xs
xsm
sm
md
lg

Sex & Fun : ‘ยาเสียสาว’ ของขวัญอันไม่พึงประสงค์ในวันแห่งความรัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มาถึงช่วงนี้หลายคนคงจะเริ่มวางแผนกันแล้ว กับวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึง หากมีคู่ มีรัก มีที่พักของหัวใจแล้ว นี่คงจะเป็นวันหนึ่งที่ความรักสุกปลั่งที่สุดในรอบปี

ช็อกโกแลต หรือดอกกุหลาบ อาจถูกเลือกมาเป็นขอขวัญที่จะมอบให้แก่กัน

แต่หากไม่มี หลายครั้งทางเดินชีวิตดายเดี่ยวพร้อมสัญชาตญาณดิบของความอยากก็ไม่ปราณี และอาจกระซิบแผนร้ายจนก่อเกิดเป็นเหตุอาชญากรรมขึ้นได้

‘ยาเสียสาว’ อาจถูกเลือกเป็นของขวัญที่จะมอบให้ ซึ่งคงไม่มีผู้รับคนไหนอยากได้รับ

ที่มา ‘ยาเสียสาว’

ประเภทของยาที่นำมาใช้ในนิยามรวมๆ ว่าเป็นยาเสียสาวนั้น สามารถแบ่งตามอาการได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน ซึ่งรวมๆ แล้วเป็นยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท

ประเภทยาชนิดแรกที่เป็นที่นิยมใช้ก่ออาชญากรรมก็คือ ยาประเภทกล่อมประสาท เป็นยาที่ออกฤทธิ์ทำให้เหยื่อหมดสติ เป็นยานอนหลับอย่างแรง โดยมีผลทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไป ซึ่งยาประเภทนี้ส่วนมากจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส และออกฤทธิ์เร็วประมาณ 15-30 นาทีเท่านั้น โดยวิธีใช้ตัวยาส่วนมากจะผสมไปในเครื่องดื่ม และจะออกฤทธิ์เร็วขึ้นเมื่อผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ประเภทที่สองจะเป็น ยาประเภทกระตุ้นประสาทในระยะสั้น และจะหลอนประสาทอย่างรุนแรง โดยมีศัพท์เรียกยาประเภทนี้ว่า ‘ยาส่าย’ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปเกิดอาการหัวส่ายไปมา เคลิบเคลิ้ม ทำให้ขาดสติ ไม่รู้สึกตัว และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ โดยมีฤทธิ์เป็นยาเสพติดประเภทหนึ่ง โดยจะออกฤทธิ์ใน 45 นาที และมีอาการเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง

ที่เลวร้ายก็คือยาประเภทนี้มีผลในการทำลายภูมิคุ้มกัน ทำลายเซลสมอง ทำให้เศร้าหมอง หดหู่ อาจทำให้เป็นโรคซึมเศร้า จนบางทีมีแนวโน้มสูงที่จะฆ่าตัวตายอีกด้วย

“ยาเหล่านี้มันเป็นยาควบคุมอยู่แล้ว บางตัวก็ถือเป็นยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหากเป็นยาที่อยู่ในระบบเราจะสามารถควบคุมได้ จากการตรวจสอบปริมาณที่สถานพยาบาลต่างๆ สั่งเข้ามา พร้อมทั้งตรวจสอบรายละเอียดว่า สั่งให้คนไข้คนไหน อย่างไร เพื่อเป็นการป้องกัน แต่คราวนี้มันก็ยังมีลักลอบนำเข้ามาจากนอกระบบ” นายแพทย์ พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงการป้องกันยาเสียสาวที่เข้ามาในประเทศ

และว่าไปแล้ว ยาจำพวกนี้ก็แทบจะถือว่าเป็นอาวุธในการก่ออาชญากรรมได้เลยทีเดียว ซึ่งในส่วนผู้ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ มีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับ 20,000-100,000 บาท ขณะที่ส่วนของผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่ายมีโทษจำคุก 5-20 ปี ปรับไม่เกิน 100,000-400,000 บาท

“เพราะว่าคนที่มีจิตใจไม่ดีที่จะทำในเชิงของอาชญากรรมที่จะไปหลอกลวง พวกนี้ก็จะหาทางไปหาซื้อมา ซึ่งตามสถานที่เที่ยวกลางคืนจะพบบ่อย” นายแพทย์พงศ์พันธ์กล่าวเสริม

โดยแหล่งจำหน่ายนั้นส่วนมากจะอยู่ใกล้ๆ กับสถานที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการก่ออาชญากรรมประเภทนี้ อย่างตามย่านสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน อาทิ พัฒน์พงษ์ หรือสุขุมวิท เมื่อรู้ทั้งรู้แบบนี้ การจะเลี่ยงหลบตัวเอง ป้องกันตัวจากอันตรายก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ในมุมมอง ธนันยภรณ์ จิตรโรจนรักษ์ หญิงสาวที่ตระเวนเที่ยวยามค่ำคืนประดุจผีเสื้อราตรีคนหนึ่งเผยว่า ไม่ได้รู้สึกกลัวกับเรื่องทำนองนี้ เพราะได้ยินมานานแล้ว และมีการระวังตัวเป็นเรื่องปกติ

“ เวลาไปก็ควรจะไปกับเพื่อนเยอะๆ และควรจะไปกับเพื่อนผู้หญิง ไม่ควรจะไปกับเพื่อนผู้ชาย คือไม่ใช่ไปกับผู้ชายสองต่อสอง ควรจะมีเพื่อนผู้หญิงไปบ้าง และไม่ควรจะกลับกับเขา เวลาไปเข้าห้องน้ำ เราก็ควรจะเอาแก้วของเราไปด้วย หรือถ้าเกิดลืมก็เปลี่ยนแก้วใหม่ ไม่ก็ล้างแก้ว เช็ดขอบปากให้ดี”

แม้ช่วงวาเลนไทน์จะเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงอยู่ แต่ในฐานะนักเที่ยวเธอก็มองว่า คงจะไปเที่ยวตามปกติ ทั้งนี้นายแพทย์พงศ์พันธ์ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวกับกรณีการจับกุมยาเสียสาวมาหลายปี ก็เห็นว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือเทศกาลวาเลนไทน์ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาชญากรรมประเภทนี้สูงมากที่สุดในรอบปี

“พอเข้าเดือนกุมภาพันธ์มันจะมีทุกปี เนื่องจากเป็นวันแห่งความรัก มันก็จะมีคนที่ไม่หวังดี วัยรุ่นสาวๆ ก็ต้องระมัดระวังถ้าไปเที่ยว บางทียาประเภทนี้ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น พอผสมเข้าไปในเครื่องดื่มตอนลุกจากโต๊ะ กลับมาเนี่ย ถ้าไม่มีคนดูแล หรือเพื่อนที่ไม่สนิทจริงๆ ต้องระมัดระวังให้ดี เพราะเขาอาจจะใส่ลงไปโดยที่เราไม่รู้เลย”

และหากกินยาไปแล้ว รู้ตัวจากอาการที่เกิดขึ้น นายแพทย์ก็ยืนยันเลยว่า 'สายไปแล้ว'

“ผ่านไป 10 นาทีออกฤทธิ์แล้ว ไม่รู้เรื่องแล้ว ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ดังนั้นต้องระวังให้ดี คือกระบวนการป้องกันในระบบถึงแม้จะดี แต่นอกระบบมันก็จะมีช่องโหว่ที่ต้องช่วยกันดูแล”

แม้ว่าด้านหนึ่งจะมีมาตรการเพื่อป้องกันการเข้ามาของยาเสียสาว แต่ในโลกยุคที่ทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกันได้เช่นนี้ คงไม่ยากนักที่ยาเหล่านี้จะมาถึงมือของใครบางคน ใครบางคนนั้นอาจเลือกที่จะหยิบยื่นสิ่งนี้มาเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นการระมัดระวังตัวจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด พึงระลึกไว้เสมอว่า พื้นที่และห้วงยามแห่งความรักและการสานสัมพันธ์นั้นไม่ได้มีแต่สีชมพูหวานแหววเสมอไป

>>>>>>>>>>>
……….

เรื่อง : หนุ่ม X


กำลังโหลดความคิดเห็น