xs
xsm
sm
md
lg

sex & fun : เอ็ม-เลค เซ็กซี่แดนซ์ เซ็กซี่มิวสิกวีดีโอ เส้นแบ่งบางเบาระหว่าง ‘เซ็กซี่’ กับ ‘โป๊เปลือย’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉันก็แค่กลัวว่าจะมองไม่ชัด..
ที่จะพูดอาจจะดูไม่ดีนัก
ได้โปรดขยับขาเธอเป็นรูปตัวเอ็ม
อ้าออกช้าๆ ให้เป็นรูปตัวเอ็ม


นี่คือเนื้อเพลงบางท่อนจากเพลง เอ็มเลค ของ อิลสลิก ศิลปินใต้ดินที่มิวสิกวีดีโอเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของท่าเต้นและองค์ประกอบต่างๆ ที่ดูจะเซ็กซี่เกินไป โดยมีฉากหลังเป็นบาร์โคโยตี้ และท่าเต้นที่หวือหวาจนเกิดเป็นกระแสข่าว และกอบโกยยอมวิวพุ่งไปเกินหลักล้านในไม่นาน

ทว่า...เมื่อลองมองดูให้ดีๆแล้ว โดยรวมมิวสิกวีดีโอของศิลปินนักร้อง การขายความเซ็กซี่นั้นมีมาอยู่ทุกยุคทุกสมัย และแต่ละยุคสมัยระดับของการโชว์หรือการขายความเซ็กซี่นั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ยุคที่สายเดี่ยวปรากฎในมิวสิกวีดีโอของศิลปินวัยรุ่นเป็นครั้งแรกจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ผ่านคืนวันที่คำวิพากษ์วิจารณ์ของนักอนุรักษ์นิยมกลายมาเป็นกระแสโปรโมตให้กับงานเพลง จนสังคมเริ่มมองความเซ็กซี่ของศิลปินเป็นสิ่งที่ยอมรับได้

และดูเหมือนความแรงของระดับความเซ็กซี่ที่เพิ่มขึ้นก็ยิ่งเพิ่มกระแสของเพลงให้แรงขึ้นด้วย

กับมิวสิกวีดีโอของต่างประเทศ ชัดเจนว่าวัฒนธรรมของตะวันตกนั้นมีขอบเขตของการยอมรับในการขายความเซ็กซี่ที่เปิดกว้างกว่า ในส่วนของศิลปินที่เป็นที่นิยมในเมืองไทยอย่างกลุ่มศิลปินเกาหลี ก็มีหลายกลุ่มหลายวงที่เมื่อเวลาผ่านไป การขายที่ความสวยใสน่ารักพอโตขึ้นก็หันมาขายความเซ็กซี่จนเหมือนเป็นสัจธรรม

แน่นอนว่าการขายความเซ็กซี่เป็นรูปแบบหนึ่งของความบันเทิงของมนุษย์ หากแต่ขอบเขตระดับความบันเทิงในรูปแบบของ ‘เซ็กซี่’ กับ ‘โป๊เปลือย’ นั้นอยู่ตรงไหน?

เซ็กซี่ หรือ โป๊เปลือย ?

จากปรากฏการณ์ของมิวสิกวีดีโอที่ออกมา แน่นอนว่าในสังคมไทยนั้นระดับของความโป๊เปลือยที่มากกว่านี้มีให้เห็นอยู่มากมายในที่เฉพาะ หรือวงจำกัด อย่างในร้านคาราโอเกะที่แม้จะร้องเพลงเพื่อชีวิต ในภาพประกอบเพลงกลับเป็นสาวน้อยนุ่งบิกินีโพสต์ท่าเดินตามทิวทางชนบท หรือจะเป็นบาร์อาโกโก้ก็การเต้นในท่าที่เซ็กซี่เหมือนจะเป็นเรื่องปกติ

และมิวสิกวีดีโอที่ในยุคสมัยนี้ก็ยิ่งนับวันก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นเพื่อเรียกกระแส ทว่าด้วยความเป็นสื่อที่คนเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายครั้งในสังคมไทยจะมีผู้ออกมาทวงถามถึงความเหมาะสมต่อความหวือหวาของแต่ละงานดนตรี เรียกว่าทวงถามเสียจนสังคมเริ่มชาชินไปแล้ว ท่าแบบนี้เหมาะสมไม่เหมาะสม ดูจะเป็นหน้าที่ของสังคมในการตัดสิน

“การเต้นในปัจจุบันมันเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ตามแฟชั่นต่างประเทศมันก็จะมีหลายปัจจัยที่มันเข้ามา  เมื่อก่อนเราอาจจะมีการเต้นอีกแบบหนึ่ง เมื่อวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาเราก็จะเต้นอีกแบบหนึ่ง สมัยนี้ก็จะมีวัฒนธรรมเกาหลีบ้าง มันจะเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยด้วย มีที่ถูกต้องบ้างไม่ถูกต้องบ้าง ตามแต่คนในสังคมจะมองอย่างไร” จารุภพ เรืองสุวรรณ ครูสอนเต้นลีลาศอิสระเอ่ย

โดยการเต้นลีลาศนั้น ในจังหวะลาตินก็มีส่วนของเซ็กซี่แฝงปนอยู่ ด้วยเพราะเป็นการเต้นที่มาจากวัฒนธรรมตะวันตกซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศอังกฤษ เป็นการเต้นของชนชั้นสูงเพื่อความบันเทิง และแพร่หลายข้ามผ่านวัฒนธรรมมากมาย แปรเปลี่ยนพัฒนาจนมาเป็นอย่างปัจจุบัน ทว่าความเซ็กซี่ในแบบของลีลาศนั้นก็มีกรอบเกณฑ์ที่กำหนดไว้แล้ว

“จริงๆ แล้วมันมีน้อยมากนะ คือให้หนึ่งท่าอาจมีเพียงไม่กี่วินาทีที่เซ็กซี่ จะไม่ได้เซ็กซี่ตลอดเวลา มันเป็นศาสตร์ที่เป็นการแข่งขัน ท่าทายกับร่างกายที่จะต้องเคลื่อนไหวให้สอดประสานกับจังหวะมากกว่า และชุดแต่งกายที่อาจจะดูเซ็กซี่นั้น จริงๆ แล้วก็มีการเซฟไว้ทั้งหมด มีระบุเป็นกฎกติกาไว้ชัดเจน”

แต่กับกรณีล่าสุดอย่างเพลง เอ็ม-เลค ดูจะเป็นวิพากษ์ของสังคมวงกว้าง จนเห็นได้ชัดว่า นี่อาจเป็นเส้นขอบเขตของการยอมรับของสังคมแล้วก็เป็นได้

“ผมคิดว่าการจะทำเอ็มวีออกมาแล้วเซ็กซี่ ถ้าหากไม่ทำให้ใครเดือนร้อน เป็นเพลงใต้ดินที่เปิดและฟังกันเฉพาะกลุ่มจริงๆ อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ถ้ามันออกมาเผยแพร่สู่สาธารณชน และใครก็เข้าถึงมันได้ เด็กๆก็เข้าถึงได้ แบบนี้ถือว่าไม่เหมาะสม ถึงมันจะมีสิทธิเสรีภาพก็จริง แต่มันก็ต้องอยู่ในกรอบของวัฒนธรรม ประเพณีหรืออะไรที่คนไทยรับได้ด้วย”

ซึ่งสอดคล้ายกับคนที่มองในมุมตรงข้ามอย่าง บอม (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) พนังงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ต้องพาลูกค้าไปเที่ยวตามบาร์ที่มีการเต้นเซ็กซี่เป็นประจำก็เห็นว่า เรื่องพวกนี้อาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเยาวชน เพราะมาเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตที่เข้าถึงได้ง่าย

“สำหรับคนที่เคยดูมาแล้ว มันก็เฉยๆนะ ไม่มีอะไร เป็นมิวสิกวีดีโอเพลงหนึ่ง แต่กับคนที่คิดไม่ดีอาจจะดูแล้วเกิดอารมณ์ แต่ยังไงมาลงเว็บยูทูบแบบนี้มันก็เข้าถึงได้ง่ายเกินไป เป็นใครก็เข้ามาดูได้ แต่เรื่องแบบนี้ต้องโตหน่อยถึงจะเหมาะสม”

ซึ่งเขายอมรับว่าการเสพความบันเทิงแบบนี้เป็นบันเทิงในเชิงของกามารมณ์อยู่ แต่ก็ไม่ใช่ความบันเทิงแบบเดียวกับการไปเที่ยวผู้หญิง โดยเขาให้รายละเอียดว่า เสน่ห์ในการไปเที่ยวแบบนี้อยู่ที่การสร้างความบันเทิงร่วมกันระหว่างเพื่อน

“มันสนุกนะ เวลาไปผมก็จะไปกับเพื่อน ดูแล้วบันเทิง เฮฮากัน นั่งดูแล้วคุยกัน ดูโน่นเต้นสวยนะ คนนี้ใช้ได้ ถ้าไปนวด หรือเที่ยวผู้หญิง อันนั้นไปด้วยกันก็ต้องแยกกันไป แต่อันนี้ถือเป็นความบันเทิงร่วมกันอย่างหนึ่ง”

ในมุมมองของคนดู โคโยตี้ หรือการเต้นยั่วยวนแบบนี้ถือเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง ซึ่งในมุมกลับกันนั้น หญิงสาวที่เต้นอยู่บทเวทีก็ถือว่าหน้าที่ในการเต้นของตนเอง เป็นการทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ

อัจฉริยา อำไพรัตนา ครูสอนเต้น และเจ้าของสถาบันสอนเต้น อีโวลูชั่น แดนท์ สตูดิโอ ที่มีการเปิดสอนคอร์สเต้นโคโยตี้เพื่อประกอบอาชีพเผยว่า มีหลายคนที่มาเข้าเรียนเพื่อเป็นทักษะในการเต้นประกอบอาชีพให้ดีขึ้น ขณะที่หลายคนอาจจะไม่ได้เอาไปประกอบอาชีพ แต่การเต้นเซ็กซี่นั้นก็ถือเป็นความสนุก และความบันเทิงอย่างหนึ่ง

“หลายคนมาเรียนเอาไปทำงาน นั่นคือหน้าที่ แต่บางคนก็มาเรียนเพื่อไปเต้นเซ็กซี่สนุกๆ อาจเรียนเพื่อไปเที่ยวเข้าสังคม แต่ก็เรียนพอให้การมูฟเมนท์มันดูเป็นผู้หญิง ดูเซ็กซี่ก็จะไม่ใช่ระดับเซ็กซี่มากมายนัก”

ทั้งนี้ ศาสตร์และศิลป์ของการเต้นแนวเซ็กซี่นั้น เธอเล่าว่า ความเซ็กซี่สามารถออกมาได้กับการเต้นหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับฟิลลิ่งของนักเต้นและเพลงประกอบที่จะขับให้อารมณ์ออกมาในแบบเซ็กซี่ด้วย

“ผู้ชายก็เต้นเซ็กซี่ได้นะ ซึ่งเซ็กซี่มันต้องดึงเอาความเป็นตัวของตัวเองออกมาด้วย รู้จักร่างกาย ใช้บอดี้ของตัวเองให้เป็น มีทักษะการเต้นเบื้องต้นในการแยกส่วน ในห้องซ้อมเต้นจะมีกระจกส่องเพื่อดูตัวเอง ต้องรู้จักปรับท่าให้เข้ากับตัวเอง เพื่อให้ดูดี ดูสวยในขณะเต้น ไม่ใช่ทำตามครูฝึก โคโลกราฟเฟอร์ทุกอย่าง ต้องปรับให้เข้ากับตัวเองด้วย”

โดยเส้นแบ่งของการเต้นระหว่าง ‘เซ็กซี่’ กับ ‘โป๊เปลือย’ อัจฉริยาอธิบายง่ายๆว่า การเต้นเซ็กซี่ไม่เป็นจำเป็นต้องโป๊เปลือย ใส่เสื้อปกติก็เต้นเซ็กซี่ได้ เพียงแต่ให้ได้อารมณ์ออกมา ส่วนโป๊เปลือยนั้นอาจจะเต้นไม่สวย แต่ก็โป๊เปลือยได้

การเต้นเซ็กซี่แท้จริงแล้วมีมาแต่โบราณ ในยุคสมัยของมนุษย์จนยากจะหาจุดเริ่มต้น เซ็กซี่ในแบบยุค 60 ก็แตกต่างจากเซ็กซี่ของยุคนี้ เธอมองว่าการยอมรับในเรื่องอะไรคือความเซ็กซี่นั้นก็แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยด้วย

.....

กระแสสังคมเป็นส่วนหนึ่งที่ตัดสินได้ว่าในสังคมนั้นๆ ยอมรับกับความเซ็กซี่ในระดับไหนได้ แต่หลายครั้งสังคมก็มีมาตรฐานที่ซับซ้อน ซ่อนปมของเงื่อนไขหลายอย่างไว้จนชวนให้ประหลาดใจ กรณีของมิวสิกวีดีโอนั้น ยิ่งจับมาพูดจับมายิงคำวิจารณ์ใส่ ผลที่ตามมาคือชื่อเสียงที่ยิ่งจะไปพุ่งยอดวิวให้สื่อนั้นเพิ่มมากขึ้น

ทว่าแม้วัฒนธรรมจะแปรเปลี่ยน การยอมรับของผู้คนต่อคำว่า ‘เซ็กซี่’ กับ ‘โป๊เปลือย’ จะบางลงสักเท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่ไม่แปรเปลี่ยนคือในสังคมนั้นประกอบไปด้วยคนหลายช่วงวัย หลายวุฒิภาวะ และในสังคมไทยการควบคุมดูแลในจัดระบบเรทติ้ง หรือการจัดการให้สื่อเหมาะกับคนเสพนั้นก็ยังคงมีช่องว่างที่สังคมยังอ่อนแอเกินกว่าจะควบคุมอยู่

...............

เรื่อง : หนุ่ม X


กำลังโหลดความคิดเห็น