xs
xsm
sm
md
lg

ละเลงเต้าเขย่าเรตติ้ง ศิลปะหรือศิลเปรอะ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บางทีคำว่า 'ศิลปะ' กับ 'อนาจาร' ก็ยากเกินกว่าที่คนทั่วไปจะสามารถแยกแยะได้ ลีลายั่วยวลเคล้าคลึงหน้าอกเปื้อนสีละเลียดบนเฟรมผ้าใบเป็นงานศิลปะ ก็ดูจะเป็นเพียงลมปากของหญิงสาวผู้เข้าร่วมแข่งขันในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์(ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3) แน่นอนการแพร่ภาพเธอผู้นี้ก็ปลุกกระแสให้การกลับมาของรายการดังเปรี้ยงขึ้นอีกครั้ง!

ซึ่งก็ดูเหมือน 'ปอนด์ - ดวงใจ จันทร์เสือน้อย' ผู้เข้าแข่งขันที่ใช้เต้าสร้างงานศิลป์ จะอ้างคำว่า 'ศิลปะ' มาใช้ในการแสดงโชว์โป๊เปลือยเสียมากกว่า เพราะสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต่อตาเยาวชนไทยทั้งประเทศ มันช่างดูผิดเพี้ยนไปจากเจตนารมณ์ของศิลปะ แถมย้อนแย้งกับวัฒนธรรมของสังคมไทย ยิ่งมองในเรื่องกาลเทศะก็คงไม่ต้องสาธยายให้มากความ

กระแสวิพากษ์ร้อนแรงโจมตีจากโซเซียลเน็ตเวิร์ก อย่างนี้ผู้หญิงไหนๆ ก็ทำได้ เพียงใช้ความกล้าสักหน่อย เปลือยหน้าอกละเลงเฟรมผ้าใบ เต้นเคล้าเพลงพอเป็นกระสัยแล้วกู่ร้องว่านี่คือ 'ศิลปะ' งานนี้นอกจากเธอจะโดนสังคมสวดยับ ด้านรายการที่ปล่อยให้ภาพดังกล่าวเผยแพร่สู่สาธารณะก็คงต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย

ยิ่งลองเปรียบเทียบกับศิลปินสาวชาวสหรัฐฯ 'ไครา อิน วาสเซกี้' ที่ใช้หน้าอกวาดภาพออกมาได้ราวกับใช้พู่กันก็คงดูออกแล้วว่าใครคือศิลปินที่แท้จริงกันแน่

ทำให้หลายต่อหลายคนออกมาวิจารณ์กันให้แซดถึงความไม่เหมาะสมของสาวไทยรายนี้ ไม่ว่าจะเป็น

"เหมือนโชว์ลามก เเถวพัทยาที่ฝรั่งชอบดูกัน"

"ได้ถามเค้าไหมว่า รูปเขามันสื่อถึงอะไร งานสีเน่าๆ แบบนี้ ผมให้ F"

มิหนำซ้ำก็ยังถูกติติงอย่างเสียๆ หายๆ บ้างก็ว่าขายตัว บ้างก็ว่าทำประเทศไทยเสื่อม สุดท้ายทุกคนก็ยังตั้งข้องุนงงกับงานศิลปะจากเนินอกเปลือยเปล่าของเธอ

เสียงสะท้อนจากคนในวงการศิลปะ
ในขณะที่หญิงสาวอ้างอิงเรื่องศิลปะในการแสดง แล้วศิลปินตัวจริงผู้โลดแล่นในแวดวงศิลปะจะมีทัศนะอย่างไรต่อกรณีดังกล่าวอย่างไร

“สำหรับผมเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาบนโลกใบนี้ ยิ่งเกิดในรายการ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ มันก็เป็นการจัดวางอยู่แล้ว เขาสร้างมาให้สังคมเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องการตลาดของเขา สำหรับผมก็มองเป็นเรื่องปกติธรรมดา เรื่องเหตุการณ์มากมายกว่านี้มันก็เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นโลกใบนี้ได้ เพียงแต่สังคมเรามันเป็นสังคมจอมปลอม ดัดจริต เป็นสังคมที่แอบอ้างศีลธรรม ชอบลูบคลำโยนี ใครที่พูดประเด็นนี้ รู้สึกว่าเป็นหน้าตา เป็นเกียรติมาก ผมได้รับเกียรติให้มาพูดเรื่องนี้” วิสามัญเมือง สิทธิเขตต์ ช่างภาพนู้ด

“ประเด็นศิลปะผมไม่ได้มอง แต่ผมมองว่าการแสดงออกครั้งนี้เนี่ย มันขัดกับขนบ กับวัฒนธรรมของไทยไหม อันที่สองโปรดิวเซอร์ให้ผ่านมาได้ยังไง โปรดิวเซอร์ต้องดูก่อนว่า มันขัดกับเรื่องขนบเราหรือเปล่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญนะ เป็นความรับผิดชอบ” ธวัชชัย สมคง บรรณาธิการบริหารนิตยสาร FINE ART

“ถ้าทุกอย่างในโลกเป็นศิลปะก็คงวุ่น ผมว่ามันไม่เหมาะสมด้วย แต่ถ้าโชว์นี้จัดเป็นโชว์ศิลปะหรืองานปาร์ตี้เฉพาะกลุ่ม ผมว่าไม่คัดค้านเลย ผมว่าเป็นเรื่องเฉพาะ อันนี้พอมันออกสื่อมันต้องระมัดระวังมาก คราวนี้ถ้าโชว์นี้ผ่าน คราวหน้าเค้าจะทำอะไรอีก คงต้องแรงขึ้นแล้วก็แรงแบบเชยๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราน่าจะเห็นกันตามพัฒน์พงศ์” ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี จิตรกรชื่อดัง

ศิลปะหรือไม่!? ..อยู่ที่เจตนา
ลองย้อนดู ศิลปะที่แท้จริงที่สร้างสรรค์ด้วยเรือนสรีระของมนุษย์นั้นมีมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว ซึ่งแต่ละผลงานล้วนปลุกเร้าจิตวิญญาณของศิลปินคนนั้นๆ ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง สมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์ ผู้คว่ำหวอดในแวดวงศิลปะ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากระทรวงวัฒนธรรม เล่าให้ฟังว่า จริงๆ แล้วการแสดงออกของศิลปินในรูปแบบดังกล่าวถูกนำมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแล้วไม่น้อย ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด อย่างในปี 1960 ก็มีศิลปินคนหนึ่งใช้ผู้หญิงเปลือยมาสร้างสรรค์งานโดยชุปสีแล้วให้เกลือกกลิ้งบนเฟรมผ้า ในเรื่องนี้จะตัดสินว่าเป็นศิลปะหรือไม่นั้นมันอยู่ที่เจตนาของศิลปินล้วนๆ

“เปลือยหน้าอกแล้วเอาสีระบายที่หน้าอกแล้วกลิ้งไปผมคิดว่ามันตื้นเกินไป เป็นเพียงต้องการความแปลกและเอาร่างกายของตัวเองมาแทนแปรงทาสี ซึ่งจริงๆ แล้วมันต้องมีเจตนาที่ลึกกว่านั้น ว่าต้องการแสดงออกถึงเจตนาอะไรบ้าง ซึ่งถ้าเขาไม่สามารถให้คำตอบที่ลึกซึ้งมากกว่านั้นผมคิดว่ามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย มันเป็นต้องการแสดงความแปลกเท่านั้นเอง แต่จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกของการสร้างงานศิลปะเลยเลย”

อีกอย่าง ถ้ามองในมุมศิลปะมันก็ยอมรับได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในแง่ของสังคมไทยมันต้องแสดงออกอย่างระมัดระวัง แต่ถ้าตัวศิลปินสาวสามารถว่าตอบว่ามันเป็นศิลปะชนิดไหนมันก็ควรยอมรับได้ หรือถ้าอ้างว่าเป็นงานศิลปะแล้วไม่สามารถอธิบายเจตนารมณ์มากกว่านี้ได้ มันก็เป็นแค่สร้างความแปลกใหม่ในสังคมที่ไม่สามารถยอมรับได้

“ทั้งหมดมันอยู่ที่เจตนา แต่นั้นมันคือแอคชั่น เพียงแค่เอาสีทาทาบหน้าอกของตัวเองแล้วเอาหน้าอกนาบซึ่งทุกคนสามารถทำได้หมด แต่เหนือกว่าความเป็นแอคชั่นตรงนั้นมันต้องมีเป้าประสงค์ มันต้องมีในการแปลความหายในเชิงศิลปะ ซึ่งสามารถพูดได้ ถ้าคนธรรมดาทำเขาไม่สามารถพูดได้แค่บอกว่ามันเป็นศิลปะแล้วศิลปะตรงไหน? มันต้องมีความชัดเจนของตัวมันเอง”

สมศักดิ์ ทิ้งท้ายว่าเรื่องของศิลปะบางครั้งมันอาจก้าวล้ำไปกว่าความคิดของคนปกติ ไม่แปลกหากคนดูจะไม่สามารถเข้าใจความหมาย แต่ในเชิงของวิชาการด้านศิลปะแล้วต้องอธิบายได้ อย่างการสร้างผลงานโดยเอาหน้าอกมาระบายสีแล้วผลิตผลที่ออกมาให้ความรู้สึกอย่างไร ต้องมีเป้าหมายชัดเจนสามารถอธิบายเหตุผลได้


เวทีนี้ยิ่งด่ายิ่งคึก
การกลับมาในซีซั่นที่ 2 ของรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ นั้นสร้างปรากฎการณ์แก่ผู้ชมฟรีทีวีเป็นระลอก แรกเริ่มเดิมทีเป็นรายการสัญชาติอังกฤษที่ว่ากันว่าโด่งดังไปทั่วโลก รายการจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถไม่จำกัดรูปแบบสมัครเข้ามาร่วมแสดงความสามารถของตัวเอง ขณะนี้ก็มีรายการก็อตทาเลนต์ของชาติต่างๆ ออกอากาศแล้ว44 ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยเองก็เป็น 1 ใน 6 ของแถบเอเซียที่ได้รับลิขสิทธ์รายการ

จุดขายอย่างหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นการแสดงความสามารถสุดบันเจิดของผู้เข้าร่วมแข่งขันที่ช่วยสร้างสีสันให้รายการได้ไม่น้อย เชื่อว่าทางรายการเองก็ยอมคัดผู้เข้าแข่งขันที่จะมาแสดงความสามารถบนเวทีมาแล้วในระดับหนึ่งแน่นอนถ้าไม่เด็ดดวงจริงๆ คงไม่ออกมาปรากฎสู่สาธารณะชน

อีกนัยหนึ่ง การแสดงที่ขัดต่อวัฒนธรรมของสังคมไทยอย่างเปลือยเต้าวาดภาพที่อ้างว่าเป็นงานศิลปะถึงจะเรียกเรตติ้งกระฉูด แต่ดูแล้วเสียงติติงจะกลบเสียสนิท

นักวิชาการด้านการสื่อสารมวลชนและการตลาด ดร.เสรี วงษ์มณฑา มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และบอกได้เพียงว่ามีความเป็นไปได้ที่รายการจะรู้เห็นเหตุการณ์อยู่แล้ว ประกอบกับยิ่งเป็นรายการที่ผ่านการตัดต่อมาก่อนก็ควรจะมีการเซ็นเซอร์ไม่ให้ภาพออกมาสู่ฟรีทีวีแบบนี้ได้

“ตามกติกา กรรมการไม่ควรเห็นตรงนั้นเลย มันควรจะรู้ก่อนว่าคนที่มาประกวดจะแสดงอะไร จริงๆ มันต้องกรองกันล้วงหน้าว่ามันไม่เหมาะสม”

โดยความไม่เหมาะสมตรงนี้ แม้แต่ในประเทศเสรีอย่างอหรัฐอเมริกา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนก็เล่าว่า ยังไม่เป็นที่ยอมรับ

“หากเป็นในภาพยนตร์มันได้ แต่ในโทรทัศน์แบบนี้ ที่เข้าถึงทุกคนได้ มันไม่เหมาะสม และแม้จะบอกว่าเป็นศิลปะ มันก็ต้องแสดงให้ถูกที่”

ในส่วนของการสร้างประเด็นให้คนพูดถึงนั้นอาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยตั้งใจก็ได้ ซึ่งไม่สามารถรู้ความจริงได้ว่า ทางรายการรู้อยู่แก่ใจว่ามันจะเกิดขึ้นแล้วก็ปล่อยออกมาเป็นกระแส หรือไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นแล้วมันก็เกิดขึ้นเอง ก็เป็นกระแสโดยไม่ใช่ความตั้งใจ

“อันนี้สรุปไม่ได้ แต่เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดขึ้นมันเป็นกระแสแน่นอน มันเกิดโดยความตั้งใจหรือธรรมชาติเราไม่รู้ แต่มันไม่เหมาะสมที่จะให้มันออกมาแบบนี้ ต่อให้เป็นศิลปะ คนจัดมันควรกรองก่อน ยิ่งเป็นรายการอัดเทปยิ่งไม่ควรจะออกมา ตรงนี้เราก็ไม่รู้ว่าจิตใจของคนจัดรายการเขาคิดอะไรอยู่”

….................................
หากเป็นการแสดงออกซึ่งงานศิลปะที่แท้จริงแล้ว คนไทยส่วนใหญ่คงสามารถเปิดใจยอมรับผลงานนั้นๆ ได้ ศิลปะอยู่ที่เจตนารมณ์ของศิลปินและไม่แปลกเลยหากผลงานที่รังสรรค์ออกมายากเกินกว่าที่ผู้ชมจะเข้าใจ เพราะเนื้อแท้ของงานศิลปะนั้นไม่มีพรมแดน มีเพียงความหมายที่เจ้าของผลงานสามารถอธิบายออกมาอย่างลึกซึ้ง

จะว่าไป การแสดงดังกล่าวใครๆ ก็สามารถทำได้ เพราะมันคือการแสดงออกถึงความแปลกที่ใช้เพศเป็นการดำเนินเรื่อง ไม่ใช่ 'ศิลปะ'

--------------------
คลิกชมคลิป








ผลงานจากเนินอก ศิลปินสาวชาวสหรัฐฯ ไครา อิน วาสเซกี้
กำลังโหลดความคิดเห็น