xs
xsm
sm
md
lg

ถ้าคุณแน่! อย่าแพ้สาว ป.6 “กิ๊ก – วารุณี สุวรรณนุรักษ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
เพียงไม่กี่นาทีที่เธอโชว์ความสามารถบนเวทีไทยแลนด์ ก็อต ทาเลนต์ ซีซั่น 2 ทำให้ทุกคนในห้องส่งถึงกับอึ้ง! และขนลุก ด้วยเสียงร้องเพลงคลาสสิกอย่าง What's up อันทรงพลังแบบสำเนียงฝรั่งเป๊ะ แม้จะจบแค่ชั้น ป.6 ก็ตาม “กิ๊ก - วารุณี สุวรรณนุรักษ์” จึงกลายเป็นชื่อที่ถูกค้นหามากที่สุดเพียงชั่วข้ามคืนในโลกไซเบอร์ ขณะเดียวกันยอดวิวยูทิวบ์ก็ขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทะลุหลักล้านอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาแค่ 3 วันเท่านั้น

เรียนต่ำ แค่ความสามารถสูง
แม้ว่าเธอจะเป็นแค่สาวชาวบ้านธรรมดาๆ ที่มีฐานะยากจน แต่ความสามารถช่างมหัศจรรย์ เมื่อเทียบกับการศึกษาแค่ระดับชั้นประถม 6 ซึ่งไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสามารถของสาวคนนี้แม้แต่น้อย เธอมีความพยายามที่จะเอาชนะ และก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตด้วยตัวของเธอเองโดยไม่ย่อท้อ คนในสังคมจึงร่วมส่งกำลังใจเชียร์เธอให้ไปถึงเส้นชัยในเวทีประกวดความสามารถไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 นี้

เมื่อย้อนไปดูพื้นเพเดิม กิ๊ก - วารุณี เป็นชาวใต้จังหวัดยะลา อายุ 32 ปี ที่มีความสามารถทางด้านการร้องเพลงทุกแนว จึงประกอบอาชีพร้องเพลงรับจ้าง และเป็นนักร้องอิสระตามงานทั่วไปในจังหวัดภูเก็ต

“กิ๊กจบแค่ ป.6 แต่ว่าตอนนี้กำลังเรียนต่อ กศน. ชั้น ม.ต้น เพราะว่าทางบ้านยากจน ไม่มีตังค์ พ่อทำงานก่อสร้าง จนทุกวันนี้อายุ 50 ก็ยังเป็นกรรมกรอยู่ ส่วนแม่ก็ช่วยพ่อเป็นบางครั้ง แล้วกิ๊กมีพี่น้องเยอะค่ะ มี 4 คน ผู้ชาย 3 คนผู้หญิง 1 คน และกิ๊กเป็นคนแรก เราจึงต้องเสียสละตรงนี้ให้น้องได้เรียน เพราะแม่มีตังค์อยู่ 1,500 เราต้องตัดสินใจให้น้องเรียน 3 คนแทนเราคนเดียว” เมื่อพูดจบน้ำตาเธอเริ่มคลอเบ้า ก่อนที่จะไหลเอ่อออกมาพร้อมกับประโยคที่ว่า “มันจนน่ะค่ะ”

คราวนี้เธอร้องไห้หนักขึ้น ทิ้งคราบน้ำตาและร่องรอยแห่งความเศร้าโศกบนใบหน้าตลอดเวลาที่ตอบคำถาม ชวนให้ผู้ชมต่างตั้งโจทย์ว่าชีวิตเธอทำไมมันถึงเศร้าปานนั้น

หนุ่มกีตาร์มือเดียว คือแรงบันดาลใจ
ทันทีเมื่อรายการ ไทยแลนด์ ก็อต ทาเลนต์ ซีซั่น 2 ได้นำความสามารถเธอออกอากาศสู่สายตาประชาคมทั่วประเทศ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังไปในพริบตา และมีแต่คนพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ

อะไรเป็นจุดเปลี่ยนให้สาวธรรมดาอย่างเธอ เข้ามายืนบนเวทีแห่งนี้ “ปีที่แล้วไม่ได้มา นั่งดูอยู่หน้าจอทีวี ได้แรงบันดาลใจจากพี่ที่มีมือพิการ ขนาดเขามีมือเดียวยังลุกขึ้นสู้ได้เลย เขามีความกล้าที่จะทำตรงนี้ แล้วกิ๊กมีครบหมดเลย กิ๊กก็คิดว่าน่าจะทำได้ไม่แพ้กัน”

นั่นคือ “สมศักดิ์ เหมรัมย์” นักร้องหนุ่มกีตาร์มือเดียว ผู้ที่ครองใจคนทั้งสังคม แม้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชนะเลิศ แต่ก็ชนะใจผู้ชม ที่คอยส่งแรงใจตลอดการแข่งขัน ไม่ต่างจากเธอ เวทีนี้ยังมีที่ยืนให้กับคนที่มีความสามารถและมีจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ เขาและเธอทั้งสองจึงมีอะไรที่คล้ายกัน

นอกจากนักร้องหนุ่มกีตาร์มือเดียวจะเป็นแรงบันดาลใจให้เธอกล้ามายืนอยู่บนเวทีนี้แล้ว ครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญที่สาวกิ๊กมักจะพูดถึงตลอดเวลา แม้จะพูดด้วยน้ำตาทุกครั้ง แต่แววตาไม่มีคำว่าท้อให้เห็นเลยสักนิด

ทำไมถึงมารายการนี้? ภิญโญ รู้ธรรม หนึ่งในคอมเมนต์เตเตอร์ถามขึ้น หลังจากเธอขึ้นมายืนอยู่กลางเวทีด้วยดวงตาแดงกร่ำ แต่เธอก็ตอบกรรมการด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจว่า “อยากได้เงินสักก้อนหนึ่งเพื่อไปซื้อบ้านให้พ่อแม่ และลูกสาวอยู่” หลังจากตอบเธอก็ร้องไห้โหอีกครั้ง เมื่อรวบรวมสมาธิได้ เสียงดนตรีก็เปิดขึ้น เพื่อให้เธอได้เริ่มต้นแสดงความสามารถ และมอบเวทีนี้ให้แก่เธออีกครั้ง

เพลงฝรั่ง สำเนียงเป๊ะ!
เพลง วอทซ์ อัพ (วอทซ์ โกอิง ออน) What's up (What's Going On) ของศิลปิน โฟร์ นัน บลอนด์ส (4 Non Blondes) เป็นเพลงที่เธอนำมาใช้เพื่อแสดงความสามารถ จนทำให้ผู้ชมและกรรมการทั้ง 3 คน ภิญโญ รู้ธรรม, เบนซ์ พรชิตา และ โจ จิรายุส ถึงกับขนลุกกับเสียงอันทรงพลังและสำเนียงที่ชัดเจน รวมถึงอารมณ์ที่เธอถ่ายทอดออกมา ทำให้คนดูรับรู้ได้ถึงการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ที่ผ่านมาของหญิงสาวคนนี้ ผ่านทางน้ำเสียงของเธอ

เริ่มต้นเพลงด้วยเสียงปรบมือให้กำลังใจจากผู้ชมทั่วห้องส่ง เมื่อเธอเริ่มต้นร้องเท่านั้นทุกคนตกอยู่ในความเงียบงัน และเมื่อถึงท่อนโชว์พลังเสียง เสียงปรบมือก็ดังลั่นทั่วห้องส่งอีกครั้ง จนกระทั่งเธอร้องจบลง เสียงปรบมือก็ยิ่งเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆ และลากยาว พร้อมกับเสียงโห่ร้องชื่นชมในความสามารถของเธอมาเป็นระยะๆ จากด้านล่างเวที คราวนี้มันทำให้เธอยิ้มออกมาได้บ้าง ไม่เหมือนตอนขึ้นเวทีครั้งแรก

ก่อนที่กรรมการจะถามว่าความรู้คุณอยู่ระดับชั้นไหน? แน่อยู่แล้วคำตอบที่ได้ก็คือชั้น ป.6แม้ว่าจะมีการศึกษาไม่สูง แต่เธออาศัยการเรียนร้องเพลงภาษาอังกฤษจากการฟังและจดจำ แล้วฝึกฝน โดยการเขียนทับศัพท์เป็นภาษาไทย ด้วยความชอบและใจรักที่อยากจะร้องเพลงภาษาอังกฤษให้ได้ เธอบอกว่า “ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเพลงภาษาอังกฤษแต่ละเพลงถึง 2 อาทิตย์ และฟังซ้ำไปซ้ำมาเป็น 100 รอบกว่าจะจำทำนองและเนื้อร้องได้ เพลงที่ใช้โชว์ก็ฝึกอย่างนี้เหมือนกัน”

แม้ว่าเธอจะเคยมีแฟนเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งลูกสาวคนเดียวของเธอเกิดจากสามีชาวมาเลย์เซียที่เลิกรากันไป และตอนนี้เธอมีแฟนเป็นชาวเดนมาร์ก แต่ก็ไม่ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะแต่ละคนก็ใช้ภาษาถิ่นของตนเอง ซึ่งต่างก็ต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษเหมือนกัน

เพลง What's up วง 4 Non Blondes ที่เธอเลือกมาโชว์นั้น ถือเป็นเพลงคลาสสิคที่อยู่ในใจใครหลายคน แต่เมื่อเธอนำมาร้อง ต้องบอกเลยว่ามันเป็นเวอร์ชั่นที่ไม่ธรรมดาเลย นอกจากจะเป็นเสียงที่มีพลังแล้ว ยังมีสำเนียงภาษาอังกฤษที่เหมือนต้นฉบับจริงๆ นี่เป็นข้อโดดเด่นที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง และแทบไม่เชื่อหูว่าจะเป็นเสียงร้องของสาวจบชั้น ป.6 แต่แล้วเธอก็ทำสำเร็จที่ได้ฝากความสามารถนี้ให้ทุกคนได้ชื่นชม ก่อนที่จะเดินลงจากเวทีอย่างสง่างามด้วยความสามารถจากความพยายามของเธอเอง

เสียงโดนใจกรรมการ
ไม่เพียงผู้ชมในห้องส่งที่ยกนิ้วให้เธอ และคิดว่าบางคนคงอยากเป็นคอมเมนต์เตเตอร์เสียเอง พร้อมยกมือบอกว่า “ผ่าน” เสียงดังๆ เพื่อให้ผู้หญิงคนนี้เข้าไปแข่งขันในรอบต่อไป

หลังจาก 3 กรรมการ ได้แสดงปฏิกิริยาเป็นปลื้มเสียงร้องของสาวกิ๊กแล้ว ก็ถึงเวลาที่เธอต้องฟังคอมเมนต์

“คุณกิ๊กมาถูกเวทีแล้ว ความสามารถคุณก็โอเค” ภิญโญ รู้ธรรม พูดขึ้นอย่างฉะฉาน
เบนซ์ - พรชิตา สาวคนเดียวในคอมเมนต์เตเตอร์ พูดเปรยในขณะฟังเพลงออกมาว่า “โอ้ย! สุดยอด” แค่นี้ก็ไม่ต้องบอกอะไรแล้วว่าเธอประทับใจในเสียงร้องของสาวกิ๊กมากแค่ไหน

โจ - จิรายุส เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “เพลงเมื่อกี้ผมได้ยินมาทั้งชีวิตนะ แต่เวอร์ชั่นเมื่อกี้ ที่สุดอ่ะ” ส่วนเบนซ์บอกอย่างไม่ลังเลว่า “เบนซ์คิดว่าผู้หญิงคนนี้ชนะแน่!” ก่อนที่สาวกิ๊กจะตื้นตันและรู้สึกเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง ตามด้วยเสียงตัดสินจากคณะกรรมการที่ตกลงพร้อมใจพูดเป็นเสียงเดียวกันดังๆ ว่า “ผ่านค่ะ/ครับ”

ใบหน้าของเธอที่อาบด้วยน้ำตาตอนนี้ดูอิ่มเอิบและเป็นปิติมากกว่าครั้งแรกที่เห็น เมื่อเดินถึงด้านหลังเวที สาวกิ๊กถึงกับพูดอะไรไม่ออก แต่ต้องบอกเลยว่าเธอชนะแล้ว ชนะทั้งที่ยังไม่ได้ประกาศผล อย่างน้อยคือการชนะใจตัวเอง เธอกล้าที่จะมายืนอยู่บนเวทีนี้แล้ว

3 วันยอดวิว ทะลุ 1 ล้าน
หลายคนที่ได้ชมการแสดงสดของเธอวันนั้น (3 มิ.ย.) ต่างประทับใจและอยากให้ทุกคนที่พลาดการชมได้เห็นเหมือนกัน คลิปของเธอจึงถูกแชร์ในโลกไซเบอร์เป็นใยแมงมุม จนทำให้คลิปได้รับความนิยมมียอดพุ่งถึงล้านวิว ใน 3 วัน

นี่คือพลังของโซเซียลเน็ตเวิร์ก ที่ทำให้สาวธรรมดาๆ คนหนึ่ง กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ที่หลายคนพูดถึงไปทั่วบ้านทั่วเมือง และทำให้เธอเป็นคนดังได้ในชั่วข้ามคืนทันที
ชาวเน็ตแม้จะคอมเมนต์ไม่ได้บนเวที ก็เลยขอคอมเมนต์ผ่านเน็ตเวิร์กบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการให้กำลังใจ และกล่าวชื่นชมในตัวเธอ

“เหมือนที่คุณโจพูด เคยฟังเพลงนี้มาหลายรอบ จากคนร้องหลายคน แต่ไม่เคยมีใครทำให้น้ำตาซึมได้เท่าฟังคุณกิ๊กร้อง ขอให้ประสบความสำเร็จค่ะ...ว่าแล้วก็ขอฟังอีกเป็นรอบที่ 5 แล้วกัน”
“สุดยอดค่ะฟังพลังเสียง และดูจากคนดูในห้องส่งเป็นกำลังใจให้ค่ะคนสู้ไม่มีวันแพ้”
“ผมเข้ามาดูวันละไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ทุกครั้งที่ดูและฟังผมน้ำตาคลอตลอดเลย เป็นการร้องที่ประทับใจจริงๆ”
“ดูไว้ คนเก่ง คนดี ไม่ได้อยู่โรงเรียนดีๆ เสมอไป คนเรามีความมุ่งมั่นกันทุกคน แต่มีน้อยคนที่จะทำสิ่งนั้น”
“ฟังหลายรอบแล้วครับ ขนลุกทุกครั้งที่ฟัง”
“ไม่เกี่ยวกับการศึกษา มันอยู่ที่ 'การฝึกฝน'”

แต่แล้วก็มีนักท่องเน็ตช่วยกันสืบค้นขุดคุ้ยเรื่องราวของเธอมากขึ้น โดยมีคำถามว่าไม่ได้จนจริงรึเปล่า? ซึ่งชาวพันทิปตั้งกระทู้ในชื่อว่า ตกลง Thailand Got Talent ต้มเราอีกแล้วหรือเปล่า กับ คุณ กิ๊ก วารุณี ด้วยการเอาเรื่อง ดราม่า เด็กจบ ป.6 ยากจนมาก ไม่มีเงินเรียน มาขายหรือเปล่า พร้อมทั้งโพสต์เว็บไซต์นี้แปะมาด้วย https://plus.google.com/103962716303366875409/about

แต่เธอก็ออกมายืนยันในรายการสรยุทธ เจาะข่าวเด่น (6 มิ.ย.) ถึงสถานภาพของเธอว่า ตอนนี้ก็ไม่ได้รวยจริงๆ จนขนาดที่ว่าอยู่บ้านเหมือนกระต๊อบ เวลาฝนตกต้องหาถ้วยมารอง มีอยู่ครั้งหนึ่งหนึ่งไม่มีตังค์ ต้องเอาข้าวมาผสมกับน้ำมัน เกลือ และน้ำตาลกิน มาเวทีนี้เพราะแค่อยากได้เงินไปซื้อบ้านให้พ่อแม่ในบั้นปลาย และอยากเป็นนักร้องที่คนรู้จัก

ซึ่งก็มีหลายคอมเมนต์ไม่ได้สนใจเรื่องฐานะการเงินของเธอเท่าไหร่นัก และพูดทำนองว่า ไม่ว่าเธอจะเป็นอะไร มาจากไหนก็ช่าง แต่ที่สุดแล้ว เธอร้องและแสดงให้คนดูได้ประทับใจทุกครั้ง เมื่อมีความสามารถก็เป็นเรื่องดีที่ควรส่งเสริม




สัมภาษณ์ในรายการ สรยุทธ เจาะข่าวเด่น

กระดาษที่ใช้จดเนื้อเพลงเพื่อฝึกฝน

ภาพที่ชาวพันทิปขุดคุ้ยมา


ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
รายการสรยุทธ เจาะข่าวเด่น
กำลังโหลดความคิดเห็น