับโต๊ะโดยตรงนั่นเอง
“ช่วงนั้นหน้ามืดเลยนะ อยากเล่น โทรไปแทง ไม่มีเงินก็โทรไป ตอนนั้นต้องเอาทองที่บ้านไปจำนำ พอได้ก็ไปไถ่คืน ตอนนั้นติดมากๆ เดินเข้า-ออกโรงจำนำบ่อยมาก แล้วพอมาถึงจุดหนึ่งที่เริ่มเสียติดๆ กัน หนี้ก็เริ่มเป็นก้อนมากขึ้นจนเราไม่สามารถหามาใช้ได้”
เขาต้องเอานาฬิกากับกล้องเข้าโรงจำนำ แต่หนี้พนันก็มากขึ้นจนท้ายสุดเขาต้องสารภาพกับพ่อ แล้วจึงเริ่มถอนตัวออกมา โดยปัจจุบันเขายอมรับว่ายังเล่นพนันอยู่บ้าง แต่จะเล่นอย่างระมัดระวังไม่ให้ใครเดือดร้อน
มาถึงทุกวันนี้ การพนันฟุตบอลออลไลน์เริ่มมีมากขึ้น สำหรับเขาแล้วถือว่าไม่ค่อยมีความเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ มีแต่จำนวนเว็ปไซต์ที่เพิ่มมากขึ้น และเดิมพันบนโลกออนไลน์สามารถทำได้แบบเรียลไทน์ คือเดิมพันเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดเวลาทั้งก่อนและระหว่างการแข่งขัน โดยมีให้แทงพนันทุกอย่างตั้งแต่ผลบอล ลูกเตะมุม ลูกทุ่ม แม้แต่ฝั่งสนามว่าทีมไหนจะได้ลงเตะฝั่งซ้ายหรือขวา บางโต๊ะออนไลน์ยังมีโปรโมชั่นกาผิดหมดได้ทองอีกด้วย
“สำหรับผมจะเล่นพนันมันก็ต้องอย่าให้คนอื่นเดือดร้อน ผมมีรุ่นน้องคนหนึ่งตอนนี้เพิ่งจะเริ่มเล่น ผมเห็นอนาคตเลย เป็นคนใจร้อนมาก เล่นสูง เสียทีเยอะมาก เขามายืมเงินใช้ ผมไม่ให้นะ เพราะรู้เลยว่า ต่อไปต้องเล่นอีก และเล่นเหมือนไม่คิดว่าจะเสียแน่นอน”
โฆษณาพนันโจ่งครึ่ม
กลไกหนึ่งที่ทำให้การพนันฟุตบอลเติมโตได้คงจะหนีไม่พ้นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการพนันที่ทำราวกับการพนันฟุตบอลไม่ได้เป็นสิ่งผิดกฏหมายในเมืองไทย การให้ข้อมูลถึงอัตราต่อรอง พร้อมการลงทุนแบบสเต็ปโดยเซียนหลากหน้าหลายชื่อ พร้อมกับนำเสนอการลงทุนตามทีมบอลที่ไม่มีแม้กระทั่งการถ่ายทอดสด ก็บอกเป็นนัยว่า นำเสนอเพื่อลงทุนการพนันทั้งนั้น
ธาม เชื่อสถาปนศิริ ผู้จัดการกลุ่มงานวิชาการโครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม (medie monitor) เล่าว่า สถานการณ์ตอนนี้คือมีกฏแต่ไร้การควบคุม โดยเขาได้ยกตัวอย่างถึงการนำเสนอข้อมูลหรือโฆษณาในสื่อหนังสือพิมพ์ว่า สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติเคยออกแนวทางการปฏิบัติเพื่อการทำข่าวกีฬาอย่างสร้างสรรค์ โดยให้นำเสนอข่าวที่จะพัฒนาวงการกีฬา แต่ในปัจจุบันหนังสือพิมพ์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพนันได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกไป
“พวกเขาลาออกจากการเป็นสมาชิก เพราะกฏข้อนี้ทำให้คนที่ทำหนังสือพิมพ์รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่รายงานข่าว อัตราต่อรอง เรตต่อรอง ทำนายผล โฆษณาฟันธง ทีเด็ด ซึ่งจะทำให้เขาสูญเสียรายได้”
ในแง่ของกฏหมายการพนันนั้น หนังสือพิมพ์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพนันไม่ถือว่าทำผิดกฏหมายด้วยเพราะไม่ได้เป็นผู้ให้บริการการพนัน หรือเป็นเจ้ามือ สิ่งที่ผิดคือศีลธรรมซึ่งไม่ได้เป็นกฏที่บังคับให้ปฏิบัติ แต่เป็นกฏที่สภาหนังสือพิมพ์แห่งชาติมีขึ้นและบังคับใช้ตามความสมัครใจเท่านั้น มีมาตการเพียงแค่ออกหนังสือเตือนเมื่อทำผิด แต่ไม่มีอำนาจสั่งปรับหรือลงโทษใดๆ
“ในทางปฏิบัติแล้ว อำนาจตอนนี้อยู่ในมือของปลัดกระทรวงวัฒนธรรม หรือเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัด เพราะเรามีพรบ.จดแจ้งการพิมพ์พ.ศ. 2550 อยู่ ซึ่งหนังสือต้องไปจดแจ้งการพิมพ์โดยกระทรวงวัฒนธรรมมีอำนาจยึดใบอนุญาตได้ หากสิ่งพิมพ์เหล่านั้นมีเนื้อหาที่ผิดต่อศีลธรรมอันดีของสังคม แต่สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้คือเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมยังไม่แน่ใจว่าตัวเองมีอำนาจ หรือหน้าที่อะไร ซึ่งจริงๆแล้ว พวกเขามีอำนาจนะ”
ในส่วนของสื่ออื่นๆ อย่างวิทยุ - โทรทัศน์นั้น ก็มีหน่วงงานอย่างกสทช. ดูแล โดยมีอำนาจการสั่งปรับอย่างที่เกิดขึ้นกับรายการไทยแลนด์ ก็อต ทาเร้น ซึ่งสิ่งที่ต้องทำคือต้องมีเจ้าที่ตรวจจับเฝ้าฟังที่ในต่างประเทศนั้นจะมีมาตรการตรงนี้อยู่
“ไม่อย่างนั้น ไม่พอใจก็ออกจากการเป็นสมาชิก แบบนี้มันควบคุมไม่ได้ ซึ่งกฏของสภาการหนังสือแห่งชาติก็เปิดให้วิเคราะห์การแข่งขันได้ บอกได้ว่าใครจะชนะ แต่ห้ามทายสกอร์เพราะข้อมูลพวกนี้สามารถนำไปตั้งโต๊ะพนันบอลได้ ซึ่งในปัจจุบันหนังสือพิมพ์กีฬายังไม่เข้าใจถึงเรื่องนี้ ทำให้ไม่ยอมรับกฏที่มีอยู่”
เทศกาลบอลมา เทศการพนันบอลเกิด!!
หมุดหมายของการพนันฟุตบอลในประเทศไทยที่เริ่มเติบโตขึ้นอย่างเป็นที่แพร่หลาย ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต นักวิจัยด้านการพนันบอล ศูนย์วิจัยพนันบอล เผยว่า เป็นช่วงฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ และมีการถ่ายทอดสดทุกนัดมาที่ประเทศไทย ทำให้ฟุตบอลเริ่มเป็นที่นิยมอย่างก้าวกระโดด และการพนันฟุตบอลก็เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นด้วย
“การพนันฟุตบอลเกิดขึ้นมานานแล้ว เพียงแต่สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนมาเล่นการพนันฟุตบอลกันมากขึ้น มาจากการถ่ายทอดสด เพราะก่อนหน้านั้นมีเพียงข่าวรายงานผล และการถ่ายทอดแห้งเท่านั้น”
การถ่ายทอดแห้งคือการที่ฟุตบอลเตะไปแล้วครึ่งแรก แล้วค่อยมาถ่ายทอดครึ่งแรกในขณะที่ของจริงเตะครึ่งหลัง ซึ่งการพนันในช่วงนั้นมีอยู่แต่เป็นในลักษณะที่ผู้เล่นพนันถูกหลอกเพราะเจ้ามือรู้ผลบอลก่อนแล้ว
“อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การพนันบอลเติบโตอย่างก้าวกระโดดและไวมากคือ การพนันบอลมีการเล่นที่ใช้เครดิต นัดจ่ายเงินกับโต๊ะอาทิตย์ละครั้ง ทำให้ง่ายต่อการตัดสินเดิมพันโดยไม่ได้ใช้เงินที่อยู่ในมือ”
แล้วรูปแบบการพนันแบบเด็กเดินโพย หรือบอลชุดก็เกิดขึ้น กระทั่งถึงยุคปัจจุบันที่โต๊ะพนันไปอยู่ในโลกออนไลน์ที่ยากจะจัดการ ในส่วนของทางแก้ไขนั้น การที่เจ้าหน้าที่ปราบปรามก็เป็นสิ่งต้องทำ แต่ในระยะยาวนั้นควรมีการแก้กฏหมายในทันต่อรูปแบบการพนันที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะกฏหมายการพนันของประเทศไทยนั้นล่าสมัยเกินไป ทั้งนี้ก็ต้องทำควบคู่กันไปการปลูกฝังทัศนคติผ่านการโฆษณารณรงค์เพื่อให้สังคมรู้ถึงโทษภัยของการพนันด้วย
“การจะจับโต๊ะพนันแล้วให้มีความผิดสูงสุด ต้องมีเงินของกลางเป็นเงินอย่างน้อย 2 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งในความเป็นจริงมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเงินเดิมพันออนไลน์มันโอนผ่านระบบธนาคารหมดแล้ว ไม่มีเงินสด ฉะนั้นในปัจจุบันจึงจับได้แต่รายเล็กๆ”
ความผิดที่ได้รับก็ไม่ใช่ความผิดในฐานะเจ้าของโต๊ะ เพราะเว็ปไซต์ที่เปิดให้บริการในประเทศนั้นมีเซิร์ฟเวอร์หลักเป็นของต่างประเทศ ความผิดจึงเป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการการพนันเท่านั้น ไม่ใช่เจ้ามือ เพราะเจ้ามือคือชาวต่างชาติที่เปิดให้บริการอยู่ในประเทศที่เปิดให้การพนันออนไลน์เป็นสิ่งถูกกฏหมาย
“นอกจากนี้พรบ. คอมพิวเตอร์ก็ต้องได้รับการแก้ไข เพราะตอนนี้สิ่งที่ผิดกฏหมายในพรบ.คอมพิวเตอร์นั้นมีอยู่สองอย่างคือ การบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศก็คือการหมิ่นสถาบัน และผิดศีลธรรมซึ่งก็คือการเผยแพร่พวกรูปโป๊เปือยอนาจาร แต่การพนันยังไม่นับรวมเข้าไปด้วย”
อย่างไรก็ตาม แม้จะแก้ไขพรบ.คอมพิวเตอร์แล้วการควบคุมเว็ปไซต์เหล่านี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เนื่องจากเทคโนโลยีที่รวดเร็วทำให้ผู้ให้บริการสามารถกระทำการได้อย่างรวดเร็วขึ้น แม้จะถูกบล็อคเว็ปหนึ่งไปก็สามารถเปิดเว็ปใหม่ได้ทันที
“มาถึงตรงนี้จึงมีข้อถกเถียงกันว่า ตกลงในเมื่อมันควบคุมไม่ได้แบบนี้แล้ว หรือเราจะทำให้การพนันในประเทศไทยเป็นสิ่งถูกกฏหมายกันไปเลยหรือไม่?”
ข้อถกเถียงตรงนี้จึงนำไปสู่รูปแบบของการควบคุมที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ และรูปแบบของการแลกเปลี่ยนในเชิงขององค์ความรู้ที่จะศึกษาถึงผลได้ - ผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากทำให้การพนันเป็นสิ่งถูกกฏหมายในประเทศ โดยในประเด็นนี้ยังไม่ถูกนำมาพูดถึงอย่างจริงจังในสังคมนัก
“เราต้องถามสังคมว่า พร้อมจะยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นหรือเปล่า สังคมต้องการอะไร ให้เงินไหลออกไปนอกประเทศจากการพนันที่ควบคุมไม่ได้ หรือให้การพนันเป็นสิ่งถูกกฏหมายเพื่อให้เงินนอกระบบไหลเวียนเข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง แต่ก็ต้องยอมรับปัญหาสังคมที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรม หรือเงินเพ้อในทางเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลก็จะได้เงินจากการพนันมาเยียวยาปัญหาที่เกิดขึ้น”
….....
สุดท้ายแล้วคำตอบก็ดูเหมือนย้อนกลับไปหาสังคมว่าอยากจะได้สังคมแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นสังคมที่มีการพนันเคลือบแฝงอยู่ หรือสังคมที่มีการพนันแพร่หลาย ในท้ายที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับสังคมว่าจะยอมรับรูปแบบใดของปัญหาที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น จะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น หรือเชื่อในสิ่งที่ถูกต้องของสังคมกันแน่?